รู้จักกันตั้งแต่ ม.3 คบกันตอนม.6 รักกันจนเรียนจบปริญญา แต่ตอนนี้มันพังแล้วครับ (อยากได้ความคิดเห็นจากหลายๆท่านครับ)

ต้องบอกก่อนว่า นี่เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกของผมในเว็ปพันทิปนี้ อาจจะมีอะไรผิดพลาดไปบ้างใช้ภาษาที่ผิดพลาดไปบ้างก็ต้องขออภัยทุกคนด้วยครับ
**ที่มาตั้งกระทู้ก็เพราะว่า** อยากได้ความคิดเห็นแล้วก็คำแนะนำหลายๆแบบจากหลายๆท่าน แล้วก็อยากหาที่ระบายความรู้สึกครับ (ต้องขอบอกเลยว่าตอนนี้สุขภาพจิตแย่มากครับ)
(เรื่องเล่ามันอาจจะยาวไปสักหน่อยน่ะครับ แต่ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านเรื่องราวของผมจนจบครับ)

ขอเริ่มเรื่องโดยเล่าถึงประวัติส่วนตัวผมคร่าวๆน่ะครับ เผื่อจะมีคนเข้าใจผมบ้าง
ตั้งแต่เกิดผมก็โตมาในกรุงเทพ ชีวิตก็สดใสโลกสวยแฮปปี้ดีครับ แต่มาติดตรงที่ผมขาดความอบอุ่นจากคนเป็นแม่ครับ ได้เจอแม่เดือนละครั้งเท่านั้นเอง เพราะแม่ผมท่านเป็นพยาบาลอยู่จ.ราชบุรีครับ เดือนนึงก็ได้เจอแม่อยู่3 วันเท่านั้นครับ ช่วงศุกร์เสาอาทิตย์ ตอนสิ้นเดือน มันจึงทำให้ผมเป็นคนที่ติดแม่มากๆ รักแม่มากๆ แต่แล้วผมก็ต้องมาเจอเหตุการณ์ที่มันกระจบจิตใจอย่างรุนแรงครับ ตอนนั้นเป็นช่วง ป.1-ป.2 ตอนนั้นกลับมางานศพของ คนคนนึงที่บ้านเกิดผม
แล้วก็ได้รับรู้เรื่องราวว่า " บุคคล ที่ผมเรียกว่า พ่อ แม่ อยู่ตอนนั้น ท่านไม่ใช่ พ่อแม่แท้ๆของผมครับ " ผมมารับรู้เรื่องราวนี้ด้วยตัวเอง(ซึ่งมาญาติคนนึงเดินมาบอกเรื่องราวนี้กับผม ผมก็ไม่เข้าใจน่ะครับว่าเค้าพูดแบบนั้นกับผมเพื่ออะไร ผมไม่รู้ว่าเค้าต้องการอะไร) แล้วงานศพนั้นก็คืองานศพของคนที่เป็นพ่อแท้ๆของผม เหตุการณ์นั้นมันทำให้เด็กน้อยโลกสวยคนนึงสตั้นไปเลยครับ งง มากครับ ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องไห้ 2วัน3วันจากเด็กคนนึงที่รักแม่มากๆติดแม่มากๆ ก็เริ่มปิดใจ เริ่มปิดกั้น แต่ท่านก็ดูแลผมมาอย่างดีตลอดเหมือนเป็นพ่อแม่แท้ๆคนนึง บางทีอาจจะดีกว่าพ่อแม่แท้ๆของใครหลายๆคนด้วยซ้ำครับ

แต่มันก็ไม่สามารถทำให้ผมกลับไปรู้สึกกับพวกท่านได้เหมือนเดิมอีก แต่มันก็ไม่ได้เป็นผลกระทบต่อชีวิตอะไรมากมายในตอนนั้นเพราะว่ายังเด็กอยู่ แต่มันก็ส่งผลลึกๆต่อจิตใต้สำนึกผมครับ แต่แล้วก็มาเจอกับอีกเหตุการที่ทำให้ผมเริ่มกลายมาเป็นเด็กมีปัญหาครับ ผมโดนย้ายที่อยู่ย้ายโรงเรียน จากที่เคยอยู่บ้านสบายๆแถวสุขุมวิท มีเพื่อนดีๆมากมาย เป็นที่รักของเพื่อนๆเพื่อนที่ต้องการของเพื่อนๆ (ผมเป็นคนรักเพื่อนมากครับ)ก็ต้องย้ายมาอยู่บ้านเช่าหลังเล็กๆในจ.ราชบุรี เพราะเหตุการฟองสบู่แตก ทำให้พ่อของผมต้องออกจากงานทำให้รายได้ที่บ้านตอนนั้นเหลือน้อยมาก แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากครับเพราะว่ายังเด็ก ยังไม่ได้สนใจว่าบ้านเราจนหรือรวย ตอนนั้นผมก็แค่รู้สึกเสียใจที่จะไม่ได้เจอเพื่อนๆเหล่านั้นอีกแล้ว ผมก็ได้เข้า รร แห่งนึงในจ.ราชบุรี (ผมเป็นเด็กเรียนดีมาตลอด เรียนได้ที่1มาตลอดตั้งแต่อุบาลจนถึงป.2) พอได้มาเข้า รร ที่ราชบุรีผมก็ยังคงตั้งใจเรียนครับ(ตอนนั้นมีความคิดอยากเป็นหมอ ก็เลยตั้งใจเรียน) ก็ยังคงเรียนได้top5 ของห้อง (ลืมบอกไปครับว่าตอนที่พ่อผมออกจากงานแล้วย้ายมาอยู่ราชบุรีตอนนั้นพ่อก็พยายามหางานทำอยู่เรื่อยๆครับ จนท่านบอกว่ามันเหนื่อยไม่คุ้ม ก่อนฟองสบู่แตกตอนนั้นพ่อผมมีรายได้อยู่ที่ประมาณ4หมื่นเกือบๆ5หมื่นต่อเดือนครับ ท่านเป็นวิศวกรครับ)

พอผมเริ่มเข้าป.4ป.5 ตอนนั้นเท่าที่ผมจำได้ พ่อผมก็ดื่มแต่สุราครับเมาตลอดครับ ผมเริ่มทะเลาะกับพ่อทุกวัน เพราะไม่อยากเห็นพ่อเป็นแบบนี้ แล้วผมก็เริ่มเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันมากขึ้นเรื่อยๆหนักขึ้นเรื่อยๆ(ทุกวันนี้พ่อกับแม่ผมก็ยังทะเลาะกันครับแต่นานๆครั้ง) มันทำให้ผมเก็บกด..เก็บความรู้สึกแย่ๆมาตลอด(เรียนได้4.00 มาตลอดครับ ยกเว้นป.6 จบมาด้วย3.95) พอมาถึงป.6ผมเริ่มเป็นเด็กมีปัญหาหนักเลยครับ เนื่องจากทะเลาะกับที่บ้านแทบจะทุกวัน โรงเรียนก็ไม่ค่อยไปอาทิตนึงไปเรียนอยู่แค่ 3 วันได้ครับ แต่ผมก็ยังสอบได้ (ตอนนั้นที่ไม่ได้ไปเรียนเพราะผมคิดว่าที่โรงเรียนสอนมันน่าเบื่อมากครับ เพราะพ่อผมให้ผมเรียนพิเศษ ความรู้ผมตอนนั้นไปไกลกว่าเด็กคนอื่นเยอะครับ) พอจบป.6พ่อกับแม่ก็จะให้ผมเข้าโรงเรียนที่ ประจำจังหวัดในตอนนั้นแต่ในใจผมตอนนั้นคือไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วครับ ไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้แล้วครับ ต้องมาคอยเห็นพ่อเมาทุกวัน ต้องมาทนเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง ตอนนั้นผมจึงขอพ่อกลับแม่ว่าอยากกลับไปเรียนที่กรุงเทพ อยากลับไปอยู่กรุงเทพ พ่อกับแม่ก็ให้มาอยู่ครับ(ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดหรอกครับว่า การที่ผมอยู่ไกลจากพ่อแม่ ไม่ได้อยู่ในการดูแลของ พ่อแม่มันจะทำให้เรากลายเป็นเด็กมีปัญหามากขึ้นไปอีก) พอได้เข้ามาอยู่ในกรุงเทพอาศัยอยู่กับพี่แท้ๆของผมทั้ง4คน อาศัยอยุ่กับบุคคลที่เป็นแม่โดยกำเนิดของผม(ตอนนั้นผมเรียกแม่แท้ๆที่ให้กำเนิดผมว่า ป้า ครับแต่ก็ทราบดีมาตลอดว่าท่านคือแม่ที่ให้กำเนิดผม)
ผมนั้นติดเพื่อนมากครับ ตอนนั้นได้อยู่ รร ที่มีชื่อเสียงในระดับนึงครับ เป็นโรงเรียนวัดเรียนอยู่ได้แค่ 2 ปีครับ ม.1กับม.2 ก็โดนพ่อกับแม่จับย้ายกลับมาอยู่ที่ราชบุรีครับ (เนื่องจากท่านเห็นผมติดเพื่อนมากเกินไป กลัวว่าจะเสียคน ผมคิดว่าท่านทำถูกครับ ถ้าผมไม่ได้ย้ายมาผมคงเสียคนมากกว่านี้) แล้วก็ได้ย้ายมาอยู่ รร ที่เป็นหลักสูตร2ภาษา รร นึงในราชบุรีครับ ค่าเทอมก็เอาเรื่องอยู่ครับถ้าเทียบกับรายได้ในครอบครัวตอนนั้น  

**และแล้วจุดเริ่มต้นของความรักของผมก็มาถึงครับ**
ผมได้ย้ายเข้ามา รร นี้ตอนม.3ครับ สิ่งที่ผมรู้สึกคือ เห้ยยกุต้องปรับตัวเข้ากับเพื่อนใหม่ๆอีกแล้วหรอวะ แน่นอนครับบว่าคนในห้องเค้ารู้จักกันมาแล้วตั้งแต่ม.1ม.2 ผมเพิ่งจะย้ายเข้ามาใหม่ก็เลยดูเป็นอะไรที่แปลกๆตาของเพื่อนๆ แต่ก็ยังดีครับที่ มีเพื่อนเก่าสมัยปถม ที่เคยรู้จักกันมาก่อนอยู่2-3คน อย่างน้อยก็ช่วยลดความอึดอัดลงไปได้บ้าง ผมไม่มีปัญหาในการเข้ากับเพื่อนใหม่ๆครับผมเป็นคนใจกว้างมาก คุยได้กับทุกคนในทุกเรื่องเรียกได้ว่าอัธยาศัยดี  ในห้องเพื่อนๆส่วนใหญ่ก็เป็นลูกของนักธุรกิจหลายๆอย่างหลายๆแบบส่วนใหญ่ก็จัดได้ว่ารวยกันทั้งนั้นครับถ้าเทียบกันเรื่องเงินๆทองๆแล้วผมอยู่บ้วยๆท้ายๆของห้องเลยครับ ในห้องก็จะมีกลุ่มเด็กผู้หญิงอยู่กลุ่มนึงประมาณ 4-5 คน เป็นแบบกลุ่มลูกคุณหนู นั่นแหละครับ ความรักของผมก็คือเธอหนึ่งในกลุ่มนั้นครับ

พวกเธอในกลุ่มนั้น ไม่มีใครชอบขี้หน้าผมสักคนครับ เพราะว่าผมอาจจะทำตัวแปลกๆไม่เพื่อนเด็กคนอื่นๆให้ ห้อง หลายๆท่านน่าจะทราบว่าเด็กต่างจังหวัดกับเด็กกรุงเทพนิสัยจะไม่เหมือนกัน 5555 ก็นั่นแหละครับ เจอหน้ากันรู้จักกันเทอมแรกก็ไม่ได้สนิทอะไรกับพวกเธอมาก ก็แค่รู้จักชื่อแล้วก็คุยผ่านๆ ตอนนั้นผมเป็นเด็กอ้วนๆอาจจะดูเอ๋อๆในสายตาพวกเธอ ผมมาเริ่มอ้วนตอน ป.4-ม.3ครับ จัดได้ว่าอ้วนมาก(ตอนม.2 ถ้าจำไม่ผิดน้ำหนัก 70เกือบๆ80ครับ) และแล้ว การสปาคกันจูนกันระหว่างเธอกับผมมันก็เริ่มขึ้นครับ มันเริ่มเกิดขึ้นตอน ม.4 เมื่องจากม.3ขึ้นม.4 เพื่อนๆในห้องหลายคนก็ย้ายโรงเรียนไปเยอะจึงทำให้สมาชิกในห้องเหลือน้อยครับ มันจึงทำให้ทุกคนเริ่มมาสนิทกัน แล้วตอนนั้นตัวผมเองก็เริ่มผอม(ตอนนั้นไม่ได้คิดอยากจะผอมหรอกครับ แต่เพราะเล่นบาส ทำนู่นทำนี่ รู้สึกตัวอีกทีก็ อ้าววว กุผอมแล้วหรอวะ) พอผอมก็เริ่มหน้าตาดีขึ้นและมันก็คงเป็นช่วงที่ฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่าน เปิดเทอมม.4มาผมก็ทำกิจวัตรประจําวันของผมตามปกติ เข้าแถวเส็ดก็มานั่งที่ระเบียงหน้าห้องคุยกับเพื่อนเม้ากับเพื่อนเล่นกับเพื่อนตามภาษาเด็กม.ปลาย อยู่มาวันหนึ่งมันก็เริ่มเป็นความรู้สึกแปลกๆที่เข้ามาในหัวใจครับเพราะอยู่ดีๆเธอก็เข้ามานั่งข้างๆผมในที่ที่ผมนั่งเป็นประจำทุกวัน เธอเริ่มเล่นกับผม(ปกติผมจะไม่ค่อยเล่นกับผู้หญิงครับไม่ค่อยกล้า)

นั่นแหละครับ พอเธอเริ่มเล่นกับผมทุกวันๆ เริ่มคุยกันทุกวัน อยู่ดีๆเธอก็มาเล่นกับผมแกล้งๆเหมือนเป็นแฟนกัน ทุกๆวันตอนเย็นหลังเลิกเรียนเราก็จะเดินไปห้างที่อยู่ใกล้ๆของโรงเรียนตอนนั้นก็ยังไปกับเพื่อนอีกหลายๆคนครับ เดินเล่นเที่ยวห้างตามภาษาเด็กม.ปลาย ตอนนั้นเรียกได้ว่าเป็นคู่จิ้นของห้องเลยครับบ ผมก็ยังสงสัยนะว่าทำไมเธอถึงเล่นแบบนั้นกับผม แต่ก็ไม่ได้มีคู่จิ้นผมคู่เดียวในห้องหรอกครับ มันก็มีคู่อื่นอีกคู่นึงที่เล่นๆกันในรูปแบบเดียวกันกับผมม พอมันเป็นแบบนี้เข้าทุกวันๆ อีกทั้งเพื่อนในห้องก็ชอบชง ชอบแซว มันก็เริ่มมีความรู้สึกแปลกๆเข้ามาในหัวใจครับ  

จากที่เคยคุยกันแค่ที่โรงเรียนอยู่ดีๆพอกลับบ้านไปเราก็คุยกันในสมัยนั้นมันยังเป็น msn เป็น hi5 อยู่เลยครับ พอเรากลับบ้านไปเราก็คุยกันทุกวันครับ คุยกันเรื่องนู้นเรื่องนี้คุยไปเรื่อยเปื่อย โดยที่ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเราคุยกันไปได้ยังไงขนาดนั้น ตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้ใจตัวเองหรอกครับว่ารู้สึกยังไงกับเธอตอนนั้นก็รู้สึกว่าแค่เธอเป็นเพื่อนสนิทคนนึง หลังจากนั้นสักพัก ก็มีapp มาapp นึงชื่อ viber หลายๆคนอาจจะรู้จัก

จากที่เราเคยคุยกันผ่านmsn เป็นข้อความๆ ก็เริ่มมาเป็นเสียงครับ คุยกันทุกวันหลังจากกลับจาก รร ได้ยินเสียงของเธอเป็นคนสุดท้ายก่อนนอนทุกคืนๆ อยู่มาวันนึง ผมตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกเหมือนกำลังคิดถึงใครสักคน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็น ผมเดินตรงเข้าไปเปิดคอมตั้งโต๊ะที่เคยทำประจำ ผมเปิดhi5ของเธอขึ้นมา แล้วก็เลื่อนๆดูรูปของเธอไปเรื่อยๆ จนอยู่ดีๆน้ำตามันก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวครับ แล้วผมก็ถามกับตัวเองว่า "เห้ยย กุเป็นอะไรวะเนี่ย"ร้องไห้ผมเป็นคนชอบคุยกับตัวเองในหัวครับ ตั้งแต่เริ่มมีปัญหาครอบครัวมาก็เริ่มคุยกับตัวเองในจิตใต้สำนึกตลอคอยถามความรู้สึกตัวเองตลอด โดยเฉพาะเวลาที่ผมรู้สึกแย่รู้สึกว่ามีปัญหาผมก็จะชอบคุยกับตัวเองครับเครียกับความรู้สึกตัวเองให้จบ ไม่รู้ว่าแบบนี้เป็นโรคจิตอะไรเปล่า ) หลังจากที่ผมได้ถามตัวเองในตอนนั้น ผมก็รู้แล้วว่า มันคือความรู้สึกคิดถึงเธอคนนี้ มันคือความรู้สึกที่อยากจะรู้จักกับเธอคนนี้ให้มากขึ้น ไม่อยากให้เธอเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้น มันตื่นขึ้นมาแล้วอยู่ดีๆเหมือนมีคนเอาความรู้สึกนี้เข้ามายัดในหัวผมเลยครับ  มันเป็นอะไรที่แปลกมากครับสำหรับผม เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีความรู้สึกเหล่านี้เลย

จากนั้นผมก็เริ่มจีบเธอครับ จนกระทั่งวันนึงผมก็ได้สารภาพความรู้สึกที่ผมมีต่อเธอทั้งหมดให้เธอได้รับรู้ แล้วเธอก็ตอบรับมาอย่างดีครับ เธอบอกกับผมว่าเธอเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับผม ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่หัวใจมันพองโตมาก โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู เป็นช่วงเวลาที่ผมได้รู้สึกว่าชีวิตได้รับการเติมเต็มครับ ตอนนั้นเราสองคนก็ได้ตกลงคบกันครับ แล้วมันก็เป็นช่วงเวลาปิดเทอม เทอม1ขึ้นเทอม2 ของตอนม.4พอดีครับ ทำให้เราไม่ได้เจอกันคุยกันแต่ทางโทรศัพท์ ส่วนใหญ่เธอจะเป็นคนโทรหาผมครับ เพราะผมใช้โทรสับเติมเงิน แต่เธอใช้รายเดือน ฐานะทางบ้านของเธอจัดได้ว่ารวยเลยครับ เราก็คุยกันทุกวันเป็นเรื่องปกติเหมือนก่อนหน้านี้ครับ เพราะมันปิดเทอม และบ้านเราก็ไกลจึงยากที่จะได้เจอกัน ช่วงเวลาที่ปิดเทอมนั้นผมก็ใช้ชีวิตของผมตามปกติของเด็กม.ปลาย (ผมติดสิสัยติดเพื่อนมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ) ออกไปนั่งเล่นร้านเกมส์กับเพื่อนบ้าง ออกไปนั่งร้านเหล้าบ้าง พอมาถึงวันเกิดของผม(วันเกิดผมจะอยู่ในช่วงปิดเทอมตลอด) ผมก็ได้ของขวัญชิ้นแรกจากเธอครับ

เธอซื้อเสื้อยืดจากเกาหลีมาฝาก เป็นเสื้อยืดสีดำสกรีนลาย  (แต่ผมก็ทำมันหายครับ ทุกวันนี้ยังน้อยใจตัวเองอยู่เลยว่าทำของขวัญชิ้นแรกหาย) เธอเอามาให้ตรงใกล้ๆร้านเกมส์ที่ผมไปเล่นประจำ ผมเดินออกมาเอาจากเธอ นั้นเป็นวันแรกที่เราได้เจอกันในช่วงปิดเทอมครับ แล้วเธอก็ขึ้นรถกลับบ้านไป  เหมือนตอนนั้นที่บ้านของเธอยังไม่รู้ว่าเธอคบกับผมครับ แต่แล้ววันนึงโลกทั้งใบที่เป็นสีชมพูดของผมก็ได้จบลงครับ ผมก็นั่งเล่นเกมส์ที่ร้านกับเพื่อนๆตามปกติ แล้วเธอก็ทัก msn มาครับ เธอบอกว่าเธอต้องการจะเลิกกับผม ตอนนั้นผมสตั้นและทำอะไรไม่ถูก จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวได้แต่พยายามโทรหาเธอ  แต่เธอก็บอกว่าไม่อยากคุย ไม่อยากได้ยินเสียง  เธอบอกกับผมว่าความรักของเรามันเริ่มต้นจากการคุยกันในmsn นี้ ก็ขอให้มันจบในนี้ มันไม่มีอาการที่แสดงก่อนหน้านี้เลยครับว่าเธอโกรธเธองอลหรือเธอรู้สึกกับผมเปลี่ยนไป ผมก็ได้ถามถึงเหตุผลของเธอว่าทำไมเราถึงต้องเลิกกันคำตอบที่ผมได้รับก็คือ " มันไม่ใช่ " ผมเสียใจร้องไห้ทั้งอาทิต เดี๋ยวมาต่อครับ.....พิมพ์จนเต็มแล้วครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่