ศรีลังกาเดินทางไม่ยาก แค่อึดนิดหน่อย ตอน 7-1 Colombo

ตอน 1    https://pantip.com/topic/36150781
ตอน 2    Sri Pada   https://pantip.com/topic/36151502
ตอน 3    Kandy https://pantip.com/topic/36180251
ตอน 4   Dambulla - Sigiriya  https://pantip.com/topic/36207776
ตอน 5   Polonnaruwa  https://pantip.com/topic/36240013
ตอน 6-1 Anuradhpurah  https://pantip.com/topic/36268829
ตอน 6-2 Anuradhpurah https://pantip.com/topic/36268970
ตอน 7-1 Colombo  https://pantip.com/topic/36302037
ตอน 7-2 Colombo-Thailand https://pantip.com/topic/36302217

ประมาณบ่ายสามโมงเราสองคนก็เดินทางมาถึงโคลอมโบ ตอนนั่งอยู่ในรถบัสพอถึงเมืองเนกอมโบ กระเป๋ารถบัสก็เดินมาบอกว่าถึงเนกอมโบแล้ว เขาคงคิดว่าเราจะต่อเครื่องบิน เพราะกระเป๋ารถคนนี้เป็นคนที่สอง ส่วนคนแรกลงไปเมืองอื่นก่อนหน้านี้แล้ว บอกแล้วว่าคนศรีลังกาใจดีและเป็นมิตรกับคนต่างชาติมาก

แต่เราก็เจอทีเด็ดตุ๊กตุ๊กอีกเหมือนเดิม เนื่องจากเราไม่เคยรู้มาก่อนว่าตุ๊กตุ๊กที่นี่มีมิเตอร์ พอรถบัสจอดตรงริมถนนให้ผู้โดยสารทุกคนลง ไม่ใช่ท่ารถบัส ตุ๊กตุ๊กก็เข้ามาถามว่าเราจะไปไหน เราจองที่พักไว้ที่ Moss Colombo คันแรกบอกไม่รู้จัก คันที่สองเรียก 500 รูปี พี่สาวเราต่อรอง แต่ตุ๊กตุ๊กไม่ยอม บอกว่าไกล คันที่สามขอ 600 รูปี เหตุผลเดียวกัน และบอกว่ารู้จักทางดี คราวนี้เราก็เลยตกลงเพราะอยากเข้าที่พักแล้ว ตุ๊กตุ๊กรีบเอากระเป๋าเป้ของพี่สาวเราไปใส่ในรถและบอกให้รีบขึ้นรถเร็วๆ เดี๋ยวถูกตำรวจจับเพราะจอดในที่ห้ามจอด พอตุ๊กตุ๊กกลับรถเราจึงสังเกตเห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีรถตุ๊กตุ๊กจอดอีกเพียบ แสดงว่าตุ๊กตุ๊กฝั่งเราเป็นพวกตุ๊กตุ๊กเถื่อน ไม่ยอมเปิดมิเตอร์ เอาไว้หลอกพวกนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้เรื่องอย่างพวกเรา
พอใกล้ถึงที่พัก ตุ๊กตุ๊กก็จอดถามทางยามฝั่งโน้น ฝั่งนี้บ้าง แต่ในที่สุดก็เจอ แล้วก็ตีรวนจะขอเงินเพิ่มอีก แต่พี่สาวเราไม่ยอม เราสองคนต้องเดินลงจากตุ๊กตุ๊กเข้าไปในซอยเอง แต่เป็นซอยส่วนตัว เดินไม่กี่ก้าว โรงแรมที่พักมีประมาณสิบกว่าห้อง ใหม่ กว้างขวางและสะอาดสะอ้าน เราก็ถามที่กินและที่เที่ยวกับรีเซฟชั่น เธอก็ให้ข้อมูลเป็นอย่างดีและบอกเราว่าเราต้องเรียกตุ๊กตุ๊กที่มีมิเตอร์นะจะได้ไม่ถูกโกง แต่พี่สาวเราก็บอกกับเราว่า เราไม่รู้จักทางกัน ถ้าตุ๊กตุ๊กพาเราไปอ้อมเพื่อให้มิเตอร์ขึ้น เราก็ไม่รู้กันหรอก

ซอยของโรงแรมนี้ตั้งอยู่ใกล้กับที่ทำการสหประชาชาติ มหาวิทยาลัยโคลอมโบ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ อยู่บนถนนที่ใหม่ สะอาด และเงียบสงบ แต่ไม่ใกล้กับตลาดหรือที่เดินเล่นเลย จะไปไหนก็ต้องนั่งรถตุ๊กตุ๊ก เราพักอยู่ 2 คืน คืนละสองพันกว่าบาท ไม่รวมอาหารเช้าค่ะ อาหารเช้าคนละ 5 US$

บรรยากาศรอบๆ ที่พัก

Lobby ด้านล่าง
Lobby ชั้นสอง

เช็คอินแล้วก็จะไปหาที่เดินเล่น ตอนแรกตั้งใจจะเดินไปห้างโอเดลที่บอกว่าใหม่ที่สุดในโคลอมโบ ดูจากแผนที่ที่โรงแรมให้มาเหมือนเดินไปเองได้ อยู่ห่างไป 2 กิโล แต่พอเดินกันจริงๆ แล้วหลง เจอผู้ชายศรีลังกาคนแรกก็บอกให้ขึ้นรถเมล์ไปดีกว่า แต่เราไม่เชื่อเขา ก็เดินวนไปวนมาอยู่แถวหน้ามหาวิทยาลัย พอเจอตำรวจจอดรถอยู่ก็เลยถามทาง คุณตำรวจก็พยายามช่วยโดยชี้เส้นทางให้ เราก็เดินไปกันแบบหลงๆ สุดท้ายตัดสินใจขึ้นตุ๊กตุ๊กแบบมิเตอร์ประมาณ 50 บาท พอนั่งตุ๊กตุ๊กถึงรู้ว่าเดินไปเองไม่ได้หรอก อยู่บนถนนคนละฟากฝั่งเลย ไกลพอสมควร


ห้างโอเดลเป็นห้างใหม่ก็จริงแต่เล็กมาก ลานข้างหน้าเป็นซุ้มขายอาหารและเครื่องดื่ม ด้านในขายเสื้อผ้าและของที่ระลึก มีอยู่ 3 ชั้น อารมณ์เหมือนห้างเล็กๆ ต่างจังหวัดบ้านเรา ที่นี่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจีนมาซื้อของที่ระลึกและนั่งกินน้ำกินขนมกัน ไม่มีซุปเปอร์มาเก็ตนะคะ เราสองคนหิวข้าวเลยเข้าไปนั่งกินข้าวหน้าไก่กับราเมนไก่ในร้านอาหารญี่ปุ่น ราคาอาหารค่อนข้างแพงค่ะ หลายร้อยบาทเลย รสชาติก็พอกินได้ แต่มีอยู่ร้านเดียว พนักงานก็ไม่ค่อยจะใส่ใจ นั่งคุยกันเอง ด้านในก็มีแค่โต๊ะเรากับอีกโต๊ะหนึ่งที่เป็นลูกค้า แต่ร้านใหญ่นะคะ แล้วก็ออกมากินน้ำผลไม้ปั่นตรงลานด้านนอก เจอพนักงานขายไม่เป็นมิตรอีก คนโคลอมโบคงเหมือนคนในเมืองหลวงใหญ่ๆ ในโลกนี้ ไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไร  ออกจากห้างโอเดลก็กลับเข้าที่พัก พรุ่งนี้ค่อยเดินทางตามโปรแกรมที่วางไว้  


เช้าวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับเมืองไทย กินอาหารเช้าของโรงแรมที่มีแพนเค้ก ขนมปัง ผลไม้ ออกมานั่งตุ๊กตุ๊กไปวัดเกลาณียา (Kelaniya Temple) ที่อยู่ห่างจากโคลอมโบไป 13 กิโลเมตร เป็นเส้นทางเดียวกันกับที่จะออกไปขึ้นทางด่วนไปเมืองเนกอมโบ เพราะฉะนั้นตรงแยกที่จะไปขึ้นทางด่วน รถจะติดมาก พันกันอีรุงตุงนัง ข้อดีของตุ๊กตุ๊กคือเหมือนมอเตอร์ไซค์บ้านเรา ปาดซ้ายปาดขวาเพื่อความรวดเร็ว

วัดแห่งนี้มีความสำคัญต่อชาวพุทธศรีลังกาเพราะเชื่อว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ที่เป็นสาวกอีก 500 รูปได้เคยเสด็จมายังวัดแห่งนี้ในวันวิสาขบูชาตามคำเชิญของเจ้าผู้ครองแคว้น กัลยาณี ซึ่งเป็นพญานาค นามว่า มณีอัคขิกะ (King Maniakkhika) ซึ่งปัจจุบัน ในบริเวณวัดมีพระเจดีย์ทรงระฆังคว่ำสีขาวผุดผ่องขนาดมหึมาซึ่งชาวพุทธศรีลังกาเชื่อว่าเป็นพระเจดีย์ที่บรรจุพระแท่นบัลลังค์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับเมื่อคราวมาโปรดพญานาคมณีอัคขิกะและบริวาร...  ข้อมูลนี้เราขอคัดลอกมาจากเว็บไซต์ของสถานทูตไทยในศรีลังกานะคะ ยังมีข้อมูลมากกว่านี้นะคะ หาอ่านเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ต่างๆ แล้วกันนะคะ

ที่นี่มีพุทธศาสนิกชนแต่งชุดขาวมากราบไหว้ สวดมนต์และนั่งสมาธิมากมาย ดูตามภาพแล้วกันนะคะ คุณลุงคนขับรถตุ๊กตุ๊กบอกจะรอ แต่เราบอกว่าไม่เป็นไรเพราะไม่รู้ว่าจะใช้เวลาอยู่นานเท่าไร เสียเงินค่าตุ๊กตุ๊กไป 100 กว่าบาท ถูกกว่าตอนเรียกตุ๊กตุ๊กจากรถบัสมาที่พักอีก เพราะคุณลุงมีมิเตอร์ พี่สาวเรากลัวโดนหลอก ถามหามิเตอร์กับคุณลุง และคุณลุงก็เปิดให้ดูว่ามันถูกกระจกบังไว้อยู่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่