อาจทำให้บางท่านที่ทราบดีและเคยนั่งอยู่บ่อยๆทราบดีแล้วรำคาญบ้าง ก็ขออภัยมาด้วยครับ
ได้มีโอกาสนั่งรถไฟความเร็วสูงชินกันเซนที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก โดยใช้ JR PASS สำหรับนักท่องเที่ยว
รวดเร็วสะดวกสบายมาก ตอนเช้า ตามเมืองใหญ่ๆที่รถไฟความเร็วสูงวิ่งผ่านและจอดรับ ที่สถานีจะพลุกพล่านมาก
ตารางรถไฟช่วงเช้า NOZOMI เป็นแถวๆ สี่ห้าขบวนจะมีขบวน ฮิคาริ มาแทรกสักที และ ตามมาด้วย โคดาม่า
คนญี่ปุ่นไปทำงานด้วยรถไฟความเร็วสูงนี่แหละ ขบวนฮิคาริ สำหรับนักท่องเที่ยว เพราะ เจอาร์พาส ขึ้นโนโซมิไม่ได้
ความจริงความเร็วรถไฟก็ใกล้เคียงกัน แต่โนโซมิ ดูเหมือนจะเป็นรถด่วนพิเศษกว่า จอดน้อยสถานีกว่า
นั่ง ฮิคาริ จอดสถานี ถูกโนโซมิแซงไปก็บ่อย โนโซมิเป็นด่วนพิเศษจริงๆ จอดก็น้อยสถานี วิ่งก็เร็ว
รถไฟชินกันเซน ตรงเวลาแบบเปะเปะตลอด ถ้าจะเลตผิดเวลา เขาจะขึ้นตัววิ่งแจ้งเลยจากเหตุนั้นนี้ กี่นาทีจะมาช้า
แล้วก็ตามนั้น ไม่เคยผิด ถ้าได้ตั๋วรถไฟแล้วรู้ว่าขบวนไหน เลขที่เท่าไหร่ชานชลาไหน เวลาอะไร ไม่มีพลาดเลย
จากเมืองใหญ่ๆไปเมืองต่างๆ กำหนดแน่นอน เขาถึงทำงานกันเป็นระบบระเบียบชัดเจน
ขออนุญาต เล่าถึงคนขับรถไฟหน่อย พอดีนั่งรถไฟ เจอาร์ที่ไม่ใช่ชินกันเซน แต่เป็นรถเร็วท้องถิ่น ตู้คนขับเป็นกระจกมองเห็น
คนขับทำงานทำหน้าที่ขับ ได้ไปยืนดูอยู่นานพอสมควร เขาจะมีตารางแขวนที่เสาข้างๆแต่มองเห็นได้ไม่ต้องเหลียวไปมาก
ผ่านสัญญาณไฟทางแยกที เขาจะใช้มือทั้งสองชี้ไปที่แป้นบังคับ แล้วชี้กลับมาที่ตาราง แล้วชี้ไปที่ไฟสัญญาณ เหมือนกำลังทบทวน
การเดินรถสัญญานไฟข้างทางตารางที่มีอยู่ เขาทำเช่นนี้ เกือบทุกๆ 1-2 นาที เดี๋ยวๆก็ชี้นั่นนี่ชี้แป้นชี้ตาราง ตลอดเส้นทาง
เรียกได้ว่าเขาเคร่งครัดในการปฏิบัติหน้าที่มาก ไม่ใช่ทำครั้งเดียวแล้วเลิกเพราะรู้แล้วจะชี้จะทำไปทำไม แต่ไม่ใช่งั้น
เขาทำตลอดการขับ รู้สึกว่าเขาเคร่งครัดในการขับมาก นี่เป็นรถไฟฟ้ารถเร็วท้องถิ่นเท่านั้นนะ เท่าที่ดูเข็มวัดความเร็ว
เห็นขึ้นไปที่เลขประมาณ 120 คงประมาณ ก.ม ต่อชั่วโมง
มีอีกความเห็นหนึ่ง อาจจะเฉพาะพวกสูงวัยเช่นผมและคณะเดินทางสำหรับการใช้บริการรถไฟความเร็วสูงชินกันเซนในญี่ปุ่น
โดยใช้บัตร เจอาร์พาส คือ ขออนุญาตแนะนำว่า หากเดินทางมาก ระหว่างเมืองไกลๆ ใช้เป็น แบบกรีนคาร์ จะสะดวกมากมาก
แถวนั่งก็จัดไว้เป็น 2-2 ถ้าเป็นแบบปกติก็ 3-2 ที่นั่งกว้างขวางสะดวกสบาย ที่บอกนี้สำหรับบางท่านที่มีแผนจะพา
ผู้สูงอายุที่บ้าน พ่อแม่ ไปเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นโดยใช้รถไฟด้วย เพิ่มเงินอีกนิด นั่งแล้วจะบอกว่ารู้งี้นั่งกรีนคาร์ตั้งนานแล้ว
ผมไปญี่ปุ่นคราวนี้เป็นครั้งแรก จองตั๋วเครื่องบินก่อนเลย ยังไม่เป็นเรื่องอะไรเลย ลงนาริตะ กลับนาริตะ มีนัดที่โอซาก้า
นั่งรถไฟ จากนาริตะไปโอซาก้า ต้องไปลง ชิงากาว่า ขบวนนี้รู้สึว่าจะเป็น NEX นาริตะเอ็กเพรส จากสนามบินเข้าโตเกียว
ไปต่อรถฮิคาริที่ ชิงากาว่า สะดวกมาก ห้องน้ำกว้างขวางใหญ่โตสะอาดมาก (์NEX ตู้กรีนคาร์) ฮิคาริขบวนอื่นๆต่อจากนี้
แม้จะตู้กรีนคาร์ก็ไม่ใหญ่เท่าNEX แต่ก็กว้างขวางสะอาดสะดวกสบายมากเช่นกัน
ตารางเดินทางโดยรถไฟชินกันเซนของผมและคณะ นาริตะ ไป ชิงากาว่า ต่อรถเปลี่ยนขบวน ไป โอซาก้า ออก 8 โมงเช้า
เกือบเที่ยงถึงโอซาก้า พักที่โอซาก้า วันรุ่งขึ้น โอซาก้า ที่สถานี ชินโอซาก้า นั่งฮิคาริ ไป ฮิโรชิม่า เพราะจะไปดู
อะตอมมิคบอมโดม ที่โดนระเบิดแล้วยังคงเหลือซากอยู่ ไปไว้อาลัยแด่ความโหดร้ายของสงคราม ที่มีต่อคนที่อยู่ที่บ้านเฉยๆ
ไปเกาะศักดิ์สิทธิ์มิยาจิม่า กินหอยนางรมฮิโรชิม่า ที่เขาลือนักหนาว่าอร่อยที่สุด (เตรียมน้ำจิ้มซีฟีดจากบ้านเราไปด้วย)
อ้อ ลืมไป ขอบอกเลยว่าบัตร เจอาร์พาส ที่ฮิโรชิม่า ขึ้นลงได้สารพัดเลยทั้ง รถไฟเจอาร์ รถบัสชัตเติลไซค์ซีอิ้งชมเมือง
ทั้งสองสาย สีเขียว และ สีส้ม (ต้องไปทั้งสองสายนะ เพราะวิ่งคนละเส้นทางกัน) ทั้งเรือเฟอร์รี่ไปเกาะมิยาจิม่า ฟรีตลอด
กลับจากฮิโรชิม่าตอนค่ำ ก็นั่งฮิคาริ มาลงชินโอซาก้า ประมาณ เกือบสองชั่วโมงก็ถึง สถานี ชินโอซาก้า ไปทานข้าวเดินเล่น
โดยนั่งรถไฟไปสถานีนัมบะ ขึ้นมาก็ที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ที่มีรูปกูลิโก๊ะ ปูยักษ์ ช๊อปปิ้งได้เต็มที่ ร้านอาหารก็เยอะไปหมด
โอซาก้าเป็นที่มั่นในการท่องเที่ยวละแวกนี้ ไปได้ เช้ากลับเย็น เกียวโต เมืองหลวงเก่า นารา เมืองหลวงแรกเก่ากว่าอีก
ปัจจุบันโตเกียวเป็นเมืองหลวง ที่เที่ยวก็เยอะไปหมด ทั้งปราสาท ทั้งวัด ทั้งป่าไผ่ อราชิยาม่า วัดเงิน วัดทอง วัดน้ำใส
จากโอซาก้า มา นาโกย่า พัก 1 คืน นั่งฮิคาริ ไปชิซุโอกะ ลืมบอกไปครับ ฮิคาริ กับ โคดาม่า เป็นรถไฟความเร็วสูง
ที่ส่วนมากนักท่องเที่ยวใช้กันภาคนี้ของญี่ปุ่น ตอนไปฮิโรชิม่า จะเป็นขบวนซากุระ ขบวนโคดาม่า เขาจะเรียกว่า ชินกันเซนหวานเย็น
คือจะจอดมากสถานีหน่อย โดนแซงตลอด ใช้เวลาในการไปถึงที่หมายช้ากว่าขบวนอื่นนิดหน่อย
จากชิซุโอกะ เปลี่ยนรถไฟเป็นรถท้องถิ่นเอ็กเพรสไป ฟูจิโนมิยะ ดูภูเขาไฟฟูจิ พัก 1 คืน โชคดีเห็นฟูจิ อยู่จนสี่โมงเย็นก็มีเมฆหมอกบัง
วันรุ่งขึ้นนั่งรถไฟท้องถิ่นไป มิชิม่า ต่อรถไฟฮิคาริ เข้าโตเกียว แต่เจอาร์พาส ที่ซื้อมา 7 วันหมดวันนี้พอดี อยู่เที่ยวโตเกียวอีก 3 วัน
เป็นอันจบการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงชินกันเซน ในญี่ปุ่นด้วย เจอาร์พาส 7 วัน เป็นครั้งแรกที่นั่งชินกันเซน เคยแต่นั่ง
ยูโรสตาร์ที่ ลอนดอนมาปารีส และนั่ง เทเจเว จากปารีส ไป เมือง ดิฌอง เร็วและสะดวกสบายพอพอกัน แต่ตู้กรีนคาร์ของชินกันเซน
เก้าอี้นั่งสบายมากมาก
ทางเลือกหนึ่งของเพื่อนสมากชิกที่จะพาพ่อแม่ลุงป้าญาติผู้ใหญ่ผู้สูงวัย ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองโดยต้องโดยสารรถไฟความเร็วสูง
ซื้อเจอาร์พาส เพิ่มเงินอีกสักนิด แต่สิ่งที่ได้คุ้มค่ากว่ากันเยอะเลยไม่ต้องเบียดเสียดระหว่างขึ้นรถ เดินก็สบาย นั่งก็สบาย
เป็นกรีนคาร์ จะทำให้ท่านสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้นกว่าเดิม ผมว่าคุ้มค่าสำหรับผู้สูงวัยที่ต้องเดินทาง
ขออภัยที่ไม่ได้แปะรูปเลย อยู่ในกล้องที่ยังไม่ได้เอาออกมา
ตอนจะเดินทางก็ได้เข้ามาอ่านกระทู้ทั้งหลายในห้องบลู ได้ประโยชน์จากหลายๆท่านในกระทู้เพื่อไปวางแผนท่องเที่ยว
ไปมาแล้ว ก็เลยมาแชร์ เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้างเล็กๆน้อยๆ สำหรับบางท่าน สำหรับการใช้บริการชินกันเซน ขอบคุณครับ
รถไฟความเร็วสูงชินกันเซนในญี่ปุ่น
ได้มีโอกาสนั่งรถไฟความเร็วสูงชินกันเซนที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก โดยใช้ JR PASS สำหรับนักท่องเที่ยว
รวดเร็วสะดวกสบายมาก ตอนเช้า ตามเมืองใหญ่ๆที่รถไฟความเร็วสูงวิ่งผ่านและจอดรับ ที่สถานีจะพลุกพล่านมาก
ตารางรถไฟช่วงเช้า NOZOMI เป็นแถวๆ สี่ห้าขบวนจะมีขบวน ฮิคาริ มาแทรกสักที และ ตามมาด้วย โคดาม่า
คนญี่ปุ่นไปทำงานด้วยรถไฟความเร็วสูงนี่แหละ ขบวนฮิคาริ สำหรับนักท่องเที่ยว เพราะ เจอาร์พาส ขึ้นโนโซมิไม่ได้
ความจริงความเร็วรถไฟก็ใกล้เคียงกัน แต่โนโซมิ ดูเหมือนจะเป็นรถด่วนพิเศษกว่า จอดน้อยสถานีกว่า
นั่ง ฮิคาริ จอดสถานี ถูกโนโซมิแซงไปก็บ่อย โนโซมิเป็นด่วนพิเศษจริงๆ จอดก็น้อยสถานี วิ่งก็เร็ว
รถไฟชินกันเซน ตรงเวลาแบบเปะเปะตลอด ถ้าจะเลตผิดเวลา เขาจะขึ้นตัววิ่งแจ้งเลยจากเหตุนั้นนี้ กี่นาทีจะมาช้า
แล้วก็ตามนั้น ไม่เคยผิด ถ้าได้ตั๋วรถไฟแล้วรู้ว่าขบวนไหน เลขที่เท่าไหร่ชานชลาไหน เวลาอะไร ไม่มีพลาดเลย
จากเมืองใหญ่ๆไปเมืองต่างๆ กำหนดแน่นอน เขาถึงทำงานกันเป็นระบบระเบียบชัดเจน
ขออนุญาต เล่าถึงคนขับรถไฟหน่อย พอดีนั่งรถไฟ เจอาร์ที่ไม่ใช่ชินกันเซน แต่เป็นรถเร็วท้องถิ่น ตู้คนขับเป็นกระจกมองเห็น
คนขับทำงานทำหน้าที่ขับ ได้ไปยืนดูอยู่นานพอสมควร เขาจะมีตารางแขวนที่เสาข้างๆแต่มองเห็นได้ไม่ต้องเหลียวไปมาก
ผ่านสัญญาณไฟทางแยกที เขาจะใช้มือทั้งสองชี้ไปที่แป้นบังคับ แล้วชี้กลับมาที่ตาราง แล้วชี้ไปที่ไฟสัญญาณ เหมือนกำลังทบทวน
การเดินรถสัญญานไฟข้างทางตารางที่มีอยู่ เขาทำเช่นนี้ เกือบทุกๆ 1-2 นาที เดี๋ยวๆก็ชี้นั่นนี่ชี้แป้นชี้ตาราง ตลอดเส้นทาง
เรียกได้ว่าเขาเคร่งครัดในการปฏิบัติหน้าที่มาก ไม่ใช่ทำครั้งเดียวแล้วเลิกเพราะรู้แล้วจะชี้จะทำไปทำไม แต่ไม่ใช่งั้น
เขาทำตลอดการขับ รู้สึกว่าเขาเคร่งครัดในการขับมาก นี่เป็นรถไฟฟ้ารถเร็วท้องถิ่นเท่านั้นนะ เท่าที่ดูเข็มวัดความเร็ว
เห็นขึ้นไปที่เลขประมาณ 120 คงประมาณ ก.ม ต่อชั่วโมง
มีอีกความเห็นหนึ่ง อาจจะเฉพาะพวกสูงวัยเช่นผมและคณะเดินทางสำหรับการใช้บริการรถไฟความเร็วสูงชินกันเซนในญี่ปุ่น
โดยใช้บัตร เจอาร์พาส คือ ขออนุญาตแนะนำว่า หากเดินทางมาก ระหว่างเมืองไกลๆ ใช้เป็น แบบกรีนคาร์ จะสะดวกมากมาก
แถวนั่งก็จัดไว้เป็น 2-2 ถ้าเป็นแบบปกติก็ 3-2 ที่นั่งกว้างขวางสะดวกสบาย ที่บอกนี้สำหรับบางท่านที่มีแผนจะพา
ผู้สูงอายุที่บ้าน พ่อแม่ ไปเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นโดยใช้รถไฟด้วย เพิ่มเงินอีกนิด นั่งแล้วจะบอกว่ารู้งี้นั่งกรีนคาร์ตั้งนานแล้ว
ผมไปญี่ปุ่นคราวนี้เป็นครั้งแรก จองตั๋วเครื่องบินก่อนเลย ยังไม่เป็นเรื่องอะไรเลย ลงนาริตะ กลับนาริตะ มีนัดที่โอซาก้า
นั่งรถไฟ จากนาริตะไปโอซาก้า ต้องไปลง ชิงากาว่า ขบวนนี้รู้สึว่าจะเป็น NEX นาริตะเอ็กเพรส จากสนามบินเข้าโตเกียว
ไปต่อรถฮิคาริที่ ชิงากาว่า สะดวกมาก ห้องน้ำกว้างขวางใหญ่โตสะอาดมาก (์NEX ตู้กรีนคาร์) ฮิคาริขบวนอื่นๆต่อจากนี้
แม้จะตู้กรีนคาร์ก็ไม่ใหญ่เท่าNEX แต่ก็กว้างขวางสะอาดสะดวกสบายมากเช่นกัน
ตารางเดินทางโดยรถไฟชินกันเซนของผมและคณะ นาริตะ ไป ชิงากาว่า ต่อรถเปลี่ยนขบวน ไป โอซาก้า ออก 8 โมงเช้า
เกือบเที่ยงถึงโอซาก้า พักที่โอซาก้า วันรุ่งขึ้น โอซาก้า ที่สถานี ชินโอซาก้า นั่งฮิคาริ ไป ฮิโรชิม่า เพราะจะไปดู
อะตอมมิคบอมโดม ที่โดนระเบิดแล้วยังคงเหลือซากอยู่ ไปไว้อาลัยแด่ความโหดร้ายของสงคราม ที่มีต่อคนที่อยู่ที่บ้านเฉยๆ
ไปเกาะศักดิ์สิทธิ์มิยาจิม่า กินหอยนางรมฮิโรชิม่า ที่เขาลือนักหนาว่าอร่อยที่สุด (เตรียมน้ำจิ้มซีฟีดจากบ้านเราไปด้วย)
อ้อ ลืมไป ขอบอกเลยว่าบัตร เจอาร์พาส ที่ฮิโรชิม่า ขึ้นลงได้สารพัดเลยทั้ง รถไฟเจอาร์ รถบัสชัตเติลไซค์ซีอิ้งชมเมือง
ทั้งสองสาย สีเขียว และ สีส้ม (ต้องไปทั้งสองสายนะ เพราะวิ่งคนละเส้นทางกัน) ทั้งเรือเฟอร์รี่ไปเกาะมิยาจิม่า ฟรีตลอด
กลับจากฮิโรชิม่าตอนค่ำ ก็นั่งฮิคาริ มาลงชินโอซาก้า ประมาณ เกือบสองชั่วโมงก็ถึง สถานี ชินโอซาก้า ไปทานข้าวเดินเล่น
โดยนั่งรถไฟไปสถานีนัมบะ ขึ้นมาก็ที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ที่มีรูปกูลิโก๊ะ ปูยักษ์ ช๊อปปิ้งได้เต็มที่ ร้านอาหารก็เยอะไปหมด
โอซาก้าเป็นที่มั่นในการท่องเที่ยวละแวกนี้ ไปได้ เช้ากลับเย็น เกียวโต เมืองหลวงเก่า นารา เมืองหลวงแรกเก่ากว่าอีก
ปัจจุบันโตเกียวเป็นเมืองหลวง ที่เที่ยวก็เยอะไปหมด ทั้งปราสาท ทั้งวัด ทั้งป่าไผ่ อราชิยาม่า วัดเงิน วัดทอง วัดน้ำใส
จากโอซาก้า มา นาโกย่า พัก 1 คืน นั่งฮิคาริ ไปชิซุโอกะ ลืมบอกไปครับ ฮิคาริ กับ โคดาม่า เป็นรถไฟความเร็วสูง
ที่ส่วนมากนักท่องเที่ยวใช้กันภาคนี้ของญี่ปุ่น ตอนไปฮิโรชิม่า จะเป็นขบวนซากุระ ขบวนโคดาม่า เขาจะเรียกว่า ชินกันเซนหวานเย็น
คือจะจอดมากสถานีหน่อย โดนแซงตลอด ใช้เวลาในการไปถึงที่หมายช้ากว่าขบวนอื่นนิดหน่อย
จากชิซุโอกะ เปลี่ยนรถไฟเป็นรถท้องถิ่นเอ็กเพรสไป ฟูจิโนมิยะ ดูภูเขาไฟฟูจิ พัก 1 คืน โชคดีเห็นฟูจิ อยู่จนสี่โมงเย็นก็มีเมฆหมอกบัง
วันรุ่งขึ้นนั่งรถไฟท้องถิ่นไป มิชิม่า ต่อรถไฟฮิคาริ เข้าโตเกียว แต่เจอาร์พาส ที่ซื้อมา 7 วันหมดวันนี้พอดี อยู่เที่ยวโตเกียวอีก 3 วัน
เป็นอันจบการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงชินกันเซน ในญี่ปุ่นด้วย เจอาร์พาส 7 วัน เป็นครั้งแรกที่นั่งชินกันเซน เคยแต่นั่ง
ยูโรสตาร์ที่ ลอนดอนมาปารีส และนั่ง เทเจเว จากปารีส ไป เมือง ดิฌอง เร็วและสะดวกสบายพอพอกัน แต่ตู้กรีนคาร์ของชินกันเซน
เก้าอี้นั่งสบายมากมาก
ทางเลือกหนึ่งของเพื่อนสมากชิกที่จะพาพ่อแม่ลุงป้าญาติผู้ใหญ่ผู้สูงวัย ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองโดยต้องโดยสารรถไฟความเร็วสูง
ซื้อเจอาร์พาส เพิ่มเงินอีกสักนิด แต่สิ่งที่ได้คุ้มค่ากว่ากันเยอะเลยไม่ต้องเบียดเสียดระหว่างขึ้นรถ เดินก็สบาย นั่งก็สบาย
เป็นกรีนคาร์ จะทำให้ท่านสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้นกว่าเดิม ผมว่าคุ้มค่าสำหรับผู้สูงวัยที่ต้องเดินทาง
ขออภัยที่ไม่ได้แปะรูปเลย อยู่ในกล้องที่ยังไม่ได้เอาออกมา
ตอนจะเดินทางก็ได้เข้ามาอ่านกระทู้ทั้งหลายในห้องบลู ได้ประโยชน์จากหลายๆท่านในกระทู้เพื่อไปวางแผนท่องเที่ยว
ไปมาแล้ว ก็เลยมาแชร์ เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้างเล็กๆน้อยๆ สำหรับบางท่าน สำหรับการใช้บริการชินกันเซน ขอบคุณครับ