คือเราขอเกริ่นก่อนนะคะว่าเราอยู่กับแม่แล้วก็น้อง น้องเรา อายุ 10 ขวบค่ะ พ่อกับแม่เราแยกทางกันได้ประมาณ 3 4 ปีแล้ว เราสนิทกับพ่อมากมาตั้งแต่เด็กๆ จนพ่อกับแม่เราแยกทางกัน เราก็ไม่ได้ติดต่อกับท่านเลย อยู่กับแม่แล้วก็น้องก็มีความสุขดีค่ะ เราเองก็ไม่ได้มีปัญหากัน ไม่เคยทะเลาะกัน เรากับน้องอาจจะมีทะเลาะกันบ้างตามประสาพี่น้อง ประมาณว่าแย่งของกิน บราๆ ซึ่งเราก็แค่เล่นๆกับน้องนั่นแหละค่ะ เพราะตัวเราเองก็โตแล้ว (อายุ 18)
ด้วยความที่เราสนิทกับพ่อ พ่อจะอยู่กับเรามาตั้งแต่เราเด็กๆ คอยปลุกไปอาบน้ำ ทำอาหารให้ทาน ไปรับเราที่โรงเรียน สอนเราทำงานบ้าน ให้เรากวาดบ้านถูกบ้านเอง (แม่เราเป็นแม่บ้านรัฐวิสาหกิจค่ะ เลยต้องออกจากบ้านตั้งแต่ ตี 5 เพื่อไปทำความสะอาด กลับบ้านมาก็ 5 6 โมงเย็น ซึ่งพ่อเราทำงานบริษัท ทำงาน 8 โมง เลิก 4 โมงเย็น เลยมีเวลาดูแลเรามากกว่า) เราเริ่มหุงข้าวทอดไข่ ทำอาหารง่ายกินเองได้ ประมาณ 10 11 ขวบ ซึ่งตอน นั้นแม่เราก็มีน้องเรา พ่อเราก็ดูแลทั้งเราแล้วก็น้อง แต่ก็เริ่มให้ความสนใจกับน้องมากกว่า ซึ่งเราก็ไม่คิดมากอะไร เพราะเด็กเล็กยังไงก็ต้องดูแลมากกว่าอยู่แล้ว เราขออะไร พ่อกับแม่ก็ให้เราเหมือนเดิม แต่เราก็ไม่ค่อยขอนะคะ คือถ้าจำเป็นจริงๆก็จะขอ เช่นโทรศัพท์ ที่เราขอให้ซื้อให้ เรามีโทรศัพท์เครื่องแรกตอน ม1 เป็นปุ่มกด ซึ่งเราก็โอเค ใช้แค่โทรเข้าโทรออก พอน้องเราเริ่มโตขึ้น ประมาณ 5 ขวบ พ่อกับแม่เราก็เริ่มมีปัญหากัน ซึ่งเราก็ไม่อยากยุ่งเพราะมันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ช่วงนั้นเราต้องดูแลน้องเพราะพ่อกับแม่มีปัญหากันซึ่งเราก็ไม่อยากให้น้องรู้สึกถึงปัญหา หรือรู้สึกไม่ดีที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน เราดูแลน้องอยู่ช่วงหนึ่ง ทำอาหารให้กิน ไปรับไปส่งที่โรงเรียน สอนน้องทำนู่นนี้หลายๆอย่าง ถึงน้องจะยังไม่รู้อะไรมากแต่เราก็อยากสอนเค้าไว้ก่อน เหมือนที่พ่อสอนเรามาตั้งแต่เด็กๆ จนถึงวันที่พ่อกับแม่เราตัดสินใจแยกทางกันเราก็เสียใจแหละค่ะ แต่ในเมื่อท่านตัดสินใจแล้วเราก็ทำอะไรไม่ได้ แม่เราให้เรากับน้องอยู่กับท่าน ส่วนพ่อก็ย้ายขึ้นเหนือ ช่วงแรกก็มีติดต่อกับเราบ้าง คือพ่อพยายามจะเลี่ยงแม่ เพราะกลัวว่าจะทะเลาะกันขึ้นมาอีก พ่อจะโทรมาหาเราถามว่า น้องเป็นยังไง การเรียนเราเป็นยังไง แม่สบายดีมั้ย ส่งเสื้อผ้ามาให้เราบ้าง ซึ่งเราก็ใส่ปกติ พอแม่ถามเราก็บอกว่า พ่อส่งมาให้ ซึ่งแม่ก็ไม่ว่าอะไร เรากับแม่ก็ไม่มีปัญหาอะไรกันนะคะ คุยกันปรึกษากัน ดูหนังดูละครด้วยกันปกติ แม่จะเริ่มให้อิสระเรามากขึ้น เพราะเราโตขึ้นแม่เราก็เข้าใจ แต่เราเป็นคนติดบ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ซึ่งแม่ก็ไม่ว่าอะไร แต่ปัญหาคือน้องเราค่ะ เราไม่รู้จะบอกยังไงดี ว่าเราไม่ชอบนิสัยน้องตัวเองเลย หรือว่าเราเป็นคนเข้มงวดเกินไป หรือว่าแม่เราปล่อยน้องมากไป แต่เราก็ไม่โทษแม่หรอกนะคะ เพราะแม่เราก็คอยสอนน้องบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะปล่อยมากกว่า ปล่อยในที่นี้คือ เวลาน้องทำผิด แม่จะไม่เตือน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจจะไม่เตือนหรือว่าเขาลืม เช่น
....เรากับน้องไปที่ทำงานแม่ เราก็จะยกมือไหว้ทุกคนเพราะเราชิน บวกกับพ่อเราสอนด้วย เราก็เคยบอกน้องนะคะว่าให้สวัสดีผู้ใหญ่อะไรแบบนี้ แต่น้องเราไม่ไหว้ใครเลย เดินดุ่มๆไปหาแม่อย่างเดียว พอเราเดินไปบอกว่า "นี่สวัสดีทุกคนด้วยซิ" น้องก็หันมาทำตาขวางใส่เรา เราก็หันไปมองแม่เป็นเชิงบอกว่าให้น้องสวัสดีทุกคน แต่แม่เราก็เฉย เราก็พยายามจะไม่คิดมาก เราเองก็ไม่เข้าใจว่าเราบังคับน้องเกินไปรึเปล่า
....หรือตอนทำงานบ้าน ซึ่งเราอยากจะให้น้องช่วยเราบ้าง ถึงจะเล็กๆน้อย คือเราคิดว่าน้องน่าจะทำได้เราก็จะให้เขาทำ เช่นเราจะกวาดบ้าน เราก็จะให้น้องเก็บของเล่นหรือที่นอนที่น้องเอาออกมาวางไว้เกลื่อนบ้าน เราก็บอกว่า "นี่ช่วยพี่เก็บของหน่อยสิ เอาออกมาเล่นเองก็ต้องเก็บนะ" น้องก็เฉยใส่เรา พอเราหันไปบอกแม่ เพื่อให้แม่ช่วยพูด เพราะน้องจะฟังแม่มากกว่าเรา แม่ก็เฉยไม่พูดอะไร แถมเดินมาเก็บของให้อีก เราก็โกรธนะคะ ไม่รู้ว่าเราผิดรึเปล่าที่เราใช้น้อง เราอยากให้น้องลองทำบ้างถึงจะเล็กๆน้อยๆ เหมือนตอนที่พ่อสอนเรา โตขึ้นน้องจะได้ทำอะไรเป็นบ้าง แต่น้องไม่เคยฟังเราเลย แต่เราก็พยายามจะไม่โกรธพยายามจะคิดว่ามันอาจจะเป็นพัฒนาการของเขา อะไรแบบนี้ซึ่งเราก็คิดไปเรื่อยนั่นแหละค่ะ พยายามทิ้งความคิดแย่ๆของตัวเองออกไป
....มีครั้งนึงที่เราโกรธน้องมาก คือน้องด่ายาย คือเรากับยายค่อนข้างสนิทกัน เพราะนอกจากพ่อแล้วก็จะมียายที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เล็กๆ ไม่ใช่ว่าแม่ไม่เลี้ยงเรานะคะ แต่คือเวลาที่พ่อกับแม่ไปทำงานยายก็จะเป็นคนดูแลเรา ซึ่งวันนั้นแม่เราไม่อยู่ ไม่ดูงานที่ต่างจังหวัด เรากับยายก็เลยต้องดูน้องคอยอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเราก็ไม่มีปัญหาอะไร วันนั้นน้องเราเล่นเกมจนดึก ดึกนี่คือ เกือบๆเที่ยงคืน มันดึกเกินไปสำหรับเด็ก(สหสต) ซึ่งยายเราก็อยู่เป็นเพื่อนหลาน เราก็ยังไม่นอนค่ะ เรายอมรับว่าเรานอนดึกมาก ประมาณ ตี 1 ตี 2 เพราะมันชินไปแล้ว ตอนนั้นเราออกมานอกห้องเพื่อจะดูว่าน้องกับยายเราหลับรึยัง ซึ่งน้องเรายังไม่หลับ ยายเราก็ยังไม่หลับ เราก็สงสารยาย เพราะยายเราเป็นคนตื่นเช้ามา ตี 3 ตี 4 ก็ตื่นไปตลาด เราเดินออกมาก็ยังไม่พูดอะไรทำทีเป็นเดินไปหวีผม ยายเราก็พูดกับน้องประมาณว่า "น้องได้แล้ว มันดึกแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาเล่นก็ได้ เกมมันไม่หนีไปไหนหรอก" น้องเราก็หันมาทำตาขวางใส่ยาย เราก็นึกโกรธอยู่ในใจ แล้วน้องเราก็ตอบยายว่า "อย่ามายุ่ง" พร้อมกับปัดแขนยายเราออก เราก็เห็นว่าเริ่มท่าไม่ดี เราก็บอกให้ยายเราไปนอนก่อน แล้วเราก็หันมาบอกน้องว่า "ทำไมเป็นคนแบบนี้ล่ะ พรุ่งนี้ก็เล่นได้เกมน่ะ" เราพยายามจะพูดดีๆด้วยพูดไปก็เอามือจับไหล่น้องเบาๆ น้องก็หันมาทำตาขวางใส่เราอีก พอเราพูดมากๆเขามันก็เอามือมาทุบหลังเรา เรางงเลยตอนนั้น คืออะไรอะ ผิดมาใช่มั้ยที่พูดเนี่ย เราก็เลยตีหลังน้องไป 1 ที แล้วมันก็ร้องไห้ เราไม่ได้ขอโทษมัน เพราะมันก็ทำเราเหมือนกัน และทุกครั้งที่ทะเลาะกันน้องเราก็จะชอบต่อยตีเรา เราก็คิดว่าเพราะน้องเป็นผู้ชายเลยไม่คิดโกรธอะไร เราให้มันขอโทษ มันก็ไม่เคยขอโทษเรา ก็เราก็เคยบอกมันว่า "พี่ยังไม่ทันทำอะไรเลย นะพี่ไม่ได้ตีเราก่อนทำไมต้องมาตีพี่ด้วย" ประมาณนี้ เราเคยบอกเรื่องนี้กับแม่แต่แม่เราก็ยังเฉยๆเราไม่เข้าใจเลย พอวันรุ่งขึ้น แม่ก็โทรมาหาเราว่าเราตีน้องทำไม (น้องเราคงโทรไปบอกแม่) เราก็เหตุผลไป พยายามจะไม่โวยวายใส่ แม่เราก็บอกเราว่า น้องยังเด็ก อย่าไปถือสา เราไม่รู้จะพูดยังไงเลย คือทั้งโกรธทั้งไม่เข้าใจ พอแม่เรากลับมา เราก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก พยายามทำตัวให้เป็นปกติ
คือเราไม่เข้าใจว่ามันเป็นปกติของเด็ก หรือว่าเราเข้มงวดยุ่งกับเขามาเกินไป เราไม่เคยเห็นแม่ตีน้องเลย หรืออาจจะตีตอนที่เราไม่รู้อันนี้เราก็ก็ไม่รู้นะคะ ตอนเราเด็กๆ เราโดนตีตลอด โดนแม่ตี โดนพ่อตี โดนพ่อให้ออกมาอยู่นอกบ้าน เพราะเราร้องไห้กลัวผี (ตอนนี้เราไม่กลัวผีแล้วเพราะจำฝังใจว่าพ่อจะให้ออกมาอยู่นอกบ้านอีก) แต่เราก็ไม่เคยโกรธพ่อกับแม่นะคะที่ตีเรา เราไม่ได้เก็บกดด้วย ที่เราโกรธน้องไม่ใช่เพราะว่าน้องไม่โดนตีโดนด่าเหมือนเรา แต่เราโกรธที่เขาไม่เคยฟังที่เราบอกเลย(หรือฟังเราก็ไม่รุ้) หรือว่าเราสอนน้องมากไป หรือยังไง ที่ผ่านมาแม่เราทำหน้าที่ซิงเกิลมัมได้ดีนะคะ คือเราไม่รู้สึกขาดเลย แม่ก็เลี้ยงน้องเราดีเหมือนกัน เราก็พยายามเลี้ยงน้องให้เต็มที่แบบที่พ่อเราเคยสอนไว้ พอเราโตขึ้น จนตอนนี้เรากำลังจพเข้ามหาลัย เราต้องอยู่ไกลบ้านไกลแม่ไกลน้องไกลครอบครัว เราก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาว่าต่อไปจะเป็นยังไง เราพยายามบอกน้องว่าอย่าทำให้แม่เป็นห่วงบราๆ ก็เหมือนมันจะฟังเรา เราพยายามจะบอกแม่ว่าให้พูดสอนน้องบ้างเราก็ไม่รู้จะบอกยังไง เพราะกลัวว่าท่านจะว่าว่าเราไปสอนเขาเลี้ยงลูกอีก เราไม่รู้จะทำยังไงดี เราอึกอัด
เราแค่อยากระบายและขอคำแนะนำบ้าง เพราะคิดว่าเรายังอยู่ในช่วงวัยรุ่น อาจจะคิดอะไรผิดไปบ้าง หรือน้องเราอาจจะยังเด็ก หรือว่านี่จะเป็นวิธีการสอนของแม่เรา เราก็ไม่รู้
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ // เราไม่รู้จะตั้งชื่อหัวข้อว่าอะไรดี ขอโทษด้วยนะคะถ้าไม่เหมาะสม//ขอโทษด้วยนะคะถ้าแท๊กห้องผิด
เราไม่ชอบน้องตัวเองเลยค่ะ ทำยังไงดี
ด้วยความที่เราสนิทกับพ่อ พ่อจะอยู่กับเรามาตั้งแต่เราเด็กๆ คอยปลุกไปอาบน้ำ ทำอาหารให้ทาน ไปรับเราที่โรงเรียน สอนเราทำงานบ้าน ให้เรากวาดบ้านถูกบ้านเอง (แม่เราเป็นแม่บ้านรัฐวิสาหกิจค่ะ เลยต้องออกจากบ้านตั้งแต่ ตี 5 เพื่อไปทำความสะอาด กลับบ้านมาก็ 5 6 โมงเย็น ซึ่งพ่อเราทำงานบริษัท ทำงาน 8 โมง เลิก 4 โมงเย็น เลยมีเวลาดูแลเรามากกว่า) เราเริ่มหุงข้าวทอดไข่ ทำอาหารง่ายกินเองได้ ประมาณ 10 11 ขวบ ซึ่งตอน นั้นแม่เราก็มีน้องเรา พ่อเราก็ดูแลทั้งเราแล้วก็น้อง แต่ก็เริ่มให้ความสนใจกับน้องมากกว่า ซึ่งเราก็ไม่คิดมากอะไร เพราะเด็กเล็กยังไงก็ต้องดูแลมากกว่าอยู่แล้ว เราขออะไร พ่อกับแม่ก็ให้เราเหมือนเดิม แต่เราก็ไม่ค่อยขอนะคะ คือถ้าจำเป็นจริงๆก็จะขอ เช่นโทรศัพท์ ที่เราขอให้ซื้อให้ เรามีโทรศัพท์เครื่องแรกตอน ม1 เป็นปุ่มกด ซึ่งเราก็โอเค ใช้แค่โทรเข้าโทรออก พอน้องเราเริ่มโตขึ้น ประมาณ 5 ขวบ พ่อกับแม่เราก็เริ่มมีปัญหากัน ซึ่งเราก็ไม่อยากยุ่งเพราะมันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ช่วงนั้นเราต้องดูแลน้องเพราะพ่อกับแม่มีปัญหากันซึ่งเราก็ไม่อยากให้น้องรู้สึกถึงปัญหา หรือรู้สึกไม่ดีที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน เราดูแลน้องอยู่ช่วงหนึ่ง ทำอาหารให้กิน ไปรับไปส่งที่โรงเรียน สอนน้องทำนู่นนี้หลายๆอย่าง ถึงน้องจะยังไม่รู้อะไรมากแต่เราก็อยากสอนเค้าไว้ก่อน เหมือนที่พ่อสอนเรามาตั้งแต่เด็กๆ จนถึงวันที่พ่อกับแม่เราตัดสินใจแยกทางกันเราก็เสียใจแหละค่ะ แต่ในเมื่อท่านตัดสินใจแล้วเราก็ทำอะไรไม่ได้ แม่เราให้เรากับน้องอยู่กับท่าน ส่วนพ่อก็ย้ายขึ้นเหนือ ช่วงแรกก็มีติดต่อกับเราบ้าง คือพ่อพยายามจะเลี่ยงแม่ เพราะกลัวว่าจะทะเลาะกันขึ้นมาอีก พ่อจะโทรมาหาเราถามว่า น้องเป็นยังไง การเรียนเราเป็นยังไง แม่สบายดีมั้ย ส่งเสื้อผ้ามาให้เราบ้าง ซึ่งเราก็ใส่ปกติ พอแม่ถามเราก็บอกว่า พ่อส่งมาให้ ซึ่งแม่ก็ไม่ว่าอะไร เรากับแม่ก็ไม่มีปัญหาอะไรกันนะคะ คุยกันปรึกษากัน ดูหนังดูละครด้วยกันปกติ แม่จะเริ่มให้อิสระเรามากขึ้น เพราะเราโตขึ้นแม่เราก็เข้าใจ แต่เราเป็นคนติดบ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ซึ่งแม่ก็ไม่ว่าอะไร แต่ปัญหาคือน้องเราค่ะ เราไม่รู้จะบอกยังไงดี ว่าเราไม่ชอบนิสัยน้องตัวเองเลย หรือว่าเราเป็นคนเข้มงวดเกินไป หรือว่าแม่เราปล่อยน้องมากไป แต่เราก็ไม่โทษแม่หรอกนะคะ เพราะแม่เราก็คอยสอนน้องบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะปล่อยมากกว่า ปล่อยในที่นี้คือ เวลาน้องทำผิด แม่จะไม่เตือน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจจะไม่เตือนหรือว่าเขาลืม เช่น
....เรากับน้องไปที่ทำงานแม่ เราก็จะยกมือไหว้ทุกคนเพราะเราชิน บวกกับพ่อเราสอนด้วย เราก็เคยบอกน้องนะคะว่าให้สวัสดีผู้ใหญ่อะไรแบบนี้ แต่น้องเราไม่ไหว้ใครเลย เดินดุ่มๆไปหาแม่อย่างเดียว พอเราเดินไปบอกว่า "นี่สวัสดีทุกคนด้วยซิ" น้องก็หันมาทำตาขวางใส่เรา เราก็หันไปมองแม่เป็นเชิงบอกว่าให้น้องสวัสดีทุกคน แต่แม่เราก็เฉย เราก็พยายามจะไม่คิดมาก เราเองก็ไม่เข้าใจว่าเราบังคับน้องเกินไปรึเปล่า
....หรือตอนทำงานบ้าน ซึ่งเราอยากจะให้น้องช่วยเราบ้าง ถึงจะเล็กๆน้อย คือเราคิดว่าน้องน่าจะทำได้เราก็จะให้เขาทำ เช่นเราจะกวาดบ้าน เราก็จะให้น้องเก็บของเล่นหรือที่นอนที่น้องเอาออกมาวางไว้เกลื่อนบ้าน เราก็บอกว่า "นี่ช่วยพี่เก็บของหน่อยสิ เอาออกมาเล่นเองก็ต้องเก็บนะ" น้องก็เฉยใส่เรา พอเราหันไปบอกแม่ เพื่อให้แม่ช่วยพูด เพราะน้องจะฟังแม่มากกว่าเรา แม่ก็เฉยไม่พูดอะไร แถมเดินมาเก็บของให้อีก เราก็โกรธนะคะ ไม่รู้ว่าเราผิดรึเปล่าที่เราใช้น้อง เราอยากให้น้องลองทำบ้างถึงจะเล็กๆน้อยๆ เหมือนตอนที่พ่อสอนเรา โตขึ้นน้องจะได้ทำอะไรเป็นบ้าง แต่น้องไม่เคยฟังเราเลย แต่เราก็พยายามจะไม่โกรธพยายามจะคิดว่ามันอาจจะเป็นพัฒนาการของเขา อะไรแบบนี้ซึ่งเราก็คิดไปเรื่อยนั่นแหละค่ะ พยายามทิ้งความคิดแย่ๆของตัวเองออกไป
....มีครั้งนึงที่เราโกรธน้องมาก คือน้องด่ายาย คือเรากับยายค่อนข้างสนิทกัน เพราะนอกจากพ่อแล้วก็จะมียายที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เล็กๆ ไม่ใช่ว่าแม่ไม่เลี้ยงเรานะคะ แต่คือเวลาที่พ่อกับแม่ไปทำงานยายก็จะเป็นคนดูแลเรา ซึ่งวันนั้นแม่เราไม่อยู่ ไม่ดูงานที่ต่างจังหวัด เรากับยายก็เลยต้องดูน้องคอยอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเราก็ไม่มีปัญหาอะไร วันนั้นน้องเราเล่นเกมจนดึก ดึกนี่คือ เกือบๆเที่ยงคืน มันดึกเกินไปสำหรับเด็ก(สหสต) ซึ่งยายเราก็อยู่เป็นเพื่อนหลาน เราก็ยังไม่นอนค่ะ เรายอมรับว่าเรานอนดึกมาก ประมาณ ตี 1 ตี 2 เพราะมันชินไปแล้ว ตอนนั้นเราออกมานอกห้องเพื่อจะดูว่าน้องกับยายเราหลับรึยัง ซึ่งน้องเรายังไม่หลับ ยายเราก็ยังไม่หลับ เราก็สงสารยาย เพราะยายเราเป็นคนตื่นเช้ามา ตี 3 ตี 4 ก็ตื่นไปตลาด เราเดินออกมาก็ยังไม่พูดอะไรทำทีเป็นเดินไปหวีผม ยายเราก็พูดกับน้องประมาณว่า "น้องได้แล้ว มันดึกแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาเล่นก็ได้ เกมมันไม่หนีไปไหนหรอก" น้องเราก็หันมาทำตาขวางใส่ยาย เราก็นึกโกรธอยู่ในใจ แล้วน้องเราก็ตอบยายว่า "อย่ามายุ่ง" พร้อมกับปัดแขนยายเราออก เราก็เห็นว่าเริ่มท่าไม่ดี เราก็บอกให้ยายเราไปนอนก่อน แล้วเราก็หันมาบอกน้องว่า "ทำไมเป็นคนแบบนี้ล่ะ พรุ่งนี้ก็เล่นได้เกมน่ะ" เราพยายามจะพูดดีๆด้วยพูดไปก็เอามือจับไหล่น้องเบาๆ น้องก็หันมาทำตาขวางใส่เราอีก พอเราพูดมากๆเขามันก็เอามือมาทุบหลังเรา เรางงเลยตอนนั้น คืออะไรอะ ผิดมาใช่มั้ยที่พูดเนี่ย เราก็เลยตีหลังน้องไป 1 ที แล้วมันก็ร้องไห้ เราไม่ได้ขอโทษมัน เพราะมันก็ทำเราเหมือนกัน และทุกครั้งที่ทะเลาะกันน้องเราก็จะชอบต่อยตีเรา เราก็คิดว่าเพราะน้องเป็นผู้ชายเลยไม่คิดโกรธอะไร เราให้มันขอโทษ มันก็ไม่เคยขอโทษเรา ก็เราก็เคยบอกมันว่า "พี่ยังไม่ทันทำอะไรเลย นะพี่ไม่ได้ตีเราก่อนทำไมต้องมาตีพี่ด้วย" ประมาณนี้ เราเคยบอกเรื่องนี้กับแม่แต่แม่เราก็ยังเฉยๆเราไม่เข้าใจเลย พอวันรุ่งขึ้น แม่ก็โทรมาหาเราว่าเราตีน้องทำไม (น้องเราคงโทรไปบอกแม่) เราก็เหตุผลไป พยายามจะไม่โวยวายใส่ แม่เราก็บอกเราว่า น้องยังเด็ก อย่าไปถือสา เราไม่รู้จะพูดยังไงเลย คือทั้งโกรธทั้งไม่เข้าใจ พอแม่เรากลับมา เราก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก พยายามทำตัวให้เป็นปกติ
คือเราไม่เข้าใจว่ามันเป็นปกติของเด็ก หรือว่าเราเข้มงวดยุ่งกับเขามาเกินไป เราไม่เคยเห็นแม่ตีน้องเลย หรืออาจจะตีตอนที่เราไม่รู้อันนี้เราก็ก็ไม่รู้นะคะ ตอนเราเด็กๆ เราโดนตีตลอด โดนแม่ตี โดนพ่อตี โดนพ่อให้ออกมาอยู่นอกบ้าน เพราะเราร้องไห้กลัวผี (ตอนนี้เราไม่กลัวผีแล้วเพราะจำฝังใจว่าพ่อจะให้ออกมาอยู่นอกบ้านอีก) แต่เราก็ไม่เคยโกรธพ่อกับแม่นะคะที่ตีเรา เราไม่ได้เก็บกดด้วย ที่เราโกรธน้องไม่ใช่เพราะว่าน้องไม่โดนตีโดนด่าเหมือนเรา แต่เราโกรธที่เขาไม่เคยฟังที่เราบอกเลย(หรือฟังเราก็ไม่รุ้) หรือว่าเราสอนน้องมากไป หรือยังไง ที่ผ่านมาแม่เราทำหน้าที่ซิงเกิลมัมได้ดีนะคะ คือเราไม่รู้สึกขาดเลย แม่ก็เลี้ยงน้องเราดีเหมือนกัน เราก็พยายามเลี้ยงน้องให้เต็มที่แบบที่พ่อเราเคยสอนไว้ พอเราโตขึ้น จนตอนนี้เรากำลังจพเข้ามหาลัย เราต้องอยู่ไกลบ้านไกลแม่ไกลน้องไกลครอบครัว เราก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาว่าต่อไปจะเป็นยังไง เราพยายามบอกน้องว่าอย่าทำให้แม่เป็นห่วงบราๆ ก็เหมือนมันจะฟังเรา เราพยายามจะบอกแม่ว่าให้พูดสอนน้องบ้างเราก็ไม่รู้จะบอกยังไง เพราะกลัวว่าท่านจะว่าว่าเราไปสอนเขาเลี้ยงลูกอีก เราไม่รู้จะทำยังไงดี เราอึกอัด
เราแค่อยากระบายและขอคำแนะนำบ้าง เพราะคิดว่าเรายังอยู่ในช่วงวัยรุ่น อาจจะคิดอะไรผิดไปบ้าง หรือน้องเราอาจจะยังเด็ก หรือว่านี่จะเป็นวิธีการสอนของแม่เรา เราก็ไม่รู้
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ // เราไม่รู้จะตั้งชื่อหัวข้อว่าอะไรดี ขอโทษด้วยนะคะถ้าไม่เหมาะสม//ขอโทษด้วยนะคะถ้าแท๊กห้องผิด