ขอรีโพสใหม่ครับ เนื่องจากแก้ไขแทรค กฏหมายชาวบ้านไม่ได้
ถูกไวยาวัจกรวัดหนึ่งแถวสำเพ็งหลอกเอาเงินเซ้งที่ขายของควรทำอย่างไร
เดือนมี.ค. 58 ผมอยากหาที่ขายของแถวสำเพ็งเยาวราช
มีคนแนะนำว่าลองคุยกับไวยาวัจกรวัดแห่งหนึ่งในสำเพ็งดู อาจมีที่ขายของแผงลอยริมฟุตบาทว่างๆให้เซ้ง
เข้าไปคุยกับไวยาวัจกร เขาบอกว่ามีแผงว่างอยู่
เป็นที่ตรงทางเข้าออกประตูวัด สามารถตั้งแผงลอยเล็กๆได้
แต่เจ้าของเก่า(ไม่ได้มาขายนานแล้ว)ต้องการเงินมัดจำค่าเซ้งส่วนนึงก่อนทำสัญญา แล้วพูดโน้มน้าวเราว่าตรงนี้คนต้องการเซ้งหลายเจ้า แต่เขาเห็นเราเป็นหลานของคนที่แนะนำมา
เขาเลยจะให้เรา ถ้าเราเอาเงินให้เขา 1 แสน
เขาจะเอาเงินไปให้เจ้าของที่และจะช้วยพูดให้เซ้งอีกที
พร้อมร่างหนังสือ แนบสำเนาบัตรประชาชนเขียนด้วยลายมือตัวเขาเองให้เรา 1 ฉบับ
ใจความสั้นๆว่า รับเงินมัดจำค่าเซ้งที่จากเรา 1 แสนบาท ในการขอใช้พื้นที่หน้าวัด
ภายในระยะเวลา 3 เดือน หากไม่ได้ที่ขาย จะคืนเงินให้เต็มจำนวน
จนเวลาผ่านไป เราก็ทวงถามเขาตลอดว่าคนที่เขาจะเซ้งที่ว่ายังไง เขาก็บ่ายเบี่ยงบอกว่าแม่คนที่จะเซ้งป่วย
คนเซ้งเขาไปจีน อ้างว่าตัวเองอยู่ต่างจังหวัดมาดูแลวัดสาขา นู่นนี่นั่น ต่างๆนาๆ
ขอยื่นระยะเวลาคืนเงิน โทรไปเขาไม่รับ
ส่งไลน์ไปเปิดอ่านแต่ไม่ตอบรับใดๆ
ผมก็หาเช้ากินค่ำ จะให้ไปไล่ทวงเงินทุกวันก็ไม่ไหว
เพราะบ้านอยู่ไกลสำเพ็งเยาวราชมาก
หนักๆเข้าโทรไปปิดเครื่อง
เปิดเบอร์ใหม่ เปลี่ยนเบอรไปเลย
จนปีนึงผมทนไม่ไหว
ไปแจ้งความ วันนั้นสงสัยเป็นวันซวย
ดันมีคนตายที่วัดนั้น ร้อยเวรเลยไปดูที่เกิดเหตุ
ไม่มีคนรับแจ้งความ
มีตำรวจมาถามว่าแจ้งเรื่องอะไร
ผมก็เล่าให้ตำรวจฟัง บอกไวยาวัด...
ตำรวจถามชื่อไวยา
พอเอ่ยชื่อเท่านั้น ตำรวจพูดเป็นเสียงเดียวกัน
" เฮีย อ.อีกแล้วหรือ"
ผมเลยถามตำรวจ เขาบอกว่าเคยมีคดี เอาที่เซ้งไปขายคนเซ้ง 2 คน คนที่เสียเงินเขาเลยเอาเรื่อง
ตำรวจถามว่าจะแจ้งยังไง
ผมบอกจะแจ้งฐานฉ้อโกง
แล้วเอาหนังสือร่างที่จะแจ้งให้ตำรวจดู
เขาบอกว่าแบบนี้ไม่ถือว่าช่อโกงแจ้งไม่ได้
แล้วก็บ่ายเบี่ยงว่าให้รอร้อยเวร
(ผมปรึกษาคนที่พอรู้กฏหมายให้ช่วยร่างหนังสือแจ้งความให้เดี๋ยวเอารูปมาอับให้ดูครับ)
พอร้อยเวรกลับมาเขาก็มาด้วย เพราะเป็นผู้ดูแลวัด
เขาก็ขู่เหมือนประมาณว่าให้คืน แต่ยืดยาวแน่
ทำอะไรเขาไม่ได้หลอก เขาใหญ่ที่สุดในวัด
จะให้ใครอยู่ หรือขายของตรงไหนก็ได้
(ญาติผมมีร้านที่เซ้งพื้นที่วัด กลัวญาติจะเดือดร้อน)
ผมเลยบอกว่างั้นผมแจ้งความละกัน
เขาเห็นผมเอาจริงเลยจะขอลงบันทึกประจำวัน
ว่าปลายเดือนจะเอาเงินมาคืนให้ที่โรงพักในวันที่30 มีค.
ร้อยเวรก็ถามเขากลับว่าถ้าไม่เอามาคืนจะทำยังไง
เขาก็นิ่งๆ ร้อยเวรก็ไม่พูดอะไรต่อ
แล้วก็ให้ผมและไวยาลงชื่อ
และถ่ายเอกสารให้คนละใบ
(ด้วยความไม่รู้กฏหมายมารู้ทีหละงว่าแค่ลงบันทึกเฉยๆ ว่าจะเอาเงินมาคืนในวันที่30 มี.ค. ไม่ได้แจ้งว้าหากไม่คืนจะดำเนินคดี)
สิ้นเดือนผมมารอที่โรงพัก ผมโทรหาเขา เขาไม่รับ
เอาอีกเบอร์โทรไป เขารับ แต่บอกว่าอยู่วัดสาขาที่ต่างจังหวัด เจ้าอาวาสป่วย
ผมเลยลงบันทึกประจำวันว่าเขาไม่มาตามนัด
ไม่ได้คืนเงินให้
(ไม่ได้แจ้งความกลัวญาติเดือดร้อน)
เวลาผ่านไปผมก็ทวงถามเรื่องเงินคืน ไวยาก็บ่ายเบี่ยง
โทรไปไม่รับ
บางครั้งรับบอกอยู่ต่างจังหวัด
พอมาเจอที่วัดก็พูดชักแม่น้ำทั้งห้าบอกที่ตรงข้างๆจะหมดสัญญา ให้ผมรอเซ้งได้เลย(แต่ไม่บอกว่าตรงไหนกลัวผมไปคุยกับเจ้าของ แต่ผมไปคุยเจ้าของทุกคน เขาบอก พึ่งต่อสัญญาไปอีก 3 พับ3 ปีเท่ากับ9ปีทุกร้าน)
บางครั้งจะมาขอเงินเพิ่ม บอกเดี๋ยวตีเชคแลกเงินให้เป็นตัวค้ำประกัน
(ไวยาคนนี้เคยมีคดีติดคุกเรื่องตีเชคเด่งกับญาติผมมาแล้วเลยเอามาอ้างให้เราเชื่อใจ)
ทุกครั้งที่จะใช้เงิน(วัดมีงานหรือจะไปต่างจังหวัด)
ไวยาจะเรียกให้ผมไปคุยสัญญาทุกครั้งจะขอเงินเซ้งเพิ่ม
แล้วเอาสัญญาของคนอื่นมาโชให้ดูเพื่อโน้มน้าวผม
จะผมให้เสียเงินเพิ่มให้สามหมื่นบ้าง สองหมื่นบ้าง.....จะให้เสียเพิ่ม ไม่มีทาง
เจอจังๆวันไปทวงเงิน ไม่มีอะไรอ้าง
อ้างว่าลูกป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ต้องผ่าตัด ถ้าไม่ใช่โรงพยาบาลนี้ตายไปแล้ว(อ้างชื่อโรงพยาบาลราคาแพง) ผมใจอ่อนเลยบอกไว้มีเงินค้อยคืน
อาทิตย์ต่อมาเห็นลูกเขาเดินในสำเพ็งเหมือนคนปกติไม่ใช่คนป่วยแต่อย่างใด
ที่ตรงที่บอกจะให้ผมเซ้งก็ให้เมียเขามาขายก๊วยเตี๋ยวหลอด ไม่ยอมปล่อยให้ผม
วันนึงแม่ผมป่วยลิ้นหัวใจรั่วต้องผ่าตัด
ผมโทรไปอ้อนวอนขอเงินคืน ถ่ายรูปแม่ที่นอนให้ห้อง ccu ให้ดูว่าแม่ป่วยจริง ผ่าตัดจริง ไม่ได้โกหก
ยังมีน้ำใจโอนคืนให้สามหมื่น
เวลาผ่านไป หลบหน้า โทรหาไม่รับ
ถ้ารับก็บอกอยู่ต่างจังหวัดติดธุระ
ทุกครั้งที่เข้าไปสำเพ็งเจอเมียเขา
พอถามถึงไวยา ก็จะบอกว่าไม่เจอ
ไม่รู้ไม่เห็น เดี๋ยวถ้ามีจะคืน รอก่อน
มารู้ตอนท้ายว่าเที่ยวหลอกคนเอาเงินไปทั่ว
แต่คนอื่นเสียน้อย
มีผมที่โง่เลยโดนไป 7 หมื่น(จาก1 แสนคืนมา 3 หมื่น ตอนแม่ผ่าตัด)
เขาเอาเงินผมไปตั้งแต่ภรรยาผมท้อง
จนภรรยาผมจะคลอดต้องใช้เงิน ผมก็อ้อนวอนเขา ขอเงินผมคืนเถอะเมียผมจะคลอดลูกแล้ว
เขาก็ได้แต่หลบหน้า ไม่รับโทรฯ
เมื่อต้นปี ทางบ้านมีปัญหา ต้องการใช้เงินมาก
ผมเจอเขาที่วัด ผมยอมก้มกราบเท้าเขา
ร้องไห้บอกที่บ้านมีปัญหาหนัก ต้องการใช้เงิน
เฮียคืนให้ผมเถอะ เขารับปากจะคืนให้อีก 7 วันไปหาเขา
วันที่เขานัด พอดีผมต้องลงไปต่างจังหวัดด่วนเพื่อไปเคลียเรื่องเงิน ไม่ได้ไปตามที่ไวยานัด
โทรไป เขาไม่รับ เลยส่งข้อความไปบอกว่าผมลงมาต่างจังหวัดด่วน เฮียช่วยโอนเงินมาให้ผมหน่อย
แล้วก็เงียบหายไป
ไปสำเพ็งทุกครั้งจะไม่เจอ หลบหน้า ถามใครในวัดก็บอกไม่รู้ไม่เห็น
วันนึงเจอเมียเขาขายของกินอยู่หน้าวัด(ตรงที่บอกจะเซ้งให้ผม)
ผมเดินเข้าไปถามดีๆ "ซ้อ เฮียอ.หล๊ะ" (ตอนนั้นมีคนนั่งอยู่ที่ร้าน)เมียเขาก็โบกมือไล่ผม
บอกเดี๋ยวมาคุย
สักพักผมเดินไปคุย
บอกไม่รู้ว่าผัวไปไหน เดี๋ยวมีจะคืน
แล้วด่าผม บอกว่าอย่ามาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าคนอื่นนะอั๊วเสียหาย
ผมโมโหเลยบอก
ผม. เฮียเอาเงินผมไปจะ 2 ปีแล้วยังไม่คืนถือว่าโกงมั้ย
เมีย. ใครเอาตังลื้อไป พูดดีๆ ก็ไปทวงคนนั้นสิ
ผม.อ่าวเป็นผัวเมียกันไม่รู้ว่าผัวไปไหนมาถามก็บอกไม่รู้ไม่เห็นผัวเมียภาษาอะไรวะ บอกเฮีย อ. รอไปคุยกันที่ศาลละกัน
ผมโมโหมาก ทำยังกะผมเป็นลูกหนี้เขา
ทุกวันนี้ยังหาตัวไวยาไม่เจอ
โทรไปปิดเครื่อง
ข้อความไลน์ไปเปิดอ่านแต่ไม่ตอบ
ผมอัดคลิบเสียงตอนไวยาเรียกไปคุยเพื่อขอเงินเพิ่ม
หรือโน้มน้าวแม่น้ำทั้งหาจะเอาเงิน ถึงจะไม่ทุกครั้ง
แต่ก็เกิน 6 ครั้งเอาไว้
เวลาล่วงเลยมา2 ปีแล้ว
ผมควรทำยังไงถึงจะให้ได้เงินคืนครับ
เรื่องเซ้งที่คงไม่หวังแล้ว
อยากได้เงินคืนมาทำทุนขายของมากกว่า
อยากให้เขาหลาบจำจะได้ไม่ไปเที่ยวหลอกคนอื่นอีก
แต่มันคงยาก เพราะอยู่ในสันดาน
ทุกวันนี้เฮีย อ.พูดเสียงแหบๆเหมือนคนเป็นโรคมะเร็ง
สงสัยเป็นผลกรรมที่เที่ยวหลอกเงินคนอื่นไปทั่ว
ถูกไวยาวัจกรวัดหนึ่งแถวสำเพ็งหลอกเอาเงิน อยากได้เงินคืน
ถูกไวยาวัจกรวัดหนึ่งแถวสำเพ็งหลอกเอาเงินเซ้งที่ขายของควรทำอย่างไร
เดือนมี.ค. 58 ผมอยากหาที่ขายของแถวสำเพ็งเยาวราช
มีคนแนะนำว่าลองคุยกับไวยาวัจกรวัดแห่งหนึ่งในสำเพ็งดู อาจมีที่ขายของแผงลอยริมฟุตบาทว่างๆให้เซ้ง
เข้าไปคุยกับไวยาวัจกร เขาบอกว่ามีแผงว่างอยู่
เป็นที่ตรงทางเข้าออกประตูวัด สามารถตั้งแผงลอยเล็กๆได้
แต่เจ้าของเก่า(ไม่ได้มาขายนานแล้ว)ต้องการเงินมัดจำค่าเซ้งส่วนนึงก่อนทำสัญญา แล้วพูดโน้มน้าวเราว่าตรงนี้คนต้องการเซ้งหลายเจ้า แต่เขาเห็นเราเป็นหลานของคนที่แนะนำมา
เขาเลยจะให้เรา ถ้าเราเอาเงินให้เขา 1 แสน
เขาจะเอาเงินไปให้เจ้าของที่และจะช้วยพูดให้เซ้งอีกที
พร้อมร่างหนังสือ แนบสำเนาบัตรประชาชนเขียนด้วยลายมือตัวเขาเองให้เรา 1 ฉบับ
ใจความสั้นๆว่า รับเงินมัดจำค่าเซ้งที่จากเรา 1 แสนบาท ในการขอใช้พื้นที่หน้าวัด
ภายในระยะเวลา 3 เดือน หากไม่ได้ที่ขาย จะคืนเงินให้เต็มจำนวน
จนเวลาผ่านไป เราก็ทวงถามเขาตลอดว่าคนที่เขาจะเซ้งที่ว่ายังไง เขาก็บ่ายเบี่ยงบอกว่าแม่คนที่จะเซ้งป่วย
คนเซ้งเขาไปจีน อ้างว่าตัวเองอยู่ต่างจังหวัดมาดูแลวัดสาขา นู่นนี่นั่น ต่างๆนาๆ
ขอยื่นระยะเวลาคืนเงิน โทรไปเขาไม่รับ
ส่งไลน์ไปเปิดอ่านแต่ไม่ตอบรับใดๆ
ผมก็หาเช้ากินค่ำ จะให้ไปไล่ทวงเงินทุกวันก็ไม่ไหว
เพราะบ้านอยู่ไกลสำเพ็งเยาวราชมาก
หนักๆเข้าโทรไปปิดเครื่อง
เปิดเบอร์ใหม่ เปลี่ยนเบอรไปเลย
จนปีนึงผมทนไม่ไหว
ไปแจ้งความ วันนั้นสงสัยเป็นวันซวย
ดันมีคนตายที่วัดนั้น ร้อยเวรเลยไปดูที่เกิดเหตุ
ไม่มีคนรับแจ้งความ
มีตำรวจมาถามว่าแจ้งเรื่องอะไร
ผมก็เล่าให้ตำรวจฟัง บอกไวยาวัด...
ตำรวจถามชื่อไวยา
พอเอ่ยชื่อเท่านั้น ตำรวจพูดเป็นเสียงเดียวกัน
" เฮีย อ.อีกแล้วหรือ"
ผมเลยถามตำรวจ เขาบอกว่าเคยมีคดี เอาที่เซ้งไปขายคนเซ้ง 2 คน คนที่เสียเงินเขาเลยเอาเรื่อง
ตำรวจถามว่าจะแจ้งยังไง
ผมบอกจะแจ้งฐานฉ้อโกง
แล้วเอาหนังสือร่างที่จะแจ้งให้ตำรวจดู
เขาบอกว่าแบบนี้ไม่ถือว่าช่อโกงแจ้งไม่ได้
แล้วก็บ่ายเบี่ยงว่าให้รอร้อยเวร
(ผมปรึกษาคนที่พอรู้กฏหมายให้ช่วยร่างหนังสือแจ้งความให้เดี๋ยวเอารูปมาอับให้ดูครับ)
พอร้อยเวรกลับมาเขาก็มาด้วย เพราะเป็นผู้ดูแลวัด
เขาก็ขู่เหมือนประมาณว่าให้คืน แต่ยืดยาวแน่
ทำอะไรเขาไม่ได้หลอก เขาใหญ่ที่สุดในวัด
จะให้ใครอยู่ หรือขายของตรงไหนก็ได้
(ญาติผมมีร้านที่เซ้งพื้นที่วัด กลัวญาติจะเดือดร้อน)
ผมเลยบอกว่างั้นผมแจ้งความละกัน
เขาเห็นผมเอาจริงเลยจะขอลงบันทึกประจำวัน
ว่าปลายเดือนจะเอาเงินมาคืนให้ที่โรงพักในวันที่30 มีค.
ร้อยเวรก็ถามเขากลับว่าถ้าไม่เอามาคืนจะทำยังไง
เขาก็นิ่งๆ ร้อยเวรก็ไม่พูดอะไรต่อ
แล้วก็ให้ผมและไวยาลงชื่อ
และถ่ายเอกสารให้คนละใบ
(ด้วยความไม่รู้กฏหมายมารู้ทีหละงว่าแค่ลงบันทึกเฉยๆ ว่าจะเอาเงินมาคืนในวันที่30 มี.ค. ไม่ได้แจ้งว้าหากไม่คืนจะดำเนินคดี)
สิ้นเดือนผมมารอที่โรงพัก ผมโทรหาเขา เขาไม่รับ
เอาอีกเบอร์โทรไป เขารับ แต่บอกว่าอยู่วัดสาขาที่ต่างจังหวัด เจ้าอาวาสป่วย
ผมเลยลงบันทึกประจำวันว่าเขาไม่มาตามนัด
ไม่ได้คืนเงินให้
(ไม่ได้แจ้งความกลัวญาติเดือดร้อน)
เวลาผ่านไปผมก็ทวงถามเรื่องเงินคืน ไวยาก็บ่ายเบี่ยง
โทรไปไม่รับ
บางครั้งรับบอกอยู่ต่างจังหวัด
พอมาเจอที่วัดก็พูดชักแม่น้ำทั้งห้าบอกที่ตรงข้างๆจะหมดสัญญา ให้ผมรอเซ้งได้เลย(แต่ไม่บอกว่าตรงไหนกลัวผมไปคุยกับเจ้าของ แต่ผมไปคุยเจ้าของทุกคน เขาบอก พึ่งต่อสัญญาไปอีก 3 พับ3 ปีเท่ากับ9ปีทุกร้าน)
บางครั้งจะมาขอเงินเพิ่ม บอกเดี๋ยวตีเชคแลกเงินให้เป็นตัวค้ำประกัน
(ไวยาคนนี้เคยมีคดีติดคุกเรื่องตีเชคเด่งกับญาติผมมาแล้วเลยเอามาอ้างให้เราเชื่อใจ)
ทุกครั้งที่จะใช้เงิน(วัดมีงานหรือจะไปต่างจังหวัด)
ไวยาจะเรียกให้ผมไปคุยสัญญาทุกครั้งจะขอเงินเซ้งเพิ่ม
แล้วเอาสัญญาของคนอื่นมาโชให้ดูเพื่อโน้มน้าวผม
จะผมให้เสียเงินเพิ่มให้สามหมื่นบ้าง สองหมื่นบ้าง.....จะให้เสียเพิ่ม ไม่มีทาง
เจอจังๆวันไปทวงเงิน ไม่มีอะไรอ้าง
อ้างว่าลูกป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ต้องผ่าตัด ถ้าไม่ใช่โรงพยาบาลนี้ตายไปแล้ว(อ้างชื่อโรงพยาบาลราคาแพง) ผมใจอ่อนเลยบอกไว้มีเงินค้อยคืน
อาทิตย์ต่อมาเห็นลูกเขาเดินในสำเพ็งเหมือนคนปกติไม่ใช่คนป่วยแต่อย่างใด
ที่ตรงที่บอกจะให้ผมเซ้งก็ให้เมียเขามาขายก๊วยเตี๋ยวหลอด ไม่ยอมปล่อยให้ผม
วันนึงแม่ผมป่วยลิ้นหัวใจรั่วต้องผ่าตัด
ผมโทรไปอ้อนวอนขอเงินคืน ถ่ายรูปแม่ที่นอนให้ห้อง ccu ให้ดูว่าแม่ป่วยจริง ผ่าตัดจริง ไม่ได้โกหก
ยังมีน้ำใจโอนคืนให้สามหมื่น
เวลาผ่านไป หลบหน้า โทรหาไม่รับ
ถ้ารับก็บอกอยู่ต่างจังหวัดติดธุระ
ทุกครั้งที่เข้าไปสำเพ็งเจอเมียเขา
พอถามถึงไวยา ก็จะบอกว่าไม่เจอ
ไม่รู้ไม่เห็น เดี๋ยวถ้ามีจะคืน รอก่อน
มารู้ตอนท้ายว่าเที่ยวหลอกคนเอาเงินไปทั่ว
แต่คนอื่นเสียน้อย
มีผมที่โง่เลยโดนไป 7 หมื่น(จาก1 แสนคืนมา 3 หมื่น ตอนแม่ผ่าตัด)
เขาเอาเงินผมไปตั้งแต่ภรรยาผมท้อง
จนภรรยาผมจะคลอดต้องใช้เงิน ผมก็อ้อนวอนเขา ขอเงินผมคืนเถอะเมียผมจะคลอดลูกแล้ว
เขาก็ได้แต่หลบหน้า ไม่รับโทรฯ
เมื่อต้นปี ทางบ้านมีปัญหา ต้องการใช้เงินมาก
ผมเจอเขาที่วัด ผมยอมก้มกราบเท้าเขา
ร้องไห้บอกที่บ้านมีปัญหาหนัก ต้องการใช้เงิน
เฮียคืนให้ผมเถอะ เขารับปากจะคืนให้อีก 7 วันไปหาเขา
วันที่เขานัด พอดีผมต้องลงไปต่างจังหวัดด่วนเพื่อไปเคลียเรื่องเงิน ไม่ได้ไปตามที่ไวยานัด
โทรไป เขาไม่รับ เลยส่งข้อความไปบอกว่าผมลงมาต่างจังหวัดด่วน เฮียช่วยโอนเงินมาให้ผมหน่อย
แล้วก็เงียบหายไป
ไปสำเพ็งทุกครั้งจะไม่เจอ หลบหน้า ถามใครในวัดก็บอกไม่รู้ไม่เห็น
วันนึงเจอเมียเขาขายของกินอยู่หน้าวัด(ตรงที่บอกจะเซ้งให้ผม)
ผมเดินเข้าไปถามดีๆ "ซ้อ เฮียอ.หล๊ะ" (ตอนนั้นมีคนนั่งอยู่ที่ร้าน)เมียเขาก็โบกมือไล่ผม
บอกเดี๋ยวมาคุย
สักพักผมเดินไปคุย
บอกไม่รู้ว่าผัวไปไหน เดี๋ยวมีจะคืน
แล้วด่าผม บอกว่าอย่ามาพูดเรื่องนี้ต่อหน้าคนอื่นนะอั๊วเสียหาย
ผมโมโหเลยบอก
ผม. เฮียเอาเงินผมไปจะ 2 ปีแล้วยังไม่คืนถือว่าโกงมั้ย
เมีย. ใครเอาตังลื้อไป พูดดีๆ ก็ไปทวงคนนั้นสิ
ผม.อ่าวเป็นผัวเมียกันไม่รู้ว่าผัวไปไหนมาถามก็บอกไม่รู้ไม่เห็นผัวเมียภาษาอะไรวะ บอกเฮีย อ. รอไปคุยกันที่ศาลละกัน
ผมโมโหมาก ทำยังกะผมเป็นลูกหนี้เขา
ทุกวันนี้ยังหาตัวไวยาไม่เจอ
โทรไปปิดเครื่อง
ข้อความไลน์ไปเปิดอ่านแต่ไม่ตอบ
ผมอัดคลิบเสียงตอนไวยาเรียกไปคุยเพื่อขอเงินเพิ่ม
หรือโน้มน้าวแม่น้ำทั้งหาจะเอาเงิน ถึงจะไม่ทุกครั้ง
แต่ก็เกิน 6 ครั้งเอาไว้
เวลาล่วงเลยมา2 ปีแล้ว
ผมควรทำยังไงถึงจะให้ได้เงินคืนครับ
เรื่องเซ้งที่คงไม่หวังแล้ว
อยากได้เงินคืนมาทำทุนขายของมากกว่า
อยากให้เขาหลาบจำจะได้ไม่ไปเที่ยวหลอกคนอื่นอีก
แต่มันคงยาก เพราะอยู่ในสันดาน
ทุกวันนี้เฮีย อ.พูดเสียงแหบๆเหมือนคนเป็นโรคมะเร็ง
สงสัยเป็นผลกรรมที่เที่ยวหลอกเงินคนอื่นไปทั่ว