พรีวิวข้อมูลภาพยนตร์ Mindgamers เชื่อมสมองครองโลก by หลวงจีนหอไตร



แรงบันดาลใจของภาพยนตร์เรื่อง Mindgamers มาจากการทดลองทางวิทยาศาสตร์กับระบบประสาทจริงๆ โดยการใช้หนู 2 ตัว ซึ่งสมองของมันถูกเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ พวกมันสามารถส่งต่อความสามารถให้กันและกันได้ หนูตัวแรกต้องใช้เวลา 3 เดือน เพื่อเรืยนรู้วิธีออกจากเขาวงกต แต่หนูตัวที่สองซึ่งได้รับการส่งต่อความสามารถจากหนูตัวแรก ออกจากเขาวงกตเดียวกันนั้นได้ในทันทีภายในระยะเวลาอันสั้น

คำถามคือ อีกนานแค่ไหนที่การทดลองนี้จะปรับใช้กับมนุษย์ได้? คำตอบที่ชวนตะลึงคือ อีกไม่นานเกินรอ เมื่อเทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เราจะมีอุปกรณ์ที่ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างบุคคล ข้อมูลนั้นอาจจะเป็นความรู้ ทักษะส่วนบุคคล ความฝัน ความกลัว และความปราถนา

ยิ่งวิจัยเจาะลึกลงไปในด้านเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงจิตใจมากขึ้นเท่าใด เรายิ่งพบว่า มันพัฒนาก้าวหน้าได้รวดเร็วขึ้นเท่านั้น พลังของสมองมนุษย์นั้นไม่สามารถเอาอะไรมากักเก็บได้ แต่สามารถปรับทรง เพิ่มขนาด และเปลี่ยนปลงได้ โดยใช้ไบโอแท็กแปะลงบนผิวหนัง เป็นตัวส่งข้อมูลที่มีการใช้ในวงการแพทย์แล้วในปัจจุบัน และกำลังเริ่มทำตลาดด้านพาณิชย์ การปฏิวัติเทคโนโลยีควอนตัม กำลังจะเกิดขึ้นในทศวรรษหน้า และเมื่อความคิดของมนุษย์สามารถเปลี่ยนเป็นข้อมูลดิจิตอลได้แล้วละก็.. สิ่งที่คุณเห็นใน MindGamers อาจจะไม่ใช่การดูหนัง Sci-Fi อีกต่อไป เพราะมันเริ่มจะกลายเป็นความจริงแล้ว..


ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Mindgamers [ซับไทย]
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

แนะนำตัวละคร

*** นักแสดงทุกคนเล่นจริงโดยแทบไม่ใช้สตั๊นท์หรือนักแสดงแทนเลย***

Sam Neill รับบทเป็น Kreutz


ครอยซ์ เป็นตัวละครสำคัญของเรื่องนี้ ที่ต้องอาศัยนักแสดงที่แสดงความชั่วร้ายออกมาได้อย่างเข้าถึงแก่น ตัวละครนี้มีหลายแง่มุม ครอยซ์เป็นนักวิทยาศาสตร์ เขาเห็นตัวเองเป็นพระเจ้า ไร้ความปราณี แต่ก็มีเสน่ห์

แซม นีล สามารถเปลี่ยนอารมณ์ตัวละครของเขาได้เพียงแค่เลิกคิ้ว ใน MindGamers เราจะเห็นครอยซ์ในสามเวอร์ชั่น ซึ่งแซมสามารถทำให้มันดูแตกต่างกันได้อย่างสิ้นเชิง เขาต้องแต่งหน้าด้วยชิ้นส่วนสังเคราะห์ ตัวละครของเขาเปลี่ยนรูปร่างไปตามความชั่วร้าย แซมมีความสนใจในทฤษฎีควอนตัมอยู่แล้ว จึงเพิ่มความรู้ของตนเองลงไปในตัวละครนี้ได้อย่างดีเยี่ยม



Tom Payne รับบทเป็น Jaxon


นิยามของตัวละครนี้คือ “จงเชื่อแค่ตัวเอง” แจ็กสัน มีทักษะการวางแผน ศึกษาด้านชีววิทยาควอนตัม ตัวละครนี้มีความคล้ายกับครอยซ์ค่อนข้างมาก เพราะพวกเขาเชื่อว่ามีหลายจักรวาลที่ทับซ้อนกันอยู่

ทอม เพย์น มีเครดิตเป็นนักแสดงนำใน The Physician ที่ประสบความสำเร็จมากในเยอรมัน การที่เขาแสดงได้เข้าขากับ แซม นีล และต้องการแสดงหนังไซ-ไฟมาโดยตลอด ทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ตัวะครแจ็กสันเป็นอัจฉริยะ ที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานอย่างไร้ขีดสุด ทอมนั้นยอมทุ่มเทหาข้อมูลเกี่ยวกับโลกทฤษฎีควอนตั้ม จนเขาพบว่าตัวเองก็หลงใหลมันไม่แพ้กับตัวละครเลย



Melia Kreiling รับบทเป็น Stella


นิยามของตัวละครนี้คือ “เมื่อเราร่วงหล่น.... เราจะร่วงไปข้างหน้า” – สาวผมแดงปริศนา เธอคือใคร และมีจุดประสงค์อะไร คือปริศนาข้อหนึ่งของหนัง นั่นทำให้ตัวละครนี้ซับซ้อนที่สุดในเรื่องอย่างไม่ต้องสงสัย เธอสามารถเดินทางระหว่างมิติได้อย่างอิสระ เมื่อเส้นเรื่องบีบให้กลุ่มนักเรียนตัวติดกันตลอด แต่เมื่อไร่ก็ตามที่เธอปรากฏตัว มันเหมือนกับเธอเปลี่ยนความจริงบางอย่างไป สภาพอารมณ์ของเธอแปรผันไปตามมิติ ซึ่งนี่เป็นสิ่งท้าทายนักแสดงมาก แต่มีเลียก็สร้างแนวทางให้ตัวละครของเธอ และฝึกอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อจะได้เล่นฉากสตั๊นท์ได้ด้วยตัวเอง


        
Antonia Campbell-Hughes รับบทเป็น Agnes


นิยามของตัวละครนี้คือ “ความจริงกลายมามีตัวตนได้เพราะความคิด ไม่มีอะไรทำลายความคิดได้” -  แอ็กเนส ทักษะความคิดสร้างสรรค์  ศึกษาด้านจิตวิทยาปัญญา เธอเป็นนักเรียนที่ไม่ได้เข้าสถาบัน DxM มาด้วยความสามารถเชิงวิชาการ แต่ด้วยสติปัญญาโดยสัญชาติญาณล้วนๆ

แอนโตนียา แคมป์เบลล์-ฮิวจ์ส ทำให้ทีมเขียนบทต้องกลับไปออกแบบตัวละครแอ็กเนสใหม่ การออดิชั่นของเธอมอบมุมมองใหม่ให้ตัวละครนี้  เธอยังต้องแสดงหนึ่งในฉากเสี่ยงตายที่สุดในเรื่อง คือการยืนอยู่บนขอบตึกที่สูงที่สุดในบริเวณมหาวิทยาลัยเวียนนา



Turlough Convery รับบทเป็น Rollo


นิยามของตัวละครนี้คือ “เชื่อมต่อทุกๆ คน นั่นแหละคือแผนของฉัน” – โรลโล ทักษะตรรกศาสตร์ ศึกษาด้านวิศวกรรมประสาท ทีมคัดเลือกนักแสดงต้องการให้คนที่มารับบท โรลโล เป็นคนตัวโตแต่ยังต้องเล่นสตั๊นท์ได้ด้วย

เทอร์โล คอนเวอรี ได้บทนี้ไปอย่างง่ายดาย เขายังอุทิศตัวให้กับการฝึกในค่ายพิเศษอย่างเต็มที่ วันที่ต้องถ่ายฉากบู๊ของเขา เขาสามารถกระโดดและแสดงท่าปากัวร์ทุกท่าผ่านฉลุย โดยไม่ต้องใช้นักแสดงแทนเลยแม้แต่นิดเดียว (ปากัวร์คือกีฬา Extreme ชนิดหนึ่ง กระโดดข้ามบันไดไต่กำแพงปีนผนังประมาณนั้น)



Oliver Stark รับบทเป็น Dylan


นิยามของตัวละครนี้คือ “ท่วงทำนองสำหรับตัวฉันเท่านั้น” -  ดีแลน มีทักษะดนตรี ศึกษาด้านเทคโนโลยีชีวภาพดนตรี ตัวละครนี้เป็นคนเถื่อนๆ หยาบคาย และหื่น ดีแลนและโรลโลเป็นเพื่อนซี้กัน

โอลิเวอร์ สตาร์ค ต้องแคสบทดีแลนผ่านทางวีดิโอ เพราะตอนนั้นเขาอยู่ที่แอลเอ แต่มันไม่ได้ลดทอนความสามารถของเขาลงเลย

Dominique Tipper รับบทเป็น Maddie


นิยามของตัวละครนี้คือ “หนึ่งจิตใจเฝ้าดูทุกสรรพสิ่ง” แมดดี้ มีทักษะจินตนาการภาพ ศึกษาด้านจริยธรรมไซเบอร์เนติกส์ และปรัชญา ตัวละครนี้มีสภาวะอารมณ์ไม่ปกติ เธอเหมือนเป็นคนนอกสำหรับกลุ่มหัวกะทิ เพราะความเชื่อที่เธอมี

โดมินิค ทิปเปอร์ อาจจะเป็นคนที่สนุกที่สุดระหว่างถ่ายทำ เธอมีส่วนในฉากต่อสู้ที่น่าตื่นตา ซึ่งเธอไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน หลังจากการเตรียมตัวอย่างหนักถึงสามเดือน เธอสามารถถ่ายฉากยากๆ แบบเทคเดียวจบ


Ursula Strauss รับบทเป็น Da Silva


สำหรับตัวละคร ดาซิลวา ทีมงานต้องการหาใครที่สามารถควบคุมคนทั้งหมดได้ เธอต้องสง่างามดุจราชินีน้ำแข็ง เป็นผู้หญิงที่เห็นปุ๊ปก็รู้เลยว่าฉลาด อุทิศตัว แต่ไม่เคยเผยให้ใครเห็นอารมณ์จริงๆข้างในใจ ดาซิลวามีประวัติกับครอยซ์มาก่อน เธอต้องทนทุกข์ด้วยน้ำมือของเขา

เออซูล่า สเตราส์ เป็นนักแสดงหญิงชาวออสเตรเลีย ภาษาอังกฤษของเธอสมบูรณ์แบบมาก สำหรับคนที่ต้องเล่นบทของคนที่พูดสำเนียงยุโรป



Ryan Doyle รับบทเป็น Voltaire


วอลแตร์ มีทักษะความทรงจำ

ไรอัน ดอยล์ เป็นนักกีฬาเรดบูลล์ เขาเข้ามารับบท วอลแตร์ เพราะทักษะปากัวร์ของเขา เมื่อเขารู้ว่ามีฉากผาดโผนในเรื่องนี้ เขามาต่อคิวออดิชั่นทันที ทักษะของเขาทำให้ แอนดรูว์ ก็อธ ซึ่งเป็นผู้กำกับต้องแปลกใจ แม้ว่าจะ ไรอัน จะไม่เคยฝึกด้านการแสดงมาก่อนเลยก็ตาม แต่ทักษะด้านปากัวร์ของเขาจะทำให้ตัวละคร วอลแตร์ สมจริงมากๆ


ทีมงานและสถานที่ถ่ายทำ

ผู้กำกับ แอนดรูว์ ก็อธ มีภาพในหัวที่ชัดเจนว่า เรื่องนี้ควรจะออกมาอย่างไร แอนดรูว์ต้องการให้คนดูสามารถเข้าถึงได้ง่าย ไม่ใช่ห้อมล้อมไปด้วยความเป็นไซ-ไฟจนเกินไป อย่างไรก็ตาม มันก็ต้องมีกลิ่นความล้ำยุคด้วย พวกเขาต้องทำมันออกมาให้สมดุลได้ ด้วยการทำงานกันอย่างใกล้ชิดของผู้กำกับและตำแหน่งเฮดสำคัญๆ

ต่อจากนี้ คือคำบอกเล่าของแอนดรูว์ พูดถึงเฮดต่างๆของกองถ่าย

"ผมกับ จอห์น พาร์ดู ซึ่งเป็นผู้กำกับภาพ เราทำงานกันหนักมาก เพื่อหาที่ถ่ายทำให้หนังเรื่องนี้ เราหาสถานที่อะไรก็ได้ ที่มีเส้นตัดกันสวยงาม เราเจอมหาลัยแห่งเวียนนา ทันที่ที่พวกเราลงจากแท็กซี่และเห็นมัน จอห์น รีบวิ่งไปถ่ายรูปแล้วปีนขึ้นหลังคา ที่นี่มันให้สิ่งที่เราต้องการ"


"ด้านทาง แคโรลีน สตอรี่ ซึ่งเป็นนักออกแบบงานสร้าง เธอก็ตื่นตากับพื้นผิวสีสันและรูปร่างของมหาวิทยาลัยเวียนนาแห่งใหม่ (WU) เป็นอย่างมาก เธอพบว่ามันมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งนั่นสร้างแรงบันดาลใจให้เธอ หลังจากไปเยี่ยมชมทั่วทั้ง WU ไอเดียก็พรั่งพรูเต็มหัวเธอไปหมด แคโรลีนสามารถออกแบบภาพล้ำจินตนาการ แบบที่ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ผมคิดว่าเรามีอะไรที่เป็นเสาหลักให้หนังทั้งเรื่องได้ คุณจะรู้สึกว่ามันร่วมสมัย แต่อีกมุมหนึ่ง มันอาจจะดูล้ำ หรือไม่มันก็ดูย้อนยุค ในขณะเดียวกันเลยก็ได้"

"ไมเคิล เฟรนชส์คาวสกี้ โปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องนี้ ก็เคยทำงานในบูคาเรสต์มาก่อน เขาเชื่อว่าที่นี่เหมาะสำหรับ MindGamers ด้วยประสบการณ์ของเขาทำให้ทีมงานยกกองถ่ายมากันที่โรมาเนีย ที่ซึ่งทีมงานขนาดใหญ่ร่วมกันมอบชีวิตให้สถาบัน DxM กลายมาเป็นความจริง


"เมื่อ แม็กซ์ วอห์ลโคนิก นักออกแบบเสื้อผ้าเข้าร่วมทีม เขาต้องเจอกับอุปสรรคนานับประการ เพราะเขาต้องสร้างเสื้อผ้าให้กลุ่มนักเรียน ที่เป็นกลุ่มเดียวกัน แต่ยังต้องคงความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละตัวละครเอาไว้ แม็กซ์ ตื่นเต้นพร้อมรับความท้าทายนี้ เขาเอาเสื้อผ้าปัจจุบันมาปรับเปลี่ยนให้มีเอกลักษณ์ ให้ดูเหมือนมาจากอนาคต"


"เบน ฟาวเลอร์ คือผู้ชนะจาก Red Bull Music Portfolio competition และมาทำดนตรีประกอบให้หนังเรื่องนี้ ตอนผมเจอเบนครั้งแรก ผมโยนไอเดียใส่เขารัวเลย ผมต้องการให้หนังเรื่องนี้มีแนวดนตรีแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ประมาณว่าเป็นแนวดั้บสเต็ป แต่มีส่วนผสมของเร้กเก้และออสเครสต้า ผมต้องการให้เขาคิดสูตรใหม่ขึ้นมา โดยใส่ดนตรีคลาสสิคและโฟล์คเข้าไป จนออกมาเป็นเพลงประกอบสุดแนว"


เกมเขาวงกตที่ผู้ชมอาจอยากลองเล่นใน THE RED BULL MINDGAMERS

ภาพยนตร์เรื่อง MindGamers ถูกออกแบบมาให้เหมือนเป็นเขาวงกตที่เล่นกับความคิดคุณ คุณจะได้แก้ปริศนาไปพร้อมกับการชม และเพื่อต่อยอดความท้าทายนี้ ทีมงานได้สร้างปริศนาที่จะโยงไปสู่หนังเรื่องนี้ เริ่มจากทางออนไลน์ ทางเว็บไซท์ ไปสู่อีเวนท์เกมที่จัดขึ้นจริง และในที่สุดจะนำไปสู่การแข่งขันหาทางออกจากปริศนาห้องปิดตาย ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยใช้ปริศนาจากตัวภาพยนตร์ เพื่อนำเสนอวิธีใหม่ๆให้คนดูตีความหนังเรื่องนี้ ถ้าคุณๆอยากลองด้วยตัวคุณเองก็ย่อมได้ ขอเชิญที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เรื่องย่อภาพยนตร์ Mindgamers (เล่าด้วยภาพ)



Mindgamers มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 6 เมษายน 2017

จบกระทู้พรีวิวข้อมูล สวัสดีครับ อมยิ้ม17
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่