✿✿แชร์ประสบการณ์ ♥ริรักกับหนุ่มญี่ปุ่น♥ เมื่อความบังเอิญทำให้เราได้มาเจอกัน✿✿ (●^o^●) ตอนที่ 12

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ กลับมาแล้วนะค้าาา ไม่พูดพร่ำทำเพลงมากเราไปอ่านต่อได้เลยค่า ^___^



ep.12 การกลับมาของหนุ่มญี่ปุ่น


ในช่วงเช้า เรารีบไปอาพาร์ตเม้นท์เก็บของ จัดห้องจัดของทุกอย่าง พยายามให้มันเป็นระเบียบเรียบร้อยที่สุด เราจะให้พี่เค้ามาพักที่นี่เพราะไม่อยากให้พี่เค้าเสียตังบุ๊คโรงแรม (เราไม่สะดวกให้เค้าพักคอนโด เพราะพี่สาวและแม่แวะมาตลอด) ถึงมันจะเป็นแค่ห้องเก็บของ แต่มันก็มีเตียงมีที่นอน เหมือนๆกับอาพาร์ตเม้นท์ทั่วไป เพียงแค่ว่าของเยอะ เสื้อผ้าเยอะ ตู้เสื้อผ้า 2 ตู้ใหญ่เก็บไม่พอ ยังมีถุงใส่ผ้าถุงใหญ่อีกหลายถุง ฮืมมมม์ บรรยากาศ มันคืออาพาร์ตเม้นท์ที่เราเช่าไว้สำหรับเก็บของขายของดีๆนี่เอง ถึงมันจะไม่เพอร์เฟค แต่อย่างน้อยก็พออยู่ได้นอนได้ละน้าา~~ (^^)
เราออกจากห้องเก็บของตอน 2 ทุ่ม เพื่อเดินทางไปสนามบิน เรารู้สึกตื่นเต้นมากกกก ในที่สุดวันนี้ของเราก็มาถึงสักที เย้ๆ!!! \\(^O^)//


เวลา 5 ทุ่มครึ่ง Osaka - Bangkok ✈️


เราไปรอรับพี่เค้าด้วยความตื่นเต้น ยิ่งรู้ว่าไฟล์ของพี่เค้ามาถึงไทยแล้ว ใจเราก็ยิ่งไม่อยู่กับเนื้อกับตัว วันนี้เราสวยพอมั้ยนะ? เราทำสีผมใหม่เค้าจะจำเราได้มั้ย? เค้าจะใส่เสื้อสีอะไรมากันน้าา~~~ คิดวุ่นวาย วกวน เปิดกระเป๋าเอากระจกมาส่องดูหน้าตัวเองรอบที่สิบ

ผู้โดยสารขาเข้าก็ค่อยๆทะยอยกันเดินออกมา เราก็ยืนรอแบบใจจดใจจ่อ เมื่อไหร่พี่เค้าจะออกมากันนะ โอย~~ ตื่นเต้นไปหมดแล้ววววว และนั่นไง... ใช่เค้ามั้ยนะ... อ้าวไม่ใช่หรอ? ( ´ ▽ ` ) ตอนนี้เห็นใครคล้ายๆ ก็จะตื่นตกใจ ชะเง้อมองหาแล้วหาอีก แฟนของฉันอยู่ไหนกันน้า~~~ และ...และ... และแล้วเค้าก็เดินออกมา... หนุ่มญี่ปุ่นร่างผอมเพรียว ผิวขาว คิ้วหนา ตาตี่ แก้มตุ้ย กำลังเดินมา เค้ากำลังมองหาใครสักคนอยู่ เรายืนนิ่งอยู่กับที่เหมือนต้องมนต์สะกด โอววว~~แฟนชั้นนน~~♡ (´。✪ω✪。`) ทั้งดีใจทั้งเขิน... พอพี่เค้ามองเห็นเราก็เดินเข้ามาหาพร้อมยิ้มแบบอายๆ...

K : "Hi~~" (^w^)
N : "คมบังวะ~~" ^___^

เราพากันเดินไปขึ้นแท็กซี่ ระหว่างอยู่บนรถ เราเลยเอาขนมปังให้พี่เค้ากินเผื่อหิว เค้าก็กินไปพักนึง เราก็เหลือบมองพี่เค้า ในใจก็คิดว่านี่แฟนฉันจริงๆใช่มั้ยเนี่ย? ทำไมเค้าน่ารักจังเลย~♡ คิดไปอมยิ้มไป มันดีใจแล้วก็ปลื้มใจแบบบอกไม่ถูก สักพักพี่เค้าก็เขยิบมานั่งใกล้ๆ แล้วก็เอาแขนมาโอบเรา (-////-) จะละลายแล้วค่ะแฟนข๋าาาาา~~♡ เราก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งก้มหน้า ไม่กล้ามองหน้าหรือสบตา ก็มันเขินนี่นา ไม่เจอกันตั้งเดือนกว่าๆ แถมยังมาทำตัวน่ารักแบบนี้อีก ตายค่ะ ตายคาแท็กซี่ 55555


พอมาถึงอาพาร์ตเม้นท์เก็บของ เราก็ถามเค้าย้ำอีกทีว่าแน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าจะมาพักที่นี่ เพราะห้องมันรกมาก พี่เค้าบอกโอเคอยากอยู่ พอเข้ามาในห้องพี่เค้าก็ยิ้มๆแล้วมองไปรอบๆห้องแบบสนใจ เราก็เริ่มรู้สึกกังวลเลยบอกเค้าว่า
N : "ถ้าเปลี่ยนใจอยากไปอยู่โรงแรมก็บอกได้นะคะ ที่นี่ก็อาจจะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่"

พี่เค้าส่ายหน้า

K : "ที่นี่โอเคแล้วครับ ผมอยู่ได้นะ อย่าลืมสิว่าผมเป็น Backpacker" ^^

เราก็ได้แต่ยิ้มไปให้ พี่เค้าก็ดึงเรามากอดแล้วบอกขอบคุณสำหรับห้องนี้ เราก็ได้แต่บอกไม่เป็นไร แล้วพี่เค้าก็ก้มลงมาจุ๊บ! โอ๊ยยย~~ (>///<)♡ พี่เค้ามองไปรอบๆห้องเหมือนหาอะไรสักอย่าง ก่อนที่จะเดินไปปิดไฟ (O_O)!? ปะ..ปิดทำไม!? แล้วก็เดินมาหาเรา แต่เราหลบค่ะ วิ่งหนี เหมือนเด็กน้อยเล่นวิ่งไล่จับกันในความมืด เรากำลังจะวิ่งไปถึงประตูอยู่แล้ว แต่พี่เค้าไวกว่าจับเราได้ Σ(´д`;) ก่อนที่จะค่อยๆลากเราไปที่เตียง แล้วหนุ่มญี่ปุ่นก็เริ่มต้นจูบอย่างดูดดื่ม แต่เดี๋ยวก่อนสิ! เราพยายามเบี่ยงหน้าหนี

N : "วันนี้คุณเดินทางมาเหนื่อยๆ นะ...น่าจะพักผ่อนก่อน นอนพักนะคะ" พยายามเบี่ยงเบนความสนใจสุดๆ
K : "ผมนอนบนเครื่องบินมาแล้วครับ ไม่ต้องห่วง ^^"
N : "น้ำ...อาบน้ำก่อนดีมั้ยคะ? T^T" พูดแบบจนปัญญา
K : "ไม่เป็นไรครับ ตัวคุณหอมมากเลยตอนนี้" พูดจบพี่แกก็หอมเราฟอดๆ ทั้งแก้มทั้งคอ (มันจั๊กจี๋น้าาาา~~ TOT) "เหมือนคุณพึ่งอาบก่อนไปรับผมเลย"
N : "อ่อ..ก็..ใช่ค่ะ แต่คุณไม่อยากอาบหรอ?" ~_~
K : "ผมอาบก่อนมาน้า~ ที่ญี่ปุ่นตอนนี้หนาวมาก ผมไม่มีเหงื่อนะ แถมบนเครื่องบินก็เย็นมากด้วย~~ ฮืมมม์ รังเกียจผมหรอครับ? หรือว่าผมตัวเหม็น?"
N : "ป่าวค่ะ ไม่ใช่แบบนั้น" ตัวเหม็นตรงไหนล่ะคะแฟนข๋าาาาา หอมจะตาย -"-
K : ".....อิตาดาคิมาสสสส~~~ " (´౪`)
N : "ฉันไม่ใช่อาหารน้าาาาา~~~!"

แต่พี่เค้าเหมือนจะไม่สนใจที่เราพูดเลยค่ะ (T▽T) พี่เค้าใช้วิธีการจูบเพื่อให้เราหยุดพูด อร๊ายยยย!!~~~~ ความรู้สึกของเราตอนนั้น ตายค่ะ ตายแน่ๆ นี่เรายังไม่ชินกับพี่เค้าสินะ อ๋อยยยยย~~~~ (>____<)

♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡


หลายวันต่อมาเราก็ไปออกเที่ยวกันตามปกติ บางวันมีออร์เดอร์สินค้า หนุ่มญี่ปุ่นก็จะช่วยขนของไปส่งของเป็นเพื่อน (น่ารักอ่ะ ช่วยน้องทำมาหากิน ^O^) จนมีอยู่วันนึงที่เรารู้สึกไม่สบาย ตอนแรกก็นึกว่าคงเป็นเพราะออกไปข้างนอกร้อนๆแล้วแดดมันแรง คืนนั้นเราเลยนอนพักผ่อน พอตื่นมาอีกวันไข้ขึ้น ไม่สบายหนักมาก น้ำมูกไหล ออกไปไหนไม่ได้ (T^T) แต่โชคดีที่ว่าเรามีพยาบาลญี่ปุ่นส่วนตัว คอยดูแล เช็ดตัวป้อนข้าวให้ แถมยังทำโจ๊กให้กินอีก *0* อะไรจะดีขนาดนี้ เกรงใจมากเลยนะ....

พี่เค้ามาครั้งนี้มีเรื่องที่ประทับใจเยอะมาก ตอนเราทั้งไอทั้งจามน้ำหูน้ำตาไหล เค้าก็บอกไม่เป็นไรจามใส่เค้าก็ได้ ไม่ต้องหันหนีหรอก ตอนจามน้ำมูกไหลหยดย้อย หยิบทิชชูไม่ทัน พี่เค้าก็เอามือนึงรองน้ำมูกเราไม่ให้หยด แล้วอีกมือก็หยิบทิชชู่ แล้วก็ตอนนอนน้ำตาไหลตื่นมาเป็นคราบขี้ตาแห้งๆ พี่เค้าก็มาแคะมาแกะออกให้ โอ๊ยยยยยยย!! อายค่ะ อายยยยยยยยย! พูดตรงๆว่าอายมากกกกกก! ...TT... หน้าเรานี่ก็ดูไม่ได้เลย... 😭 แถมพี่แกยังทำความสะอาดห้องให้อีก (-...-) พอเห็นมดในห้องพี่เค้าก็เอานิ้วไล่บี้มดทีละตัวละก็พูด (สำเนียงญี่ปุ่น) "บ๊ายบาย บ๊ายบาย" พี่เค้าก็สงสัยว่าประเทศไทยทำไมมีมดเยอะมาก ไม่รู้ว่าพี่แกเกลียดมดมากขนาดไหน ถึงขนาดเดินถือยาฉีดแมลงไล่ฉีดตามมดไปจนถึงข้างนอก เห็นรังมดเล็กๆอยู่ 1 รัง ละก็ไล่ฉีด จะมีลูกมดตัวเล็กๆ พี่แกก็พูด "บ๊ายบายเบบี้แอ๊นท์" สักพักก็ยืนดูนิ่งๆตามผนังห้องแล้วก็เพดาน อารมณ์ประมานว่ามดมันจะไปไหน? ดูแล้วก็ตลกดี XD
ขอบคุณนะ... ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณที่คอยดูแลจนหายป่วย ขอบคุณที่ไม่รังเกียจกัน และขอบคุณที่รักกันนะคะ♡

เดินตามมด ตามไปยันผนังและเพดาน (=w=)



รื้อพรมเช็ดเท้าหาน้องมด



ฆ่าให้หมด ไม่ให้เหลือสักตัวเลย ใจร้าย (TwT)




เมื่อเราหายป่วยดีแล้ว สองวันต่อมา เราก็พาพี่เค้าไปเที่ยวรอบกรุง และมีของขวัญเล็กๆมอบให้ คือเสื้อคู่ที่จะใส่ด้วยกันคืนนี้ (ความจริงเค้าไม่ค่อยอยากใส่ เค้าอายค่ะ บอกคนญี่ปุ่นไม่ใส่เสื้อคู่กัน) แต่เราบังคับให้ใส่ บอกเค้าว่าที่นี่ที่ไทย ไม่ใช่ญี่ปุ่น ใส่ได้ ใส่ถ่ายรูปกัน (ส่งสายตาพิฆาตไปให้) อิอิ ^____^
ตกเย็นเราก็พาหนุ่มญี่ปุ่นไปดินเนอร์ที่ใบหยกสกาย มื้อนี้เราขอเลี้ยงเพื่อเป็นการขอบคุณที่พี่เค้าดูแลเรา เรานั่งกินอาหารไปดูวิวไป และที่ขาดไม่ได้ก็คือการถ่ายรูป แต่พี่เค้าก็ดูอายๆขัดๆ ฮึ่มมม! แค่เสื้อเอง ทำเป็นเขินไปได้ เราเริ่มหงุดหงิด เราขอออกตัวก่อนนะคะว่า... ตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้จักวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่น ไม่ได้ศึกษาอะไรเลย ชอบแค่อานิเมะ อ่านมังงะ แค่นั้นจริงๆ และเราเคยมีแฟนเก่าที่ผ่านมาเป็นหนุ่มเกาหลีทั้งนั้น เราเลยติดนิสัย ชอบเซอร์ไพรส์ ชอบโรแมนติก และไม่อายที่จะแสดงออกทางด้านความรัก ใครที่เคยมีประสบการณ์แบบเราคงจะพอรู้นะคะว่า... หนุ่มทั้งสองประเทศนี้ถึงจะเป็นประเทศที่อยู่ใกล้กัน แต่นิสัยนี่ต่างกันแบบลิบลับเลยค่ะ พอถ่ายเสร็จพี่เค้าก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อ เราน้อยใจมากๆเลย คิดว่าเค้าไม่รักเรา ไม่ดีใจสำหรับของขวัญชิ้นนี้ เราก็เก็บอาการน้อยใจเอาไว้ พอกินเสร็จเราก็พากันขึ้นไปดูวิวกรุงเทพตอนกลางคืน คืนนี้ลมค่อนข้างแรงพอสมควร และบรรยากาศคงจะโรแมนติกกว่านี้ถ้าคนไม่เดินไปเดินมา -___- เรายืนชมวิวกันอยู่นานพอสมควร ก่อนที่จะพากันกลับ

เสื้อคู่ก็ใส่ถ่ายไม่กี่รูปค่ะ พี่แกรีบไปเปลี่ยน





พอกลับมาถึงห้องเราอารมณ์ไม่ดีค่ะ เราค่อนข้างจะงี่เง่า ชอบเก็บอะไรมาคิด (เชื่อว่าสาวไทยส่วนใหญ่เป็นเหมือนเรานะคะ 5555 ) เรางอนเค้ามากๆแต่ยังไม่พูด คิดหลายๆอย่างว่าทำไมเค้าถึงต้องอายที่จะแสดงความรักกัน เค้าแค่อยากคบเรา แต่ไม่อยากเปิดเผยหรอ? คิดไปโน่นนี่ คิดไปต่างๆนานา พี่เค้าก็เริ่มจะรู้ตัวว่าเราผิดปกติไป เค้าถามเราว่าโกรธเค้าเรื่องอะไร เท่านั้นแหละ แกนระเบิดเริ่มสะสมพลังงานไว้นาน มันได้ระเบิดลงทันทีค่ะ บึ้มมมม!!! .°(ಗдಗ。)°.


ส่วนระเบิดลงยังไงนั้น ไว้ตามต่อตอนหน้านะคะ อิอิ

*อ่านย้อนหลังได้ที่ https://pantip.com/topic/36130031
*อ่านตอนถัดไไปได้ที่ https://pantip.com/topic/36438136
*ฝากเพจของพวกเราด้วยนะคะ ^^ https://web.facebook.com/nekocouplestory/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่