จขกท. ขอ วีซ่าอเมริกาวันที่ 16 มีนาคม 2560 หลังจากถูกปฏิเสธมา 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1. 37 ปี โสด รับราชการ เงินเดือน 2xxxx เงินฝากหกหลัก มีแฟนคนอเมริกัน กรอก ds160 เอง ถูกปฏิเสธ
ครั้งที่ 2. 37 ปี ห่างจากครั้งแรก 1 เดือน โสด รับราชการ เงินเดือน 2xxxx เงินฝากหกหลัก มีแฟนคนอเมริกัน มีจดหมายรับรอง มีแผนการท่องเที่ยว กรอก ds160 เอง ถูกปฏิเสธ
ครั้งที่ 3. 38 ปี แต่งงานกับแฟนชาวอเมริกัน รับราชการ เงินเดือน 2xxxx เงินฝากหกหลัก มีจดหมายรับรอง มีแผนการท่องเที่ยว
มีสรุปการทำงานและรูปภาพ มีหลักฐานอสังหาริมทรัพย์ กรอก ds160 เอง ถูกปฏิเสธ (คิดว่าครั้งนี้น่าจะได้แต่คงไปติดที่ รับหลานสาวมาเป็นบุตรบุญธรรมแต่บอกกงสุลว่าไม่มีบุตร ท่านคงเข้าใจว่าเราพูดไม่ตรงกับหลักฐาน และเข้าใจเอาเองว่าทางกงสุลสามารถเข้าดูข้อมูลทะเบียนราษฏร์ได้)
ครั้งที่ 4. 42 ปี หม้าย รับราชการ เงินเดือน 3xxxx เงินฝากหกหลัก มีแผนการท่องเที่ยว
มีสรุปการทำงานและรูปภาพ มีหลักฐานอสังหาริมทรัพย์ มีการสื่อสารแรงงบันดาลใจที่จะไปเที่ยวอเมริกากับกงสุล ****มีบัญชีเงินฝากต่างหากที่รู้แล้วว่าการไปเที่ยวต้องสปอนเซอร์ตัวเอง โดยเริ่มฝากเดือนละ 1,000 บาทตั้งแต่โดนปฏิเสธครั้งที่ 3**** สำหรับบุตรบุญธรรมก็ถูกถามถึงโดยไม่ได้กรอกในข้อมูลเลยว่าใครจะเป็นผู้ดูแล ครั้งนี้ตอบไปตามตรงค่ะ ว่าพ่อแม่ จขกท
วันที่ 18 มีนาคม ได้วีซ่าอเมริกามานอนกอด 10 ปีค่ะ วิเคราะห์เองล้วนๆค่ะ สิ่งที่ทำให้ได้คือใบรับรองเงินเดือน บัญชีเงินฝากเดือนละ 1,000 บาท แรงบันดาลใจที่ที่จะไปเที่ยว ( เล่าให้กงสุลฟังว่าทำไมเราถึงอยากไป) สบสายตา ยิ้ม ไม่เกร็ง ไม่พูดตะกุกตะกัก มือสองข้างวางบนเคาน์เตอร์
ตอนพูดแรงบันดาลใจให้กงสุลฟัง กงสุลท่านตั้งใจฟังมาก ท่านบอกเลยค่ะ ไม่ได้อยากอ่าน แต่อยากฟังจากเรา เค้าไม่ขอดูเอกสารนะคะ แต่จขกท. ค่อยๆเล่าให้ฟังพร้อมยื่นหลักฐานที่มีเข้าไปทีละอย่าง แนะนำตัว แนะนำการทำงาน บอกสถานที่จะไป แรงบันดาลใจและงบประมาณว่าได้มาอย่างไร
แต่ละเคสคงต่างกันไปนะคะ แต่การที่มีแฟนคนอเมริกันหรือถูกปฏิเสธวีซ่ามาแล้วไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ได้รับการพิจารณาอีก
โชคดีนะคะ ท่านใดที่จะไปขอและถูกปฎิเสธมาแล้ว. กะว่าขอเที่ยวอเมริกาสักครั้งทำไมมันขอยากเย็นอย่างนี้
ได้วีซ่าสหรัฐอเมริกาหลังจากถูกปฏิเสธมา 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1. 37 ปี โสด รับราชการ เงินเดือน 2xxxx เงินฝากหกหลัก มีแฟนคนอเมริกัน กรอก ds160 เอง ถูกปฏิเสธ
ครั้งที่ 2. 37 ปี ห่างจากครั้งแรก 1 เดือน โสด รับราชการ เงินเดือน 2xxxx เงินฝากหกหลัก มีแฟนคนอเมริกัน มีจดหมายรับรอง มีแผนการท่องเที่ยว กรอก ds160 เอง ถูกปฏิเสธ
ครั้งที่ 3. 38 ปี แต่งงานกับแฟนชาวอเมริกัน รับราชการ เงินเดือน 2xxxx เงินฝากหกหลัก มีจดหมายรับรอง มีแผนการท่องเที่ยว
มีสรุปการทำงานและรูปภาพ มีหลักฐานอสังหาริมทรัพย์ กรอก ds160 เอง ถูกปฏิเสธ (คิดว่าครั้งนี้น่าจะได้แต่คงไปติดที่ รับหลานสาวมาเป็นบุตรบุญธรรมแต่บอกกงสุลว่าไม่มีบุตร ท่านคงเข้าใจว่าเราพูดไม่ตรงกับหลักฐาน และเข้าใจเอาเองว่าทางกงสุลสามารถเข้าดูข้อมูลทะเบียนราษฏร์ได้)
ครั้งที่ 4. 42 ปี หม้าย รับราชการ เงินเดือน 3xxxx เงินฝากหกหลัก มีแผนการท่องเที่ยว
มีสรุปการทำงานและรูปภาพ มีหลักฐานอสังหาริมทรัพย์ มีการสื่อสารแรงงบันดาลใจที่จะไปเที่ยวอเมริกากับกงสุล ****มีบัญชีเงินฝากต่างหากที่รู้แล้วว่าการไปเที่ยวต้องสปอนเซอร์ตัวเอง โดยเริ่มฝากเดือนละ 1,000 บาทตั้งแต่โดนปฏิเสธครั้งที่ 3**** สำหรับบุตรบุญธรรมก็ถูกถามถึงโดยไม่ได้กรอกในข้อมูลเลยว่าใครจะเป็นผู้ดูแล ครั้งนี้ตอบไปตามตรงค่ะ ว่าพ่อแม่ จขกท
วันที่ 18 มีนาคม ได้วีซ่าอเมริกามานอนกอด 10 ปีค่ะ วิเคราะห์เองล้วนๆค่ะ สิ่งที่ทำให้ได้คือใบรับรองเงินเดือน บัญชีเงินฝากเดือนละ 1,000 บาท แรงบันดาลใจที่ที่จะไปเที่ยว ( เล่าให้กงสุลฟังว่าทำไมเราถึงอยากไป) สบสายตา ยิ้ม ไม่เกร็ง ไม่พูดตะกุกตะกัก มือสองข้างวางบนเคาน์เตอร์
ตอนพูดแรงบันดาลใจให้กงสุลฟัง กงสุลท่านตั้งใจฟังมาก ท่านบอกเลยค่ะ ไม่ได้อยากอ่าน แต่อยากฟังจากเรา เค้าไม่ขอดูเอกสารนะคะ แต่จขกท. ค่อยๆเล่าให้ฟังพร้อมยื่นหลักฐานที่มีเข้าไปทีละอย่าง แนะนำตัว แนะนำการทำงาน บอกสถานที่จะไป แรงบันดาลใจและงบประมาณว่าได้มาอย่างไร
แต่ละเคสคงต่างกันไปนะคะ แต่การที่มีแฟนคนอเมริกันหรือถูกปฏิเสธวีซ่ามาแล้วไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ได้รับการพิจารณาอีก
โชคดีนะคะ ท่านใดที่จะไปขอและถูกปฎิเสธมาแล้ว. กะว่าขอเที่ยวอเมริกาสักครั้งทำไมมันขอยากเย็นอย่างนี้