สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกเลยหลังจากที่เราตามเผือกกระทู้อื่นเงียบๆมานานมาก 55
ทีมเราเป็นสองสาวจะไปเที่ยวสวิสกันเดือน พค นี้ค่ะ ช่วงแรกจะไปพักบ้านเพื่อนที่ Zurich จากนั้นก็จะย้ายกระเป๋าย้ายที่นอนไปเที่ยวทั่วๆสวิส +\-ไป Liechtenstein วันนึง ทริปนี้ซื้อตั๋วโปรไว้ตั้งแต่เดือน สค ปรก่อนมั้งคะ ค่าที่พักอะไรก็จ่ายไปเกือบหมดแล้ว (ไม่เผื่อเลยว่า visa ไม่ได้ 55 หน้าที่การงานของเราสองคนจัดว่าดีแหละ. เลยคืดว่าไปหนเดียวน่าจะของ่ายน่า)
งานมางอกตรงที่ตอนที่เตรียมจะยื่น visa ดันเป็นกึ่งๆ freelance. แล้วดันตกลงไปทริป Iceland เดือนอื่นกะเพื่อนอีกกลุ่มต่ออีก สองคนนี้เลยต้องรีบทำข้อมูลเตรียมตัวยื่นขอ Schengen visa แบบ multiple entries มันซะเลย (แบบว่างก ไม่อยากเสียค่าขอหลายรอบ ^^;)
ตอนจะยื่นนี่เครียดมากเลย อ่านหลายๆกระทู้บอกว่าสวิสขอวีซ่ายาก ชอบให้พอดีเวลาเที่ยว อีกอย่างแทบไม่มีกระทู้สำหรับยื่นขอ multiple entries เลย เราเลยมาบันทึกประสบการณ์ของเราไว้ เผื่อจะมีประโยชน์กับคนอื่นๆบ้าง
ข้อมูลบางอย่างเราอาจจะไม่ได้บอกละเอียดมากนะคะ เนื่องจากมีหลายๆกระทู้ก่อนหน้าเกี่ยวกับวิธีการกรอกและขอ Schengen visa ประเทศอื่นๆ รวมถึงสวิส ที่ทำไว้ดีมากแล้ว กระทู้นี้เราขอเน้นเรื่อง pitfalls ของเรา เรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่อาจจะไม่ค่อยมีคนรู้ และเอกสารที่ต้องใช้ในการขอแบบ multiple entries ค่ะ
ขั้นตอนการขอวีซ่า
1. เตรียมเอกสาร
2. เข้าไปกรอกข้อมูลในเวบ
https://ch.tlscontact.com/th/BKK/index.php
(ข้อมูลที่กรอกมันคือข้อมูลที่จะบันทึกลงในแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าของเราเลยค่ะ กรอกดีๆนะคะ. ถ้ากด submit. จองคิวไปแล้วมันแก้ไม่ได้ด้วย ต้องมาขีดฆ่าแก้แล้วเซ็นชื่อกำกับทีหลัง)
3. กรอกเสร็จ กด submit แล้วถึงจะไปดูได้ว่ามีคิววันไหนบ้าง. จองคิวแล้วแก้ไม่ได้ด้วย
4. ไปที่ TLS ตึก Sathorn city tower ตามวันนัดและเวลาที่นัด
5. ยื่นเอกสารกับเจ้าหน้าที่ เค้าจะตรวจเอกสาร ถ้าเอกสารครบถ้วนโอเค เค้าจะให้ไปสแกนนิ้ว ถ่ายรูป จ่ายตังค์
6. นั่งรอนอนรอว่ายื่นขอวีซ่าผ่านมั้ย (อาจจะไปรับเล่ม passport คืนเองที่ TLS หรือให้ส่ง EMS กลับมาที่บ้านก็ได้แต่อันหลังเสียเงินเพิ่ม 180 บาท)
เอกสารที่ต้องใช้ (ทั่วไป)
อันนี้เลือกดูได้จากในเวบของ Tls เลยค่ะ
https://ch.tlscontact.com/th/bkk/page.php?pid=tourism_less90 เพราะ visa แต่ละชนิดอาจจะใช้เอกสารต่างกัน visa เด็กๆก็จะมีเอกสารเพิ่มขึ้นมาอีก. แต่ทั่วๆไปก็จะมี
1. แบบฟอร์มคำร้อง 4 หน้ากระดาษที่พิมพ์มาจากที่กรอกในเวบ
2. รูปถ่าย 2 ใบ
*** สวิสใช้ขนาดไม่เท่ากับเชงเก้นอื่นนะคะ ใช้ 3.5x4 cm ตอนถ่ายย้ำช่างภาพบอกเอาหน้าเต็มๆ 70-80% ของรูป เราไปถ่ายที่ Center one ผ่าน
-ของเพื่อนถ่ายแถวบ้าน ไม่ผ่าน หน้าเล็กเกิน ต้องไปถ่ายที่บูทหน้า TLS เสียเพิ่ม 250 บาท เตรียมเงินให้พอดีด้วย เครื่องไม่ทอนค่ะ
3. Passport ตัวจริงและ copy หน้าพาสกะเนื้อในที่มีร่องรอยการใช้งานทั้งหมด (visa เก่าประเทศอื่น ตัวปั้มของ ตม ไรงี้ค่ะ)
-ถ้าเคยได้เชงเก้นวีซ่ามาก่อนแต่อยู่เล่มเก่า ให้สำเนาอันนั้นกับพกเล่มเก่ามาเผื่อด้วย ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่อาจจะไม่ขอดูก็เหอะ
4. ประกันภัยที่ครอบคลุมของเชงเก้น
-เรากะขอ multiple หลายเดือน เราเลยทำแบบหนึ่งปีไปเลย
5. ตั๋วเครื่องบิน แบบ confirm เฉยๆ ไม่จ่ายตังค์ หรือจ่ายแล้วแบบเราก็ได้ค่ะ
6. สำเนาการจองที่พักทุกคืน
-ย้ำว่าต้องมีทุกคืน**
-ต้องมีชื่อผู้ร่วมทริปทุกคนด้วย** มีแต่ชื่อคนจองคนเดียวไม่ได้ค่ะ
-อันนี้เจ้าหน้าที่เชคละเอียดมาก เค้านั่งนับเลยว่าที่พักครบทุกคืนมั้ย
-ช่วงนึงเรานอนบ้านเพื่อน เราเลยให้เพื่อนเขียน จม เชิญมา แล้วแถมหน้า passport and visa ของเพื่อนไปด้วย (เพื่อนเป็นคนไทย ไปทำงานที่สวิสหลายปีค่ะ)
-เราจองกะ booking.com และ thai youth hostel association (tyha)
-ถ้าเป็นใบ confirmation จาก booking.com. อันที่พิมพ์มาจากแอพในมือถือหรือแทบเลทมันจะไม่มีชื่อ guest names เลยค่ะ ในพันทิปมีคนบอกให้เมลไปขอโรงแรมเอา. เราก็เมลไปผ่านแอพของ booking แหละเค้าก็ให้มา แต่บางโรงแรมอาจจะให้ช้านิดนึง แต่ไม่เกินหนึ่งวีคแน่ๆค่ะ แต่ช่วงใกล้จะยื่น เรานึกไงไม่รู้ไปเปิดจากในคอม pc. ปรากฎว่า ใบ confirm จากในเวบ มันมีชื่อผู้เข้าพักครบเลย -_-; (แล้วเราจะเมลไปขอเค้าทำไม โรงแรมเค้าคงงงอ่ะ) เราเลยพรินท์มันออกมาด้วย แล้วแนบไปกะใบที่ได้จากโรงแรมอีกที (ใส่มันไปเยอะๆ 55)
-ส่วนของ tyha. ตอนจองต้องบอกเค้าด้วยว่าจะเอาไปยื่นวีซ่า. เพื่อนเราเลยดั้นด้นไปจองเองที่สำนักงานเค้าเลย กลัวไม่ได้ใบ
7. เอกสารเกี่ยวกับหน้าที่การงานอาชีพ
-เราสองคนจริงๆคือเป็นกึ่งๆ freelance ค่ะ แต่โชคดีที่ที่ทำงานนึงเค้ายอมออกใบ work certificate ให้ แต่เค้าจะเขียนรับรองแค่ชื่อ... ทำงานที่... จริง ได้เงินเดือนประมาณ... บาท (ไม่ได้ใส่เพิ่มให้ว่า ทำงานมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ลาถึงวันไหน ไรงี้). ทาง TLS เค้าก็รับไป ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ
8. เอกสารการเงิน
-*** สำคัญมากคือ Bank statement ต้องย้อนหลัง 6 เดือน*** (ไม่ใช่ 3 เดือนแบบบางสถานทูต)
-เราขอทั้ง statement และ certificate มาเลย เสียไปใบละ 100 บาท แต่น้องพนักงานแบงก์ที่ไปขอบอกว่าพี่เอา bank certificate ไปด้วยอ่ะดีแล้วครับ มันเหมือนเป็นการยืนยันฐานะรับรองอีกชั้นนึง (น้องเค้าเคยทำงานสาขาที่สีลมที่มี TLS ของอิตาลีกะที่อื่นๆอยู่น่ะค่ะ)
-ไม่ทราบว่าแบบถ่ายสำเนาจากสมุดบัญชีเองจะใช้ได้มั้ยนะคะ. อ่านรีวิวหลายๆคนแล้วเห็นของสวิสเฮี๊ยบมาก เราเลยยอมเสียเงินเอาใบรับรองดีๆจากธนาคารมาเลย
เอกสารทั่วไปมีเท่านี้ล่ะค่ะที่เค้าขอ. พวกที่ทำสำเนามา จะเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง (verified true copy) หรือไม่ก็ได้ เจ้าหน้าที่ tls บอกว่าไม่มีปัญหา
*เอกสารต้องเป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส หรืออิตาลีนะคะ* (ภาษาไทยไม่ได้ค่ะ)
ส่วนพวก trip plan จริงๆเค้าไม่ได้ขอ แต่เหมือนเป็นสัญชาตญาณ. เราแถมให้อย่างละเอียดเลยค่ะ แบบวันนี้จะไปไหน ขึ้นรถไฟกี่โมง ไรงี้ เขียนให้หมดเลย แล้วเรียงไว้ก่อนหน้าสำเนาการจองที่พัก
เอกสารที่ยื่นเพิ่มเติมสำหรับขอ multiple entries
1. จดหมายแนะนำตัว
-เราเขียนไปหน้ากว่าๆ ว่าเราเป็นใคร จบจากไหน ตอนนี้ทำงานอะไร ในครอบครัวมีใครบ้าง เขียนอ้อมๆว่าเราไปเที่ยวเฉยๆ กลับมาไทยแน่นอน ไม่แอบอยู่ต่อ (อันนี้เราบอกว่าเรารับผิดชอบต้องพาพ่อไปหาหมอ กล้วก็บอกว่าเที่ยวเสร็จ กลับไทยมา เราทำงานต่อเลย) แล้วก็อธิบายเกี่ยวกับทริปเรา ว่าทริปสวิสเราไปกะใคร จะไปทำอะไรบ้าง อีกทริปนึงไปกะใคร เมื่อไหร่ แล้วสรุปว่าเพราะแบบนี้เราเลยต้องขอแบบ multiple entries นะคะ. (ประโยคอ้อมค้อมนิดนึง แต่แปลว่า พี่ให้หนูมาเถอะ พลีส)
2. เอกสารรายละเอียดของอีกทริปนึง
-ทั้งสำเนาตั๋วเครื่องบิน ที่พักที่จองแล้ว เราให้เค้าไปหมดเลย
-แถม trip plan ของทริปนั้นไปด้วย
3. เอกสารอื่นๆ อยากยื่นแนบไรไปก็ยื่น เค้าไม่คัดออกเลย เรายื่น
-ประกาศนียบัตร (เอาไว้ยืนยันฐานะตามที่เขียนแนะนำตัวไว้)
-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
-สำเนาทะเบียนบ้าน และฉบับแปลเองจากเวบของกรมการกงสุลต่างประเทศของไทยเรา
-คือ 2 อันหลังเราแค่ติดเผื่อๆไปเฉยๆ แล้วตอนยื่น เราดันรวบทั้งปึกส่งให้เค้าหมดเลย เจ้าหน้าที่ไม่คัดอะไรออกเลย พอเราถามว่าต้องใช้มั้ย น้องเค้าเลยบอกว่า ยื่นเผื่อไปได้เลยค่ะ (คือเอาจริงๆ เราคิดว่ากรณีเรามันไม่ต้องใช้นะ)
Pitfalls ของเรา
1. สองคนเดินทางด้วยกัน (ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน) สามารถกรอกในเวบและจองคิวด้วย account เดียวกันได้เลยค่ะ
-ตอนเรากรอก เราเห็นแต่กรณีที่เป็นครอบครัวเดียวกันเดินทางพร้อมกัน เลยต่างคนต่างกรอกแยกจองกับเพื่อน ปรากฏว่าพอพิมพ์จดหมายนัดออกมา ดันเขียนว่าถ้าเป็นคณะเดินทางคณะเดียวกัน จองคิวยื่นพร้อมกันเลยก็ได้
2. เราไปพักบ้านเพื่อนช่วงคืนแรกๆ เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องยื่นขอ visa แบบ visitor (เยี่ยมเยียน) นะคะ ไม่ใช่แบบ tourist. และถ้าไม่เคยได้เชงเก้นวีซ่าภายในสามปีนี้ ต้องไปสัมภาษณ์ที่สถานทูตที่เพลินจิตต่อด้วย
ตอนนั้นแบบ... งานงอกสิคะ ถ้าขอแบบ visitor จะได้ multiple มั้ย (โชคดีมากที่สองคนนี้เคยได้เชงเก้นมาไม่เกินสามปี) หรือเราจะไปจองหลอกๆใน. Booking.com ก่อนดี เพื่อให้ยื่นแบบ tourist ได้ แต่สุดท้ายคือเตรียมเอกสารไม่ทันแล้วไง. ที่พักแบบ free cancellation ก็หายากมาก เพื่อนเราเลยบอกว่ายื่นๆไปเหอะ. มันน่าจะได้นะ
-เจ้าหน้าที่ให้ขีดฆ่า แก้ประเภทวีซ่าที่ขอในแบบฟอร์ม. แล้วเซ็นชื่อภาษาอังกฤษกำกับได้เลย ไม่ต้องไปพิมพ์ใหม่
3. เนื่องจากเราขอแบบ multiple ... เจ้า duration of stay และวันเดินทางออกจากเชงเก้นต้องเปลี่ยนค่ะ
-เจ้าหน้าที่ให้เรากรอกวันที่บินออกจากเชงเก้นของทริป Iceland. ส่วน duration น้องเค้านั่งนับให้ใหม่ จากเดิมแผนในสวิสเราแค่ 14 วัน กลายเป็น 75 วันเลย (เริ่มนับวันที่เท้าแตะสวิสถึงวันออกจากสวิส +ช่วงทำงานอยู่ไทยไม่ได้เที่ยว +วันที่เท้าแตะ iceland จนถึงวันสุดท้ายที่ออกจาก Iceland) ทั้งที่สองทริปไม่ต่อกันเลย
-แต่เพื่อนเราที่ยื่นกับเจ้าหน้าที่อีกคนไม่โดนแก้ตรงส่วนนี้นะ
-เลยงงๆเหมือนกันว่าตกลงนับไงแน่
4. เวลานัดของ TLS. เพื่อนเรานัดรอบ 11.30 เรานัด 13.30
-รอบเพื่อนเราไปก่อนเวลาครึ่ง ชม แต่ก็รอจนเกิน 11.30 เห็นนางบ่นนิดๆว่าคนเยอะ คิวยาว กว่าจะเสร็จปาไปเลยเที่ยง หิว
-รอบเรา ไปถึงเกือบๆบ่ายโมง ปรากฏคุณยามบอกว่าประตูเปิด 13.30 และจะไม่เปิดก่อนเวลา. คนที่ไปก่อนเวลาเลยเล่นมือถือรอกัน แล้วพอใกล้ๆถึงเวลาค่อยฝากมือถือกับอุปกรณ์ electronics กับล็อคเกอร์คุณยาม แล้วไปต่อคิว. สรุปว่ารอบนี้จริงๆก็คนเยอะ แต่ว่าเราต่อคิวแรกๆเลย พอประตูเปิดเข้าศูนย์ไป เราเป็นคนแรกในรอบนั้นที่ยื่นของสวิส เลยทำขั้นตอนเร็วมาก แถมไม่ต้องรอถ่ายรูปสแกนนิ้วใหม่ เราเลยเสร็จธุระทุกอย่างตอนก่อนบ่ายสอง. แต่ตอนออกมาเห็นคนรอคิวถ่ายรูปสแกนนิ้วกันเต็มเลย ส่งนใหญ่เป็นพวกที่ไปกับทัวร์แล้วมาทำพร้อมๆกันเป็นคณะ
-สำหรับเรา เราว่าถ้าเคยเก็บอัตลักษณ์ของเชงเก้นมาแล้ว จองรอบบ่ายดีกว่าค่ะ ไม่เสียเวลา
ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ TLS มากๆ คุณน้องใจเย็นมาก ช่วยเหลือและให้คำแนะนำดีมากเลย
และขอบคุณทุกคนที่ทนอ่านกระทู้เราจนจบ
สุดท้ายนี้อยากบอกว่า...
ได้ Schengen visa แบบ multiple entries จาก Switzerland แล้วค่า เย้! (ถึงจะได้มาแค่หกเดือนก็เหอะ)
รีวิวประสบการณ์การขอ Schengen Visa แบบ multiple entries ของ Switzerland
ทีมเราเป็นสองสาวจะไปเที่ยวสวิสกันเดือน พค นี้ค่ะ ช่วงแรกจะไปพักบ้านเพื่อนที่ Zurich จากนั้นก็จะย้ายกระเป๋าย้ายที่นอนไปเที่ยวทั่วๆสวิส +\-ไป Liechtenstein วันนึง ทริปนี้ซื้อตั๋วโปรไว้ตั้งแต่เดือน สค ปรก่อนมั้งคะ ค่าที่พักอะไรก็จ่ายไปเกือบหมดแล้ว (ไม่เผื่อเลยว่า visa ไม่ได้ 55 หน้าที่การงานของเราสองคนจัดว่าดีแหละ. เลยคืดว่าไปหนเดียวน่าจะของ่ายน่า)
งานมางอกตรงที่ตอนที่เตรียมจะยื่น visa ดันเป็นกึ่งๆ freelance. แล้วดันตกลงไปทริป Iceland เดือนอื่นกะเพื่อนอีกกลุ่มต่ออีก สองคนนี้เลยต้องรีบทำข้อมูลเตรียมตัวยื่นขอ Schengen visa แบบ multiple entries มันซะเลย (แบบว่างก ไม่อยากเสียค่าขอหลายรอบ ^^;)
ตอนจะยื่นนี่เครียดมากเลย อ่านหลายๆกระทู้บอกว่าสวิสขอวีซ่ายาก ชอบให้พอดีเวลาเที่ยว อีกอย่างแทบไม่มีกระทู้สำหรับยื่นขอ multiple entries เลย เราเลยมาบันทึกประสบการณ์ของเราไว้ เผื่อจะมีประโยชน์กับคนอื่นๆบ้าง
ข้อมูลบางอย่างเราอาจจะไม่ได้บอกละเอียดมากนะคะ เนื่องจากมีหลายๆกระทู้ก่อนหน้าเกี่ยวกับวิธีการกรอกและขอ Schengen visa ประเทศอื่นๆ รวมถึงสวิส ที่ทำไว้ดีมากแล้ว กระทู้นี้เราขอเน้นเรื่อง pitfalls ของเรา เรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่อาจจะไม่ค่อยมีคนรู้ และเอกสารที่ต้องใช้ในการขอแบบ multiple entries ค่ะ
ขั้นตอนการขอวีซ่า
1. เตรียมเอกสาร
2. เข้าไปกรอกข้อมูลในเวบ https://ch.tlscontact.com/th/BKK/index.php
(ข้อมูลที่กรอกมันคือข้อมูลที่จะบันทึกลงในแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าของเราเลยค่ะ กรอกดีๆนะคะ. ถ้ากด submit. จองคิวไปแล้วมันแก้ไม่ได้ด้วย ต้องมาขีดฆ่าแก้แล้วเซ็นชื่อกำกับทีหลัง)
3. กรอกเสร็จ กด submit แล้วถึงจะไปดูได้ว่ามีคิววันไหนบ้าง. จองคิวแล้วแก้ไม่ได้ด้วย
4. ไปที่ TLS ตึก Sathorn city tower ตามวันนัดและเวลาที่นัด
5. ยื่นเอกสารกับเจ้าหน้าที่ เค้าจะตรวจเอกสาร ถ้าเอกสารครบถ้วนโอเค เค้าจะให้ไปสแกนนิ้ว ถ่ายรูป จ่ายตังค์
6. นั่งรอนอนรอว่ายื่นขอวีซ่าผ่านมั้ย (อาจจะไปรับเล่ม passport คืนเองที่ TLS หรือให้ส่ง EMS กลับมาที่บ้านก็ได้แต่อันหลังเสียเงินเพิ่ม 180 บาท)
เอกสารที่ต้องใช้ (ทั่วไป)
อันนี้เลือกดูได้จากในเวบของ Tls เลยค่ะ https://ch.tlscontact.com/th/bkk/page.php?pid=tourism_less90 เพราะ visa แต่ละชนิดอาจจะใช้เอกสารต่างกัน visa เด็กๆก็จะมีเอกสารเพิ่มขึ้นมาอีก. แต่ทั่วๆไปก็จะมี
1. แบบฟอร์มคำร้อง 4 หน้ากระดาษที่พิมพ์มาจากที่กรอกในเวบ
2. รูปถ่าย 2 ใบ
*** สวิสใช้ขนาดไม่เท่ากับเชงเก้นอื่นนะคะ ใช้ 3.5x4 cm ตอนถ่ายย้ำช่างภาพบอกเอาหน้าเต็มๆ 70-80% ของรูป เราไปถ่ายที่ Center one ผ่าน
-ของเพื่อนถ่ายแถวบ้าน ไม่ผ่าน หน้าเล็กเกิน ต้องไปถ่ายที่บูทหน้า TLS เสียเพิ่ม 250 บาท เตรียมเงินให้พอดีด้วย เครื่องไม่ทอนค่ะ
3. Passport ตัวจริงและ copy หน้าพาสกะเนื้อในที่มีร่องรอยการใช้งานทั้งหมด (visa เก่าประเทศอื่น ตัวปั้มของ ตม ไรงี้ค่ะ)
-ถ้าเคยได้เชงเก้นวีซ่ามาก่อนแต่อยู่เล่มเก่า ให้สำเนาอันนั้นกับพกเล่มเก่ามาเผื่อด้วย ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่อาจจะไม่ขอดูก็เหอะ
4. ประกันภัยที่ครอบคลุมของเชงเก้น
-เรากะขอ multiple หลายเดือน เราเลยทำแบบหนึ่งปีไปเลย
5. ตั๋วเครื่องบิน แบบ confirm เฉยๆ ไม่จ่ายตังค์ หรือจ่ายแล้วแบบเราก็ได้ค่ะ
6. สำเนาการจองที่พักทุกคืน
-ย้ำว่าต้องมีทุกคืน**
-ต้องมีชื่อผู้ร่วมทริปทุกคนด้วย** มีแต่ชื่อคนจองคนเดียวไม่ได้ค่ะ
-อันนี้เจ้าหน้าที่เชคละเอียดมาก เค้านั่งนับเลยว่าที่พักครบทุกคืนมั้ย
-ช่วงนึงเรานอนบ้านเพื่อน เราเลยให้เพื่อนเขียน จม เชิญมา แล้วแถมหน้า passport and visa ของเพื่อนไปด้วย (เพื่อนเป็นคนไทย ไปทำงานที่สวิสหลายปีค่ะ)
-เราจองกะ booking.com และ thai youth hostel association (tyha)
-ถ้าเป็นใบ confirmation จาก booking.com. อันที่พิมพ์มาจากแอพในมือถือหรือแทบเลทมันจะไม่มีชื่อ guest names เลยค่ะ ในพันทิปมีคนบอกให้เมลไปขอโรงแรมเอา. เราก็เมลไปผ่านแอพของ booking แหละเค้าก็ให้มา แต่บางโรงแรมอาจจะให้ช้านิดนึง แต่ไม่เกินหนึ่งวีคแน่ๆค่ะ แต่ช่วงใกล้จะยื่น เรานึกไงไม่รู้ไปเปิดจากในคอม pc. ปรากฎว่า ใบ confirm จากในเวบ มันมีชื่อผู้เข้าพักครบเลย -_-; (แล้วเราจะเมลไปขอเค้าทำไม โรงแรมเค้าคงงงอ่ะ) เราเลยพรินท์มันออกมาด้วย แล้วแนบไปกะใบที่ได้จากโรงแรมอีกที (ใส่มันไปเยอะๆ 55)
-ส่วนของ tyha. ตอนจองต้องบอกเค้าด้วยว่าจะเอาไปยื่นวีซ่า. เพื่อนเราเลยดั้นด้นไปจองเองที่สำนักงานเค้าเลย กลัวไม่ได้ใบ
7. เอกสารเกี่ยวกับหน้าที่การงานอาชีพ
-เราสองคนจริงๆคือเป็นกึ่งๆ freelance ค่ะ แต่โชคดีที่ที่ทำงานนึงเค้ายอมออกใบ work certificate ให้ แต่เค้าจะเขียนรับรองแค่ชื่อ... ทำงานที่... จริง ได้เงินเดือนประมาณ... บาท (ไม่ได้ใส่เพิ่มให้ว่า ทำงานมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ลาถึงวันไหน ไรงี้). ทาง TLS เค้าก็รับไป ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ
8. เอกสารการเงิน
-*** สำคัญมากคือ Bank statement ต้องย้อนหลัง 6 เดือน*** (ไม่ใช่ 3 เดือนแบบบางสถานทูต)
-เราขอทั้ง statement และ certificate มาเลย เสียไปใบละ 100 บาท แต่น้องพนักงานแบงก์ที่ไปขอบอกว่าพี่เอา bank certificate ไปด้วยอ่ะดีแล้วครับ มันเหมือนเป็นการยืนยันฐานะรับรองอีกชั้นนึง (น้องเค้าเคยทำงานสาขาที่สีลมที่มี TLS ของอิตาลีกะที่อื่นๆอยู่น่ะค่ะ)
-ไม่ทราบว่าแบบถ่ายสำเนาจากสมุดบัญชีเองจะใช้ได้มั้ยนะคะ. อ่านรีวิวหลายๆคนแล้วเห็นของสวิสเฮี๊ยบมาก เราเลยยอมเสียเงินเอาใบรับรองดีๆจากธนาคารมาเลย
เอกสารทั่วไปมีเท่านี้ล่ะค่ะที่เค้าขอ. พวกที่ทำสำเนามา จะเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง (verified true copy) หรือไม่ก็ได้ เจ้าหน้าที่ tls บอกว่าไม่มีปัญหา
*เอกสารต้องเป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส หรืออิตาลีนะคะ* (ภาษาไทยไม่ได้ค่ะ)
ส่วนพวก trip plan จริงๆเค้าไม่ได้ขอ แต่เหมือนเป็นสัญชาตญาณ. เราแถมให้อย่างละเอียดเลยค่ะ แบบวันนี้จะไปไหน ขึ้นรถไฟกี่โมง ไรงี้ เขียนให้หมดเลย แล้วเรียงไว้ก่อนหน้าสำเนาการจองที่พัก
เอกสารที่ยื่นเพิ่มเติมสำหรับขอ multiple entries
1. จดหมายแนะนำตัว
-เราเขียนไปหน้ากว่าๆ ว่าเราเป็นใคร จบจากไหน ตอนนี้ทำงานอะไร ในครอบครัวมีใครบ้าง เขียนอ้อมๆว่าเราไปเที่ยวเฉยๆ กลับมาไทยแน่นอน ไม่แอบอยู่ต่อ (อันนี้เราบอกว่าเรารับผิดชอบต้องพาพ่อไปหาหมอ กล้วก็บอกว่าเที่ยวเสร็จ กลับไทยมา เราทำงานต่อเลย) แล้วก็อธิบายเกี่ยวกับทริปเรา ว่าทริปสวิสเราไปกะใคร จะไปทำอะไรบ้าง อีกทริปนึงไปกะใคร เมื่อไหร่ แล้วสรุปว่าเพราะแบบนี้เราเลยต้องขอแบบ multiple entries นะคะ. (ประโยคอ้อมค้อมนิดนึง แต่แปลว่า พี่ให้หนูมาเถอะ พลีส)
2. เอกสารรายละเอียดของอีกทริปนึง
-ทั้งสำเนาตั๋วเครื่องบิน ที่พักที่จองแล้ว เราให้เค้าไปหมดเลย
-แถม trip plan ของทริปนั้นไปด้วย
3. เอกสารอื่นๆ อยากยื่นแนบไรไปก็ยื่น เค้าไม่คัดออกเลย เรายื่น
-ประกาศนียบัตร (เอาไว้ยืนยันฐานะตามที่เขียนแนะนำตัวไว้)
-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
-สำเนาทะเบียนบ้าน และฉบับแปลเองจากเวบของกรมการกงสุลต่างประเทศของไทยเรา
-คือ 2 อันหลังเราแค่ติดเผื่อๆไปเฉยๆ แล้วตอนยื่น เราดันรวบทั้งปึกส่งให้เค้าหมดเลย เจ้าหน้าที่ไม่คัดอะไรออกเลย พอเราถามว่าต้องใช้มั้ย น้องเค้าเลยบอกว่า ยื่นเผื่อไปได้เลยค่ะ (คือเอาจริงๆ เราคิดว่ากรณีเรามันไม่ต้องใช้นะ)
Pitfalls ของเรา
1. สองคนเดินทางด้วยกัน (ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน) สามารถกรอกในเวบและจองคิวด้วย account เดียวกันได้เลยค่ะ
-ตอนเรากรอก เราเห็นแต่กรณีที่เป็นครอบครัวเดียวกันเดินทางพร้อมกัน เลยต่างคนต่างกรอกแยกจองกับเพื่อน ปรากฏว่าพอพิมพ์จดหมายนัดออกมา ดันเขียนว่าถ้าเป็นคณะเดินทางคณะเดียวกัน จองคิวยื่นพร้อมกันเลยก็ได้
2. เราไปพักบ้านเพื่อนช่วงคืนแรกๆ เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องยื่นขอ visa แบบ visitor (เยี่ยมเยียน) นะคะ ไม่ใช่แบบ tourist. และถ้าไม่เคยได้เชงเก้นวีซ่าภายในสามปีนี้ ต้องไปสัมภาษณ์ที่สถานทูตที่เพลินจิตต่อด้วย
ตอนนั้นแบบ... งานงอกสิคะ ถ้าขอแบบ visitor จะได้ multiple มั้ย (โชคดีมากที่สองคนนี้เคยได้เชงเก้นมาไม่เกินสามปี) หรือเราจะไปจองหลอกๆใน. Booking.com ก่อนดี เพื่อให้ยื่นแบบ tourist ได้ แต่สุดท้ายคือเตรียมเอกสารไม่ทันแล้วไง. ที่พักแบบ free cancellation ก็หายากมาก เพื่อนเราเลยบอกว่ายื่นๆไปเหอะ. มันน่าจะได้นะ
-เจ้าหน้าที่ให้ขีดฆ่า แก้ประเภทวีซ่าที่ขอในแบบฟอร์ม. แล้วเซ็นชื่อภาษาอังกฤษกำกับได้เลย ไม่ต้องไปพิมพ์ใหม่
3. เนื่องจากเราขอแบบ multiple ... เจ้า duration of stay และวันเดินทางออกจากเชงเก้นต้องเปลี่ยนค่ะ
-เจ้าหน้าที่ให้เรากรอกวันที่บินออกจากเชงเก้นของทริป Iceland. ส่วน duration น้องเค้านั่งนับให้ใหม่ จากเดิมแผนในสวิสเราแค่ 14 วัน กลายเป็น 75 วันเลย (เริ่มนับวันที่เท้าแตะสวิสถึงวันออกจากสวิส +ช่วงทำงานอยู่ไทยไม่ได้เที่ยว +วันที่เท้าแตะ iceland จนถึงวันสุดท้ายที่ออกจาก Iceland) ทั้งที่สองทริปไม่ต่อกันเลย
-แต่เพื่อนเราที่ยื่นกับเจ้าหน้าที่อีกคนไม่โดนแก้ตรงส่วนนี้นะ
-เลยงงๆเหมือนกันว่าตกลงนับไงแน่
4. เวลานัดของ TLS. เพื่อนเรานัดรอบ 11.30 เรานัด 13.30
-รอบเพื่อนเราไปก่อนเวลาครึ่ง ชม แต่ก็รอจนเกิน 11.30 เห็นนางบ่นนิดๆว่าคนเยอะ คิวยาว กว่าจะเสร็จปาไปเลยเที่ยง หิว
-รอบเรา ไปถึงเกือบๆบ่ายโมง ปรากฏคุณยามบอกว่าประตูเปิด 13.30 และจะไม่เปิดก่อนเวลา. คนที่ไปก่อนเวลาเลยเล่นมือถือรอกัน แล้วพอใกล้ๆถึงเวลาค่อยฝากมือถือกับอุปกรณ์ electronics กับล็อคเกอร์คุณยาม แล้วไปต่อคิว. สรุปว่ารอบนี้จริงๆก็คนเยอะ แต่ว่าเราต่อคิวแรกๆเลย พอประตูเปิดเข้าศูนย์ไป เราเป็นคนแรกในรอบนั้นที่ยื่นของสวิส เลยทำขั้นตอนเร็วมาก แถมไม่ต้องรอถ่ายรูปสแกนนิ้วใหม่ เราเลยเสร็จธุระทุกอย่างตอนก่อนบ่ายสอง. แต่ตอนออกมาเห็นคนรอคิวถ่ายรูปสแกนนิ้วกันเต็มเลย ส่งนใหญ่เป็นพวกที่ไปกับทัวร์แล้วมาทำพร้อมๆกันเป็นคณะ
-สำหรับเรา เราว่าถ้าเคยเก็บอัตลักษณ์ของเชงเก้นมาแล้ว จองรอบบ่ายดีกว่าค่ะ ไม่เสียเวลา
ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ TLS มากๆ คุณน้องใจเย็นมาก ช่วยเหลือและให้คำแนะนำดีมากเลย
และขอบคุณทุกคนที่ทนอ่านกระทู้เราจนจบ
สุดท้ายนี้อยากบอกว่า...
ได้ Schengen visa แบบ multiple entries จาก Switzerland แล้วค่า เย้! (ถึงจะได้มาแค่หกเดือนก็เหอะ)