สวัสดีครับ ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยว จากโอกาสที่ได้ไปฝึกงานที่โรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะของฝรั่งเศสใน หมู่เกาะแคริเบียน ชื่อเกาะ Saint Barthélemy (แซ็ง-บาร์เตเลมี) หรือ Saint Barts (เซนต์บาร์ธ) ให้ทุกคนได้อ่านกัน
(ที่มา: st-barths.com, Saint Barts)
หัวข้อหลักๆที่จะเล่าให้ฟังก็คือ
• ผมบังเอิญไปโผล่ที่นั่นได้อย่างไร
• คนดังทั่งหลายที่มาเหยียบเกาะแห่งนี้เป็นใครและพวกเขามาทำอะไรกันบ้าง
• สถานที่ท่องเที่ยว และเทศกาลต่างๆ
• ประวัติของ Saint Barts คร่าวๆ
• วิธีมายังเกาะแห่งนี้ก็ไม่ธรรมดา
ลองตามไปดูกัน
(ที่มา: liveyachting.com, Saint Barts)
ผมจะแนะนำเกาะแห่งนี้ให้ทุกคนรู้จักเพราะผมเชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยไปและที่นั่นยังมีหลายอย่างที่เพื่อนๆจะต้องทึ่งเมื่อรู้ โดยขอเล่าแค่เชิงท่องเที่ยวก่อน แม้เรื่องประสบการณ์ในเวลางาน ชื่อเสียงโรงแรมที่ไปฝึกงาน และการกินอยู่แบบเด็กฝึกงานที่นั่นก็มีเรื่องสนุกน่าสนใจเยอะ แต่ขอเล่าให้ฟังโอกาสหน้านะครับ นี่เป็นรีวิวครั้งแรกที่ผมเขียนถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ
(ที่มา: sailingart.ru, Saint Barts)
ตอนนั้นผมอายุแค่ 18 ปี ยังรู้สึกไร้เดียงสาอยู่เลยในใจคิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว 555+ เพราะตอนผมอยู่ที่นั่นผมไม่ได้เจอคนเอเชียแท้ๆเลยซักคนเพราะคนส่วนใหญ่ที่เจอเป็นชาวฝรั่งเศส รัสเซียและอเมริกัน
เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสนามเด็กเล่นของมหาเศรษฐี ดารา และคนดังระดับโลก (Playground For The Rich And Famous) เดี๋ยวผมจะแนะนำเกาะนี้ให้ทุกคนรู้จักมากขึ้นทีหลังนะครับ
(ที่มา: thaifly.com, Switzerland)
เรื่องมันเริ่มมาจากการที่ผมเป็นนักเรียนบริหารการโรงแรมในประเทศสวิตเซอร์แลนด์แห่งหนึ่ง ผมเชื่อว่านักเรียนทุกคนในสายนี้รวมถึงในประเทศไทย จะต้องมีช่วงเวลาบังคับให้ฝึกงาน เป็นเวลาประมาณ 4-6 เดือนอย่างน้อย 1 ครั้งถึงจะจบการศึกษา...
(ถ่ายเอง : Geneva, Switzerland)
ผมคิดว่าการมาเรียนที่สวิตเซอร์แลนด์เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของผมครั้งแรก ผมต้องปรับตัวอย่างมากในหลายๆด้านเพราะผมแทบจะไม่ได้ออกนอกประเทศไทยเลยก่อนหน้านี้และผมไม่เคยใช้ชีวิตห่างครอบครัวหรือทำอาหารทานเองเลย (นอกจากไข่เจียว)

ตอนผมตัดสินใจเลือกที่ฝึกงานก็อยากได้ไปประเทศที่ไม่เคยไปเพราะอยากออกไปเที่ยวให้มากที่สุดก่อนจบการศึกษา
(ถ่ายเอง : Geneva, Switzerland)
พอผมเริ่มเรียนไปได้แค่ไม่กี่เดือนก็ต้องหาที่ฝึกงาน ผมได้สมัครงานไปร้านอาหารและโรงแรมในประเทศอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรีย ดูไบ โปรตุเกส ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม สเปน อิตาลี และแน่นอนประเทศไทยด้วยเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ส่วนประเทศที่ไม่ได้สมัครไปเลยคือประเทศที่ผมไม่มั่นใจในความเป็นอยู่เช่น แถบในแอฟฟริกาและอเมริกาใต้ไม่ได้สมัครไปเลย หลายคนคงจะคิดว่าผมไปจบอยู่เกาะแห่งนี้ได้ยังไง...
(ถ่ายเอง : Lausanne , Switzerland)
แรกๆผมกังวลมาก ไม่มีใครตอบจดหมายสมัครงานกลับมาเลยและบางที่ก็ปฏิเสธ เวลาเดินไปในอาคารเรียนเจอเพื่อนรุ่นเดียวกันทุกคนจะเปลี่ยนการทักทายเหมือนโรคระบาดจาก "สวัสดี เป็นยังไงบ้าง" กลายเป็น "สวัสดี ได้งานยัง" ถึงกับต้องคิดคำตอบมาตรฐานให้ตอบแบบไม่ออกอาการเลยทีเดียว ที่ติดตลกคือรู้สึกว่าคนส่วนใหญ่ที่ทักแบบที่สองนี่จะเป็นประเภทได้ที่ฝึกงานแล้วด้วยสิ และแน่นอนด้วยความที่ผมเป็นเด็กโรงแรมต้องอัธยาศัยดีต้องทักเค้าคืนด้วยนะ "แล้วคุณหละ ได้ยินว่าได้ที่... เก่งอะยินดีด้วยนะ" พร้อมกับเริ่มจับเวลาในใจให้เวลาเขาโม้วิธีการส่งจดหมายและสัมภาษณ์ของเขาสองนาที 5555+
(ถ่ายเอง : Switzerland)
เหตุที่ผมได้แจ๊คพอตไปโผล่ฝึกงานที่เกาะ Saint Barts ได้เพราะเรื่องมีอยู่ว่าผมสมัครไปโรงแรมแห่งหนึ่งเข้าใจว่าอยู่ในประเทศฝรั่งเศสผ่านระบบของโรงเรียน ซึ่งทางโรงแรมเขียนที่อยู่ไม่ครบผมก็กูเกิ้ลแล้วนะ “11111 Saint Barthélemy, France” (เลขสมมุติ) มันก็โชว์มาหลายจุดเลยแต่อยู๋ในยุโรป ทางเหนือของฝรั่งเศสบ้างทางใต้บ้าง แต่พอผมพิมพ์ชื่อโรงแรมนี่หาไม่เจอเลยทั้งกูเกิ้ลเสิร์ชและกูเกิ้ลแมพไม่โชว์เลยซักอัน อาจเพราะชื่อโรงแรมมีตัวอักษรที่ภาษาอังกฤษไม่มี และตอนนั้นคือปี 2010 ผมว่ากูเกิ้ลยังไม่พัฒนามากเทียบกับตอนนี้แลยเลยหาไม่เจอ
พอผมหาตัวอักษรนั้นแล้วเสิร์ชหาๆอยู่พักนึงก็เจอเว็บของโรงแรม
เข้าไปดูในเว็บ เห็นรูป cover ของเว็บเป็น รูปมองออกไปที่หาดพร้อมแสงแดดยามเช้า ผ่านโต๊ะสีแดงสดที่มีแก้วน้ำวางทับผ้า serviette (ผ้าเช็ดปาก) สีขาวสว่างที่ชายข้างนึงกำลังปลิวไสวด้วยลมพัดเบาๆ มีหญิงสาวผมยาวสวยในชุดว่ายน้ำกำลังมองออกไปยังทะเลด้วยท่าทางอันอ่อนโยน ทำผมเคลิ้มอยู่พักนึง (เป็นภาพที่จำได้ แต่อาจถูกเปลี่ยนจากเว็บไปแล้ว ขอไม่ลงเพราะไม่แน่ใจเรื่องกฏหมายครับ)
(ถ่ายเอง : Anse de Flamands, St Barts)
ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเพิ่งแค่ส่งจดหมายแสดงความสนใจอยากจะฝึกงานในตอนแรก แต่พอใกล้วันที่เขาตอบกลับมานัดสัมภาษณ์ทาง Skype ผมก็รีบมาเปิดทบทวนหาข้อมูลให้เยอะขึ้น อ่านเว็บบอร์ดและแหล่งอื่นๆที่คนพูดถึงเกี่ยวกับโรงแรมก็เลยมารู้ว่าสรุปมันอยู่ในคาริเบียน ผมตกใจเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงขีดสุด ตอนตกใจสุดๆคือตอนไปเปิด Google Map อีกทีคราวนี้ใส่เสิร์ชคำว่า “French West Indies” และ “Caribbean”เข้าไปด้วย ชัดเลย อันนี้ตกใจของจริง ! ผมค่อยๆเลื่อนลูกเมาส์ตรงกลางเพื่อย่อแผนที่ โอ้โน่ววว !!
ใครอยากรู้ว่าทำไม ลองนึกภาพว่าคุณอาจจะต้องไปอยู่สถานที่ๆปรากฏบนแผนที่ 4 เดือนกว่านะครับ
แล้วตอนนี้ผมอยากให้ทุกคนลองค่อยๆซูมออก ย่อในแผนที่ด้านล่างที่ผมใส่ไว้นะครับ
ยิ่งเลื่อนลูกเมาส์ใจยิ่งเล็กลง นี่หรือที่ๆเราจะต้องไปอยู่ถ้าสัมภาษณ์งานผ่าน มันมีสนามบินหรือเปล่าเนี่ยยังไม่รู้เลย
และแล้วสุดท้ายผมก็ได้รับข่าวดีจากอีเมลแสดงความยินดีรับเข้าฝึกงานจากโรงแรมแห่งนี้ใน Saint Barts โรงแรมในอิตาลีและที่เมืองไทย ผมดีใจมาก แต่ใจผมจดจ่ออยู่กับที่เดียว “Saint Barts” นั่นเอง คิดแต่ว่าจะไปยังไง ไปดีไหม จะอยู่ยังไง
_____________________________________
ผมจะแนะนำเกาะแห่งนี้ให้ทุกคนรู้จัก แล้วทุกคนจะเข้าใจว่าเกาะนี้มันมหัศจรรย์มาก
มีโอกาสได้ไปถือว่าโชคดีมากๆ
(ที่มา : saintbarth-tourisme.com)
มาทำความรู้จักเกาะ Saint Barthélemy (แซ็ง-บาร์เตเลมี) มีอีกหลายชื่อเช่น St. Barths หรือ St. Barts (เซนต์บาร์ธ) ในภาษาอังกฤษ
เกาะนี้ถูกตั้งชื่อโดย นักสำรวจชื่อดังที่สุดคนนึงของโลก Christopher Columbus (คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส) ตั้งตามชื่อน้องชายของเขา Bartolomeo (บาร์โตโลเม)
(ที่มา : wikipedia.org)
Saint Barts ถูกเปรียบเทียบว่าเป็นสนามเด็กเล่นสำหรับ คนรวย ดารา และคนดังระดับโลก เกาะแห่งนี้โด่งดังเรื่องหาดทรายขาว ธรรมชาติที่งดงาม ความเป็นส่วนตัว เรือ yacht ซึ่งจอดแน่นเต็มท่าเรือของเมืองหลวง Gustavia ร้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับดีไซน์เนอร์แบรนด์หรูที่เปิดเรียงในถนนสายหลัก Rue de la Republique ร้านอาหารและโรงแรมระดับ high-end และยังมีกิจกรรม เทศกาลต่างๆบนเกาะที่ผสมผสานและสามารถสร้างบรรยากาศน่าจดจำทำให้คนดังเหล่านี้กลับมาเป็นประจำทุกปี
(ถ่ายเอง: Gustavia, Saint Barts)
ในอดีตเกาะนี้เคยถูกมอบให้ประเทศสวีเดนโดยฝรั่งเศส ก่อนที่จะซื้อคืนมาในภายหลัง ทำให้ยังมีบ้านเรือนมีเป็นสไตล์แบบสวีเดน ที่นี่คนพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก ใช้เงินสกุลยูโรเป็นหลัก แต่ก็รับเงินดอลล่าสหรัฐเช่นกัน ขอแค่อย่าลืมติดตัวมาเยอะๆก็พอ เพราะ Saint Barts เป็นเกาะตากอากาศที่แพงที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง อย่าเพิ่งสงสัยว่าแล้วเด็กฝึกงานอย่างผมจะอยู่ยังไงผมจะขอมาโพสต์เล่าในครั้งต่อไป
(ที่มา : saintbarth.com, Kim Kadashian)
ทุกมุมของเกาะจะมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับบุคคลดังและมีอำนาจมากมาย
Saint Barts เริ่มเป็นที่ซุกซนและเป็นที่พักตากอากาศของคนดังระดับโลก หลังจากคนในตระกูล Rockefeller และ ครอบครัว Rothschild ซึ่งหลายคนเชื่อกันว่ามั่งมีที่สุดในโลกตัวจริงและเป็นคนบงการเหตุการณ์บนโลกหลายๆอย่าง พวกเค้ามาพบเกาะแห่งนี้ในช่วงราวปี 50s ซึ่งเป็นเกาะที่บรรยากาศผ่อนคลาย คนพื้นเมืองอัธยาศัยดี และที่ดินราคาถูกและตัดสินใจสั่งสร้างบ้านตากอากาศขึ้น หลังจากนั้นข่าวก็หลุดรอดแพร่สะพัดออกไปทำให้มีผู้ตามมาสร้างบ้านและสิ่งปลูกสร้างต่างๆขึ้นบนเกาะที่ยังบริสุทธิ์แห่งนี้
เร่งเวลามาจนถึงปัจจุบัน มหาเศรษฐีคนอื่นๆที่มาๆไปๆบนเกาะนี้ก็มีอย่างเช่น Roman Abramovich มหาเศรษฐีอันดับ 5 ของรัสเซียหรือที่รู้จักกันดีสำหรับแฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษว่าเป็นเจ้าของทีม Chelsea
(ที่มา: dailymail.com)
เขามีแมนชั่นอยู่ที่หาด Gouverneur ซึ่งก็มีตำนานว่าสมบัติเรือสเปนอาจยังถูกแอบฝังอยู่โดยโจรสลัด คุณ Roman ยังเป็นเจ้าของ เรือ Yacht ชื่อ Eclipse ที่ใหญ่อันดับสองของโลก มีความยาวถึง 163 เมตรเลยทีเดียว ตอนนี้เค้ามีเปิดให้จองใช้บริการด้วยนะ คุณจะมีลูกเรือติดไปด้วย 75 คนสำหรับหนึ่งอาทิตย์ในราคาไม่แพง แค่ประมาณ 70 ล้านบาทเอง ขำๆ ที่พูดมานี้ผมยังไม่เคยได้ไปลองนะครับ เคยมีคนเล่าให้ฟังถึงเรือนี้เลยกลับมาเปิดเน็ตอ่านประวัติ
(ที่มา: yachtcharterfleet.com)
นี่รูปเรือครับ ผมไปหามาให้ดู
ส่วนคนดังอื่นที่เข้าๆออกๆ Saint Barts ก็ลิสต์ยาวเป็นหางว่าวอย่างเช่น
(ที่มา : justinbieber.wikia.com, Justin Bieber)
นักร้อง Justin Bieber (หวังว่าสะกดถูกนะเดี๋ยวสาวๆบ่น
เจ้าของ Louis Vuitton brand, Bernard Arnault
เจ้าของ Victorias Secret brand, Leslie Wexner
เจ้าของคาสิโน ในสหรัฐ Steve Wynn
James Packer แฟนเก่านักร้อง Mariah Carey
ครอบครัวเจ้าของ Walmart
เจ้าของสื่อตีพิมพ์ NY Daily News, Mort Zuckerman
Isabel dos Santos ลูกสาวประธานาธิบดีแองโกลาและผู้หญิงที่รวยที่สุดในแอฟฟริกา
ส่วนเหล่าดาราอื่นๆอย่าง Paul McCartney, Marc Jacobs, Pharrell Williams, Jessica Alba, Beyoncé, Black Eyed Peas ก็มีชื่ออยู่บน list อันยาวเหยียดของคนดังที่มาเยียบเกาะแห่งนี้
ขอไปค้นรูปที่ถ่ายเองมาก่อนครับ
เดี๋ยวมาเล่าต่อว่าคนดังพวกนี้เขามาทำอะไรที่นี่กันบ้างนะครับ ...
ถ้าชอบเรื่องราวของผมช่วยกันกด + นะครับ
________________
มีต่อด้านล่างครับ...
[CR] ***เที่ยว Saint Barts เกาะมหาเศรษฐีระดับโลก – จากเด็กฝึกงานการโรงแรม
หัวข้อหลักๆที่จะเล่าให้ฟังก็คือ
• ผมบังเอิญไปโผล่ที่นั่นได้อย่างไร
• คนดังทั่งหลายที่มาเหยียบเกาะแห่งนี้เป็นใครและพวกเขามาทำอะไรกันบ้าง
• สถานที่ท่องเที่ยว และเทศกาลต่างๆ
• ประวัติของ Saint Barts คร่าวๆ
• วิธีมายังเกาะแห่งนี้ก็ไม่ธรรมดา
ลองตามไปดูกัน
(ที่มา: liveyachting.com, Saint Barts)
ผมจะแนะนำเกาะแห่งนี้ให้ทุกคนรู้จักเพราะผมเชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยไปและที่นั่นยังมีหลายอย่างที่เพื่อนๆจะต้องทึ่งเมื่อรู้ โดยขอเล่าแค่เชิงท่องเที่ยวก่อน แม้เรื่องประสบการณ์ในเวลางาน ชื่อเสียงโรงแรมที่ไปฝึกงาน และการกินอยู่แบบเด็กฝึกงานที่นั่นก็มีเรื่องสนุกน่าสนใจเยอะ แต่ขอเล่าให้ฟังโอกาสหน้านะครับ นี่เป็นรีวิวครั้งแรกที่ผมเขียนถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ
(ที่มา: sailingart.ru, Saint Barts)
ตอนนั้นผมอายุแค่ 18 ปี ยังรู้สึกไร้เดียงสาอยู่เลยในใจคิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว 555+ เพราะตอนผมอยู่ที่นั่นผมไม่ได้เจอคนเอเชียแท้ๆเลยซักคนเพราะคนส่วนใหญ่ที่เจอเป็นชาวฝรั่งเศส รัสเซียและอเมริกัน
เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสนามเด็กเล่นของมหาเศรษฐี ดารา และคนดังระดับโลก (Playground For The Rich And Famous) เดี๋ยวผมจะแนะนำเกาะนี้ให้ทุกคนรู้จักมากขึ้นทีหลังนะครับ
(ที่มา: thaifly.com, Switzerland)
เรื่องมันเริ่มมาจากการที่ผมเป็นนักเรียนบริหารการโรงแรมในประเทศสวิตเซอร์แลนด์แห่งหนึ่ง ผมเชื่อว่านักเรียนทุกคนในสายนี้รวมถึงในประเทศไทย จะต้องมีช่วงเวลาบังคับให้ฝึกงาน เป็นเวลาประมาณ 4-6 เดือนอย่างน้อย 1 ครั้งถึงจะจบการศึกษา...
(ถ่ายเอง : Geneva, Switzerland)
ผมคิดว่าการมาเรียนที่สวิตเซอร์แลนด์เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของผมครั้งแรก ผมต้องปรับตัวอย่างมากในหลายๆด้านเพราะผมแทบจะไม่ได้ออกนอกประเทศไทยเลยก่อนหน้านี้และผมไม่เคยใช้ชีวิตห่างครอบครัวหรือทำอาหารทานเองเลย (นอกจากไข่เจียว)
(ถ่ายเอง : Geneva, Switzerland)
พอผมเริ่มเรียนไปได้แค่ไม่กี่เดือนก็ต้องหาที่ฝึกงาน ผมได้สมัครงานไปร้านอาหารและโรงแรมในประเทศอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรีย ดูไบ โปรตุเกส ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม สเปน อิตาลี และแน่นอนประเทศไทยด้วยเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ส่วนประเทศที่ไม่ได้สมัครไปเลยคือประเทศที่ผมไม่มั่นใจในความเป็นอยู่เช่น แถบในแอฟฟริกาและอเมริกาใต้ไม่ได้สมัครไปเลย หลายคนคงจะคิดว่าผมไปจบอยู่เกาะแห่งนี้ได้ยังไง...
(ถ่ายเอง : Lausanne , Switzerland)
แรกๆผมกังวลมาก ไม่มีใครตอบจดหมายสมัครงานกลับมาเลยและบางที่ก็ปฏิเสธ เวลาเดินไปในอาคารเรียนเจอเพื่อนรุ่นเดียวกันทุกคนจะเปลี่ยนการทักทายเหมือนโรคระบาดจาก "สวัสดี เป็นยังไงบ้าง" กลายเป็น "สวัสดี ได้งานยัง" ถึงกับต้องคิดคำตอบมาตรฐานให้ตอบแบบไม่ออกอาการเลยทีเดียว ที่ติดตลกคือรู้สึกว่าคนส่วนใหญ่ที่ทักแบบที่สองนี่จะเป็นประเภทได้ที่ฝึกงานแล้วด้วยสิ และแน่นอนด้วยความที่ผมเป็นเด็กโรงแรมต้องอัธยาศัยดีต้องทักเค้าคืนด้วยนะ "แล้วคุณหละ ได้ยินว่าได้ที่... เก่งอะยินดีด้วยนะ" พร้อมกับเริ่มจับเวลาในใจให้เวลาเขาโม้วิธีการส่งจดหมายและสัมภาษณ์ของเขาสองนาที 5555+
(ถ่ายเอง : Switzerland)
เหตุที่ผมได้แจ๊คพอตไปโผล่ฝึกงานที่เกาะ Saint Barts ได้เพราะเรื่องมีอยู่ว่าผมสมัครไปโรงแรมแห่งหนึ่งเข้าใจว่าอยู่ในประเทศฝรั่งเศสผ่านระบบของโรงเรียน ซึ่งทางโรงแรมเขียนที่อยู่ไม่ครบผมก็กูเกิ้ลแล้วนะ “11111 Saint Barthélemy, France” (เลขสมมุติ) มันก็โชว์มาหลายจุดเลยแต่อยู๋ในยุโรป ทางเหนือของฝรั่งเศสบ้างทางใต้บ้าง แต่พอผมพิมพ์ชื่อโรงแรมนี่หาไม่เจอเลยทั้งกูเกิ้ลเสิร์ชและกูเกิ้ลแมพไม่โชว์เลยซักอัน อาจเพราะชื่อโรงแรมมีตัวอักษรที่ภาษาอังกฤษไม่มี และตอนนั้นคือปี 2010 ผมว่ากูเกิ้ลยังไม่พัฒนามากเทียบกับตอนนี้แลยเลยหาไม่เจอ
พอผมหาตัวอักษรนั้นแล้วเสิร์ชหาๆอยู่พักนึงก็เจอเว็บของโรงแรม
เข้าไปดูในเว็บ เห็นรูป cover ของเว็บเป็น รูปมองออกไปที่หาดพร้อมแสงแดดยามเช้า ผ่านโต๊ะสีแดงสดที่มีแก้วน้ำวางทับผ้า serviette (ผ้าเช็ดปาก) สีขาวสว่างที่ชายข้างนึงกำลังปลิวไสวด้วยลมพัดเบาๆ มีหญิงสาวผมยาวสวยในชุดว่ายน้ำกำลังมองออกไปยังทะเลด้วยท่าทางอันอ่อนโยน ทำผมเคลิ้มอยู่พักนึง (เป็นภาพที่จำได้ แต่อาจถูกเปลี่ยนจากเว็บไปแล้ว ขอไม่ลงเพราะไม่แน่ใจเรื่องกฏหมายครับ)
(ถ่ายเอง : Anse de Flamands, St Barts)
ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเพิ่งแค่ส่งจดหมายแสดงความสนใจอยากจะฝึกงานในตอนแรก แต่พอใกล้วันที่เขาตอบกลับมานัดสัมภาษณ์ทาง Skype ผมก็รีบมาเปิดทบทวนหาข้อมูลให้เยอะขึ้น อ่านเว็บบอร์ดและแหล่งอื่นๆที่คนพูดถึงเกี่ยวกับโรงแรมก็เลยมารู้ว่าสรุปมันอยู่ในคาริเบียน ผมตกใจเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงขีดสุด ตอนตกใจสุดๆคือตอนไปเปิด Google Map อีกทีคราวนี้ใส่เสิร์ชคำว่า “French West Indies” และ “Caribbean”เข้าไปด้วย ชัดเลย อันนี้ตกใจของจริง ! ผมค่อยๆเลื่อนลูกเมาส์ตรงกลางเพื่อย่อแผนที่ โอ้โน่ววว !!
ใครอยากรู้ว่าทำไม ลองนึกภาพว่าคุณอาจจะต้องไปอยู่สถานที่ๆปรากฏบนแผนที่ 4 เดือนกว่านะครับ
แล้วตอนนี้ผมอยากให้ทุกคนลองค่อยๆซูมออก ย่อในแผนที่ด้านล่างที่ผมใส่ไว้นะครับ
ยิ่งเลื่อนลูกเมาส์ใจยิ่งเล็กลง นี่หรือที่ๆเราจะต้องไปอยู่ถ้าสัมภาษณ์งานผ่าน มันมีสนามบินหรือเปล่าเนี่ยยังไม่รู้เลย
และแล้วสุดท้ายผมก็ได้รับข่าวดีจากอีเมลแสดงความยินดีรับเข้าฝึกงานจากโรงแรมแห่งนี้ใน Saint Barts โรงแรมในอิตาลีและที่เมืองไทย ผมดีใจมาก แต่ใจผมจดจ่ออยู่กับที่เดียว “Saint Barts” นั่นเอง คิดแต่ว่าจะไปยังไง ไปดีไหม จะอยู่ยังไง
_____________________________________
ผมจะแนะนำเกาะแห่งนี้ให้ทุกคนรู้จัก แล้วทุกคนจะเข้าใจว่าเกาะนี้มันมหัศจรรย์มาก
มีโอกาสได้ไปถือว่าโชคดีมากๆ
(ที่มา : saintbarth-tourisme.com)
มาทำความรู้จักเกาะ Saint Barthélemy (แซ็ง-บาร์เตเลมี) มีอีกหลายชื่อเช่น St. Barths หรือ St. Barts (เซนต์บาร์ธ) ในภาษาอังกฤษ
เกาะนี้ถูกตั้งชื่อโดย นักสำรวจชื่อดังที่สุดคนนึงของโลก Christopher Columbus (คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส) ตั้งตามชื่อน้องชายของเขา Bartolomeo (บาร์โตโลเม)
(ที่มา : wikipedia.org)
Saint Barts ถูกเปรียบเทียบว่าเป็นสนามเด็กเล่นสำหรับ คนรวย ดารา และคนดังระดับโลก เกาะแห่งนี้โด่งดังเรื่องหาดทรายขาว ธรรมชาติที่งดงาม ความเป็นส่วนตัว เรือ yacht ซึ่งจอดแน่นเต็มท่าเรือของเมืองหลวง Gustavia ร้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับดีไซน์เนอร์แบรนด์หรูที่เปิดเรียงในถนนสายหลัก Rue de la Republique ร้านอาหารและโรงแรมระดับ high-end และยังมีกิจกรรม เทศกาลต่างๆบนเกาะที่ผสมผสานและสามารถสร้างบรรยากาศน่าจดจำทำให้คนดังเหล่านี้กลับมาเป็นประจำทุกปี
(ถ่ายเอง: Gustavia, Saint Barts)
ในอดีตเกาะนี้เคยถูกมอบให้ประเทศสวีเดนโดยฝรั่งเศส ก่อนที่จะซื้อคืนมาในภายหลัง ทำให้ยังมีบ้านเรือนมีเป็นสไตล์แบบสวีเดน ที่นี่คนพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก ใช้เงินสกุลยูโรเป็นหลัก แต่ก็รับเงินดอลล่าสหรัฐเช่นกัน ขอแค่อย่าลืมติดตัวมาเยอะๆก็พอ เพราะ Saint Barts เป็นเกาะตากอากาศที่แพงที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง อย่าเพิ่งสงสัยว่าแล้วเด็กฝึกงานอย่างผมจะอยู่ยังไงผมจะขอมาโพสต์เล่าในครั้งต่อไป
(ที่มา : saintbarth.com, Kim Kadashian)
ทุกมุมของเกาะจะมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับบุคคลดังและมีอำนาจมากมาย
Saint Barts เริ่มเป็นที่ซุกซนและเป็นที่พักตากอากาศของคนดังระดับโลก หลังจากคนในตระกูล Rockefeller และ ครอบครัว Rothschild ซึ่งหลายคนเชื่อกันว่ามั่งมีที่สุดในโลกตัวจริงและเป็นคนบงการเหตุการณ์บนโลกหลายๆอย่าง พวกเค้ามาพบเกาะแห่งนี้ในช่วงราวปี 50s ซึ่งเป็นเกาะที่บรรยากาศผ่อนคลาย คนพื้นเมืองอัธยาศัยดี และที่ดินราคาถูกและตัดสินใจสั่งสร้างบ้านตากอากาศขึ้น หลังจากนั้นข่าวก็หลุดรอดแพร่สะพัดออกไปทำให้มีผู้ตามมาสร้างบ้านและสิ่งปลูกสร้างต่างๆขึ้นบนเกาะที่ยังบริสุทธิ์แห่งนี้
เร่งเวลามาจนถึงปัจจุบัน มหาเศรษฐีคนอื่นๆที่มาๆไปๆบนเกาะนี้ก็มีอย่างเช่น Roman Abramovich มหาเศรษฐีอันดับ 5 ของรัสเซียหรือที่รู้จักกันดีสำหรับแฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษว่าเป็นเจ้าของทีม Chelsea
(ที่มา: dailymail.com)
เขามีแมนชั่นอยู่ที่หาด Gouverneur ซึ่งก็มีตำนานว่าสมบัติเรือสเปนอาจยังถูกแอบฝังอยู่โดยโจรสลัด คุณ Roman ยังเป็นเจ้าของ เรือ Yacht ชื่อ Eclipse ที่ใหญ่อันดับสองของโลก มีความยาวถึง 163 เมตรเลยทีเดียว ตอนนี้เค้ามีเปิดให้จองใช้บริการด้วยนะ คุณจะมีลูกเรือติดไปด้วย 75 คนสำหรับหนึ่งอาทิตย์ในราคาไม่แพง แค่ประมาณ 70 ล้านบาทเอง ขำๆ ที่พูดมานี้ผมยังไม่เคยได้ไปลองนะครับ เคยมีคนเล่าให้ฟังถึงเรือนี้เลยกลับมาเปิดเน็ตอ่านประวัติ
นี่รูปเรือครับ ผมไปหามาให้ดู
ส่วนคนดังอื่นที่เข้าๆออกๆ Saint Barts ก็ลิสต์ยาวเป็นหางว่าวอย่างเช่น
(ที่มา : justinbieber.wikia.com, Justin Bieber)
นักร้อง Justin Bieber (หวังว่าสะกดถูกนะเดี๋ยวสาวๆบ่น
เจ้าของ Louis Vuitton brand, Bernard Arnault
เจ้าของ Victorias Secret brand, Leslie Wexner
เจ้าของคาสิโน ในสหรัฐ Steve Wynn
James Packer แฟนเก่านักร้อง Mariah Carey
ครอบครัวเจ้าของ Walmart
เจ้าของสื่อตีพิมพ์ NY Daily News, Mort Zuckerman
Isabel dos Santos ลูกสาวประธานาธิบดีแองโกลาและผู้หญิงที่รวยที่สุดในแอฟฟริกา
ส่วนเหล่าดาราอื่นๆอย่าง Paul McCartney, Marc Jacobs, Pharrell Williams, Jessica Alba, Beyoncé, Black Eyed Peas ก็มีชื่ออยู่บน list อันยาวเหยียดของคนดังที่มาเยียบเกาะแห่งนี้
ขอไปค้นรูปที่ถ่ายเองมาก่อนครับ
เดี๋ยวมาเล่าต่อว่าคนดังพวกนี้เขามาทำอะไรที่นี่กันบ้างนะครับ ...
ถ้าชอบเรื่องราวของผมช่วยกันกด + นะครับ
________________
มีต่อด้านล่างครับ...