...
คนซ้อนด้วยหัวใจ มอเตอร์ไซค์ เดินทาง
เรียบเรียงจากผู้ขับกลับมาเป็นผู้ซ้อนแล้วย้อนมาขับ
ท่ามกลางแดดร้อนระอุ เส้นทางสุดสายตาด้านหน้าพบเห็นไอร้อนแผดเผาเป็นเงาจางอยู่เหนือพื้นผิวถนน
บ่อยครั้งที่เราเห็นคนสองคนร่วมเดินทางไปกับมอเตอร์ไซค์คู่ใจ
พักหลังมาตัวผมเอง จากผู้ที่เคยขับกลายเป็นผู้ซ้อนไปโดยปริยายในหลายๆทริปหลายๆการเดินทาง หัวอกคนซ้อนเป็นยังไง พึ่งเข้าใจก็ตอนนี้ จึงมาบอกเล่าสู่กันฟังในมุมที่พบเจอมาเองกับตัวครับ
...
ถ้าการเดินทางหลักร้อยกิโลอัพแล้วเราขับจนรู้สึกเมื่อย
จงรู้เถิดว่า คนซ้อนเหนื่อยกว่าเราเป็นเท่าตัว
...
วันนี้มีสี่อย่างที่คนซ้อนมือใหม่อย่างผมอยากจะเล่าให้อ่านกัน
.....
1-วิสัยทัศน์ในการมองเห็น มุมมองคนซ้อนจำกัดกว่าผู้ขับขี่เหลือเพียง 50% เมื่อเราเป็นคนซ้อน ซึ่งการมองเห็นแบบนี้ไม่สนุกเลยครับ มันพาให้คนซ้อนต้องใช้พลังสายตาเพิ่มขึ้น และแน่นอนว่ามันทำให้ง่วงง่ายขึ้น ฉนั้นเวลาคนซ้อนเราหลับอย่าไปหงุดหงิดเค้าเลยครับ จอดให้บ่อยขึ้น พักให้มากขึ้นแล้วค่อยเดินทางกันใหม่ จัดสรรค์เวลาในการเดินทางแต่ละครั้งให้รัดกุมขึ้น
.....
2-หมวกโขก นี่เป็นอีกเรื่องที่เมื่อก่อนตัวผมเองก็หงุดหงิดนิดๆ แต่จนถึงคราที่เราต้องมาซ้อนเองเป็นเวลานานๆ มันทำให้เข้าใจว่าจริงๆแล้วเราก็ไม่อยากให้มันโขกกับผู้ขับขี่หรอก แต่ด้วยลมที่พัดมา ลักษณะท่าทางที่เรานั่ง ถ้านั่งเกร็งๆตัวตรงๆ แบบไม่โน้มตัวไปด้านหน้า มันฆ่าคนซ้อนทางอ้อมได้เลย แต่พอโน้มไปด้านหน้านิดนึง หมวกมันก็โขกละครับ ซึ่งถ้าลดการโขกลง มันจะเพิ่มภาระให้คนซ้อนโดยย้อนไปที่ข้อหนึ่ง เพราะต้องเอียงหัวไปด้านใดด้านนึง ซึ่งจะเห็นเป็นภาพวาร์ปผ่านแบบไร้จุดนำสายตา คราวนี้แหล่ะ คนซ้อนเราจะทรมานมากกว่าเก่า
.....
3-กล่องตัด or กล่องตบ เราเข้าโค้งไฮสปีด โค้งแคบ ได้ดี หรือมั่นใจในศักยภาพ ของรถเราแค่ไหน คนซ้อนยังไงก็ไม่มั่นใจเท่าเราหรอกครับ จุดยึด จุดจับต่างๆมันจำกัด การจัดท่าทาง กางแข้งกางขา ทำออกมาได้ไม่ถึงครึ่งนึงของคนขับแน่นอน เวลาที่เค้าสะกิดเราด้วยการตบๆตามตำแหน่งต่างๆของร่างกายเรา(ซึ่งส่วนใหญ่จะโดนตบกะโหลกTT)นั่นคิอ เฮ้ย ตรูรู้สึกไม่ปลอดภัยละนะ สิ่งที่เราควรทำไม่ใช่การเชนเกียร์ใช้เอนจิ้น เดินคันเร่งออกจากโค้งให้ไวที่สุด
แต่เป็นการปรับให้อยู่ในท่าทีที่ปลอดภัยมากที่สุด
.....
4-ท่าทาง ในขณะที่ผู้ขับขี่เปลี่ยนท่าทางได้ 108 กระบวนท่า เราเคยรู้มั้ยว่าคนซ้อนของเรา นั้นมีท่าทางคลายเมื่อยที่จำกัดมาก ตอนเราขับ อาจจะยืน นั่งเอียงซ้าย ย้ายท่อนขา และท่าคลีนแอนด์เจิร์กอื่นๆ ซึ่งผู้ซ้อนไม่อาจจะทำท่าผ่อนคลายเหล่านั้นได้ทั้งหมด จึงก่อเกิดความเมื่อยล้าสะสม
.....

การจะเดินทางให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ก็อย่าลืมทำความเข้าใจคนซ้อนของเราด้วยนะครับ
...
คนที่ซ้อนเราได้ เค้าต้องเชื่อใจเรา และเค้าต้องอดทนมากกว่าเรา จงจำไว้ว่าการขับแบบมีคนซ้อนไปด้วย เราเหนื่อยมากแค่ไหน คนซ้อนเหนื่อยกว่าเราเสมอ
...
อย่าทำลายความเชื่อใจที่เค้ามีให้โดยการยัดเยียดความรู้สึกไม่ปลอดภัยให้กับเค้าเลย
ไม่ว่าเราจะสกิลสูงส่งเพียงใด ก็จงมอบความรู้สึกปลอดภัยให้กับคนซ้อน
...
สำหรับใครที่มีคนซ้อนประจำอยู่แล้ว ก็จงดูแลคนซ้อนของท่านไว้ ห่วงใยใส่ใจกันให้ดี ส่วนใครที่ยังไม่มีอันนี้ผมไม่รู้จะช่วยยังไงนะครับ แฮ่ๆๆๆ
แท็กครอบครัว เพราะหลายๆคนที่มีคนซ้อนหรือเป็นคนซ้อน ก็น่าจะพอเข้าใจในสิ่งที่หยิบยกมาเล่า
...
บทความบางส่วนจาก just-ride-it
https://www.facebook.com/justrideitteam/
http://www.just-ride-it.com/
ขอบคุณทุกท่านที่ยังแวะเวียนเข้ามาอ่านครับ
แล้วพบกันใหม่ ในบทความอะไรอีกก็ไม่รู้ ฮ่าๆ
สวัสดีครับ
คนซ้อน - หัวใจ - มอเตอร์ไซค์ - เดินทาง
คนซ้อนด้วยหัวใจ มอเตอร์ไซค์ เดินทาง
เรียบเรียงจากผู้ขับกลับมาเป็นผู้ซ้อนแล้วย้อนมาขับ
ท่ามกลางแดดร้อนระอุ เส้นทางสุดสายตาด้านหน้าพบเห็นไอร้อนแผดเผาเป็นเงาจางอยู่เหนือพื้นผิวถนน
บ่อยครั้งที่เราเห็นคนสองคนร่วมเดินทางไปกับมอเตอร์ไซค์คู่ใจ
พักหลังมาตัวผมเอง จากผู้ที่เคยขับกลายเป็นผู้ซ้อนไปโดยปริยายในหลายๆทริปหลายๆการเดินทาง หัวอกคนซ้อนเป็นยังไง พึ่งเข้าใจก็ตอนนี้ จึงมาบอกเล่าสู่กันฟังในมุมที่พบเจอมาเองกับตัวครับ
...
ถ้าการเดินทางหลักร้อยกิโลอัพแล้วเราขับจนรู้สึกเมื่อย
จงรู้เถิดว่า คนซ้อนเหนื่อยกว่าเราเป็นเท่าตัว
...
วันนี้มีสี่อย่างที่คนซ้อนมือใหม่อย่างผมอยากจะเล่าให้อ่านกัน
.....
1-วิสัยทัศน์ในการมองเห็น มุมมองคนซ้อนจำกัดกว่าผู้ขับขี่เหลือเพียง 50% เมื่อเราเป็นคนซ้อน ซึ่งการมองเห็นแบบนี้ไม่สนุกเลยครับ มันพาให้คนซ้อนต้องใช้พลังสายตาเพิ่มขึ้น และแน่นอนว่ามันทำให้ง่วงง่ายขึ้น ฉนั้นเวลาคนซ้อนเราหลับอย่าไปหงุดหงิดเค้าเลยครับ จอดให้บ่อยขึ้น พักให้มากขึ้นแล้วค่อยเดินทางกันใหม่ จัดสรรค์เวลาในการเดินทางแต่ละครั้งให้รัดกุมขึ้น
.....
2-หมวกโขก นี่เป็นอีกเรื่องที่เมื่อก่อนตัวผมเองก็หงุดหงิดนิดๆ แต่จนถึงคราที่เราต้องมาซ้อนเองเป็นเวลานานๆ มันทำให้เข้าใจว่าจริงๆแล้วเราก็ไม่อยากให้มันโขกกับผู้ขับขี่หรอก แต่ด้วยลมที่พัดมา ลักษณะท่าทางที่เรานั่ง ถ้านั่งเกร็งๆตัวตรงๆ แบบไม่โน้มตัวไปด้านหน้า มันฆ่าคนซ้อนทางอ้อมได้เลย แต่พอโน้มไปด้านหน้านิดนึง หมวกมันก็โขกละครับ ซึ่งถ้าลดการโขกลง มันจะเพิ่มภาระให้คนซ้อนโดยย้อนไปที่ข้อหนึ่ง เพราะต้องเอียงหัวไปด้านใดด้านนึง ซึ่งจะเห็นเป็นภาพวาร์ปผ่านแบบไร้จุดนำสายตา คราวนี้แหล่ะ คนซ้อนเราจะทรมานมากกว่าเก่า
.....
3-กล่องตัด or กล่องตบ เราเข้าโค้งไฮสปีด โค้งแคบ ได้ดี หรือมั่นใจในศักยภาพ ของรถเราแค่ไหน คนซ้อนยังไงก็ไม่มั่นใจเท่าเราหรอกครับ จุดยึด จุดจับต่างๆมันจำกัด การจัดท่าทาง กางแข้งกางขา ทำออกมาได้ไม่ถึงครึ่งนึงของคนขับแน่นอน เวลาที่เค้าสะกิดเราด้วยการตบๆตามตำแหน่งต่างๆของร่างกายเรา(ซึ่งส่วนใหญ่จะโดนตบกะโหลกTT)นั่นคิอ เฮ้ย ตรูรู้สึกไม่ปลอดภัยละนะ สิ่งที่เราควรทำไม่ใช่การเชนเกียร์ใช้เอนจิ้น เดินคันเร่งออกจากโค้งให้ไวที่สุด
แต่เป็นการปรับให้อยู่ในท่าทีที่ปลอดภัยมากที่สุด
.....
4-ท่าทาง ในขณะที่ผู้ขับขี่เปลี่ยนท่าทางได้ 108 กระบวนท่า เราเคยรู้มั้ยว่าคนซ้อนของเรา นั้นมีท่าทางคลายเมื่อยที่จำกัดมาก ตอนเราขับ อาจจะยืน นั่งเอียงซ้าย ย้ายท่อนขา และท่าคลีนแอนด์เจิร์กอื่นๆ ซึ่งผู้ซ้อนไม่อาจจะทำท่าผ่อนคลายเหล่านั้นได้ทั้งหมด จึงก่อเกิดความเมื่อยล้าสะสม
.....
การจะเดินทางให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ก็อย่าลืมทำความเข้าใจคนซ้อนของเราด้วยนะครับ
...
คนที่ซ้อนเราได้ เค้าต้องเชื่อใจเรา และเค้าต้องอดทนมากกว่าเรา จงจำไว้ว่าการขับแบบมีคนซ้อนไปด้วย เราเหนื่อยมากแค่ไหน คนซ้อนเหนื่อยกว่าเราเสมอ
...
อย่าทำลายความเชื่อใจที่เค้ามีให้โดยการยัดเยียดความรู้สึกไม่ปลอดภัยให้กับเค้าเลย
ไม่ว่าเราจะสกิลสูงส่งเพียงใด ก็จงมอบความรู้สึกปลอดภัยให้กับคนซ้อน
...
สำหรับใครที่มีคนซ้อนประจำอยู่แล้ว ก็จงดูแลคนซ้อนของท่านไว้ ห่วงใยใส่ใจกันให้ดี ส่วนใครที่ยังไม่มีอันนี้ผมไม่รู้จะช่วยยังไงนะครับ แฮ่ๆๆๆ
แท็กครอบครัว เพราะหลายๆคนที่มีคนซ้อนหรือเป็นคนซ้อน ก็น่าจะพอเข้าใจในสิ่งที่หยิบยกมาเล่า
...
บทความบางส่วนจาก just-ride-it https://www.facebook.com/justrideitteam/
http://www.just-ride-it.com/
ขอบคุณทุกท่านที่ยังแวะเวียนเข้ามาอ่านครับ
แล้วพบกันใหม่ ในบทความอะไรอีกก็ไม่รู้ ฮ่าๆ
สวัสดีครับ