##ดูเหมือนแค่ถือศีลห้าเพียงอย่างเดียว ชีวิตก็แสนจะมีความสุข – ความเจริญ ไม่ต้องทุกข์ร้อนใด ๆ จริง ๆ หรือ ??? ##

แค่สงสัยนะคะ  เลยอยากสอบถามดูค่ะ   เป็นครอบครัวพ่อแม่พี่น้องฝั่งสามีเองค่ะ  

ที่บ้านนี้ไม่บูชาพระ (ไม่มีหิ้งบูชาพระ) ไม่ไหว้พระ ไม่สวดมนต์ (ไม่เคยเห็นหนังสือสวดมนต์ในบ้านนี้ และสามีสวดมนต์ไม่เป็นแม้แต่บทเดียว  ได้แค่ นะโม ตัสสะ 3 จบ เท่านั้น )  ไม่ใส่บาตรทำบุญ   ลูกสะใภ้คนหนึ่งตอนสิ้นปีไปสวดมนต์ข้ามปี และปฏิบัติธรรม  ยังไม่ทันพ้นประตูบ้าน แม่สามีพูดในบ้านว่า “ บ้า...ไปสวดมนต์นั่งสมาธิทำไม  เสียเวลา  นี่ไม่ไปหรอก ” แล้วก็หัวเราะๆ  คือคำพูดนี่เป็นคำพูดจริง ๆ เพราะได้ยินกับหูดิฉันเองเลย  

ดูชีวิตเค้าดีมากเลยค่ะ  ไม่ต้องทุกข์ร้อนวิตกอะไร  ลูก ๆ  แต่ละคนมีตำแหน่งหน้าที่การงานดีพอสมควร  ก็ปฏิบัติเหมือนพ่อแม่ แล้วก็ไม่มีใครมีความทุกข์อะไร  ชีวิตมีความสุขกันดีมากๆ  ยกเว้นแต่ลูกคนไหนจะมีภรรยา/สามีที่ชอบทางนี้ชักนำไป  ก็จะมีหันไปทางสายบุญบ้าง  แต่ถ้าคนไหนภรรยาหรือสามีไม่สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว ก็จะไม่มีใครอะไรเลย
    
ชีวิตดูมีความสุขดี  ยังไม่เห็นมีอะไรมากระทบกระทั่งให้เดือดเนื้อร้อนใจในเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้ง ๆ ที่เมื่อสิบกว่าปีทีแล้ว จนถึงปัจจุบัน  ทำร้ายลูกสะใภ้คนหนึ่งทางวาจา  จนครอบครัวเค้าแตกแยกต้องเลิกรากันไป  ตัวเองเอาหลานมาเลี้ยงตั้งแต่ 3 เดือน  ด่าว่าแม่ของหลานให้หลานและคนอื่น ๆ ฟังต่าง ๆ นา ๆ  ซึ่งเรื่องราวต่าง ๆ ที่พูดถึงก็ไม่เป็นความจริง  แต่พูดได้เหมือนเดิม แบบเดิมทุกครั้ง  ทำนองว่าฝังหัวมาว่า  เรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นล้วนแต่สะใภ้คนนั้นเป็นคนผิดแต่เพียงทั้งหมดคนเดียว   ลูก ๆ หรือคนที่รู้เรื่องราวไม่มีใครห้ามปราม  ก็ฟังกันเรื่อย ๆ ต่อ ๆ กันมาตลอดเหมือนเป็นเรื่องปกติ   ในบ้านในครอบครัวถ้าไปทางไม่ดี ก็ไม่มีใครห้ามหรือว่าอะไรกัน  เช่น  สะใภ้คนเมื่อกี้ที่พูดไว้  ตอนท้องแก่ใกล้คลอด  สามีก็ไปมีคนใหม่  ภรรยาเค้าต้องทนไปอีก 3-4 ปีถึงได้เลิกกันไป   พ่อแม่ก็ไม่ตักเตือนลูกชายว่าทำไม่ถูกต้องเหมาะสม กลับไปด่าว่าสะใภ้ว่าไม่มีความอดทนแทน
  
หรืออย่างอีกครอบครัวหนึ่ง  ลูกชายไม่ทำมาหากิน  แต่งงานมา 10 กว่าปี เข้าออกงาน เป็นว่าเล่น  ช่วงหนี่งมีงานทำ ภรรยาท้อง  หลังจากภรรยาคลอดแล้ว สามีลาออกจากงานเลย ไม่ทำงานอีกจนถึงปัจจุบัน  อาศัยภรรยาทำงานเลี้ยงดู  ทางพ่อแม่เค้าก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ไม่ตักเตือนลูกชาย ไม่สนใจ สะใภ้คนนี้เป็นคนเก่ง  พูดจาตรง ๆ โผงผาง  เสียงดัง ก็ถูกทางพ่อแม่สามีรังเกียจ  พี่น้องสามีพากันไม่ชอบ  หาว่าเป็นคนที่ร้ายกาจ  ( อ้อ  บ้านนี้เค้าพูดจากันดีค่ะ  น้ำเสียง สีหน้า ท่าทาง ดูดี  ดังนั้นใครพูดตรง ๆ เสียงดัง  เค้าก็จะไม่ค่อย ๆ ชอบ ฉ

เห็นชีวิตเค้าแล้ว (แอบ)คิดว่า ดีจังเลย  ไม่ต้องสวดมนต์  ไม่ต้องไหว้พระ  ไม่ต้องทำบุญ  ไม่ต้องทำอะไรเลย   (แอบคิดเปรียบเทียบในใจ เราต้องคอยทำบุญ  แผ่เมตตาเอาไว้  เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกบางคนที่มีอำนาจเหนือชีวิต (ย้ำนะคะ..เป็นคนค่ะ ไม่ใช่สิ่งลี้ลับอะไร) มาทำให้เดือดเนื้อร้อนใจ  เผลอ ๆ อาจมีถึงขั้นไม่มีงานการทำได้  หรือบางทีก็ต้องระวังการต้องขัดแย้งกับคนอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน  - แล้วทำไมคนในครอบครัวนี้   เค้าก็ทำงานเหมือน  ๆ กับเรา แต่ไม่เห็นมีปัญหาอะไรกันบ้างเลย
  
หรือว่าชีวิต แค่ไม่ต้องคิดไรมาก (หรือไม่คิดอะไรเลย) ไม่ต้องสนใจใคร จะยังงัย ??  มองแต่เพียงว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงามเอาไว้ก่อน   ก็เป็นสุขได้แล้ว   แล้วจะไม่มีเรื่องอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก   ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง จะได้นำแนวทางเค้ามาใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติในการดำเนินชีวิตบ้างค่ะ  
  
ปล.  ถ้าศีลแปลว่าปกติ  เค้าปกติจริง ๆ ค่ะ  เช่น ไม่ลักทรัพย์  ไม่ผิดในกาม ไม่ทานเหล้า ไม่ฆ่าสัตว์  ไม่โกหก ( อันนี้มีบ้างกรณีลูกสะใภ้ แต่ไม่ได้บ่อย ๆ พร่ำเพื่อ และคนที่เดือดร้อนจริง ๆ ก็คือตัวลูกสะใภ้  หรือครอบครัวพ่อแม่ของตัวสะใภ้คนนั้นคนเดียว  ( ที่ต้องเห็นลูกสาวตัวเองทุกข์ร้อนใจ ) - อันนี้คิดเอาเองนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่