เราเป็นคนรักทะเลในทุกฤดูกาล รักการลงเรือ รักวิถีชีวิตทางภาคใต้ และรักการเดินทางโดยรถสาธารณะ ทั้งรถไฟและรถสองแถวท้องถิ่น ชอบกินอาหารที่หลากหลาย และชอบเดินทางคนเดียว แต่ด้วยความที่ชอบทะเลใต้ก็จะลงเกาะทุกครั้งมาตลอดยี่สิบปี ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย
และเพราะชอบไปทะเล จึงไม่เคยมีพัทลุงเป็นจุดหมายปลายทาง แม้จะสนใจเพราะรถไฟผ่าน จนกระทั่งเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่เรียนจบแล้วแยกย้ายกันไป อยู่ดีๆไปเจอเพื่อนใน facebook เพื่อนได้กลายร่างเป็นทาร์ซานผมยาวรุงรังชอบถอดเสื้อเดินลุยน้ำลุยป่ากับหมาบางแก้วที่เหมือนจะคิดว่าตัวเองเป็นพุดเดิ้ล เราจึงตามติดชีวิตนายเร เพื่อนเรา เพราะบ้านของนายเรที่ ลำใน จังหวัดพัทลุง มันบ้านป่าอย่างที่เรานึกภาพว่า ถ้าจะไปหาคงลำบากน่าดู นายเรปลูกบ้านไว้สองหลัง มีครัวอีกหนึ่งหลังแยกไว้ต่างหาก มีครัวเล็กในบ้านหนึ่งหลังด้วย มีสระว่ายน้ำทำเอง! มีน้ำตกจำลองทำเอง แบบอารมณ์ลงไปนอนแช่เป็นสปาได้ เพราะเป็นน้ำที่ต่อมาจากน้ำตกใช้ทั้งบ้านกันเลย และนายเรทำเตาดินเหนียวขึ้นมาใช้งาน วิถีชีวิตของเขากลมกลืนกับธรรมชาติมาก จนเราอิจฉา
แล้วนายเรก็ไปมีแฟนอยู่แถวลำพูน บ้านติดลำน้ำปิงอีก...น่าอยู่ทั้งสองที่ ชีวิตเปลี่ยนแล้ว นายเรไม่สามารถย้ายกลับถิ่น ต้องทิ้งบ้านไปยาวนาน แล้วเขาก็บอกยกให้เราไปอยู่หรือทำอะไรให้หน่อย เราก็อยากทำนะ แต่มันมีภาระหน้าที่มากมายที่กรุงเทพฯจึงลงไปอยู่ประจำไม่ได้ คิดกันมานานหลายปี โดยที่ไม่เคยลงไปบ้านหลังนี้สักที จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้ว เราก็ได้ลงไปกับรถไฟตู้ใหม่รถด่วนพิเศษขบวนที่ 31
จึงทำให้พบว่า เมืองพัทลุงมีดีตรง การเดินทางสะดวกสบายมาก จากสถานีรถไฟ สามารถรอรถสองแถวไปเขาคราม ผ่านหน้าปากทางเข้าบ้านเพื่อนเลย อาจรอนานหน่อย แต่มีทั้งวัน ซึ่งระหว่างรอคอย ก็ทำให้ได้เห็นว่า รถสองแถวในพัทลุงมีไปทุกหนทุกแห่งเยอะมาก ทะเลน้อยยิ่งมีเยอะกว่า ค่ารถก็ถุกมาก จากพัทลุงไปลงหน้าบ้านเพื่อน น่าจะประมาณ20-30 กิโลเมตร ค่ารถ 30 บาท
แต่ก่อนขึ้นรถ เราแบกเป้หนักๆเดินไปตลาดหาของกิน เพราะรถไฟไปถึงพัทลุง 5.05 นาที ตามเวลาเป๊ะๆ เดินไปตลาด คนพัทลุงใจดีแทบจะเดินไปส่งถึงที่ ตลาดอยู่ไม่ไกลเลยเดินสบายๆ และคือศูนย์รวมทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ อาหารเช้าหลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นข้าวต้มโจ๊ก คือเป็นโจ๊กที่ข้าวเม็ดใหญ่กว่าโจ๊กแต่ก็ใส่ขิงใส่เครื่องเหมือนๆกัน อิฉันก็จัดไปครบทุกสิ่ง กินปาท่องโก๋สองร้านเพื่อเปรียบเทียบ แวะกินโจ๊ก และไปต่อที่กาแฟ
เพื่อนจะมารับ แต่บอกไว้แล้วว่าห้ามมารับ ขอเดินทางเอง มันได้อะไรเยอะจริงๆ
จากนั้นก็บ้าเดินจนรอบเมือง แทบจะรอบเมืองจริงๆ ก่อนจะแวะเซเว่นซื้อน้ำแร่ไปสองขวดใหญ่ ...แทนที่จะถามเพื่อนก่อน คือที่ลำใน มีแหล่งน้ำแร่ที่เขาต่อท่อออกมาให้ชาวบ้านไปรองมากินได้ ปล่อยไหลลงผืนทรายนั่นแหละทั้งวันทั้งคืน เพื่อนบอกเคยเอาน้ำไปตรวจ สะอาดยิ่งกว่าพวกน้ำดื่มบรรจุขวดเสียอีก
รอรถนานมาก แต่นั่งเพลินๆเลยกับรถสองแถวซึ่งจริงๆคือสามแถว เพลินสุดๆ แล้วฝนก็ตก แล้วเพื่อนก็ไลน์มาบอกว่าถึงทางแยกให้ไลน์มาบอกจะออกไปรับ
ทาร์ซานออกมารับปากทาง ถือร่มคันใหญ่ในมือ แย่งเป้ไปถือ ยื่นร่มให้เพื่อนสาว แล้วเธอก็วิ่งลงเนินเข้าบ้านไปตอนที่เราบอกว่าเป้เรากันน้ำ...
เราเดินกางร่มตากฝนผ่านป่ายางเข้าไปประมาณ 100 เมตร ก็ถึงบ้าน แต่เพลินสุดๆเพราะไม่ใช่ฝนหนัก และที่นี่ก็มีขุนเขาล้อมรอบแทบจะ 360 องศา มันสวยมาก
จากป่ายางเข้ามาถึงบ้าน ก็พบว่า ข้างหน้าบ้านคือเนินป่ายาง ส่วนหลังบ้านคือป่าและเขา และลำธารน้ำในไหลเย็น
เรื่องราวของลำในกำลังจะเริ่มต้นขึ้น อยากใหัทุกคนมารับรู้ อยากให้หลายๆคนมีโอกาสได้ไป มันมีอะไรที่ไม่น่าเชื่อ มากมายเหลือเกิน
[SR] ครั้งแรกที่ลงใต้ไม่ไปทะเล...พาไปนอนในป่าริมลำธารที่พัทลุง มันสวยเกินไปแล้ว
และเพราะชอบไปทะเล จึงไม่เคยมีพัทลุงเป็นจุดหมายปลายทาง แม้จะสนใจเพราะรถไฟผ่าน จนกระทั่งเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่เรียนจบแล้วแยกย้ายกันไป อยู่ดีๆไปเจอเพื่อนใน facebook เพื่อนได้กลายร่างเป็นทาร์ซานผมยาวรุงรังชอบถอดเสื้อเดินลุยน้ำลุยป่ากับหมาบางแก้วที่เหมือนจะคิดว่าตัวเองเป็นพุดเดิ้ล เราจึงตามติดชีวิตนายเร เพื่อนเรา เพราะบ้านของนายเรที่ ลำใน จังหวัดพัทลุง มันบ้านป่าอย่างที่เรานึกภาพว่า ถ้าจะไปหาคงลำบากน่าดู นายเรปลูกบ้านไว้สองหลัง มีครัวอีกหนึ่งหลังแยกไว้ต่างหาก มีครัวเล็กในบ้านหนึ่งหลังด้วย มีสระว่ายน้ำทำเอง! มีน้ำตกจำลองทำเอง แบบอารมณ์ลงไปนอนแช่เป็นสปาได้ เพราะเป็นน้ำที่ต่อมาจากน้ำตกใช้ทั้งบ้านกันเลย และนายเรทำเตาดินเหนียวขึ้นมาใช้งาน วิถีชีวิตของเขากลมกลืนกับธรรมชาติมาก จนเราอิจฉา
แล้วนายเรก็ไปมีแฟนอยู่แถวลำพูน บ้านติดลำน้ำปิงอีก...น่าอยู่ทั้งสองที่ ชีวิตเปลี่ยนแล้ว นายเรไม่สามารถย้ายกลับถิ่น ต้องทิ้งบ้านไปยาวนาน แล้วเขาก็บอกยกให้เราไปอยู่หรือทำอะไรให้หน่อย เราก็อยากทำนะ แต่มันมีภาระหน้าที่มากมายที่กรุงเทพฯจึงลงไปอยู่ประจำไม่ได้ คิดกันมานานหลายปี โดยที่ไม่เคยลงไปบ้านหลังนี้สักที จนกระทั่งเมื่อเดือนที่แล้ว เราก็ได้ลงไปกับรถไฟตู้ใหม่รถด่วนพิเศษขบวนที่ 31
จึงทำให้พบว่า เมืองพัทลุงมีดีตรง การเดินทางสะดวกสบายมาก จากสถานีรถไฟ สามารถรอรถสองแถวไปเขาคราม ผ่านหน้าปากทางเข้าบ้านเพื่อนเลย อาจรอนานหน่อย แต่มีทั้งวัน ซึ่งระหว่างรอคอย ก็ทำให้ได้เห็นว่า รถสองแถวในพัทลุงมีไปทุกหนทุกแห่งเยอะมาก ทะเลน้อยยิ่งมีเยอะกว่า ค่ารถก็ถุกมาก จากพัทลุงไปลงหน้าบ้านเพื่อน น่าจะประมาณ20-30 กิโลเมตร ค่ารถ 30 บาท
แต่ก่อนขึ้นรถ เราแบกเป้หนักๆเดินไปตลาดหาของกิน เพราะรถไฟไปถึงพัทลุง 5.05 นาที ตามเวลาเป๊ะๆ เดินไปตลาด คนพัทลุงใจดีแทบจะเดินไปส่งถึงที่ ตลาดอยู่ไม่ไกลเลยเดินสบายๆ และคือศูนย์รวมทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ อาหารเช้าหลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นข้าวต้มโจ๊ก คือเป็นโจ๊กที่ข้าวเม็ดใหญ่กว่าโจ๊กแต่ก็ใส่ขิงใส่เครื่องเหมือนๆกัน อิฉันก็จัดไปครบทุกสิ่ง กินปาท่องโก๋สองร้านเพื่อเปรียบเทียบ แวะกินโจ๊ก และไปต่อที่กาแฟ
เพื่อนจะมารับ แต่บอกไว้แล้วว่าห้ามมารับ ขอเดินทางเอง มันได้อะไรเยอะจริงๆ
จากนั้นก็บ้าเดินจนรอบเมือง แทบจะรอบเมืองจริงๆ ก่อนจะแวะเซเว่นซื้อน้ำแร่ไปสองขวดใหญ่ ...แทนที่จะถามเพื่อนก่อน คือที่ลำใน มีแหล่งน้ำแร่ที่เขาต่อท่อออกมาให้ชาวบ้านไปรองมากินได้ ปล่อยไหลลงผืนทรายนั่นแหละทั้งวันทั้งคืน เพื่อนบอกเคยเอาน้ำไปตรวจ สะอาดยิ่งกว่าพวกน้ำดื่มบรรจุขวดเสียอีก
รอรถนานมาก แต่นั่งเพลินๆเลยกับรถสองแถวซึ่งจริงๆคือสามแถว เพลินสุดๆ แล้วฝนก็ตก แล้วเพื่อนก็ไลน์มาบอกว่าถึงทางแยกให้ไลน์มาบอกจะออกไปรับ
ทาร์ซานออกมารับปากทาง ถือร่มคันใหญ่ในมือ แย่งเป้ไปถือ ยื่นร่มให้เพื่อนสาว แล้วเธอก็วิ่งลงเนินเข้าบ้านไปตอนที่เราบอกว่าเป้เรากันน้ำ...
เราเดินกางร่มตากฝนผ่านป่ายางเข้าไปประมาณ 100 เมตร ก็ถึงบ้าน แต่เพลินสุดๆเพราะไม่ใช่ฝนหนัก และที่นี่ก็มีขุนเขาล้อมรอบแทบจะ 360 องศา มันสวยมาก
จากป่ายางเข้ามาถึงบ้าน ก็พบว่า ข้างหน้าบ้านคือเนินป่ายาง ส่วนหลังบ้านคือป่าและเขา และลำธารน้ำในไหลเย็น
เรื่องราวของลำในกำลังจะเริ่มต้นขึ้น อยากใหัทุกคนมารับรู้ อยากให้หลายๆคนมีโอกาสได้ไป มันมีอะไรที่ไม่น่าเชื่อ มากมายเหลือเกิน