ตามหัวข้อเลย ครับ คือตอนนี้ผมจบ ม.6แล้วพร้อมที่จะเข้าสู้รั้วมหาลัย
เเต่ติดตรงที่ว่า ผมเป็นคนแปลกอย่างหนึ่ง คือ ชอบมีโลกส่วนตัว คบคนยาก ทั้ง แฟน เเละเพื่อน แถมมีเพื่อนน้อย แต่ใจก็อยากเข้าสังคมเก่ง คือเรื่องของเรื่องคือว่าทั้งชีวิตนี้นับตั้งแต่ ประถม มัธยม 1-3 ก็มีเพื่อนครับ แต่นับตอนนี้ต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปกันหมดแล้ว ตอนนี้ก็ยังพอมีเฟสติดต่อกันบ้าง แต่สิ่งที่ผมรู้สึกนึกคิดอยากจะระบายในกระทู้นี้คือ ทำไมผมรู้สึกว่า ชีวิตนี้ ผมมีเพื่อนน้อยจัง แต่ก็ไม่เชิงเป็นเด็กมีปัญหานะครับ เพราะที่บ้านก็เอาใจใส่ดี มีอะไรก็ปรึกษาแม่กะพี่ชาย
พอเริ่มเรียน มัธยมปลาย มานี้ ผมก็ว่าจะมาหาเพื่อนใหม่สังคมใหม่ และเเล้วนับตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ เวลา3ปีมันสอนผมอะไรๆ หลายๆ นะ เจอทั้งเพื่อนที่ดี หวังผลประโยชน์ เพื่อนเที่ยว ต่างๆ บลาๆ
แต่ที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนหักหลังเลย คือ เพื่อนที่หวังผลประโยชน์ครับ ผมก็คิดเหมือนกันนะว่า ถ้านานๆไปมันยังจะคบกับผมอยู่มั้ย ก็ประมานว่า คนนี้พอเริ่มรู้จักกันตั้งแต่ตอน ม 4 นี้ละครับ ก็โดยรวมนิสัยดีครับ แต่ก็ออกแนว เห็นแก่ตัวไปหน่อย จะคอยมาหาผมในช่วงที่ตัวเองเดือดร้อนเรื่องเรียน เช่น ทำการ บ้าน งานแก้บลาๆ รายงานก่อนจบ ม.6(เป็นงานคู่ผมก็ทำคนเดียว) เพราะมันเป็นคนเรียนไม่ค่อยเก่ง และทำอะไรไม่เป็นเลย แถมชอบให้คนอื่นทำงานให้ครับ ส่วนตัวผมเองก็พอถูๆไถๆ ไปได้ เราสอบที่เดียวกันติดทั้งคู่ครับ อย่างเรื่องทำพอร์ตเขามหาลัยมันก็ทำไม่เป็นครับผมก็เป็นคนช่วยมันทำนี้ละ ก็ดูทรงแล้วมันจะมาหาผมเฉพาะช่วงที่มีปัญหานั้นละครับ ส่วนเวลาไปเที่ยวตลอดเวลา 3ปี ที่ไปเที่ยวด้วยกันนับครั้งได้เลย ไม่น่าเกิน 2 ครั้งซึ่งน้อยมากๆ เพราะผมเองก็อยากเที่ยวอยากไปสนุกกับเพื่อนครับ แต่ทุกครั้งที่ชวน มันก็ชอบปฏิเสธบ้าง บลาๆ แต่เท่าที่ผมรู้มามันก็ไปเที่ยวกับเพื่อนคนอื่นอยู่นะ พอผมรู้ก็รู้สึกน้อยใจนิดๆครับ เอิ่มมมม ประมานว่าแค่ต้องการผลประโยชน์ จากกูหรอ ประมานนี้ แต่เรื่องไปเที่ยวผมก็พอมีเพื่อนไปเที่ยวบ้างนะครับ
แต่เวลาลำบากก็สามารถ พึ่งพาได้ครับ อันนี้ผมก็เข้าใจครับว่าคนเราจะให้ดี ร้อยเปอร์เซน ได้หรอก แต่ผมเป็นคนอย่างงี้ครับ คือคบคนยาก แล้วถ้าได้คบกับใคร ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือ เเฟนก็จะทุ่ม แบบ ไม่เคยคิด เอาเปรียบเลยใจเเลกใจเลย มีแต่ความหวังดีๆล้วนๆ แต่พอมาเจอเหตุการณ์ แบบนี้ก็แย่เหมือนกันครับ เลยทำให้ผมรู้สึกว่า การคบคนที่จริงใจกับเรา นั้นมันยากจังเลยครับ ทั้งที่เรา ก็ให้ใจ ไปเต็มที่ แต่สิ่งที่ได้กลับมา ก็รู้สึกแย่ครับ นับตอนนี้ก็รู้สึกเฉยๆละครับ เพราะคิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าไปเจอสังคมมหาลัยยิ่งกว่านี้ ครับ คนเห็นแก่ตัวมันแยะ แต่ผมก็ชินแล้วครับดีครับ ผมก็เฉยๆเหมือนเดิมเพราะเวลาที่มันให้ช่วยทำอะไรก็ค่อยปัดครับ แต่ก็คุยได้เหมือนเดิม แต่ก็คบผ่านละๆ ครับ เพราะอีกหน่อยเราก็ต้องเจอคนอื่นเยอะเเยะ นี้ก็ถือว่าเป็นบททดสอบชีวิตครับ เพราะอยากเจอเพื่อนที่จริงใจมากๆครับ แต่อย่างนึงผมก็อยากจะรู้นะครับว่า มันจะเรียนไหวมั้ย เพราะมหาลัยต้องเอาตัวรอดเป็นทั้งเรื่องเรียนกับสังคม แต่ดีอย่างที่ผมกับมันติดละคณะ หลังจากก็ดูแลตัวเองให้ดีละ ไม่มีใครช่วยเหลือได้แล้วนะ ผมไม่ได้แค้นอะไรขนาดนั้นครับ แค่อยากให้มันดูแลตัวเองให้ดีเพราะจะไม่มีใครช่วยเหลือได้อีกแล้ว ต้องดูแตัวเอง ปล.(ผมไม่ได้เป็นเกย์นะ อย่าเข้าใจผิดละว่าทำไมต้องน้อยใจมันอะไรขนาดนั้น แค่มันเจ็บใจนิดๆ แต่ก็หวังดีกับมันครับเพราะมันก็ช่วยเหลือผมในวันที่ผมลำบากเหมือนกัน) ขออภัยที่พิมให้อ่านอยาก พิมในโทรศัพท์ครับ ขอบคุณ ท่านผู้อ่านที่มารับฟังเรืาองของผมนะครับ
เจอเพื่อนแบบนี้ก็รู้สึก จนทำให้ เราคบคนยากครับ
เเต่ติดตรงที่ว่า ผมเป็นคนแปลกอย่างหนึ่ง คือ ชอบมีโลกส่วนตัว คบคนยาก ทั้ง แฟน เเละเพื่อน แถมมีเพื่อนน้อย แต่ใจก็อยากเข้าสังคมเก่ง คือเรื่องของเรื่องคือว่าทั้งชีวิตนี้นับตั้งแต่ ประถม มัธยม 1-3 ก็มีเพื่อนครับ แต่นับตอนนี้ต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปกันหมดแล้ว ตอนนี้ก็ยังพอมีเฟสติดต่อกันบ้าง แต่สิ่งที่ผมรู้สึกนึกคิดอยากจะระบายในกระทู้นี้คือ ทำไมผมรู้สึกว่า ชีวิตนี้ ผมมีเพื่อนน้อยจัง แต่ก็ไม่เชิงเป็นเด็กมีปัญหานะครับ เพราะที่บ้านก็เอาใจใส่ดี มีอะไรก็ปรึกษาแม่กะพี่ชาย
พอเริ่มเรียน มัธยมปลาย มานี้ ผมก็ว่าจะมาหาเพื่อนใหม่สังคมใหม่ และเเล้วนับตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ เวลา3ปีมันสอนผมอะไรๆ หลายๆ นะ เจอทั้งเพื่อนที่ดี หวังผลประโยชน์ เพื่อนเที่ยว ต่างๆ บลาๆ
แต่ที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนหักหลังเลย คือ เพื่อนที่หวังผลประโยชน์ครับ ผมก็คิดเหมือนกันนะว่า ถ้านานๆไปมันยังจะคบกับผมอยู่มั้ย ก็ประมานว่า คนนี้พอเริ่มรู้จักกันตั้งแต่ตอน ม 4 นี้ละครับ ก็โดยรวมนิสัยดีครับ แต่ก็ออกแนว เห็นแก่ตัวไปหน่อย จะคอยมาหาผมในช่วงที่ตัวเองเดือดร้อนเรื่องเรียน เช่น ทำการ บ้าน งานแก้บลาๆ รายงานก่อนจบ ม.6(เป็นงานคู่ผมก็ทำคนเดียว) เพราะมันเป็นคนเรียนไม่ค่อยเก่ง และทำอะไรไม่เป็นเลย แถมชอบให้คนอื่นทำงานให้ครับ ส่วนตัวผมเองก็พอถูๆไถๆ ไปได้ เราสอบที่เดียวกันติดทั้งคู่ครับ อย่างเรื่องทำพอร์ตเขามหาลัยมันก็ทำไม่เป็นครับผมก็เป็นคนช่วยมันทำนี้ละ ก็ดูทรงแล้วมันจะมาหาผมเฉพาะช่วงที่มีปัญหานั้นละครับ ส่วนเวลาไปเที่ยวตลอดเวลา 3ปี ที่ไปเที่ยวด้วยกันนับครั้งได้เลย ไม่น่าเกิน 2 ครั้งซึ่งน้อยมากๆ เพราะผมเองก็อยากเที่ยวอยากไปสนุกกับเพื่อนครับ แต่ทุกครั้งที่ชวน มันก็ชอบปฏิเสธบ้าง บลาๆ แต่เท่าที่ผมรู้มามันก็ไปเที่ยวกับเพื่อนคนอื่นอยู่นะ พอผมรู้ก็รู้สึกน้อยใจนิดๆครับ เอิ่มมมม ประมานว่าแค่ต้องการผลประโยชน์ จากกูหรอ ประมานนี้ แต่เรื่องไปเที่ยวผมก็พอมีเพื่อนไปเที่ยวบ้างนะครับ
แต่เวลาลำบากก็สามารถ พึ่งพาได้ครับ อันนี้ผมก็เข้าใจครับว่าคนเราจะให้ดี ร้อยเปอร์เซน ได้หรอก แต่ผมเป็นคนอย่างงี้ครับ คือคบคนยาก แล้วถ้าได้คบกับใคร ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือ เเฟนก็จะทุ่ม แบบ ไม่เคยคิด เอาเปรียบเลยใจเเลกใจเลย มีแต่ความหวังดีๆล้วนๆ แต่พอมาเจอเหตุการณ์ แบบนี้ก็แย่เหมือนกันครับ เลยทำให้ผมรู้สึกว่า การคบคนที่จริงใจกับเรา นั้นมันยากจังเลยครับ ทั้งที่เรา ก็ให้ใจ ไปเต็มที่ แต่สิ่งที่ได้กลับมา ก็รู้สึกแย่ครับ นับตอนนี้ก็รู้สึกเฉยๆละครับ เพราะคิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าไปเจอสังคมมหาลัยยิ่งกว่านี้ ครับ คนเห็นแก่ตัวมันแยะ แต่ผมก็ชินแล้วครับดีครับ ผมก็เฉยๆเหมือนเดิมเพราะเวลาที่มันให้ช่วยทำอะไรก็ค่อยปัดครับ แต่ก็คุยได้เหมือนเดิม แต่ก็คบผ่านละๆ ครับ เพราะอีกหน่อยเราก็ต้องเจอคนอื่นเยอะเเยะ นี้ก็ถือว่าเป็นบททดสอบชีวิตครับ เพราะอยากเจอเพื่อนที่จริงใจมากๆครับ แต่อย่างนึงผมก็อยากจะรู้นะครับว่า มันจะเรียนไหวมั้ย เพราะมหาลัยต้องเอาตัวรอดเป็นทั้งเรื่องเรียนกับสังคม แต่ดีอย่างที่ผมกับมันติดละคณะ หลังจากก็ดูแลตัวเองให้ดีละ ไม่มีใครช่วยเหลือได้แล้วนะ ผมไม่ได้แค้นอะไรขนาดนั้นครับ แค่อยากให้มันดูแลตัวเองให้ดีเพราะจะไม่มีใครช่วยเหลือได้อีกแล้ว ต้องดูแตัวเอง ปล.(ผมไม่ได้เป็นเกย์นะ อย่าเข้าใจผิดละว่าทำไมต้องน้อยใจมันอะไรขนาดนั้น แค่มันเจ็บใจนิดๆ แต่ก็หวังดีกับมันครับเพราะมันก็ช่วยเหลือผมในวันที่ผมลำบากเหมือนกัน) ขออภัยที่พิมให้อ่านอยาก พิมในโทรศัพท์ครับ ขอบคุณ ท่านผู้อ่านที่มารับฟังเรืาองของผมนะครับ