สวัสดีครับผมชื่อ เอ นะครับ ผมมีประสบการณ์ที่แฟนกับผมเจอมาครับ
ถ้าย้อนกลับไปช่วงปลายปี 58 จะมีข่าวว่ามีรถบรรทุก10 ล้อ ชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อด้วยกัน เหตุเกิดที่สะพานวงแหวน ฯ ขาลง จนมีเหตุทำให้ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย นั่นก็คือเพื่อนผมเอง
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นทำให้เพื่อนของผมถูกตัดขาทั้ง 2 ข้าง แล้วนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ. นานร่วมครึ่งปี
ผมและเพื่อนในกลุ่มก็ได้ไปเยี่ยมมันบ้าง พอเห็นสภาพมันที่นอนบนเตียง ใส่เครื่องช่วยหายใจ ให้เลือด และที่น่าใจหายที่สุดคือ ผมมองไปที่ช่วงขามัน มันมีแต่ความว่างเปล่าโดยมีแค่ผ้าห่มของ รพ. คลุมไว้เท่านั้น เราในฐานะเพื่อน ที่ กิน เที่ยว เล่น มาด้วยกันแต่เด็ก พอมาเห็นมันอยู่ในสภาพนี้ก็รู้สึกหดหู่ใจมากๆ ซ้ำสองแฟนมันยังไปมีแฟนใหม่อีกในช่วงที่เพื่อนผมนอนรักษาตัวที่ รพ. ผมกับแฟนแล้วก็เพื่อนๆที่ไปเยี่ยมก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่าการให้กำลังใจมัน แต่ทุกคนก็ยังปิดเรื่องของแฟนมันอยู่เพราะแค่นี้สภาพจิตรใจมันก็แย่พอแล้ว
หลังจากรักษาตัวอยู่ที่ รพ. นานกว่าครึ่งปี ในที่สึดก็เสียชีวิตลงด้วยอายุเพียง 30 เท่านั้น ผมและเพื่อนๆรู้ข่าวต่างก็ตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อีกใจก็คิดว่าหมดเวรหมดกรรม จะได้ไม่ต้องทรมานทั้งกายและใจของตัวมันเอง
บ่ายของอีกวันศพได้ถูกนำมาที่วัดแถวบ้านเพื่อนทำพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรม ผมจำได้วันนั้นผมเข้ากะดึกสุดท้ายกับแฟนผมเข้า2 ทุ่ม ซึ่งผมกับแฟนก็ได้ไปรดน้ำศพมันด้วย แต่ไม่ได้ฟังสวดเพราะผมต้องทำงานซึ่งคืนแรกก็ผ่านไปปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คืนต่อมาซึ่งตรงกับวันหยุดของเราพอดีผมกับแฟนก็โทรนัดเพื่อนๆของผมว่าจะไปวัดกันกี่โมงพอตกลง เย็นวันนั้นเราก็ไปวัดฟังสวดพูดคุยกันเป็นปกติ จนกระทั่งสวดเสร็จทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ผมกับแฟนก็กำลังจะขึ้นรถก็มีเพื่อนผมอีกคนนึงทักขึ้นมาว่า
"จะกลับไม่ไปจุดธูปบอกมันหน่อยว่ะ" ผมก็เลยบอกไปว่า "กูจุดธูปบอกมันแล้วตอนกูมา มันคงรู้แล้วแหละคงไม่ต้องจุดแล้ว" ผมก็พูดแค่นี้แล้วก็เดินขึ้นรถกับแฟนก็ขับกลับห้อง (ปล. ผมพักอยู่ห้องเช่านะครับ ห้องเช่าผมก็อยู่ล่ะแวกนั้นไม่ไกลจากวัดมาก ประมาน3 กิโล)
พอมาถึงก็ปกติของคนไปงานศพมา มาถึงก็อาบน้ำล้างหน้าล้างตา ป่ะแป้ง แล้วก็มานอนดูนู้น นี่ นั่น ตามประสาคนหยุด โดยที่เราสองคนไม่ได้คุยเรื่องเพื่อนผมเลยเพราะผมกลัว (แหม ใครตายจะเท่าเพื่อนตายใช่ไหมครับ)
โดยปกติผมจะเป็นคนนอนดึกส่วนแฟนก็จะหลับก่อนตลอด แต่คืนนั้นผมรู้สึกเพลีย ด้วยที่ว่าเราออกกะมาตอนเช้า บ่ายเราก็ตื่นมาหาอะไรกิน เย็นเราก็ไปฟังสวด
ก็เลยรู้สึกเพลียนิดๆ แล้วก็หลับกันไปตอนไหนไม่รู้
รู้สึกตัวอีกที่ก็ช่วงเช้ามืดอยู่ๆแฟนก็พลิกมากอดเราแน่นมาก เรารู้สึกอึดอัดเลยถามไปเสียงงัวเงียว่ามีอะไรหรือเปล่า แฟนก็เงียบไม่พูดอะไร. ผมก็งง แต่ด้วยความง่วงมากกว่าก็เลยนอนต่อ
จนกระทั่งสายๆวันนั้นเราก็ตื่นนอนกัน ก็เตรียมจะออกไปหาอะไรกินกัน แฟนก็แต่งตัวไป ผมอาบน้ำเสร็จก็เดินเข้าห้องมา ผมก็ถามแฟนอีกครั้งว่า เมื่อคืนเป็นอะไร แฟนก็มองหน้าผมเขาก็เหมือนไม่กล้าที่จะเล่า เพราะเขารู้ว่าผมเป็นคนกลัวผีเป็นทุนอยู่แล้ว แต่ผมเป็นคนชอบฟังเรื่องพวกนี้นะ ผมก็ขยั้นขยอ(เขียนถูกไหมไม่รู้) จนเธอยอมเล่า แล้วเธอก็เราว่า.
ปกติตึกที่ผมเช่าจะมา 4 ชั้น ระบบประตูทางเข้าตึกจะต้องเปิดด้วยคีการ์ดเท่านั้น ทางขึ้นก็จะมาศาลเจ้าที่ตายายอยู่ ผมพักอยู่ชั้น 4 ในสุดขวามือ ซึ่งชั้นนึงจะมีประมาน 11 ห้อง รวมทั้ง 2 ฝั่ง ด้านหน้าห้องจะเป็นบานเกร็ด 2 บาน ถัดมาก็จะเป็นประตูห้อง พอดันประตูเปิดเข้าห้องมาปุ๊บ ทางขวาจะเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต ทางซ้ายก็จะเป็นตู้เสื้อผ้าก็จะเหลือทางเดินไม่มาก ถัดจากตู้เสื้อผ้าก็จะเป็นโต๊ะคอม แล้วก็ถัดไปจะเป็นโต๊ะพระ(ของค่อนข้างเยอะเลยแหละ)
ที่นี้แฟนเราว่า เมื่อคืนแฟนผมเขานอนไม่ค่อยหลับเขาก็นอนพลิกไปพลิกมาจะกระทั่งคล้อยหลีบไปตอนไหนไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกที่ช่วงประมานตี5 ที่ตื่นเพราะห้องตรงข้ามเขาจะไปทำงานช่วงนี้ประจำ แล้วเขาจะล็อคประตูเสียงดัง แฟนผมก็เลยรู้สึกตัว แต่ด้วยความง่วงบวกกับความเพลียก็เลยเคลิมๆ จะหลับ ก็มีความรู้สึกว่า เหมือนมีคนเดินขยี้ถุงพลาสติกเดินไปเดินมาวนเวียนอยู่หน้าห้องประมาน 3 -4 รอบ แฟนก็นอนฟังนะ สักพักเสียงถุงพลาสติกก็เงียบไป แล้วก็มีเสียงบิดลูกบิดประตูดังขึ้น แกร็ก ๆ แกร็กๆ เปิดไม่ได้ห้องถูกล็อคจากด้านใน หลังจากเสียงบิดลูกบิดเงียบไปสักครู่ก็กลายเป็นเสียงคนตะโกนมาไกลๆว่า "กูไปแล้วนะโว้ย สองคนดูแลกันให้ดีๆนะ" แฟนบอกจำได้แม่นเลยว่าเป็นเสียงของเพื่อนผม เสียงมันจะเล็กๆ แหบๆ แห้งๆ แฟนผมเริ่มกลัวแล้ว รู้แล้วว่าตัวเองกำลังเจออะไร แฟนยังเล่าต่อว่า หลังจากสิ้นเสียงเพื่อนผมที่มันตะโกนบอก ซึ่งผมที่นอนอยู่ชิดติดกับกำแพงก็ลุกขึ้นมาแล้ววิ้งข้ามตัวแฟนที่นอนอยู่ด้านริมไปเปิดประตู้ออก แล้วหันมาพูดกับแฟนว่า "ไม่เห็นจะมีอะไรเลย" แล้วแฟนก็บอกจะเปิดทำไม ปิดประตูเดี๋ยวนี้ ผมกำลังจะปิดประตูเลย แฟนบอกผมกับแฟนมองลงไปที่พื้น เห็นเพื่อนผมนั้งที่พื้นในสภาพที่ไม่มีขา โดยที่มันใช้มือทั้ง 2 ข้าง พยามยกตัวมันเองแล้วถัดตัวมาเพื่อที่จะเข้ามาในห้อง ผมกับแฟนถอยหลังไปจะสุดประตูหลังห้อง แฟนร้องให้ เพื่อนผมมาหยุดข้างเตียง แฟนผมพูดขึ้นว่า "ไปสูสุขติเถอะ กูสองคนอยู่ได้กูกลัว" แล้วมันก็ยิ้ม แล้วแฟนผมก็สดุงมากอดผม อย่างที่ผมบอกไปแหละครับ (จริงๆผมยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมคิดว่าแฟนผมน่าจะโดนเพื่อนผมมาอำมากกว่า เหมืนมันมาสือกับผมไม่ได้เลยมาหาแฟนผมแทน แฟนก็บอกนะว่าตอนที่ได้ยินเสียงคนขยี้ถุงพลาสติก เขาก็ขยับตัวไม่ได้ตั้งแต่ตอนนั้น) พอแฟนเล่าจบผมนี่หลอนเลย
หลอนตรงไหน หลอนตรงที่มันเกิดขึ้นที่ห้องของตัวเองนี่แหละ คือทุกอย่างมันเป๊ะมากอ่ะ ทั้งรูปร่างที่แฟนบอก ทั้งสถานที่ ทั้งองประกอบ คือมันเกิดขึ้นที่ห้องเรา
แต่ยังไม่จบแค่นี้นะ ยังมีคืนที่สองอีก ไม่รู้ยังมีคนอยากอ่านอยู่ไหม จริงๆเป็นคนเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งอ่ะ พิมพ์ผิดไปบ้างขออภัยคนอ่านด้วยนะครับ แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์ และอยากให้เป็นอุทาหรณ์ด้วยว่า ขับรถอย่าประมาทนะครับไม่ว่าจะขับรถเก่ง รถเล็กหรือรถใหญ่ ถ้าพลาดมาก็ สูญเสียได้เหมือนกัน
ขอบคุณนะครับที่อ่านจนจบ ถ้ามีเวลาจะมาเล่าคืนที่ 2 และที่พวกเพื่อนๆเจอ รวมถึงพ่อของผมด้วยให้ฟัง
ประสบการณ์ที่น่ากลัว ผมให้ชื่อเรื่องนี้ว่า "เพื่อน"
ถ้าย้อนกลับไปช่วงปลายปี 58 จะมีข่าวว่ามีรถบรรทุก10 ล้อ ชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อด้วยกัน เหตุเกิดที่สะพานวงแหวน ฯ ขาลง จนมีเหตุทำให้ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย นั่นก็คือเพื่อนผมเอง
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นทำให้เพื่อนของผมถูกตัดขาทั้ง 2 ข้าง แล้วนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ. นานร่วมครึ่งปี
ผมและเพื่อนในกลุ่มก็ได้ไปเยี่ยมมันบ้าง พอเห็นสภาพมันที่นอนบนเตียง ใส่เครื่องช่วยหายใจ ให้เลือด และที่น่าใจหายที่สุดคือ ผมมองไปที่ช่วงขามัน มันมีแต่ความว่างเปล่าโดยมีแค่ผ้าห่มของ รพ. คลุมไว้เท่านั้น เราในฐานะเพื่อน ที่ กิน เที่ยว เล่น มาด้วยกันแต่เด็ก พอมาเห็นมันอยู่ในสภาพนี้ก็รู้สึกหดหู่ใจมากๆ ซ้ำสองแฟนมันยังไปมีแฟนใหม่อีกในช่วงที่เพื่อนผมนอนรักษาตัวที่ รพ. ผมกับแฟนแล้วก็เพื่อนๆที่ไปเยี่ยมก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่าการให้กำลังใจมัน แต่ทุกคนก็ยังปิดเรื่องของแฟนมันอยู่เพราะแค่นี้สภาพจิตรใจมันก็แย่พอแล้ว
หลังจากรักษาตัวอยู่ที่ รพ. นานกว่าครึ่งปี ในที่สึดก็เสียชีวิตลงด้วยอายุเพียง 30 เท่านั้น ผมและเพื่อนๆรู้ข่าวต่างก็ตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อีกใจก็คิดว่าหมดเวรหมดกรรม จะได้ไม่ต้องทรมานทั้งกายและใจของตัวมันเอง
บ่ายของอีกวันศพได้ถูกนำมาที่วัดแถวบ้านเพื่อนทำพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรม ผมจำได้วันนั้นผมเข้ากะดึกสุดท้ายกับแฟนผมเข้า2 ทุ่ม ซึ่งผมกับแฟนก็ได้ไปรดน้ำศพมันด้วย แต่ไม่ได้ฟังสวดเพราะผมต้องทำงานซึ่งคืนแรกก็ผ่านไปปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คืนต่อมาซึ่งตรงกับวันหยุดของเราพอดีผมกับแฟนก็โทรนัดเพื่อนๆของผมว่าจะไปวัดกันกี่โมงพอตกลง เย็นวันนั้นเราก็ไปวัดฟังสวดพูดคุยกันเป็นปกติ จนกระทั่งสวดเสร็จทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ผมกับแฟนก็กำลังจะขึ้นรถก็มีเพื่อนผมอีกคนนึงทักขึ้นมาว่า
"จะกลับไม่ไปจุดธูปบอกมันหน่อยว่ะ" ผมก็เลยบอกไปว่า "กูจุดธูปบอกมันแล้วตอนกูมา มันคงรู้แล้วแหละคงไม่ต้องจุดแล้ว" ผมก็พูดแค่นี้แล้วก็เดินขึ้นรถกับแฟนก็ขับกลับห้อง (ปล. ผมพักอยู่ห้องเช่านะครับ ห้องเช่าผมก็อยู่ล่ะแวกนั้นไม่ไกลจากวัดมาก ประมาน3 กิโล)
พอมาถึงก็ปกติของคนไปงานศพมา มาถึงก็อาบน้ำล้างหน้าล้างตา ป่ะแป้ง แล้วก็มานอนดูนู้น นี่ นั่น ตามประสาคนหยุด โดยที่เราสองคนไม่ได้คุยเรื่องเพื่อนผมเลยเพราะผมกลัว (แหม ใครตายจะเท่าเพื่อนตายใช่ไหมครับ)
โดยปกติผมจะเป็นคนนอนดึกส่วนแฟนก็จะหลับก่อนตลอด แต่คืนนั้นผมรู้สึกเพลีย ด้วยที่ว่าเราออกกะมาตอนเช้า บ่ายเราก็ตื่นมาหาอะไรกิน เย็นเราก็ไปฟังสวด
ก็เลยรู้สึกเพลียนิดๆ แล้วก็หลับกันไปตอนไหนไม่รู้
รู้สึกตัวอีกที่ก็ช่วงเช้ามืดอยู่ๆแฟนก็พลิกมากอดเราแน่นมาก เรารู้สึกอึดอัดเลยถามไปเสียงงัวเงียว่ามีอะไรหรือเปล่า แฟนก็เงียบไม่พูดอะไร. ผมก็งง แต่ด้วยความง่วงมากกว่าก็เลยนอนต่อ
จนกระทั่งสายๆวันนั้นเราก็ตื่นนอนกัน ก็เตรียมจะออกไปหาอะไรกินกัน แฟนก็แต่งตัวไป ผมอาบน้ำเสร็จก็เดินเข้าห้องมา ผมก็ถามแฟนอีกครั้งว่า เมื่อคืนเป็นอะไร แฟนก็มองหน้าผมเขาก็เหมือนไม่กล้าที่จะเล่า เพราะเขารู้ว่าผมเป็นคนกลัวผีเป็นทุนอยู่แล้ว แต่ผมเป็นคนชอบฟังเรื่องพวกนี้นะ ผมก็ขยั้นขยอ(เขียนถูกไหมไม่รู้) จนเธอยอมเล่า แล้วเธอก็เราว่า.
ปกติตึกที่ผมเช่าจะมา 4 ชั้น ระบบประตูทางเข้าตึกจะต้องเปิดด้วยคีการ์ดเท่านั้น ทางขึ้นก็จะมาศาลเจ้าที่ตายายอยู่ ผมพักอยู่ชั้น 4 ในสุดขวามือ ซึ่งชั้นนึงจะมีประมาน 11 ห้อง รวมทั้ง 2 ฝั่ง ด้านหน้าห้องจะเป็นบานเกร็ด 2 บาน ถัดมาก็จะเป็นประตูห้อง พอดันประตูเปิดเข้าห้องมาปุ๊บ ทางขวาจะเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต ทางซ้ายก็จะเป็นตู้เสื้อผ้าก็จะเหลือทางเดินไม่มาก ถัดจากตู้เสื้อผ้าก็จะเป็นโต๊ะคอม แล้วก็ถัดไปจะเป็นโต๊ะพระ(ของค่อนข้างเยอะเลยแหละ)
ที่นี้แฟนเราว่า เมื่อคืนแฟนผมเขานอนไม่ค่อยหลับเขาก็นอนพลิกไปพลิกมาจะกระทั่งคล้อยหลีบไปตอนไหนไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกที่ช่วงประมานตี5 ที่ตื่นเพราะห้องตรงข้ามเขาจะไปทำงานช่วงนี้ประจำ แล้วเขาจะล็อคประตูเสียงดัง แฟนผมก็เลยรู้สึกตัว แต่ด้วยความง่วงบวกกับความเพลียก็เลยเคลิมๆ จะหลับ ก็มีความรู้สึกว่า เหมือนมีคนเดินขยี้ถุงพลาสติกเดินไปเดินมาวนเวียนอยู่หน้าห้องประมาน 3 -4 รอบ แฟนก็นอนฟังนะ สักพักเสียงถุงพลาสติกก็เงียบไป แล้วก็มีเสียงบิดลูกบิดประตูดังขึ้น แกร็ก ๆ แกร็กๆ เปิดไม่ได้ห้องถูกล็อคจากด้านใน หลังจากเสียงบิดลูกบิดเงียบไปสักครู่ก็กลายเป็นเสียงคนตะโกนมาไกลๆว่า "กูไปแล้วนะโว้ย สองคนดูแลกันให้ดีๆนะ" แฟนบอกจำได้แม่นเลยว่าเป็นเสียงของเพื่อนผม เสียงมันจะเล็กๆ แหบๆ แห้งๆ แฟนผมเริ่มกลัวแล้ว รู้แล้วว่าตัวเองกำลังเจออะไร แฟนยังเล่าต่อว่า หลังจากสิ้นเสียงเพื่อนผมที่มันตะโกนบอก ซึ่งผมที่นอนอยู่ชิดติดกับกำแพงก็ลุกขึ้นมาแล้ววิ้งข้ามตัวแฟนที่นอนอยู่ด้านริมไปเปิดประตู้ออก แล้วหันมาพูดกับแฟนว่า "ไม่เห็นจะมีอะไรเลย" แล้วแฟนก็บอกจะเปิดทำไม ปิดประตูเดี๋ยวนี้ ผมกำลังจะปิดประตูเลย แฟนบอกผมกับแฟนมองลงไปที่พื้น เห็นเพื่อนผมนั้งที่พื้นในสภาพที่ไม่มีขา โดยที่มันใช้มือทั้ง 2 ข้าง พยามยกตัวมันเองแล้วถัดตัวมาเพื่อที่จะเข้ามาในห้อง ผมกับแฟนถอยหลังไปจะสุดประตูหลังห้อง แฟนร้องให้ เพื่อนผมมาหยุดข้างเตียง แฟนผมพูดขึ้นว่า "ไปสูสุขติเถอะ กูสองคนอยู่ได้กูกลัว" แล้วมันก็ยิ้ม แล้วแฟนผมก็สดุงมากอดผม อย่างที่ผมบอกไปแหละครับ (จริงๆผมยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมคิดว่าแฟนผมน่าจะโดนเพื่อนผมมาอำมากกว่า เหมืนมันมาสือกับผมไม่ได้เลยมาหาแฟนผมแทน แฟนก็บอกนะว่าตอนที่ได้ยินเสียงคนขยี้ถุงพลาสติก เขาก็ขยับตัวไม่ได้ตั้งแต่ตอนนั้น) พอแฟนเล่าจบผมนี่หลอนเลย
หลอนตรงไหน หลอนตรงที่มันเกิดขึ้นที่ห้องของตัวเองนี่แหละ คือทุกอย่างมันเป๊ะมากอ่ะ ทั้งรูปร่างที่แฟนบอก ทั้งสถานที่ ทั้งองประกอบ คือมันเกิดขึ้นที่ห้องเรา
แต่ยังไม่จบแค่นี้นะ ยังมีคืนที่สองอีก ไม่รู้ยังมีคนอยากอ่านอยู่ไหม จริงๆเป็นคนเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งอ่ะ พิมพ์ผิดไปบ้างขออภัยคนอ่านด้วยนะครับ แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์ และอยากให้เป็นอุทาหรณ์ด้วยว่า ขับรถอย่าประมาทนะครับไม่ว่าจะขับรถเก่ง รถเล็กหรือรถใหญ่ ถ้าพลาดมาก็ สูญเสียได้เหมือนกัน
ขอบคุณนะครับที่อ่านจนจบ ถ้ามีเวลาจะมาเล่าคืนที่ 2 และที่พวกเพื่อนๆเจอ รวมถึงพ่อของผมด้วยให้ฟัง