ชีวิตป.โท ณ ประเทศจีน "จากเด็กสายภาษาสู่กฎหมายระหว่างประเทศ !!"
สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกท่าน กระทู้นี้ถือเป็นกระทู้แรกสำหรับเว็ปไซต์แห่งนี้ ขออนุญาตใช้พื้นที่เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ให้แก่เพื่อน ๆ ชาวพันทิปที่กำลังสนใจหรือมองหาข้อมูลการเรียนต่อป.โท หรือการใช้ชีวิตภายในประเทศจีน ให้ได้รับรู้กันแบบถึงพริกถึงขิง ด้วยหัวข้อกระทู้ที่ว่า “ ชีวิตป.โท ณประเทศจีน จากเด็กสายภาษาสู่กฎหมายระหว่างประเทศ !! ”
เห็นหัวข้อกระทู้แล้วรู้สึกว่ามันดูไม่เข้ากันใช่ไหมคะ...หรือบางคนอาจเกิดคำถามว่าเป็นไปได้หรือ? ?
กระทู้นี้จะอัพยาวหน่อยนะคะ มีเรื่องราวพร้อมภาพประกอบให้ได้อ่านกันเพลิน ๆ (?) รับรองว่าจะได้รับความรู้ ประโยชน์สาระที่ท่านอาจกำลังตามหาอยู่ ไม่มากก็น้อยค่ะ ^_^
กระทู้นี้จะแชร์ประสบการณ์อะไรบ้าง ?? ขอแบ่งเป็นพาร์ทตามนี้เลยจ้ะ
VVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVV
- ทำอย่างไรถึงได้ไปเรียนที่ประเทศจีน ( แบบฟรี ๆ )
- ความรู้สึกต่อมหาวิทยาลัยที่ให้ จขกท. ได้สะสมความรู้อยู่ ณ ตอนนี้
- ล้วงลึกการเรียน (กฎหมายระหว่างประเทศ) ร่วง หรือ รอด!!?
- ความความเห็นส่วนตัวต่อประเทศจีน ผู้คน วัฒนธรรม การใช้ชีวิต
- อื่น ๆ ( เทคโนโลยี การคมนาคม ความทันสมัย เป็นต้น )
Part 1 - ทำอย่างไรถึงได้ไปเรียนที่ประเทศจีน ( แบบฟรี ๆ )
ขอเริ่มต้นด้วยการแนะนำประเภททุนที่ทำให้ จขกท. ได้ไปศึกษาปริญญาโท ณ ประเทศจีนแดนมังกรกันก่อนนะคะ จขกท. ทำการยื่นขอทุนศึกษาต่อในระดับปริญญาโทด้วยประเภททุนรัฐบาลจีนค่ะ หรือเพื่อน ๆ อาจเคยได้ยินกันในนามทุน CSC ( เด็กภาษาจีนจะรู้กันดีว่าทุนเพื่อศึกษาต่อในประเทศจีนแบบฟรี ๆ หลัก ๆ จะมีทุนของ ขงจื้อ และ CSC ค่ะ )
* กระทู้นี้ จขกท. ขอเอ่ยถึงเฉพาะรายละเอียดทุนประเภท CSC เท่านั้นเน้อ
ข้อดีของทุนประเภท CSC คือ!?
⚫ นอกจากคุณจะสามารถมุ่งตรงเลือกมหาวิทยาลัยใฝ่ฝันได้ด้วยตนเองแล้วนั้น สนใจอยากเรียนคณะใดก็จัดไปโล้ดเลยจ้า!! ( ในขณะที่ทุนขงจื้อส่วนมากจะเน้นไปที่ทุนคณะประเภทแนวการศึกษา การสอนภาษา )
⚫ ฟรีค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร! ( อันนี้จัดว่าเด็ดมาก *.*) ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าหอพัก ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ แถมยังมีเงินเข้าบัญชีให้ทุกเดือนเท่าฐานเงินเดือนขั้นต่ำบ้านเราเลยค่ะ ( สำหรับหลักสูตรป.โท ได้ 3,000 หยวน เท่ากับ ประมาณ 15,000 บาทค่ะ )
⚫ ทุนประเภท CSC เป็น “ทุนเปล่า !” ทุนเปล่าในที่นี้คือ มีแต่ได้กับได้แบบของจริง หน้าที่ของคุณหลังจากได้รับโอกาสทุนการศึกษานี้แล้วคือตั้งใจเรียนให้จบอย่างเดียวค่ะ (แต่ถ้าสอบไม่ผ่าน หรือเรียนไม่จบตามกำหนดหลักสูตรที่เขากำหนดไว้ก็ถูกส่งกลับประเทศนะเออ) ไม่มีเงื่อนไขให้ชดใช้หรือไปทำงานตอบแทนทุน อทิเช่น การต้องกลับมาเป็น ครู ต่อให้เรียนไม่จบและถูกส่งกลับประเทศเสียก่อน ก็ไม่ต้องชดใช้ใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ !
ข้อเสียของทุนประเภท CSC คือ!?
หลัก ๆ ต้องดำเนินการติดต่อทางมหาวิทยาลัยด้วยตนเอง คุยเอง เจรจาเอง ติดตามข้อมูลข่าวสารเบื้องต้นเบื้องลึกด้วยตนเอง ยากต่อผู้ไม่มีพื้นฐานภาษาจีน หรือภาษาอังกฤษก็ไม่แข็งแรง รวมไปถึงการรวบรวมเอกสารสมัครทุนและจัดส่งซึ่งเป็นขั้นตอนที่เหนื่อยจริงค่ะ เพราะเราต้องดำเนินการด้วยตนเองทั้งหมด แต่ถึงอย่างไรก็คุ้มค่าค่ะ! ^^
** ต้องการทราบรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมหรือสงสัยเกี่ยวกับเรื่องทุนประเภท CSC หลังไมค์ได้ค่ะ ^___^
FB : Pantipa Ruangsumboon
IG : bbrownmic
เอาล่ะ! รู้จักรายละเอียดทุนที่ จขกท. อาศัยมาสร้างเสริมความรู้และประสบการณ์ในชีวิตกันไปแล้ว ทีนี้มาดูกันว่า
ทำอย่างไรถึงจะคว้าทุนนี้มาครอบครองได้!!
อันดับแรก เลือกมหาวิทยาลัยและคณะในฝันของตนเองกันเลยจ้า... สำหรับตัว จขกท.เอง เลือก มหาวิทยาลัยหนานไค (Nankai University) คณะกฎหมาย สาขากฎหมายระหว่างประเทศค่ะ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองเทียนจินค่ะ ( Tianjin ) เหตุผลที่เลือกที่นี่เหตุผลแรกเลยคือมีเพื่อนเรียนอยู่ก่อนหน้าแล้วค่ะ และพอนำชื่อมหาวิทยาไปเสริทอันดับ ชื่อมหาวิทยาลัยนี้ก็ถือว่าติดอันดับต้น ๆ ของประเทศจีนด้วยเช่นกัน จัดว่าดีงาม...
ขั้นตอนต่อไป....ต้องทำการลงทะเบียนผ่านเว็บ
http://laihua.csc.edu.cn เพื่อกรอกรายละเอียดและข้อมูลต่าง ๆ ที่ทาง CSC ได้กำหนดไว้ รวมไปถึงการอัพโหลดไฟล์เอกสารค่ะ
ปล. จขกท. ขอแนะนำให้ติดตามข้อมูลการสมัครหรือพูดคุยเกี่ยวกับทุนได้ที่ FB : Thai CSC ลิงค์ >>
https://www.facebook.com/groups/thaicscstudents/ (เป็นกลุ่ม Private นะคะ ) ช่วยได้เยอะเลยค่ะสำหรับมือใหม่ตามล่าทุน ^^
แล้วเอกสารที่ต้องใช้ส่งไปสมัครกับทางมหาวิทยาลัยล่ะ?
1. รูปถ่าย
2. เอกสารรับรองจบการศึกษาขั้นสูงสุด (ทั้งตัวจริงและสำเนา)
3. เอกสารแสดงผลการศึกษา (ทรานสคริป) ( ทั้งตัวจริงและสำเนา)
4. Study plan ( อารมณ์ประมาณแผนการเรียนของเรา ว่าทำไมถึงอยากเรียนคณะนี้ เป็นต้น ติดต่อขอดูตัวอย่างจาก จขกท. ได้ค่ะ ถ้ายังมองไม่ออกว่าต้องเขียนอย่างไร )
5. จดหมายรับรองจากอาจารย์ 2 ท่าน ค่ะ ( เน้นว่าอาจารย์ต้องจบระดับ Docter’s Degree นะคะ)
6. สำเนาหน้าพาสปอร์ต
7. ผลการตรวจร่างกาย
8. ผลงานศิลปะ ( สำหรับผู้ที่ต้องการยื่นศึกษาต่อในสาขาที่เกี่ยวกับ ศิลปกรรม การออกแบบ อะไรพวกนี้ค่ะ )
9. ใบเสร็จการชำระข้าสมัครทุนพร้อมสำเนาแบบถ่ายเอกสาร ( บางมหาวิทยาลัยจะมีค่าสมัครทุนด้วยค่ะ )
10. อื่น ๆ อทิเช่น สำเนาประกาศนียบัตร , สำเนาผลการสอบ HSK เป็นต้น
เตรียมเอกสารครบพร้อมแล้วก็จัดส่งตามที่อยู่ของมหาวิทยาลัยที่เราต้องการสมัครโล้ดเลยจ้า !! ปล. จขกท. ใช้บริการการจัดส่งข้ามประเทศของ DHL ค่ะ บริการดีเลิศ ถึงไวหายห่วงเรื่องเอกสารตกหล่น แต่ค่าบริการก็โหดอยู่ ^^;;
จขกท.ส่งเอกสารทุนไปช่วงต้นเดือนมีนาคมค่ะ และทุนประกาศในช่วงเดือนมิถุนายน รอเหงือกแห้งอยู่เหมือนกัน ... ลำดับการพิจารณาทุนจะเป็นแบบ มหาวิทยาลัยคัดเลือกก่อน แล้วมหาวิทลัยส่งไปยัง CSC ให้คัดเลือกอีกที และถึงจะประกาศผลแบบทางการค่ะ
อันนี้คือหน้าตาของเอกสารที่ทางมหาวิทยาลัยส่งมาให้เพื่อที่เราจะนำไปใช้ยืนยันตัวตนเราว่าเป็นผู้ได้รับทุนตอนไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัยค่ะ
เดี๋ยวมาต่อ Part 2 นะคะ พาร์ทต่อไปจะได้เห็นหน้าตามหาวิทยาลัยที่ จขกท. ศึกษาอยู่ และ สภาพหอพัก ด้วยค่ะ
รับรองว่าอาจจะฉีกความคิดเดิม ๆ เกี่ยวกับหอพักนักเรียนในประเทศจีนไปเลยก็ได้ค่ะ ^.^
ชีวิตป.โท ณ ประเทศจีน "จากเด็กสายภาษาสู่กฎหมายระหว่างประเทศ !!"
สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกท่าน กระทู้นี้ถือเป็นกระทู้แรกสำหรับเว็ปไซต์แห่งนี้ ขออนุญาตใช้พื้นที่เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ให้แก่เพื่อน ๆ ชาวพันทิปที่กำลังสนใจหรือมองหาข้อมูลการเรียนต่อป.โท หรือการใช้ชีวิตภายในประเทศจีน ให้ได้รับรู้กันแบบถึงพริกถึงขิง ด้วยหัวข้อกระทู้ที่ว่า “ ชีวิตป.โท ณประเทศจีน จากเด็กสายภาษาสู่กฎหมายระหว่างประเทศ !! ”
เห็นหัวข้อกระทู้แล้วรู้สึกว่ามันดูไม่เข้ากันใช่ไหมคะ...หรือบางคนอาจเกิดคำถามว่าเป็นไปได้หรือ? ?
กระทู้นี้จะอัพยาวหน่อยนะคะ มีเรื่องราวพร้อมภาพประกอบให้ได้อ่านกันเพลิน ๆ (?) รับรองว่าจะได้รับความรู้ ประโยชน์สาระที่ท่านอาจกำลังตามหาอยู่ ไม่มากก็น้อยค่ะ ^_^
กระทู้นี้จะแชร์ประสบการณ์อะไรบ้าง ?? ขอแบ่งเป็นพาร์ทตามนี้เลยจ้ะ
VVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVVV
- ทำอย่างไรถึงได้ไปเรียนที่ประเทศจีน ( แบบฟรี ๆ )
- ความรู้สึกต่อมหาวิทยาลัยที่ให้ จขกท. ได้สะสมความรู้อยู่ ณ ตอนนี้
- ล้วงลึกการเรียน (กฎหมายระหว่างประเทศ) ร่วง หรือ รอด!!?
- ความความเห็นส่วนตัวต่อประเทศจีน ผู้คน วัฒนธรรม การใช้ชีวิต
- อื่น ๆ ( เทคโนโลยี การคมนาคม ความทันสมัย เป็นต้น )
Part 1 - ทำอย่างไรถึงได้ไปเรียนที่ประเทศจีน ( แบบฟรี ๆ )
ขอเริ่มต้นด้วยการแนะนำประเภททุนที่ทำให้ จขกท. ได้ไปศึกษาปริญญาโท ณ ประเทศจีนแดนมังกรกันก่อนนะคะ จขกท. ทำการยื่นขอทุนศึกษาต่อในระดับปริญญาโทด้วยประเภททุนรัฐบาลจีนค่ะ หรือเพื่อน ๆ อาจเคยได้ยินกันในนามทุน CSC ( เด็กภาษาจีนจะรู้กันดีว่าทุนเพื่อศึกษาต่อในประเทศจีนแบบฟรี ๆ หลัก ๆ จะมีทุนของ ขงจื้อ และ CSC ค่ะ )
* กระทู้นี้ จขกท. ขอเอ่ยถึงเฉพาะรายละเอียดทุนประเภท CSC เท่านั้นเน้อ
ข้อดีของทุนประเภท CSC คือ!?
⚫ นอกจากคุณจะสามารถมุ่งตรงเลือกมหาวิทยาลัยใฝ่ฝันได้ด้วยตนเองแล้วนั้น สนใจอยากเรียนคณะใดก็จัดไปโล้ดเลยจ้า!! ( ในขณะที่ทุนขงจื้อส่วนมากจะเน้นไปที่ทุนคณะประเภทแนวการศึกษา การสอนภาษา )
⚫ ฟรีค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร! ( อันนี้จัดว่าเด็ดมาก *.*) ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าหอพัก ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ แถมยังมีเงินเข้าบัญชีให้ทุกเดือนเท่าฐานเงินเดือนขั้นต่ำบ้านเราเลยค่ะ ( สำหรับหลักสูตรป.โท ได้ 3,000 หยวน เท่ากับ ประมาณ 15,000 บาทค่ะ )
⚫ ทุนประเภท CSC เป็น “ทุนเปล่า !” ทุนเปล่าในที่นี้คือ มีแต่ได้กับได้แบบของจริง หน้าที่ของคุณหลังจากได้รับโอกาสทุนการศึกษานี้แล้วคือตั้งใจเรียนให้จบอย่างเดียวค่ะ (แต่ถ้าสอบไม่ผ่าน หรือเรียนไม่จบตามกำหนดหลักสูตรที่เขากำหนดไว้ก็ถูกส่งกลับประเทศนะเออ) ไม่มีเงื่อนไขให้ชดใช้หรือไปทำงานตอบแทนทุน อทิเช่น การต้องกลับมาเป็น ครู ต่อให้เรียนไม่จบและถูกส่งกลับประเทศเสียก่อน ก็ไม่ต้องชดใช้ใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ !
ข้อเสียของทุนประเภท CSC คือ!?
หลัก ๆ ต้องดำเนินการติดต่อทางมหาวิทยาลัยด้วยตนเอง คุยเอง เจรจาเอง ติดตามข้อมูลข่าวสารเบื้องต้นเบื้องลึกด้วยตนเอง ยากต่อผู้ไม่มีพื้นฐานภาษาจีน หรือภาษาอังกฤษก็ไม่แข็งแรง รวมไปถึงการรวบรวมเอกสารสมัครทุนและจัดส่งซึ่งเป็นขั้นตอนที่เหนื่อยจริงค่ะ เพราะเราต้องดำเนินการด้วยตนเองทั้งหมด แต่ถึงอย่างไรก็คุ้มค่าค่ะ! ^^
** ต้องการทราบรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมหรือสงสัยเกี่ยวกับเรื่องทุนประเภท CSC หลังไมค์ได้ค่ะ ^___^
FB : Pantipa Ruangsumboon
IG : bbrownmic
เอาล่ะ! รู้จักรายละเอียดทุนที่ จขกท. อาศัยมาสร้างเสริมความรู้และประสบการณ์ในชีวิตกันไปแล้ว ทีนี้มาดูกันว่าทำอย่างไรถึงจะคว้าทุนนี้มาครอบครองได้!!
อันดับแรก เลือกมหาวิทยาลัยและคณะในฝันของตนเองกันเลยจ้า... สำหรับตัว จขกท.เอง เลือก มหาวิทยาลัยหนานไค (Nankai University) คณะกฎหมาย สาขากฎหมายระหว่างประเทศค่ะ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองเทียนจินค่ะ ( Tianjin ) เหตุผลที่เลือกที่นี่เหตุผลแรกเลยคือมีเพื่อนเรียนอยู่ก่อนหน้าแล้วค่ะ และพอนำชื่อมหาวิทยาไปเสริทอันดับ ชื่อมหาวิทยาลัยนี้ก็ถือว่าติดอันดับต้น ๆ ของประเทศจีนด้วยเช่นกัน จัดว่าดีงาม...
ขั้นตอนต่อไป....ต้องทำการลงทะเบียนผ่านเว็บ http://laihua.csc.edu.cn เพื่อกรอกรายละเอียดและข้อมูลต่าง ๆ ที่ทาง CSC ได้กำหนดไว้ รวมไปถึงการอัพโหลดไฟล์เอกสารค่ะ ปล. จขกท. ขอแนะนำให้ติดตามข้อมูลการสมัครหรือพูดคุยเกี่ยวกับทุนได้ที่ FB : Thai CSC ลิงค์ >> https://www.facebook.com/groups/thaicscstudents/ (เป็นกลุ่ม Private นะคะ ) ช่วยได้เยอะเลยค่ะสำหรับมือใหม่ตามล่าทุน ^^
แล้วเอกสารที่ต้องใช้ส่งไปสมัครกับทางมหาวิทยาลัยล่ะ?
1. รูปถ่าย
2. เอกสารรับรองจบการศึกษาขั้นสูงสุด (ทั้งตัวจริงและสำเนา)
3. เอกสารแสดงผลการศึกษา (ทรานสคริป) ( ทั้งตัวจริงและสำเนา)
4. Study plan ( อารมณ์ประมาณแผนการเรียนของเรา ว่าทำไมถึงอยากเรียนคณะนี้ เป็นต้น ติดต่อขอดูตัวอย่างจาก จขกท. ได้ค่ะ ถ้ายังมองไม่ออกว่าต้องเขียนอย่างไร )
5. จดหมายรับรองจากอาจารย์ 2 ท่าน ค่ะ ( เน้นว่าอาจารย์ต้องจบระดับ Docter’s Degree นะคะ)
6. สำเนาหน้าพาสปอร์ต
7. ผลการตรวจร่างกาย
8. ผลงานศิลปะ ( สำหรับผู้ที่ต้องการยื่นศึกษาต่อในสาขาที่เกี่ยวกับ ศิลปกรรม การออกแบบ อะไรพวกนี้ค่ะ )
9. ใบเสร็จการชำระข้าสมัครทุนพร้อมสำเนาแบบถ่ายเอกสาร ( บางมหาวิทยาลัยจะมีค่าสมัครทุนด้วยค่ะ )
10. อื่น ๆ อทิเช่น สำเนาประกาศนียบัตร , สำเนาผลการสอบ HSK เป็นต้น
เตรียมเอกสารครบพร้อมแล้วก็จัดส่งตามที่อยู่ของมหาวิทยาลัยที่เราต้องการสมัครโล้ดเลยจ้า !! ปล. จขกท. ใช้บริการการจัดส่งข้ามประเทศของ DHL ค่ะ บริการดีเลิศ ถึงไวหายห่วงเรื่องเอกสารตกหล่น แต่ค่าบริการก็โหดอยู่ ^^;;
จขกท.ส่งเอกสารทุนไปช่วงต้นเดือนมีนาคมค่ะ และทุนประกาศในช่วงเดือนมิถุนายน รอเหงือกแห้งอยู่เหมือนกัน ... ลำดับการพิจารณาทุนจะเป็นแบบ มหาวิทยาลัยคัดเลือกก่อน แล้วมหาวิทลัยส่งไปยัง CSC ให้คัดเลือกอีกที และถึงจะประกาศผลแบบทางการค่ะ
อันนี้คือหน้าตาของเอกสารที่ทางมหาวิทยาลัยส่งมาให้เพื่อที่เราจะนำไปใช้ยืนยันตัวตนเราว่าเป็นผู้ได้รับทุนตอนไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัยค่ะ
เดี๋ยวมาต่อ Part 2 นะคะ พาร์ทต่อไปจะได้เห็นหน้าตามหาวิทยาลัยที่ จขกท. ศึกษาอยู่ และ สภาพหอพัก ด้วยค่ะ
รับรองว่าอาจจะฉีกความคิดเดิม ๆ เกี่ยวกับหอพักนักเรียนในประเทศจีนไปเลยก็ได้ค่ะ ^.^