เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของผู้ใหญ่วัยเกือบ 50 ได้ไหมคะ และได้อย่างไรคะ

เล่าก่อนว่าที่บ้านของจขกท. เป็นสวนผลไม้ พ่อกับแม่ชอบทานทุเรียนมากกกกก (คิดว่าชอบสูสีกับหน้ากากทุเรียนเลยทีเดียว)
คือทานเป็นลูกๆ นี่เรื่องธรรมดามาก ชอบทั้งทานสด ทานกับข้าวเหนียวน้ำกระทิ หรือทำเป็นข้าวเหนียวทุเรียน ทานทุเรียนอย่างเดียวไม่พอ
ทานกับน้ำอัดลม (เป๊บซี่เท่านั้น) อีกต่างหาก ช่วงที่ไม่ใช่ฤดูผลไม้ก็ทานแต่น้ำเป๊บซี่ มีติดตู้เย็นตลอดเวลา ทั้งขวดเล็กและขวดใหญ่
    เรื่องทุเรียนเราห้ามไม่ค่อยได้ เพราะนึกเหตุผลไม่ออก แต่พอห้ามเป๊บซี่ เขาจะบอกว่าทำงานมาเหนื่อยๆ กินเป๊บซี่แล้วชื่นใจ (ซึ่งวันที่ไม่ได้ทำงานก็เห็นกินตลอด) แล้วนอกจากของโปรดสองอย่างนี้แล้ว พ่อกับแม่ก็ทานเยอะมากกกก หนักทุกมื้อ เช้า กลางวัน เย็น บางวันแถมมื้อดึกด้วย  

    ปกติจขกท. ทำงานอยู่กรุงเทพ แต่พอช่วงหลังๆ เห็นพ่อกับแม่อ้วนผิดปกติ คือแม่สูงแค่ร้อยห้าสิบกว่าๆ แต่น้ำหนักปาเข้าไป 63 แล้ว ส่วนพ่อนี่ก็พุงยื่นเป็นอาเสี่ยกันเลยทีเดียว แล้วพอไปฮ่องกงด้วยกัน พ่อเดินแทบไม่ได้เลย เดินแล้วก็บ่นว่าไม่ไหวๆ เราเลยรู้แล้วแหละว่าสุขภาพของพ่อกับแม่น่าจะมีปัญหา แม้ว่าตรวจสุขภาพล่าสุดจะยังไม่เป็นโรคอะไรก็ตาม แต่เราว่าถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป ไม่ดีแน่ๆ ค่ะ

   ตอนนี้จขกท. กลับบ้านบ่อยมาก (กลับบ่อยมา 2 วีคแล้ว) เพราะเป็นฟรีแลนซ์ อะไรที่ขนกลับบ้านได้ก็เอามาทำที่บ้าน เพื่อจะได้ดูแลสุขภาพให้พ่อและแม่  ทุกเช้าพอเขาตื่นก็จะให้ทานน้ำเปล่า ตามด้วยน้ำผลไม้สกัด ซึ่งจะเปลี่ยนเวียนไปตามผลไม้ที่หาได้ บางทีเป็นกีวี แอปเปิ้ล สับปะรด แตงโม ฝรั่ง ซึ่งจะใส่หัวหอมเข้าไปด้วย อันนี้เป็นสูตรที่เพื่อนบอกมาว่าช่วยลดคอเรสเตอรอล คือไม่ได้ทานให้ผอมนะคะ ให้เขาทานให้อิ่มจะได้ทานข้าวได้น้อยลง แล้วพอตอนเย็นที่กลับมาบ้านก็ให้ทานน้ำสกัดอีก (ให้ทานน้ำสกัดเพราะคิดว่าได้ประโยชน์ในปริมาณเยอะดี คือแยกกากออกไปเลย เพราะพ่อกับแม่ไม่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย) ก่อนนอนก็จะให้ทานอีกแก้ว วันหนึ่งประมาณ 3 แก้ว ซึ่งเรารู้สึกว่าก็ช่วยได้น้อยแหละ แต่ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย

   ส่วนกับข้าวที่ทานกัน ที่บ้านส่วนใหญ่จะทานน้ำพริกกับผักผัดน้ำมันบ้าง ผักสดบ้าง แล้วก็ไข่เจียว ตามด้วยต้มและแกงต่างๆ ซึ่งคิดว่าไม่ปรับให้ทานคลีนแน่นอนเพราะจะฝืนใจจนเกินไป ตอนนี้เลยมุ่งเน้นที่การออกกำลังกาย คิดว่าจะหาเครื่องปั่นจักรยานมาไว้ให้เขาปั่นที่บ้านกัน เพราะอ่านมาว่าเครื่องวิ่งทำให้ข้อเข่าเสีย

   หลังจากนี้อีกเดือนหนึ่ง เจ้าของกระทู้มีแพลนไปต่างประเทศ ก็จะไปประมาณ 5 เดือนเลย เลยกังวล(มากกกกก) กับพฤติกรรมของพ่อและแม่ที่กินเยอะ กินหนัก กินดึก  กินรสจัด กินของไม่ดี แล้วเราบอกแล้วบอกอีกก็ไม่ฟัง บอกแล้วก็ยังทำซ้ำ คือตำส้มตำกินกันถ้าไม่เฝ้าอยู่นี่ใส่น้ำตาลไปเป็นช้อนๆ
  จขกท ก็บอกทุกอย่าง บอกว่ารัก บอกว่าเป็นห่วง พูดก็บอกดีๆ ออดอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวานก็แล้ว เวลาทำของให้กินก็ประเคนถึงที่ แต่ลับหลังพ่อกับแม่ก็ยังแอบกินของไม่ดีอยู่ดี อันนี้เห็นมาจากซากขวดที่เหลือ หรือบางทีมีคนอื่นมาบอกมาเล่า


    เอาจริงๆ คือพ่อแม่เรายังไม่ป่วยค่ะ เลยอาจทำให้เขาไม่เดือดร้อน แต่เรารู้สึกว่าต้องรอให้ป่วยก่อนเหรอ แล้วค่อยรักษา คือเราก็รักเขามาก ไม่อยากให้เขาเป็นอะไรไป ตอนนี้แผนชีวิตจริงจังถึงขั้นที่พอกลับจากต่างประเทศมาแล้ว จะหางานแถวๆ บ้านทำ (ซึ่งเป็นบ้านนอกมาก สัญญาณโทรศัพท์ยังไม่ค่อยมี)  เพราะจขกท กำลังจะจบปริญญาโท ไปต่างประเทศก็เพื่อเรียนภาษา กลับมาก็น่าจะหาทางย้ายกลับมาที่บ้านได้ เพื่อที่จะได้ดูแลเขาต่อเนื่อง


   แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ใจของพ่อกับแม่เองค่ะ จะทำอย่างไรดีคะ ให้เขาเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน (ที่กินแบบนี้มาทั้งชีวิต)
ให้เขาดูแลสุขภาพตัวเองมากกว่าเดิม มีวิธีพูด ปฏิบัติ หรือทำอย่างไร มีใครเคยทำได้แล้วไหมคะ


    ปล.ถ้าเพื่อนๆ มีเคล็ดลับหรืออาหารเสริม หรืออะไรที่อยากแนะนำเพิ่มเติมให้ก็รบกวนด้วยนะคะ


ขอบคุณมากนะคะ บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่บอกตรงๆ ว่าตอนนี้เราเครียดมากจริงๆ
ยิ่งกลับมาอยู่บ้านแล้วเห็นการกินของเขา ยิ่งเครียดค่ะ T^T
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
พาท่านไปตรวจสุขภาพค่ะ คุณหมอคงบอกให้ลดน้ำหนัก
มาพร้อมเครื่องปั่นจักรยานแบบเอนปั่น  อย่าเพิ่งโวยวายหรือหักหาญน้ำใจกันนะคะ ....เอาไว้กลับจากต่างประเทศค่อยปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ดีมั๊ย ตอนนี้หาหนังสืออาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน หลอดเลือดหัวใจวางไว้ที่บ้านชุดนึง คุณจขกท.อ่านด้วยชุดนึง

ไม่อยู่ 5 เดือนให้พวกท่านลดน้ำหนักกันเองก่อน ท้ากันไว้เลยก็ได้ค่ะ ท้ากันเอาสนุก
กลับมาพวกท่านก็มีความรู้เรื่องลดน้ำหนักแล้วส่วนนึง คุณเองก็จะได้รู้ว่าอะไรที่พวกท่านทำได้ ทำไม่ได้
แล้วค่อยๆหาทางกับสิ่งที่พวกท่านห้ามใจตัวเองไม่ได้จริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่