[เดินตามความฝัน] ทัวร์ยุโรปตะวันออกกับเหล่ามอนสเตอร์ Maplestory

สวัสดีครับ หลังได้อ่านโพสของ คุณสันติ โหลทอง นายกสมาคมไทย E-Sport  และ คุณเสถียร บุญมานันท์ แห่ง Neolution E-Sport เลยเกิดแรงบันดาลใจตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา และก็เป็นอีก 1 เสียงที่อยากให้ E-Sport ได้เป็นกีฬาประจำชาติไทย

เกมออนไลน์ก็เป็นสังคมรูปแบบหนึ่ง เล่นแล้วได้เพื่อน ได้สังคม ได้ทีมแลกเปลี่ยนประสบการณ์วิชาความรู้ รวมทั้งได้ connection และการขยายสังคมออกไปสู่เกมต่างๆ ใครที่กำลังเรียนอยู่ก็รีบสร้างสิ่งเหล่านี้ไว้เลยครับ

หลายคนคงมีเป้าหมายในชีวิตที่อยากจะผจญภัยกับเกมที่ตัวเองชอบเล่นซักครั้ง ซึ่งผมเองก็มีครับนั่นคือเกม Maplestory นั่นเอง เกมออนไลน์ในตำนานที่ตอนนี้ไม่มีในบ้านเราละ ต้องเล่นของต่างประเทศเอา


สมัยเรียนผมก็เป็นเด็กติดเกม จนมีคนถามว่าจบไปจะทำอะไรกิน (ชีวิตผมอยู่บ้านก็นั่งเล่นเกม+กินมาม่า)
...ครับ จนบัดนี้ผมจบมาก็ยังต้มมาม่ากินเหมือนเดิม
.
.
.
.
เพิ่มเติมคือได้ทำตามความฝัน
วันนี้ผมจะพาทุกคนไปทัวร์ยุโรปตะวันออกกับเหล่ามอนสเตอร์ Maplestory กัน

ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้นั้นต้องมีโอกาส เวลา สุขภาพ และต้องอาศัย connection สายงานต่างๆ (คล้ายๆ ระบบ Skill Link ในเกม) และสปอนเซอร์เงินสนับสนุนจำนวนนึงครับ (เพราะต้องใช้ statement บัญชีจากธนาคาร ที่อยู่ ที่ทำงานที่สามารถตรวจสอบได้ พร้อมมีตราประทับบริษัทในการขอ Visa ครับ )


เปิดเพลงฟังประกอบครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ซึ่งผมวันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ไปผจญภัยแดนยุโรป กับ
เหล่าผองเพื่อนมี Slime, Pinkbean, Buffury, Orange Mushroom, และ Blue Snail ตามลำดับ


หลายคนอาจงงว่า Buffury ควายมีปีกตัวนี้คือตัวไร มันมาจาก Sticker Line อันแรกของผม ที่ได้แรงบันดาลใจในการวาดมาจากเกมนี้ และต่อยอดเป็นฟิกเกอร์
https://store.line.me/stickershop/product/1005924/en

เริ่มต้นมาสนามบินสุวรรณภูมิ เช็คอิน โหลดกระเป๋า ตรวจพาสปอร์ต ไรเรียบร้อย แล้วก็ออกเดินทางโดยเครื่องบินสายการบิน Qatar Airways


บนเครื่องบินมีเกมให้เล่น กดถอดจอยออกมาเล่นได้แบบ Nintendo Switch เลย และยังมีหนังมีเพลงให้ฟังเพียบ และดูกล้องจากเครื่องบินยังได้



ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชม.ไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินฮามัดกรุงโดฮา ประเทศกาต้าร์เพื่อทำการต่อเครื่องบินไปสนามบินมิวนิคที่เยอรมันอีกประมาณ 6 ชม.

ภายในสนามบิน


มีรถไฟฟ้าพาไปห้องรอขึ้นเครื่องแบบสนามบินคันไซ โอซาก้าด้วย ตอนปิดประตูนี่ไม่มีเสียงเลย


ก้าวแรกที่สนามบินมิวนิคเยอรมัน หนาวมาก ควันนี่ออกปาก


วันแรก
เริ่มต้นการผจญภัย ณ โฮเอนชวากอล เยอรมัน ที่นี่หิมะตกและยังเป็นที่ตั้งของปราสาทนอยชวานสไตน์ มาจากคำว่า neu = new แปลว่าใหม่ schwan = swan แปลว่าหงส์ stein = stone แปลว่าหิน ต้นแบบปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงในดิสนีย์แลนด์ บนหน้าผาสูงกว่า 200 เมตร ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบแคว้นบาวาเรีย ซึ่งต้องเดินทางไประยะทางก็ไกลใช้ได้อยู่ แต่ก็มีบริการรถม้าสำหรับคนขี้เกียจเดินครับ


ถ่ายรูปหมู่



ปราสาทนอยชวานสไตน์


Like a Mushroom Castle


คนมาเที่ยวที่นี่ก็เยอะเหมือนกัน แต่ข้างในปราสาทรูปเขาห้ามถ่าย แต่บอกเลยว่าข้างในนั้นอลังการงานสร้างมาก


ด้านล่างเป็นร้านขาหมูเยอรมัน


ขาหมูเยอรมันร้อนๆ กรอบนอก นุ่มใน และที่สำคัญต้องเตือนเรื่องผักที่อยู่ล่างหมู เรียกว่า "เซาอะกราว" เป็นผักดองที่ควรกินแต่น้อย หากกินหมดคุณต้องเตรียมพร้อมเรื่องการหาส้วมด้วย เพราะเป็นเหมือนยาระบายอ่อนๆ


เบียร์เยอรมันแท้ ไม่มีแอลกอฮอล์ ขวดนึง 3 ยูโร ที่เยอรมันเรียกออยโร ประมาณ 111 บาทไทย รสชาติจืดกว่าเบียร์ไทยนิดนึง


มุมมองจากบนเขา


ด้านล่างก็มีทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็ง แต่ผมไม่กล้าเดินไปไกล เพราะถ้าน้ำแข็งแตกขึ้นมา แล้วตกลงไป มันจะเปียก


ฮาย...เย็นได้แรงคาด


ชีวิตมันต้องเดินทางต่อไป

วันที่ 2 เดินทางมาถึงเมืองอินสบรูค ประเทศออสเตรีย แถบชายแดนเยอรมัน ที่นี่ไม่มีด่านตม. และน้ำมันรถถ้ามาเติมที่นี่จะถูกกว่าเติมที่เยอรมัน


ที่นี่มีระบบการขนส่งโดยระบบรถราง


เป็นเมืองเล็กๆ ท่ามกลางภูเขาหิมะ แม่น้ำที่นี่ใสมาก ไม่มีขยะเลย ด้านหลังเป็นเทือกเขาแอลป์

หอนาฬิกาแห่งหนึ่งในเมืองอินสบรูคออสเตรีย


แล้วก็มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านฮัลสตัท (หรือเรียกแบบไทยๆ ว่า "ฮาวสะตัด") หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางทะเลสาบ และขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลกล้อมรอบด้วยหุบเขา ในฤดูหนาวมีหิมะปกคลุม

ข้างล่างน้ำเย็นมาก+มีเป็ด หงส์ว่ายน้ำ


พาควายมาเล่นหิมะครับ


ฮาวสะตัด


เดินทางต่อไปยังเมือง ซอลสเบิร์กหรือซาลซ์บูร์กบ้านเกิดของคีตกวีระดับโลก Mozart


ย่านการค้าในเมือง อารมณ์แบบเดินสยามกึ่ง Terminal21


อนุเสาวรีย์ของ Mozart ชื่อนี้เปรียบเสมือนแบรนด์สินค้าในย่านนี้เลยทีเดียว


วิหารกลางเมืองอย่างใหญ่


ด้านหน้า


น้ำพุในเมืองสามารถดื่มได้


บ้านของ Mozart ปัจจุบันด้านล่างเป็นร้านขายของ


วันที่ 3 ก็เดินทางต่อไปยังเมืองแห่งหนึ่งที่อยู่สาธารณรัฐเช็ก และเป็นเมืองมรดกโลกชื่อ เชสกี้ครุมลอฟ ในภูมิภาคโบฮีเมีย


ที่นี่ข้างทางเป็นต้นเมเปิล และมีใบเมเปิลร่วงเต็มทางเป็นเหมือนพรม


จุดเด่นของเมืองนี้คือ คือมีแม่น้ำวอลตาวาไหลผ่านและล้อมรอบเมืองในลักษณะงอโค้งเป็นตัว S บ้านเรือนทุกหลังใช้หลังคาสีส้มแดง


หอคอยกลางเมือง


บรรยากาศในเมืองมีร้านขายของตามทาง


ปราสาทเชสกีครุมลอฟ และสาพานช้ามแม่น้ำ


จัตุรัสกลางเมือง


เจอ Maple Leaf 1 ใบ


จากนั้นก็เดินทางมายังกรุงปราก เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ที่นี่ใช้เงินโครน 72 โครน = 100 บาท


หอนาฬิกา


ร้านสะดวกซื้อที่นี่มีขายพวกกัญชาและบ้องกัญชาแบบถูกกฎหมายด้วยนะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่