น้องทุเลือกเอา set fire to the rain มาร้องในแบบป็อปโซลนะคะ คนละแนวกับของ Jordan ซึ่งร้องออกมาแนวป็อปผสมความเป็น Divo ชัดเจนที่เน้นพลังเสียงอลังการงานสร้างอะไรทำนองนั้น ถ้าเทียบจริงๆแล้วทุจะร้องออกมาในแนวใกล้เคียงของ Adele มากกว่าแต่หยิบท่อนพีคที่สุดของเพลงในเวอร์ชั่น Jordan มาผสมไว้ด้วย เพลงเดียวกัน ความหมายเหมือนกัน แต่ร้องออกมาคนละแนว ทำให้อารมณ์เพลงแตกต่างกันไปด้วย
เปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนคือเพลงมือปืน พี่ปูร้องในแนวเพื่อชีวิตจ๋าเลย ใส่อารมณ์แบบดิบๆแรงๆไม่ปรุงแต่ง อารมณ์เพลงที่ได้ดูโหดๆเถื่อนๆสะใจ แต่พอทุเอามาร้องและปรับใหม่ให้ซอฟท์ลง ร้องออกแนว R&B ผสมร็อค ทำให้เพลงมีความละมุนมากขึ้น อารมณ์เพลงไม่ดุดันเท่า ความหมายที่ได้ดูจะเปลี่ยนไปตามอารมณ์เพลงด้วย
สิ่งที่พิเศษที่สุดในเวอร์ชั่นของทุ สำหรับเราคือ การใช้เทคนิคการร้องเพลงโซลมาใส่ไว้ในเพลงนี้ด้วย เห็นได้ชัดคือ การเปิดเพลงด้วยการร้องโซลท่อนนั้น รวมไปถึงการลากเสียงคำให้มีความยืดหรือย้วย(ไม่ร้เรียกแบบนี้รึป่าว) ในหลายๆคำในเพลงนี้ เช่น fire ยืดเสียงให้ยาวกว่าปกติ นี่น่าจะเป็นการร้องในแบบโซล ถ้าจะถามหาความมันสะใจจากเพลงโซลคงยากค่ะ เพลงโซลน่าจะเน้นที่ความสละสลวยของท่วงทำนองและคำร้องที่เปล่งออกมามากว่า
หลายคนอาจมองว่าทุฟอร์มแผ่วลงไป อาจเพราะเหนื่อยหรือล้าอะไร แต่เรากลับคิดว่านี่เป็นความตั้งใจทำเพลงให้ออกมาแบบนี้ของเค้าเองเลย ใส่ความเป็นโซลในเพลงให้มีความแตกต่างจากเวอร์ชั่นอื่นๆ
ในเมืองไทยมีนักร้องแนวเพลงโซลน้อยมากนะ เป็นแนวเฉพาะกลุ่มจริงๆ จำได้ว่าทอมเคยไลฟ์แล้วบอกว่าแนวเพลงที่ตัวเองชอบมากที่สุดคือ R&B และ Soul ในชีวิตการทำงานจริงๆคงไม่มีโอกาสได้ทำเพลงโซล พอได้มารายการ TMS คงอยากจะทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำ และพอได้โอกาสนำ set fire to the rain มาร้องแข่ง เลยดีไซน์ให้ออกมาแนวนี้ซะเลย(เพลงของ Adele โดยพื้นฐานก็เป็นแนวป็อปโซลอยู่แล้วด้วย) ถือว่าท้าทายมากอ่ะ
สำหรับเราถือว่าเค้ามีลูกกล้าและลูกบ้าอยู่ในตัวเยอะ แนวคิดในการทำเพลงมีความเป็นอินเตอร์สูงมาก และเราคิดว่าเค้าประสบความสำเร็จไปอีกขั้นกับการท้าทายตัวเองในการเลือกทำเพลงโซลเพื่อมาใช้แข่งในรอบ semi final คนที่ทำงานอยู่ในแวดวงดนตรีอย่างครูหนึ่ง ครูอ้วน และพี่ตั๊กน่าจะรู้รายละเอียดเรื่องนี้ดี ถึงได้มีคำชมให้แบบนั้น
เพลงที่ทำให้ตกหลุมรักเจ้าทุคือ if I ain’t got you เพลงที่ชอบมากเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาเพลงที่ทุเอามาใช้แข่ง แต่ณ ตอนนี้ set fire to the rain กำลังจะแซงมาเป็นที่หนึ่งแทนละ ชอบความคิดทุในการทำเพลงนี้มาก มีเสน่ห์จริงๆ ขึ้นต้นเพลงมานี่จับใจมาก
Set Fire To The Rain ทอมทุเรียนอัพสกิลขึ้นมาอีกระดับหนึ่งละ(มองต่างมุม)
เปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนคือเพลงมือปืน พี่ปูร้องในแนวเพื่อชีวิตจ๋าเลย ใส่อารมณ์แบบดิบๆแรงๆไม่ปรุงแต่ง อารมณ์เพลงที่ได้ดูโหดๆเถื่อนๆสะใจ แต่พอทุเอามาร้องและปรับใหม่ให้ซอฟท์ลง ร้องออกแนว R&B ผสมร็อค ทำให้เพลงมีความละมุนมากขึ้น อารมณ์เพลงไม่ดุดันเท่า ความหมายที่ได้ดูจะเปลี่ยนไปตามอารมณ์เพลงด้วย
สิ่งที่พิเศษที่สุดในเวอร์ชั่นของทุ สำหรับเราคือ การใช้เทคนิคการร้องเพลงโซลมาใส่ไว้ในเพลงนี้ด้วย เห็นได้ชัดคือ การเปิดเพลงด้วยการร้องโซลท่อนนั้น รวมไปถึงการลากเสียงคำให้มีความยืดหรือย้วย(ไม่ร้เรียกแบบนี้รึป่าว) ในหลายๆคำในเพลงนี้ เช่น fire ยืดเสียงให้ยาวกว่าปกติ นี่น่าจะเป็นการร้องในแบบโซล ถ้าจะถามหาความมันสะใจจากเพลงโซลคงยากค่ะ เพลงโซลน่าจะเน้นที่ความสละสลวยของท่วงทำนองและคำร้องที่เปล่งออกมามากว่า
หลายคนอาจมองว่าทุฟอร์มแผ่วลงไป อาจเพราะเหนื่อยหรือล้าอะไร แต่เรากลับคิดว่านี่เป็นความตั้งใจทำเพลงให้ออกมาแบบนี้ของเค้าเองเลย ใส่ความเป็นโซลในเพลงให้มีความแตกต่างจากเวอร์ชั่นอื่นๆ
ในเมืองไทยมีนักร้องแนวเพลงโซลน้อยมากนะ เป็นแนวเฉพาะกลุ่มจริงๆ จำได้ว่าทอมเคยไลฟ์แล้วบอกว่าแนวเพลงที่ตัวเองชอบมากที่สุดคือ R&B และ Soul ในชีวิตการทำงานจริงๆคงไม่มีโอกาสได้ทำเพลงโซล พอได้มารายการ TMS คงอยากจะทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำ และพอได้โอกาสนำ set fire to the rain มาร้องแข่ง เลยดีไซน์ให้ออกมาแนวนี้ซะเลย(เพลงของ Adele โดยพื้นฐานก็เป็นแนวป็อปโซลอยู่แล้วด้วย) ถือว่าท้าทายมากอ่ะ
สำหรับเราถือว่าเค้ามีลูกกล้าและลูกบ้าอยู่ในตัวเยอะ แนวคิดในการทำเพลงมีความเป็นอินเตอร์สูงมาก และเราคิดว่าเค้าประสบความสำเร็จไปอีกขั้นกับการท้าทายตัวเองในการเลือกทำเพลงโซลเพื่อมาใช้แข่งในรอบ semi final คนที่ทำงานอยู่ในแวดวงดนตรีอย่างครูหนึ่ง ครูอ้วน และพี่ตั๊กน่าจะรู้รายละเอียดเรื่องนี้ดี ถึงได้มีคำชมให้แบบนั้น
เพลงที่ทำให้ตกหลุมรักเจ้าทุคือ if I ain’t got you เพลงที่ชอบมากเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาเพลงที่ทุเอามาใช้แข่ง แต่ณ ตอนนี้ set fire to the rain กำลังจะแซงมาเป็นที่หนึ่งแทนละ ชอบความคิดทุในการทำเพลงนี้มาก มีเสน่ห์จริงๆ ขึ้นต้นเพลงมานี่จับใจมาก