สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
คห.7
เรื่องอภิสิทธิ์นี่ มีการใช้เส้น สมรู้ร่วมคิดกันครับ
ปี 2530 เมื่อไม่ไปเกณฑ์ เจ้าหน้าที่เขาก็ระบุในหลักฐานว่า ขาดการตรวจเลือก
ซึ่งก็ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เรื่องนี้ หากพูดตามสไตล์นายชวน ก็ต้องบอกว่า เข้าใจว่า เจ้าหน้าที่เสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น
แต่เรื่องเงียบ
ขณะเดียวกัน ก็มีหนังสือจาก ทบ. ถึงกลาโหม
ขอเปิดตำแหน่งเป็นกรณีพิเศษเพื่อรับนายอภิสิทธิ์เข้าเป็นข้าราชการพลเรือนกลาโหม
เมื่อกลาโหมโอเค นายอภิสิทธิ์ก็ดอดไปสมัครรับราชการ โดยไม่มี สด.43 เป็นหลักฐาน
แล้วงุบงิบกันบรรจุเข้ารับราชการ แล้วอ้างว่า รับราชการแทนการเกณฑ์ทหาร
ต่อมา ปี 2531 ก็ใช้ สด.9 ปลอม เพราะหากใช้ สด.9 จริง จะชัดว่าหนีทหารเมื่อปี 30
ไปขึ้นทะเบียนเป็นนายทหารสัญญาบัตรกลาโหม เป็นนายร้อยเก๊
พอทุกอย่างลงตัว ก็ลาออกล่วงหน้า 7 เดือน เพื่อให้ระยะเวลาครบตามเกณฑ์การรับราชการแทนการเกณฑ์ทหาร
ส่งใบลาออกแล้ว ก็ลากิจตลอด 7 เดือน เพื่อรอให้ใบลามีผล
ซึ่งผู้มีบังคับบัญชา ก็อนุมัติทุกอย่างให้
ถ้ายังเห็นว่าปกติ ก็ตามสบายครับ
จนมาถึงปี 2542 ก็มีการยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ
ซึ่งก็มีการตรวจสอบ ลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการบรรจุอภิสิทธิ์เป็นข้าราชการ
เป็นแค่เจ้าหน้าที่ระดับล่าง แต่เหนือขึ้นไป ไม่มีอะไรในกอไผ่
และเรื่องไม่ถึงนายอภิสิทธิ์ เงียบหายไปกับสายลม
นายชวน ในฐานะ รมว.กลาโหม ผู้ได้รับเรื่องร้องเรียนโดยตรง
ทำอะไรอยู่ ?
แค่นี้ก่อนนะครับ มีธุระ
เรื่องอภิสิทธิ์นี่ มีการใช้เส้น สมรู้ร่วมคิดกันครับ
ปี 2530 เมื่อไม่ไปเกณฑ์ เจ้าหน้าที่เขาก็ระบุในหลักฐานว่า ขาดการตรวจเลือก
ซึ่งก็ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เรื่องนี้ หากพูดตามสไตล์นายชวน ก็ต้องบอกว่า เข้าใจว่า เจ้าหน้าที่เสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น
แต่เรื่องเงียบ
ขณะเดียวกัน ก็มีหนังสือจาก ทบ. ถึงกลาโหม
ขอเปิดตำแหน่งเป็นกรณีพิเศษเพื่อรับนายอภิสิทธิ์เข้าเป็นข้าราชการพลเรือนกลาโหม
เมื่อกลาโหมโอเค นายอภิสิทธิ์ก็ดอดไปสมัครรับราชการ โดยไม่มี สด.43 เป็นหลักฐาน
แล้วงุบงิบกันบรรจุเข้ารับราชการ แล้วอ้างว่า รับราชการแทนการเกณฑ์ทหาร
ต่อมา ปี 2531 ก็ใช้ สด.9 ปลอม เพราะหากใช้ สด.9 จริง จะชัดว่าหนีทหารเมื่อปี 30
ไปขึ้นทะเบียนเป็นนายทหารสัญญาบัตรกลาโหม เป็นนายร้อยเก๊
พอทุกอย่างลงตัว ก็ลาออกล่วงหน้า 7 เดือน เพื่อให้ระยะเวลาครบตามเกณฑ์การรับราชการแทนการเกณฑ์ทหาร
ส่งใบลาออกแล้ว ก็ลากิจตลอด 7 เดือน เพื่อรอให้ใบลามีผล
ซึ่งผู้มีบังคับบัญชา ก็อนุมัติทุกอย่างให้
ถ้ายังเห็นว่าปกติ ก็ตามสบายครับ
จนมาถึงปี 2542 ก็มีการยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ
ซึ่งก็มีการตรวจสอบ ลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการบรรจุอภิสิทธิ์เป็นข้าราชการ
เป็นแค่เจ้าหน้าที่ระดับล่าง แต่เหนือขึ้นไป ไม่มีอะไรในกอไผ่
และเรื่องไม่ถึงนายอภิสิทธิ์ เงียบหายไปกับสายลม
นายชวน ในฐานะ รมว.กลาโหม ผู้ได้รับเรื่องร้องเรียนโดยตรง
ทำอะไรอยู่ ?
แค่นี้ก่อนนะครับ มีธุระ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
การเมือง
นักการเมือง
คันหล่อ ขอสักทู้เหอะ เรื่องคำพูดนายชวน หลีกภัย ต่อกรณีคดีธัมมชโย ที่โยงใส่รัฐบาลไทยรักไทยเมื่อปี 2549
ที่หยิบยกคำพูดนายชวน หลีกภัย มาอ้างในกระทู้ ว่า
" ...เราเป็นนักการเมือง ถ้าให้ทำผิดหลักการเราทำไม่ได้ ตัวอย่างกรณี
เรื่องวัดพระธรรมกายที่เกิดในสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีคนมาร้อง
ว่าเอาที่ดินวัดใส่ในชื่อพระ ทำไม่ได้ ซึ่งเราต้องให้ความเป็นธรรมและ
ดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อหลักฐานชัดว่า ทางวัดมีความผิดอัยการก็
สั่งฟ้อง ทางวัดก็มาขอให้ตนช่วย แต่แต่บอกไปว่า ทำไม่ได้เพราะมี
พยานหลักฐานชัดเจน ต่อมา เขาใช้เวลาสืบพยาน 4-5 ปี ที่สุดอัยการ
ยกฟ้อง(ข้อเท็จจริงคือถอนฟ้อง)โดยบอกว่าได้นำที่ดินคืนไปแล้ว ซึ่งเข้า
ใจว่าคงเกิดจากความเกรงใจฝ่ายการเมืองในยุคต่อๆ มา เห็นได้ว่าหลัก
นิติธรรมไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาในทางปฏิบัติที่ตัวบุคคล..."
(อัยการฟ้องธัมมชโย ในปี 2542 กำลังสืบพยานในคดีในชั้นศาล ถึงปี 2549 อัยการก็ถอนฟ้อง คดียุติ
ด้วยเหตุผลเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ เห็นว่าธัมมชโยคืนที่ดินและเงินบริจาคแก่วัดแล้ว)
ขอซัดนายชวน สักนิดว่า
ปี 2542 นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี เป็น รมว.กลาโหม
นายกมล บันไดเพชร ฝ่ายกฎหมายพรรคความหวังใหม่ ได้ยื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบ
กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในขณะนั้น
หนีทหาร เข้ารับราชการโดยมิชอบ นายร้อยเก๊
(นายกมล บันไดเพชร เป็นอดีตข้าราชการกรมที่ดิน ที่ต้องลาออกจากราชการจากเหตุเรื่อง สปก.4-01 ในปี 2538
เพราะวิจารณ์ว่าการแจกที่ดินให้คนรวยนั้น ผิดกฎหมาย ผิดเจตนารมณ์ของ สปก. จนโดนฝ่ายการเมืองเขม่น จะหาเรื่องเล่นงาน
จึงชิงลาออกจากราชการ นายชวนปกป้องคนดีที่รักษาผลประโยชน์ของชาติไหม หรือปกป้องเทพเทือก)
แล้วนายชวนทำอะไร ?
ผลสอบถึงไหน ?
ทำไมนายอภิสิทธิ์อยู่รอดปลอดภัย จนรัฐบาลชวนยุบสภาไปเมื่อปลายปี 2543
ขณะที่ข้าราชการกระทรวงกลาโหมโดนสอบสวน โดนชี้ผิด โดนลงโทษในเรื่องนายอภิสิทธิ์
มีใครช่วยโอบอุ้มนายอภิสิทธิ์ ?
คนดีอย่างนายชวนตอบได้ไหม ?
เรื่องอภิสิทธิ์หนีทหาร มันชัด ชัดกว่าเรื่องธัมมชโย
เพราะนายชวน ในฐานะนายกฯ ในฐานะ รมว.กลาโหม เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง
ทั้งต่อนายอภิสิทธิ์ รมต.สำนักนายกฯ ที่แค่สอบถามกันก็ได้ว่า หนีทหารจริงไหม จะปรับออกจาก ครม. นะ
ทั้งต่อกระทรวงกลาโหม ที่นายอภิสิทธิ์หนีทหาร เข้ารับราชการโดยมิชอบ ทั้งปลอมเอกสารเป็นนายร้อยเก๊
หากนายชวนไม่อุ้ม จะเหลือเหรอ ?
ขณะที่เรื่องธัมมชโย
คดีความอยู่ในอำนาจของอัยการ ซึ่งสำนักงานอัยการ เป็นองค์กรอิสระ ไม่ได้อยู่ในอำนาจของฝ่ายการเมือง
การอ้างพล่อย ๆ ลอย ๆ โยนชั่วให้คนอื่นว่า ถอนฟ้องธัมมชโยเพราะเกรงใจฝ่ายการเมือง
มันก็คือนิสัยทางการเมืองของนายชวน ที่ทำแบบนี้ตลอดทั้งชีวิต
โยนชั่วใส่ทั้งอัยการ ทั้งรัฐบาลไทยรักไทย
พ.ย. 2540 นายชวนได้เป็นนายกฯครั้งที่ 2 ตั้งนายอภิสิทธิ์ เป็น รมต.สำนักนายกฯ
ด้วยเหตุผลว่า
ตั้งรีบตั้ง ก่อน รธน.2540 จะมีผลบังคับใช้ เพราะ รธน.40 มีบทบัญญัติให้รัฐมนตรีต้องอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี
นายอภิสิทธิ์อายุ 33 ปี จึงต้องรีบตั้งเป็นรัฐมนตรี ไม่งั้นนายอภิสิทธิ์ต้องรอไปอีกอย่างน้อย 2 ปี
ในทางการเมือง
เรื่องซื้อเสียง พวกตัวเองนั่นแหละโดนใบแดงมากกว่า(ไม่นับที่ กกต.ช่วยอีกเยอะ) แต่ทำตาใสพูดประจำว่า พวกผมไม่เคยซื้อเสียง
เรื่องพรรคการเมือง หากไม่มีอำนาจนอกระบบช่วย พรรค ปชป. โดนยุบไม่ต่ำกว่าสามครั้ง
เรื่องคอรัปชั่น นักการเมือง ปชป. นั่นแหละ ได้ฉายาว่า ไม่มีอาชีพอื่นนอกจากนักการเมือง แต่ร่ำรวยกันทั้งพรรค
(นายชวนผู้ซื่อสัตย์ จน แต่ลูกชายยังซื้อ BMW z4 คันละสี่ห้าล้านได้ ด้วยการอ้างว่ามีรายได้จากตู้สติ๊กเกอร์)
ชวน หลีกภัย ฉายา นักสร้างภาพ ช่างทาสี
เรื่องอัยการถอนฟ้องธัมมชโย
ปี 2549 อัยการก็ถอนฟ้องแป๊ะลิ้ม ในข้อหา 112
ถอนฟ้องหลังจากเกิดเหตุการณ์ 19 ก.ย. 2549 ด้วยเหตุผลเดียวกับการถอนฟ้องธัมมชโยนั่นแหละ
นายชวนเคยพูดอะไรสักคำไหม ? (ชวนนี่ สนิทสนมกับแป๊ะลิ้มสุด ๆ แป๊ะลิ้มเรียกว่า "พี่ชวน" ทุกคำ ต่างกับเรียกนักการเมืองคนอื่น)