[CR] คนบ้ารถไฟ พาแบกมอไซ ขึ้นรถไฟ ไปแว๊นกลางด้ามขวาน

สวัสดีครับ
เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมมีโอกาสพาจักรยานยนต์คู่ใจ ขึ้นรถไฟไปแว๊นเที่ยวภาคใต้ อยู่ 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง เพี้ยนแว๊น
รถจักรยานยนต์ของผมก็ไม่ใช่รถสำหรับเดินทางระยะไกลมาก แค่รถขี่ไปทำงานคันนึง เป็นเจ้า Yamaha Jupiter RC  115cc
โดยทริปนี้ ผมนำรถจักรยานยนต์ ระวางไปบนรถไฟ ทั้งขาไปและขากลับ เนื่องจากไม่ใช่สายแว๊นระยะไกลมาก ง่ายๆ ขี่ไม่ไหวอะนะ 55555+ หัวเราะ

ตอนนั้นเป็นกลางเดือนกุมภาพันธ์ ค่อนมาปลายเดือนและ ผมรู้สึกเบื่อหน่าย และเครียด กับงานที่ทำ เบื่อนาย ไม่มีความสุขจะทำงานเอาซะเลย แล้วตอนนั้นทำงานอยู่ๆโดนนายว่า ยิ่งทำให้เครียดเข้าไปอีก เอาไงล่ะ ว่าแล้วก็นึกอยากไปพักผ่อน อยากไปสูดอากาศบริสุทธิ์ เพราะที่ทำงานอากาศมันไม่บริสุทธิ์เอาซะเลย (ผมทำงานกับรถจักรดีเซล) นึกได้ก็อยากจะไปนอนที่คีรีวงซักคืน เคยไปที่นั้นเมื่อปีที่แล้วตอนนั้นยังเรียนอยู่ไม่เคยไปนอนค้างซักกะที เอาวะ ต้นเดือนนี้ขอลางานซัก 3 วัน ไปเที่ยวดีกว่าวุ๊ย แล้วจิตก็ฟุ้งซ่านไปเรื่อย อยากจะไปที่นู่นที่นี่ นึกขึ้นได้ก็เอาวะ เอามอไซคู่ใจ ไปด้วยแล้วกัน เอาไปแว๊นเที่ยวด้วยกัน ได้ไม่ต้องเสียเวลาต่อรถ
หลังจากนั้นไม่นานผมก็ได้รับคำสั่งให้ไปทำงานที่ราชบุรี 1คืน พักกลางวันเลยต้องกลับบ้านมาเตรียมเสื้อผ้า เสร็จแล้วก็กลับมาทำงานภาคบ่ายต่อ ระหว่างทางผ่านสถานีรถไฟบางบำหรุ เลยแวะเข้าไปจองตั๋วรถไฟ ขาไปก่อน
ตอนนั้นก็วางแผน จะแบกมอไซขึ้นรถไฟไปลงสุราษ แล้วค่อยขี่ไปนคร คีรีวง แล้วค่อยขี่กลับมา กทม. ก็เลยได้ตั๋วนี้มา
ตอนแรกผมก็ว่าจะขี่กลับนั่นแหละ พอนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวที่นั่นที่นี่แล้ว ก็เลยนึกเอา แบกขึ้นรถไฟ ทั้งไป ทั้งกลับ ก็ได้วะ
พอกลับจากทำงานที่ราชบุรีแล้ว เบิกเบี้ยเลี้ยงได้แล้ว ก็นำมาซึ่งตั๋วกลับ ขึ้นที่เมืองทับเที่ยง สรุปก็คือ ทริปนี้ ต้องขี่มอไซยังไงก็ได้ จากพุนพิน ถึงเมืองตรัง ในระยะเวลา 3 วัน 2 คืน

ก่อนเดินทางมีเวลาวางแผนอยู่ราวๆ 1 สัปดาห์ ปรับนู่นเปลี่ยนนี่ไปเรื่อย เมื่อแผนลงตัว ถึงวันเดินทางก็เริ่มเดินทางกันครับ
##ทริปนี้ผมเดินทางคนเดียวนะครับ เพื่อนไม่คบ ร้องไห้

1 มีนาคม 2560  วันเงินเดือนออก ออกมาแล้วก็ออกจากกระเป๋าไปซะดื้อๆเลย ร้องไห้
มารอขึ้นรถไฟที่สถานีบางบำหรุ อันเป็นสถานีที่มีรายได้ ความใหญ่โต มากที่สุดในฝั่งธนบุรี
จากนั้น ก็ดำเนินการติดต่อ ที่ช่องจำหน่ายตั๋ว แจ้งความประสงค์จะนำจักรยานยนต์ระวางไปด้วย
เสมียนก็ขอหลักฐาน 3 อย่างเพื่อใช้ในการดำเนินการ
1 ตั๋วรถไฟที่เราโดยสาร ที่จะนำจักรยานยนต์ระวางไปด้วย
2 บัตรประชาชน
3 เล่มทะเบียน หรือสำเนาเล่มทะเบียน
ยื่นหลักฐาน 3 อย่างไปแล้ว เสมียนก็จะขีดๆเขียนๆ กรอกข้อมูลต่างๆ และยื่นใบนี้มาให้ มันคือ ใบรับรถ เป็นหลักฐานที่เราจะยื่นให้เสมียนสินค้าที่สถานีปลายทาง เพื่อที่เราจะได้รับรถคืน

ตั๋วพร้อม ใบรับรถพร้อม ก็รอเวลารถมา
สำหรับค่าระวางรถจักรยานยนต์ จากบางบำหรุ-สุราษฎร์ธานี รถขนาดไม่เกิน 125cc เบ็ดเสร็จ 833 บาท (จากกรุงเทพก็ต่างกันไม่กี่บาท) ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นใดอีก ถ้ายังมีคนมาเรียกนู่นเรียกนี่ ก็ยื่นคำขาดไปเลยว่า "จะให้ผมเขียนรายงานต่อผู้บังคับบัญชามั๊ยครับ"
ที่รถเรา จะมีป้ายติด บอกสถานีส่งขึ้นและลง
บังเอิญว่าผมค่อนข้างคุ้นเคยกับคนที่สถานี เลยเดินคุยพร้อมกับช่วยจับจูงรถ มายันถึง ณ ชานชาลา

ผมเดินทางไปกับขบวน 173 เป็นรถเร็ว เดินระหว่าง กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช
คนการแจ้งกับผมว่า รถจะเดินทางไปกับขบวน 83 ซึ่งเดินระหว่าง กรุงเทพ-ตรัง นะ เพราะเกรงว่ารถบรรทุกสัมภาระของขบวน 173 จะเต็ม อีกทั้งขบวน 83 ก็ออกก่อนขบวน 173 อยู่ถึง 39 นาที

ขบวน 83 มาถึงบางบำหรุ ช้าอยู่ราวๆ 30 นาที รถจักรทำขบวนเป็นรถจักร Hitachi หมายเลข 4505 เข้ามาประจำการ พ.ศ. 2536  พร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ Cummins 16 สูบ 1250 HP 2 เครื่อง แรงหายห่วง
รถผมถูกยกขึ้นตู้ บพห. เป็นที่เรียบร้อย พร้อมเดินทางล่วงหน้า ไปรอที่พุนพิน (สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี อยู่ใน อ.พุนพิน หลายๆคนติดปากเรียกว่าพุนพิน รวมถึงตัวผม)
อ่อ สำหรับหมวกกันน็อค เราต้องนำติดตัวไปเองนะครับ ไม่ได้ระวางไปกับรถ

ตัวผมเองเดินทางไปกับขบวน 173 มาถึงบางบำหรุ  18.43 ก็ช้าอยู่ราวๆ 18 นาที  มาถึงก็มืดแล้ว ผมไม่ได้ถ่ายรูปเอาใว้นะครับ
ราวๆสองทุ่มเศษๆ รถก็มาถึงราชบุรี  ก็ไม่พลาดที่จะซื้อของอร่อยที่นี่กิน
"ก๋วยเตี๋ยวรถไฟราชบุรี" กล่องละ 10 บาท ทำขายตั้งแต่ช่วงเช้าๆ-สายๆ ที่มีขบวนรถเข้าเยอะๆ แล้วก็จะเริ่มทำอีกรอบ ช่วงบ่ายกว่าจะหมดก็ค่ำๆ
แนะนำว่าอยากกินก๋วยเตี๋ยวราชบุรีอย่างเอร็ดอร่อย ก็ให้โดยสารขบวนพวกนี้ครับ ขบวน 84 170 172 252 38/46 32  255  171 262 31 37/45 169  นอกนั้นก๋วยเตี๋ยวก็จะลดความอร่อยลงไปมั่ง หรือหมดไปเลยมั่ง
กรณีผม ผมว่าผมเป็นคนซื้อ 2 กล่องสุดท้ายนะ 55555+

ผมมารถนอนพัดลม (บนท.32 ) หลับๆ ตื่นๆ มาตลอด รู้ตัวอีกทีถึงสถานีมะลวน เก็บข้าวเก็บของ (มองไม่เห็นป้ายสถานีหรอก แต่ใช้สัมผัสที่ 6 พวกบ้ารถไฟ มองทางหลีกแล้วดูจากภูมิประเทศ ถนนหนทาง ก็รู้ทันที แบบที่คุณแฮม แฟนพันธุ์แท้รถไฟไทย ได้เคยบอกใว้นั่นแหละ)
05.57 ขบวน 173 ก็มาถึงพุนพิน ช้าเพียง 9 นาที
ที่พุนพิน ขบวน 173 จะตัดเอารถที่มีปลายทางสุราษฎร์ธานี ออก 2 คัน กลายเป็นรถหัวหาย
รถผมก็มารออยู่ที่พุนพินแล้ว สำรวจรถ ดูร่องรอยความเสียหาย ไม่มี ก็รับรถด้วยความสบายใจ
รับรถเสร็จก็ล้างหน้าแปรงฟัน พลันดูเวลา 06.20 ขบวน 447 สุราษฎร์ธานี-สุไหงโก-ลก ก็เคลื่อนตัวออกจากต้นทาง เจ้ารถท้องถิ่นที่มีระยะทางทำขบวนไกลที่สุดในประเทศไทย (508 กม) ทำขบวนโดยรถจักร Alsthom หมายเลข 4147 พร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ MTU ออกตัวแรง เสียงดังกังวาล
ชื่อสินค้า:   นำรถจักรยานยนต์ขึ้นรถไฟ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่