อุปสรรคของการทำงานของทุกคนหลักๆคืออะไร

มีใครเหนื่อย'คน' มากกว่าเหนื่อย 'งาน'บ้างคะ
คือเราเข้าใจตรงที่ว่าร้อยพ่อพันแม่ แต่บางคนนี่หนักจริงๆ คิดว่าโลกหมุนรอบตัวเอง บางทีงานเยอะงานนักมันยังพอเหนื่อยกาย พอพักเหนื่อยก็มีแรงทำต่อ แต่เวลาเจอคนเรื่องเยอะ ปัญหาเยอะ นี่จากที่เหนื่อยกายกับเพิ่มทวีคูณเหนื่อยใจจนไม่อยากทำเข้าไปอีก

ก็รู้ว่าทุกที่มันต้องมีคนประเภทนี้ แต่ก็นะ..... (เอามือทาบอก)

เคยเป็นไหม ? ต้องขอโทษทั้งๆที่ไม่ผิดเพียงเพราะอายุไม่เยอะ

เคยเป็นไหม? 1งานมีเจ้านายสั่งหลายคน พอคนแรกสั่ง เราทำตอนตอนทำเสร็จ นายคนที่2จะบ่นว่า 'ทำไมทำแบบนี้ มันไม่โอนะรู้ไหม?' หลายครั้งที่อยากจะบอกดังๆว่า เราทำตามนายคนแรก แต่ก็ไม่กล้าบอก มันดูเป็นการโยนความผิดหรือข้ออ้าง <<<<ร้องไห้อันนี้เราก็ผิดเองที่ไม่เบือกจะอธิบาย แต่เอาจริงๆมาอยู่ในจุดๆนั้น มันพุดไม่ได้ตามที่คิดขนาดนั้น )

คือทำงานอ่ะ วัฒนธรรมองค์กรถือว่ามีส่วนสำคัญในการอยู่ต่อจริงๆนะ เราเยาวชนรุ่นใหม่เลยอาจจะถุกมองว่า เป็นประเภทเลือกงาน แต่ถ้ามาดูเนื้องานเราสุ้ตาย แต่พูดถึงคน ผู้ใหญ่หลายคนชอบใช้อายุในการวางอำนาจ มันเลยทำให้ไม่อยากทำต่อ บางทีผู้ใหญ่ที่มีลักษณะดังกล่าวต้องพิจารณาตัวเอง ให้รับหังปัญหาและมาคุยกันถึงการแก้ไขดีกว่า

เราอยากเป็นคัวแทนกระบอกเสียงเด็กรุ่นใหม่ 'กาลเวลาเปลี่ยน ความคิดเปลี่ยน generation เด็กก็เปลี่ยนไป อย่ายึดติดในเรื่องเก่าบางเรืองจนมองข้ามความถูกต้อง อย่ายึดแต่ว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่กว่าแล้วจะถูกเสมอ และเด็กเองก็อย่าทะนงตัวจนเกินไป ควรให้เกียรติกันและกัน ผิดก็ขอโทษ ทำถุกใจก็ขอบคุณ
แล้วก็ขอฝาก ผู้ใหญ่บางคนที่ใช้ทฤษฎี "ติเพื่อก่อ" มันใช้ได้กับบางคนนะ แต่มันไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน , หลายคนอย่างฉัน เวลาเหนื่อยท้อๆ ก็อยากได้กำลังใจ แค่พูดสั้นๆว่า 'สู้ๆนะ หรือตบบ่าเบา' แค่นี้มันก็มีกำลังใจทำต่อแล้ว อยากจะฝากเรืองนี้ให้เป็นเสียงหลักและนำไปใช้ในการทำงาน ตั้งแต่ระดับล่างจนสูงสุด '

อย่างที่บอกเหนื่อยงานยังพอทน เหนื่อยคนอ่ะทนไม่ไหว

พยายามนึกเยอะๆ ใจเค้าใจเรา แล้วเราจะอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุขค่ะ

**กระทู้นี้งดกราม่า เหนื่อยคนในงานเยอะมากแล้ว**
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่