จากการคืนทางเท้า สู่การคืนทางสัญจร

รัฐบาลนี้ได้ทำสิ่งที่น่าชื่นชม คือการคืนทางเท้าให้ประชาชน
มีการกวาดล้างร้านค้า ที่ตั้งแผงบนทางเท้า
ทำให้ประชาชนคนเดินถนนต้องลงไปเดินเสี่ยงตายในถนน
หรือความพยายามป้องกันไม่ให้รถมอเตอร์ไซค์วิ่งบนทางเท้า
วางสิ่งกีดขวางจนโดนดราม่ากันไป

อาจทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจกับผู้ค้าขายที่เห็นแก่ตัวบ้าง
ที่ตักตวงผลประโยชน์กับที่หลวงมาหลายปีก็น่าจะพอแล้ว

มาถึงอีกปัญหาที่รอการแก้ไขอีกสิ่งหนึ่งคือ
การคืนทางสัญจรให้ผู้ใช้รถใช้ถนน

มีผู้ซื้อรถจำนวนมากได้นำทางสัญจร
ซึ่งเป็นทางสาธารณประโยชน์ของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกัน
มาใช้จอดรถเพื่อตนเอง กีดขวางการจราจร

บางแห่งมีการนำเก้าอี้ สิ่งกีดขวางมาวางจับจองบนพื้นถนน
ใครมาจอดก็ขูดขีดรถ. ปล่อยลมยาง

บางที่จอดรถมันทั้งสองข้างถนน
รถที่จะวิ่งผ่านต้องวิ่งเลื้อยเป็นงู
แถมบางทีต้องวิ่งกลางถนนเพราะมันจอดริมถนนทั้งสองข้าง

รวมทั้งยังก่อให้เกิดอุบัติเหตุเพราะการนำรถมาจอดจะไม่มีไฟท้ายเปิด
รถที่สัญจรมาอาจเกิดอุบัติเหตุได้ เพราะความเห็นแก่ตัวของผู้จอดนั่นเอง

ใครจะซื้อรถยนต์ต้องสำแดงที่จอดรถให้ชัดเจน
กรณีที่จอดรถริมถนนถ้าสูญหาย หรือมีอุบัติเหตุให้ผู้จอดรถเป็นผู้ชดใช้
กรณีใครจอดรถริมถนนให้ออกใบสั่งเสียค่าปรับครั่งละ 1,000 บาท

ประเทศไทยมีอัตราการตายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
สูงอันดับต้นๆของโลก มีการจราจรติดขัดอันดับ 1 ของโลกแล้ว
เราสูญเสียประชาชนไปกับความตายบนถนนมากเกินพอแล้ว

สมควรแล้วหรือยังที่เราต้อง
"ทวงคืนทางสัญจรให้ประชาชน"
เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า