จากข่าว “น้องทราย เหยื่อครูปาแก้ว กลับมายิ้มได้อีกครั้ง หลังแพทย์ยันฮีรักษาฟื้นฟูกว่า 5 เดือน” ลองเข้าไปอ่านดูทั้งตัวเนื้อข่าวเอง หรือตัวคลิปของทางโรงพยาบาลจัดแถลงข่าว ที่ก็ไม่ได้บอกว่าคนไข้เป็นโรคอะไรกันแน่ ไปขุดข่าวเก่ามาอ่าน (
https://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1473820288) ก็พอจะมีเค้าโครงอยู่บ้างว่า “เส้นประสาทคู่ที่ 7 บวม” ก็ชวนให้นึกถึงโรคๆนึงที่ผมมักจะเห็นตามข่าวอยู่บ่อยๆ ว่ามีดาราหลายคนเป็นกัน นั่นคือโรคอัมพาตเบลล์ (Bell’s palsy)
(โอ อนุชิต)
(จ๊ะ จิตตาภา)
(พลอย เฌอมาลย์)
ก่อนจะไปรู้จักกันว่าโรคเบลล์มันเป็นยังไง ก็มาทำความรู้จักกับโครงสร้างกายวิภาคกันก่อนว่าปกติส่วนต่างๆในร่างกายเรามันก็จะมีเส้นประสาทมาเลี้ยงร่างกายอยู่แล้วแทบจะทั่วทั้งตัว หน้าที่ของเส้นประสาทก็จะทำหน้าที่รับความรู้สึกต่างๆ(sensory) เวลามีอะไรกระทบเข้ามาเช่น ความรู้สึกร้อน, หนาว, เจ็บ, แหลม, ทู่ และมีหน้าที่สั่งการกล้ามเนื้อต่างๆให้ทำงาน(Motor) โดยมากเราก็จะรู้จักกันในแง่ของการสั่งการกล้ามเนื้อในแบบที่เราควบคุมให้มันเป็นไปในแบบที่เราต้องการ(Somatic motor) เช่น สั่งการให้ขาเดิน, ให้แขนขยับ, ให้มือถือของ, บังคับให้หลับตาปี๋หรือยิ้มยิงฟัน โดยใบหน้าเองก็มี
เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 (Facial nerve) คอยสั่งการให้ใบหน้าขยับ ให้เราสามารถแสดงอารมณ์(Facial Expression) ต่างๆออกมาได้ และมันก็จะคอยรักษาสภาพความตึงตัวของกล้ามเนื้อ(Muscle Tone)ซึ่งมีผลกับความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อเอาไว้ในเวลาที่เราไม่ได้สั่งการใดๆ
พูดง่ายๆคือ เส้นประสาทคือเครื่องมือควบคุมกล้ามเนื้อนั่นเอง
(ภาพเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 Facial nerve มี 2 ข้างซ้ายขวา ออกมาจากแถวๆรูหูมุดเข้าต่อมน้ำลายพาโรติด)
(แสดงสีหน้าอารมณ์แบบต่างๆได้ก็ด้วยเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 นี่แหละ)
(เมื่อเส้นประสาทนี้ดี ก็จะสามารถแสดงอารมณ์ในแบบต่างๆได้ตามใจชอบ)
ตัวของโรคเบลล์มันก็คือการที่
เส้นประสาทตัวนี้ ‘อักเสบ’ ขึ้นมา แล้วไม่สามารถทำงานได้ตามปกติก็จะทำให้มันไม่สามารถรักษาสภาพความตึงตัวของกล้ามเนื้อ(Muscle Tone)เอาไว้ได้ จะมี
อาการหน้าเบี้ยว, ปากเบี้ยว(น้ำก็จะไหลออกจากปาก เพราะปิดปากไม่ค่อยจะได้),
ตาปิดไม่ได้(พอตาปิดไม่ได้ก็จะมีอาการตาแห้งตามมา) การสั่งการกล้ามเนื้อบนใบหน้าก็จะลำบากทำให้
เกิดอาการยักคิ้วข้างนั้นๆไม่ได้, พูดไม่ชัด
ทีนี้ถ้าถามว่าทำไมอยู่ๆถึง ‘อักเสบ’ คำตอบคือ ก็ไม่มีใครรู้เหมือนกัน แต่เค้าก็เชื่อกันว่าน่าจะเกิดจากไวรัสต่างๆเช่น Herpes simplex, Herpes zoster, Cytomegalovirus ซึ่งไวรัสที่กล่าวมานี้มักจะเริงร่ามาก่อโรคตอนที่ภูมิต้านทานร่างกายต่ำหรือทำงานได้ไม่ดีเช่นตอนที่เครียด, ตอนที่นอนน้อย, ตอนที่เป็นโรคเบาหวาน
(เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบก็จะเกิดอาการบวม ไม่สามารถส่งสัญญาณไปควบคุมกล้ามเนื้อได้)
ถ้ามีอาการอย่างที่กล่าวขึ้นมาก็ควรรีบไปหาหมอให้เค้าซักประวัติกับตรวจร่างกายเพื่อช่วยวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้จริงมั้ย(อย่าวินิจฉัยเอาเอง) เพราะเอาจริงๆมันก็มีอีกหลายโรคที่ทำให้หน้าเบี้ยวปากเบี้ยวได้เหมือนกันเช่น โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งวิธีการรักษามันจะคนละเรื่องกับโรคเบลล์เลยล่ะ
การรักษาโรคเบลล์ก็จะตามที่กล่าวมาว่าโรคเบลล์เกิดจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7
‘อักเสบ’ เราก็จะให้ยา ‘ต้านการอักเสบ’ เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ ควบคู่ไปกับการทำกายภาพบำบัด และก็อาจจะให้ยาต้านไวรัสถ้าหมอสงสัยว่าจะเป็นสาเหตุของโรคซึ่งก็ต้องดูเป็นรายๆไป โดยการรักษานี้ก็คาดหวังผลไว้ว่าจะดีขึ้นภายใน 3 สัปดาห์ ซึ่งในระหว่างนี้คนไข้ก็สามารถช่วยหมอดูแลตัวเองได้ด้วยการหมั่นกายภาพใบหน้าตามที่หมอหรือนักกายภาพแนะนำ ถ้ามีอาการตาปิดไม่สนิทก็หาอะไรมาปิดตาไว้ไม่ให้ฝุ่นเข้าตาครับ
จากที่กล่าวมาจะเห็นว่าโรคเบลล์เป็นโรคที่เราไม่สามารถป้องกันได้ เพราะเรายังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดของการ ‘อักเสบ’ ของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ที่อยู่ๆก็เกิดขึ้น แต่เราสามารถรักษาให้หายได้และอาการของโรคนี้ก็ไม่ได้รุนแรงมาก จึงควรไปพบแพทย์เมื่อมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นโรคนี้เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนทำการรักษาต่อไป
แล้วพบกันใหม่ครับ ;)
******************************************************
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
https://hilight.kapook.com/view/150184
https://www.facebook.com/YanheeHospital.YH/videos/1456439421095172/
https://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1473820288
https://women.kapook.com/view16378.html
https://hilight.kapook.com/view/150184
http://peripheralneuropathycenter.uchicago.edu/learnaboutpn/typesofpn/other/bellspalsy.shtml
http://haamor.com/th/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B9%8C/
http://www.webmd.com/brain/tc/bells-palsy-topic-overview#1
https://en.wikipedia.org/wiki/Bell's_palsy
ที่มาของรูป
https://web.duke.edu/anatomy/Lab17/Lab19_preLab.html
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_245700
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9540000115312
http://www.suggest-keywords.com/ZmFjaWFsIHR1bW91cnM/
https://www.facebook.com/thefaceth/
http://m.shabwaahpress.com/news/22428/
รายการ nine entertain
**************************************************************
ถ้ามีข้อเสนอแนะอะไรสามารถ comment ได้เลยนะครับ ขอบคุณมากคร้าบ _/\_
แย่แล้ว!!! หน้าเบี้ยวทำไงดี | สุขภาพประสาท
จากข่าว “น้องทราย เหยื่อครูปาแก้ว กลับมายิ้มได้อีกครั้ง หลังแพทย์ยันฮีรักษาฟื้นฟูกว่า 5 เดือน” ลองเข้าไปอ่านดูทั้งตัวเนื้อข่าวเอง หรือตัวคลิปของทางโรงพยาบาลจัดแถลงข่าว ที่ก็ไม่ได้บอกว่าคนไข้เป็นโรคอะไรกันแน่ ไปขุดข่าวเก่ามาอ่าน (https://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1473820288) ก็พอจะมีเค้าโครงอยู่บ้างว่า “เส้นประสาทคู่ที่ 7 บวม” ก็ชวนให้นึกถึงโรคๆนึงที่ผมมักจะเห็นตามข่าวอยู่บ่อยๆ ว่ามีดาราหลายคนเป็นกัน นั่นคือโรคอัมพาตเบลล์ (Bell’s palsy)
ก่อนจะไปรู้จักกันว่าโรคเบลล์มันเป็นยังไง ก็มาทำความรู้จักกับโครงสร้างกายวิภาคกันก่อนว่าปกติส่วนต่างๆในร่างกายเรามันก็จะมีเส้นประสาทมาเลี้ยงร่างกายอยู่แล้วแทบจะทั่วทั้งตัว หน้าที่ของเส้นประสาทก็จะทำหน้าที่รับความรู้สึกต่างๆ(sensory) เวลามีอะไรกระทบเข้ามาเช่น ความรู้สึกร้อน, หนาว, เจ็บ, แหลม, ทู่ และมีหน้าที่สั่งการกล้ามเนื้อต่างๆให้ทำงาน(Motor) โดยมากเราก็จะรู้จักกันในแง่ของการสั่งการกล้ามเนื้อในแบบที่เราควบคุมให้มันเป็นไปในแบบที่เราต้องการ(Somatic motor) เช่น สั่งการให้ขาเดิน, ให้แขนขยับ, ให้มือถือของ, บังคับให้หลับตาปี๋หรือยิ้มยิงฟัน โดยใบหน้าเองก็มีเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 (Facial nerve) คอยสั่งการให้ใบหน้าขยับ ให้เราสามารถแสดงอารมณ์(Facial Expression) ต่างๆออกมาได้ และมันก็จะคอยรักษาสภาพความตึงตัวของกล้ามเนื้อ(Muscle Tone)ซึ่งมีผลกับความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อเอาไว้ในเวลาที่เราไม่ได้สั่งการใดๆ
พูดง่ายๆคือ เส้นประสาทคือเครื่องมือควบคุมกล้ามเนื้อนั่นเอง
ตัวของโรคเบลล์มันก็คือการที่เส้นประสาทตัวนี้ ‘อักเสบ’ ขึ้นมา แล้วไม่สามารถทำงานได้ตามปกติก็จะทำให้มันไม่สามารถรักษาสภาพความตึงตัวของกล้ามเนื้อ(Muscle Tone)เอาไว้ได้ จะมีอาการหน้าเบี้ยว, ปากเบี้ยว(น้ำก็จะไหลออกจากปาก เพราะปิดปากไม่ค่อยจะได้), ตาปิดไม่ได้(พอตาปิดไม่ได้ก็จะมีอาการตาแห้งตามมา) การสั่งการกล้ามเนื้อบนใบหน้าก็จะลำบากทำให้เกิดอาการยักคิ้วข้างนั้นๆไม่ได้, พูดไม่ชัด
ทีนี้ถ้าถามว่าทำไมอยู่ๆถึง ‘อักเสบ’ คำตอบคือ ก็ไม่มีใครรู้เหมือนกัน แต่เค้าก็เชื่อกันว่าน่าจะเกิดจากไวรัสต่างๆเช่น Herpes simplex, Herpes zoster, Cytomegalovirus ซึ่งไวรัสที่กล่าวมานี้มักจะเริงร่ามาก่อโรคตอนที่ภูมิต้านทานร่างกายต่ำหรือทำงานได้ไม่ดีเช่นตอนที่เครียด, ตอนที่นอนน้อย, ตอนที่เป็นโรคเบาหวาน
ถ้ามีอาการอย่างที่กล่าวขึ้นมาก็ควรรีบไปหาหมอให้เค้าซักประวัติกับตรวจร่างกายเพื่อช่วยวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้จริงมั้ย(อย่าวินิจฉัยเอาเอง) เพราะเอาจริงๆมันก็มีอีกหลายโรคที่ทำให้หน้าเบี้ยวปากเบี้ยวได้เหมือนกันเช่น โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งวิธีการรักษามันจะคนละเรื่องกับโรคเบลล์เลยล่ะ
การรักษาโรคเบลล์ก็จะตามที่กล่าวมาว่าโรคเบลล์เกิดจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ‘อักเสบ’ เราก็จะให้ยา ‘ต้านการอักเสบ’ เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ ควบคู่ไปกับการทำกายภาพบำบัด และก็อาจจะให้ยาต้านไวรัสถ้าหมอสงสัยว่าจะเป็นสาเหตุของโรคซึ่งก็ต้องดูเป็นรายๆไป โดยการรักษานี้ก็คาดหวังผลไว้ว่าจะดีขึ้นภายใน 3 สัปดาห์ ซึ่งในระหว่างนี้คนไข้ก็สามารถช่วยหมอดูแลตัวเองได้ด้วยการหมั่นกายภาพใบหน้าตามที่หมอหรือนักกายภาพแนะนำ ถ้ามีอาการตาปิดไม่สนิทก็หาอะไรมาปิดตาไว้ไม่ให้ฝุ่นเข้าตาครับ
จากที่กล่าวมาจะเห็นว่าโรคเบลล์เป็นโรคที่เราไม่สามารถป้องกันได้ เพราะเรายังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดของการ ‘อักเสบ’ ของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ที่อยู่ๆก็เกิดขึ้น แต่เราสามารถรักษาให้หายได้และอาการของโรคนี้ก็ไม่ได้รุนแรงมาก จึงควรไปพบแพทย์เมื่อมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นโรคนี้เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนทำการรักษาต่อไป
แล้วพบกันใหม่ครับ ;)
******************************************************
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
https://hilight.kapook.com/view/150184
https://www.facebook.com/YanheeHospital.YH/videos/1456439421095172/
https://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1473820288
https://women.kapook.com/view16378.html
https://hilight.kapook.com/view/150184
http://peripheralneuropathycenter.uchicago.edu/learnaboutpn/typesofpn/other/bellspalsy.shtml
http://haamor.com/th/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B9%8C/
http://www.webmd.com/brain/tc/bells-palsy-topic-overview#1
https://en.wikipedia.org/wiki/Bell's_palsy
ที่มาของรูป
https://web.duke.edu/anatomy/Lab17/Lab19_preLab.html
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_245700
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9540000115312
http://www.suggest-keywords.com/ZmFjaWFsIHR1bW91cnM/
https://www.facebook.com/thefaceth/
http://m.shabwaahpress.com/news/22428/
รายการ nine entertain
**************************************************************
ถ้ามีข้อเสนอแนะอะไรสามารถ comment ได้เลยนะครับ ขอบคุณมากคร้าบ _/\_