[CR] อาสายิง "Seed Bomb" กับคนแปลกหน้า

- - - - - สวัสดีค่ะทุกคน - - - - -

วันนี้ก้อยอยากแชร์ประสบการณ์ไปค่ายอาสาแบบที่ไม่ใช่ไปกับโรงเรียนเอย มหาลัยเอย ซึ่งความคิดที่อยากมาค่ายหลังจากที่เรียนจบปริญญามาแล้วนั้น เพราะเรามีความรู้สึกว่า การใช้เวลาฟุ่มเฟือยไปกับการนอน 555 ถ้าเราแบ่งเวลามาเป็นค่าดำเนินกิจกรรมที่มีประโยชน์กับผู้อื่นบ้าง น่าจะโอเคกว่าที่เราเอาปล่อยให้เวลาเปล่าประโยชน์ ทำให้เกิดการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ขึ้น (รายละเอียดอาจไม่ครบถ้วนเพราะว่าไปมานานแล้ว แต่น่าจะได้ประโยชน์ในเรื่องของลักษณะกิจกรรมต่างๆ ว่าเดินทางยังไง ลำบากมากไหม ไปแล้วอันตรายรึป่าว) หวังว่าจะมีประโยชน์กันเนอะ เผื่อมีคนสนใจอยากไปทำค่ายในแบบนี้กันบ้าง

เราเดินทางออกจากกรุงเทพฯ โดยรถทัวร์ปรับอากาศออกเดินทางตั้งแต่ 7.30 (จากปตท. สนามเป้า) ตอนแรกพอขึ้นไปกะหลับเพราะตื่นเต้น นอนไม่หลับเพราะปกติจะทำกิจกรรมกับคนที่รู้จัก แต่ปรากฏว่าต้องทำกิจกรรมแนะนำตัวซึ่ง ไม่ได้แนะนำตัวแบบธรรมดานะจ๊ะ ต้องพูดด้วยว่าอยากเป็นอะไรที่ไม่ใช่คน ค่ะ พิมพ์ไม่ผิด อยากเป็นอะไรที่ไม่ใช่คน และอีกประเด็นคือ ห้ามซ้ำค่าาาาาา แต่โชคดีมากที่นั่งต้นๆ รถเลยซ้ำย๊าก 555 ไม่ได้แอ้มสุปราณีหลอกค่ะ พอแนะนำตัวครบทุกคนก็...ขออนุญาตหลับนะคะ
เวลา 11.00 โดยประมาณ เราถึงกาญจนบุรีโดยสวัสดิภาพ (พวกเราทั้งหมดลงที่ไหนนะ 555 ลืมค่า ไปหามาให้แล้ว) เอาใหม่นะคะ พวกเราทั้งหมดลงที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาน้ำพุ พอมาถึงสิ่งแรกที่เราต้องทำคือ เอาของที่เจ้าหน้าที่เตรียมมานั้น ขนไปยังลานกิจกรรม พอถึงเวลาวางของเสร็จเจ้าหน้าที่ก็บอกสิ่งที่เราอยากทำมากที่สุดคือ กินข้าวค่ะ (หิวมาก) หลายๆ คนอาจจะกลัวว่าข้าวที่ไปตามค่ายเนี้ยจะมีแต่ผัก ซึ่งความจริงคือ ผักน้อยนะคุณ มีผักกระเพรา ไก่ทอด ต้มจืดน่องไก่จิ๋ว (ปีกบนค่ะหนู) สถานที่กินข้าวก็ไม่ได้ต้องนั่งกินกับพื้นแต่อย่างใด นั่งโต๊ะดีๆ นี่แหละ แต่ว่าเราต้องมีความเสียสละคือรีบกินแล้วรีบลุก เพราะคนอื่นจะได้นั่งต่อค่ะ หลังจากกินข้าวก็ทำการล้างจานแล้วก็มานั่งฟังเจ้าหน้าที่อธิบายรายละเอียดของกิจกรรมที่เราจะทำในวันนี้ ซึ่งอย่างแรกคือ ทำเมล็ดพันธู์พืช ตอนแรกเราก็งงๆ ว่าทำไงกันนะ เพราะไม่เคยทำกิจกรรมอะไรแบบนี้เลย มโนมากมายก่ายกองปรากฎว่า พอเจ้าหน้าที่เอามาให้ดูปั๊ป ก็ร้อง... อ๋อ หน้าตามันเป็นแบบนี้นี่เอง ในใจก็มโนต่อไปว่า แล้วยิงไม่แตกหรอ เพราะต้องทำ แต่ปรากฎอีกว่า เค้าให้เราทำแล้วไว้ที่นี่ ให้รุ่นต่อไปเค้าเอาไปยิงค่ะ

ขั้นตอนการทำเมล็ดพันธู์หรือที่เรียกภาษาปะกิดว่า "Seed Bomb" มีขั้นตอนตามนี้ค่า
ขั้นตอนที่ 1 เทดินที่ผสมกับปุ๋ยลงในกะละมังที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้
ขั้นตอนที่ 2 หยิบดินเหนียวออกมานิดหน่อย น้อยนิด เล็กน้อย จินตนาการเอาว่าเออ ใหญ่เท่านี้ต้องขนาดเท่าไหร่ พอหยิบมาแล้วปั้นค่ะ ปั้นให้เป็นวงกลม
ขั้นตอนที่ 3 ทำให้มันแบะออกแล้วบีบให้เหมือนถ้วยตามรูปที่ 3
ขั้นตอนที่ 4 นำดินที่เตรียมไว้ใส่ลงไปพอประมาณ
ขั้นตอนที่ 5 นำเมล็ดพันธู์พืชเล็กๆ ใส่ลงไปตรงกลาง
ขั้นตอนที่ 6 ปั้นค่ะ ปั้นให้เป็นวงกลม เพราะถ้าเป็นวงรีมันจะไม่กลม ถุ้ย... มันจะไม่สวยแล้วก็ยิงลำบากค่ะคู๊ณ....

หลังจากที่เราเริ่คล่องมือแล้วปั้นแปปเดียว แย่งกันไปก็แย่งกันมา แซวกันไปก็แซวกันมา เสร็จโดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มีการขอเพิ่ม แต่ของมันหมด 555 พอปั้นเสร็จเราก็เอาไปใส่ถาดไข่เพื่อตากให้มันแห้ง พอพวกเราปั้นและนำไปเรียงกันเสร็จพอก้มมองดูมือตัวเองเท่านั้นแหละ ข่าาาาาา เลอะเทอะมาก เอาค่ะ ไม่เป็นไรล้างมือได้ พอล้างมือเสร็จเจ้าหน้าที่ก็ให้เรานั่งรวมกลุ่มเพื่อรับอุปกรณ์ที่ใช้ยิงเมล็ดพันธุ์กัน ซึ่งอุปกรณ์ของเราก็มีเยอะมาก ได้แก่ เมล็ดพันธุ์และหนังกะติ๊ก (คือพิมพ์ถูกไหม หากผิดขออภัย)

เจ้าหน้าที่หรือพี่อารีเนี้ย เค้าก็อธิบายว่ายิงยังไง ไอ้เราก็ตั้งใจฟังมากเพราะไม่เคยยิงค่ะ พอฟังเสร็จก็เดินไปป่า ระหว่างทางเราก็ได้มีมนุษยสัมพันธ์กับคนอื่นมากมายก่ายกอง แซวคนนั้นคนนี้ ช่วยน้องคนนั้นคนนี้ สนุกสนาน ถ่ายรูปให้คนที่ไม่รู้จัก คุยกับคนไม่รู้จัก ความรู้สึกมันดีนะคุณ คือคนที่มาร่วมกิจกรรมมีตั้งแต่ครอบครัวยันมาคนเดียว เด็กเล็กจนคนสูงอายุแต่คือถ่ายรูปมาน้อย เพราะอยากยิงมาก แมร่งยิ่งแข่งกันด้วย หลังจากที่ลูกกระสุนเราหมด T T พวกเราก็พากันเดินต่อไปเพื่อทำฝายชะลอน้ำค่ะ พวกเราทั้งหมดแบ่งออกเป็น หลายกลุ่ม 555 (จำไม่ได้ว่ากี่กลุ่ม) แบ่งกันไปทำฝายที่มีให้เลือกว่าจะฝายดินหรือฝายหิน เราตัดสินใจไปทำฝายดินเพราะดูแล้วน่าจะชิลๆ #มโนเองค่ะ

พอเห็นหน้าตาของฝายเราคร่าวๆ แล้วว่าหน้าตาเป็นอย่างไร เราก็มาเริ่มขั้นตอนการทำฝายดินกันค่ะ
ขั้นตอนที่ 1 ฉีกเชือกฟางเพื่อนำไปมัดปากถุง
ขั้นตอนที่ 2 ขุดดินค่ะ หาดินแถวๆ
ขั้นตอนที่ 3 นำดินที่ขุดได้ใส่ถุงปุ๋ยแล้วมัดปากถุงด้วยเชือกฟางที่เตรียมไว้
ขึ้นตอนที่ 4-5 ยกถุงดินไปเรียงในฝาย แล้วกระโดดให้ถุงดินลงล๊อค โดยน้ำหนักตัวพวกเรานี่แหละค่ะ
ขึ้นตอนที่ 6 ถ่ายรูปหลังจากเสร็จ 5555
ขอสรุปความรู้สึกในการทำฝายนะคะคุณ อือหือ ที่มโนไว้ว่าชิล ปรากฏว่าเหนื่อยมากค่ะ เมื่อยมาก คือแบบ ไอ้เราก็คิดว่าการที่เกิดเป็นลูกสาวร้านขายแก๊ส ที่สามารถยกถังแก๊สได้สบายๆ กลับคิดว่า โหย หนักมาก คือมันหนักแบบท้อ ท้อแบบทำไมมันไม่เต็มสักทีฟร่ะ ยกเยอะหลายถุงแล้วนะเฟ้ย แต่ความรู้สึกหลังจากทำเสร็จ คือทุกๆ คนพยายามทำ พยายามช่วยกัน ผลัดกันตักดิน ยกดิน มัดถุง กระโดด จนสำเร็จได้ด้วยดี บอกเลยว่าพอเห็นว่ามันเต็มนะ คือภูมิใจแล้วก็หายเหนื่อยเลยค่ะ

หลังจากจบกิจกรรมที่เราต้องทำในการทำอาสานั้น ก็เดินออกมาจากป่า ดูวิวไปเรื่อยๆ แล้วก็ขึ้นรถไปเที่ยวกันที่ ตลาดน้ำค่ายฯ สุรสีห์ คือกว่าจะไปถึงมันเย็นแล้ว ร้านค้าปิดเกือบหมด พวกเราต้องกินข้าวเย็นกันที่นี่ ป้าๆ ที่ปิดร้านไปเห็นว่ามีรถทัวร์มาลง แกกลับมาเปิดร้านต่อจ้า... มีความน่ารักอยากขาย
เมื่อป้าอยากขายเราก็อยากกิน กินจนอิ่มแล้วก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
ปล. รูปที่ค่ายฯ มีไม่เยอะเพราะเริ่มมืดแล้ว
หลังจากที่ก้อยผ่านกิจกรรมทั้งวันมาแล้วรู้สึกว่า เราได้เดินทางเปิดโลกกว้าง ได้สัมผัสธรรมชาติ ได้ศึกษาธรรมชาติ ได้สูดอากาศธรรมชาติ ได้ความรู้ ได้รอยยิ้มทั้งจากคนที่เราไม่รู้จัก ได้พูดคุย ได้ทำความรู้จัก ได้ท่องเที่ยว คือมันคุ้ม เรียกได้ว่าคุ้มมาก สำหรับกิจกรรมเพียงแค่ 1 วัน ก้อยเชื่อว่าเราทุกคนถึงแม้จะไม่ได้มีเงินทองมากมาย แต่สามารถทำตัวให้มีประโยชน์และมีคุณค่าให้กับสังคมได้ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกทำทางไหน

ขอบคุณที่เสียเวลาเข้ามาอ่านนะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย ไม่น้อยก็นิดนึง เนอะ ^^
ชื่อสินค้า:   อาสาสมัคร
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่