ภิกษุทั้งหลาย ! ความไม่มีศรัทธา ไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ ไม่มีวิริยะ ไม่มีปญัญาในกุศลธรรม มีอยูแก่ผู้ใด
เรากล่าวบุคคลผู้นั้นว่า เป็นคนจนเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติในอริยวินัย.
ภิกษุทั้งหลาย ! คนจนชนิดนั้น เมื่อไม่มีศรัทธา ไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ ไม่มีวิริยะ ไม่มีปัญญาในกุศลธรรม
เขาย่อมประพฤติกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต เรากล่าวการประพฤติทุจริตของเขานี้ ว่าเป็นการกู้หนี้.
เพื่อจะปกปิด กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริตของเขา เขาตั้งความปรารถนาอันเลวทราม
ปรารถนาไม่ให้ใครรู้จักเขา ดำริไม่ให้ใครรู้จักเขา พูดจาเพื่อไม่ให้ใครรู้จักเขา ขวนขวาย
ทุกอย่างเพื่อไม่ให้ใครรู้จักเขา เรากล่าวการปกปิดความทุจริตอย่างนี้ของเขานี้ ว่าเป็นดอกเบี้ยที่เขาต้องใช้.
เพื่อนสพรหมจารีผู้มีศีลเป็นที่รัก พากันกล่าว ปรารภเขาอย่างนี้ว่า
“ท่านผู้มีอายุนี้ ทำอะไรๆ (ทุจริต) อย่างนี้ มีปกติประพฤติกระทำอะไรๆ (ทุจริต) อย่างนี้”
เรากล่าวการถูกกล่าวอย่างนี้ ว่าเป็นการถูกทวงหนี้.
เขาจะไปอยู่ป่าก็ตาม อยู่โคนไม้ก็ตาม อยู่เรือนว่างก็ตาม อกุศลวิตกอันเป็น บาปประกอบอยู่ด้วยความร้อนใจ
ย่อมเกิดขึ้นกลุ้มรุมจิตใจเขา เรากล่าวอาการอย่างนี้ว่าเป็นการถูกติดตามเพื่อทวงหนี้.
ภิกษุทั้งหลาย ! คนจนชนิดนี้ ครั้นประพฤติ กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริตแล้ว ภายหลังแต่การตาย
เพราะการแตกทำลายแห่ง กาย ยอ่ มถูกจองจำอยู่ในนรกบ้าง ในกำเนิดเดรัจฉานบ้าง.
ภิกษุทั้งหลาย ! เราไม่มองเห็นการจองจำอื่นแม้อย่างเดียว ที่ทารุณอย่างนี้ เจ็บปวดอย่างนี้ เป็นอันตรายอย่างนี้
ต่อ การบรรลุโยคักเขมธรรมอันไมมี่ธรรมอื่นยิ่งกว่าเหมือนการถูกจองจำในนรกหรือในกำเนิดเดรัจฉานอย่างนี้.
การจองจำที่ทารุณเจ็บปวด ..
เรากล่าวบุคคลผู้นั้นว่า เป็นคนจนเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติในอริยวินัย.
ภิกษุทั้งหลาย ! คนจนชนิดนั้น เมื่อไม่มีศรัทธา ไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ ไม่มีวิริยะ ไม่มีปัญญาในกุศลธรรม
เขาย่อมประพฤติกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต เรากล่าวการประพฤติทุจริตของเขานี้ ว่าเป็นการกู้หนี้.
เพื่อจะปกปิด กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริตของเขา เขาตั้งความปรารถนาอันเลวทราม
ปรารถนาไม่ให้ใครรู้จักเขา ดำริไม่ให้ใครรู้จักเขา พูดจาเพื่อไม่ให้ใครรู้จักเขา ขวนขวาย
ทุกอย่างเพื่อไม่ให้ใครรู้จักเขา เรากล่าวการปกปิดความทุจริตอย่างนี้ของเขานี้ ว่าเป็นดอกเบี้ยที่เขาต้องใช้.
เพื่อนสพรหมจารีผู้มีศีลเป็นที่รัก พากันกล่าว ปรารภเขาอย่างนี้ว่า
“ท่านผู้มีอายุนี้ ทำอะไรๆ (ทุจริต) อย่างนี้ มีปกติประพฤติกระทำอะไรๆ (ทุจริต) อย่างนี้”
เรากล่าวการถูกกล่าวอย่างนี้ ว่าเป็นการถูกทวงหนี้.
เขาจะไปอยู่ป่าก็ตาม อยู่โคนไม้ก็ตาม อยู่เรือนว่างก็ตาม อกุศลวิตกอันเป็น บาปประกอบอยู่ด้วยความร้อนใจ
ย่อมเกิดขึ้นกลุ้มรุมจิตใจเขา เรากล่าวอาการอย่างนี้ว่าเป็นการถูกติดตามเพื่อทวงหนี้.
ภิกษุทั้งหลาย ! คนจนชนิดนี้ ครั้นประพฤติ กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริตแล้ว ภายหลังแต่การตาย
เพราะการแตกทำลายแห่ง กาย ยอ่ มถูกจองจำอยู่ในนรกบ้าง ในกำเนิดเดรัจฉานบ้าง.
ภิกษุทั้งหลาย ! เราไม่มองเห็นการจองจำอื่นแม้อย่างเดียว ที่ทารุณอย่างนี้ เจ็บปวดอย่างนี้ เป็นอันตรายอย่างนี้
ต่อ การบรรลุโยคักเขมธรรมอันไมมี่ธรรมอื่นยิ่งกว่าเหมือนการถูกจองจำในนรกหรือในกำเนิดเดรัจฉานอย่างนี้.