จขกท.ขอแทนตัวเองว่าเรานะคะ
เราเป็นคนนอนยากเลยเข้านอนเร็ว ตอนม.ปลายบ้านเราก็นอนเร็วด้วยประมาน2-3ทุ่ม เราเลยติดนิสัยนั้นมา
แล้วเราเป็นคนนอนยากมาก ถ้ามีแสงไฟนิดเดียวจะนอนไม่หลับเลย เวลาแม่ลุกมาเปิดไฟเราก็จะตื่นทันที
พอเข้ามหาลัยเจอสังคมภายนอกเมทก็นอนดึกกัน(เมท3คน)แล้วเราง่วงมากๆ เราปรับเวลาไม่ทัน เมทเปิดไฟเราก็นอนไม่ได้เรานอนเตียงชั้นสองด้วย ช่วงแรกๆก็ทนๆเอา เราก็มีโทรไปคุยกับที่บ้านบ้าง จนบางครั้งก็นอนร้องไห้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเป็นขนาดนั้น เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเรื่องเยอะหรือเปล่า เรามาอยู่กันหลายคนก็ต้องปรับตัวเข้าหากัน คนอื่นเขาก็ไม่เห็นเป็นเหมือนเรา สุดท้ายเลยกลับไปอยู่ที่บ้านเเล้วขับรถมาเรียนเเทน
พอเทอมสองเราก็สมัครเข้าพักหอในเพราะกิจกรรมเยอะ อยู่หอจะสะดวกกว่า ช่วงแรกที่มายังไม่เห็นเมทอยู่ ช่วงนั้นหลับสบายมากนอนตามเวลาตัวเอง
พออยู่ได้เกือบหนึ่งเดือนมีเมทเข้ามา ช่วงแรกพอเรานอนเขาก็นอน เราก็คิดว่าดีจังมีคนที่เหมือนกับเรา
พอช่วงสอบ เขาก็อยู่ดึกเพื่ออ่านหนังสือเปิดไฟกลางห้อง อันนี้เราเข้าใจเพราะช่วงสอบ เราเลยตื่นมาอ่านมาอ่านกับเขา มีบางวันที่เราง่วงเลยนอนก่อน
แต่ก็นอนไม่หลับเพราะไฟมันแยงตา นอนดิ้นอยู่นานสุดท้ายก็ต้องรอเขาปิดไฟถึงจะหลับลง
พอหมดช่วงสอบเขายังคงอ่านหนังสือจนดึกประมานเที่ยงคืนถึงตี2และเปิดไฟกลางห้องไว้เหมือนเดิม ทำให้เรานอนไม่ได้ และเราต้องตื่นไปเรียน8โมงแต่เขาไม่ได้ตื่นเช้าเหมือนเรา
มาถึงตรงนี้ทางออกที่ดีคือคงต้องคุยกัน แต่เราเป็นคนไม่ค่อยคุยตรงนี้เป็นข้อเสียของเราเองที่ไม่กล้าบอก เราก็ทนๆไป
ตอนเขาเปิดไฟเราก็นอนดิ้นแบบนอนไม่หลับไม่รู้ว่าจะรู้หรือเปล่าว่าเรานอนไม่ได้ ทั้งๆที่หอก็มีห้องอ่านหนังสือให้เดินไปไม่ถึง20ก้าว
ช่วงแรกๆเวลาจะทำอะไรเราก็เกรงใจเขา แต่เหมือนเขาไม่เกรงใจเรา
บางครั้งเขากลับมาดึกเวลาที่เราหลับและปิดไฟไปแล้ว แต่เขาก็เข้ามาเปิดไฟอ่านหนังสือ
บางครั้งเราก็คิดว่าเราเรื่องมากหรือเปล่าทั้งๆที่เขาก็อ่านหนังสือไม่ได้ทำอะไรเสียงดัง แต่เราไม่ชอบเพราะเรานอนไม่หลับ
ตอนนี้กำลังคิดจะย้ายออกและไปอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมแล้ว
เบื่อความเรื่องมากของตัวเอง
เราเป็นคนนอนยากเลยเข้านอนเร็ว ตอนม.ปลายบ้านเราก็นอนเร็วด้วยประมาน2-3ทุ่ม เราเลยติดนิสัยนั้นมา
แล้วเราเป็นคนนอนยากมาก ถ้ามีแสงไฟนิดเดียวจะนอนไม่หลับเลย เวลาแม่ลุกมาเปิดไฟเราก็จะตื่นทันที
พอเข้ามหาลัยเจอสังคมภายนอกเมทก็นอนดึกกัน(เมท3คน)แล้วเราง่วงมากๆ เราปรับเวลาไม่ทัน เมทเปิดไฟเราก็นอนไม่ได้เรานอนเตียงชั้นสองด้วย ช่วงแรกๆก็ทนๆเอา เราก็มีโทรไปคุยกับที่บ้านบ้าง จนบางครั้งก็นอนร้องไห้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเป็นขนาดนั้น เรารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเรื่องเยอะหรือเปล่า เรามาอยู่กันหลายคนก็ต้องปรับตัวเข้าหากัน คนอื่นเขาก็ไม่เห็นเป็นเหมือนเรา สุดท้ายเลยกลับไปอยู่ที่บ้านเเล้วขับรถมาเรียนเเทน
พอเทอมสองเราก็สมัครเข้าพักหอในเพราะกิจกรรมเยอะ อยู่หอจะสะดวกกว่า ช่วงแรกที่มายังไม่เห็นเมทอยู่ ช่วงนั้นหลับสบายมากนอนตามเวลาตัวเอง
พออยู่ได้เกือบหนึ่งเดือนมีเมทเข้ามา ช่วงแรกพอเรานอนเขาก็นอน เราก็คิดว่าดีจังมีคนที่เหมือนกับเรา
พอช่วงสอบ เขาก็อยู่ดึกเพื่ออ่านหนังสือเปิดไฟกลางห้อง อันนี้เราเข้าใจเพราะช่วงสอบ เราเลยตื่นมาอ่านมาอ่านกับเขา มีบางวันที่เราง่วงเลยนอนก่อน
แต่ก็นอนไม่หลับเพราะไฟมันแยงตา นอนดิ้นอยู่นานสุดท้ายก็ต้องรอเขาปิดไฟถึงจะหลับลง
พอหมดช่วงสอบเขายังคงอ่านหนังสือจนดึกประมานเที่ยงคืนถึงตี2และเปิดไฟกลางห้องไว้เหมือนเดิม ทำให้เรานอนไม่ได้ และเราต้องตื่นไปเรียน8โมงแต่เขาไม่ได้ตื่นเช้าเหมือนเรา
มาถึงตรงนี้ทางออกที่ดีคือคงต้องคุยกัน แต่เราเป็นคนไม่ค่อยคุยตรงนี้เป็นข้อเสียของเราเองที่ไม่กล้าบอก เราก็ทนๆไป
ตอนเขาเปิดไฟเราก็นอนดิ้นแบบนอนไม่หลับไม่รู้ว่าจะรู้หรือเปล่าว่าเรานอนไม่ได้ ทั้งๆที่หอก็มีห้องอ่านหนังสือให้เดินไปไม่ถึง20ก้าว
ช่วงแรกๆเวลาจะทำอะไรเราก็เกรงใจเขา แต่เหมือนเขาไม่เกรงใจเรา
บางครั้งเขากลับมาดึกเวลาที่เราหลับและปิดไฟไปแล้ว แต่เขาก็เข้ามาเปิดไฟอ่านหนังสือ
บางครั้งเราก็คิดว่าเราเรื่องมากหรือเปล่าทั้งๆที่เขาก็อ่านหนังสือไม่ได้ทำอะไรเสียงดัง แต่เราไม่ชอบเพราะเรานอนไม่หลับ
ตอนนี้กำลังคิดจะย้ายออกและไปอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมแล้ว