หลายๆคนคงสงสัยนะคะ ว่าวัดนี้มีอะไรดี ตัวเราก็สงสัยเหมือนกัน เลยลองอ่านกระทู้ที่เกี่ยวกับวัดนี้ดู พอได้อ่านก็รู้สึกว่าน่าสนใจดี ถ้ามีโอกาส ต้องไปซักครั้ง
และแล้วโอกาสก็มาหาเรา 5555 โปรจองข้ามปีของ Thai Air asia จองวันนี้ บินอีกทีปีหน้า จอง 59 ได้ไป 60 ข้ามปีกันเลยนะฮ้า!!!!
กระทู้นี้จะมีแต่วัดฉีซานจี้ เท่านั้นค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กระทู้เที่ยวฮ่องกงของเรา https://pantip.com/topic/36013210
เริ่มล่ะนะ....
หลังจากสะสมความรู้การในการไปวัดฉีซานจี้ มา 2-3 กระทู้.... เราก็กำหนดวัน และเวลาที่เราจะจองคิวเข้าวัด
link :
https://www.tszshan.org/home/new/en/visit.php
คลิกที่ Online Booking
เลื่อนหน้าจอมาด้านล่าง ระบบจะให้เลือกจำนวนคน (เราไป 3 คน เลือก Individual)

จะมี Pop Up ขึ้นมา ให้เราอ่านทำความเข้าใจ อ่านจบแล้ว คลิกที่ช่องสีเหลี่ยมเล็กๆได้เลย

เค้าถามว่า เรา (คนจอง) จะมากับอีกกี่คนค่ะ --> เช่น ไปกัน 3 คน ก็ With 2 person นะคะ

เลือกวันที่จะไป : สีเทา คือเต็ม สีน้ำตาล คือยังจองได้นะคะ
เลือกเวลาที่จะเข้า : Book ยังจองได้อยู่ Full เต็มแล้วนะจ๊ะ
อันนี้ให้ใส่รายละเอียดต่างๆนะคะ ชื่อ-สกุล /4 หลักท้ายของ Passport /หมายเลขโทรศัพท์ (ใช้เบอร์มือถือเก่าๆของฮ่องกง)/E-mail ของผู้จอง

ปล. หลังจากหน้านี้แล้ว รู้สึกว่าจะมีถามว่ามีรถส่วนตัวมาด้วยหรือไม่นะคะ
คอนเฟริมเสร็จแล้ว รอรับ E-mail จากทางวัดได้เลยค่ะ.......
ผ่านไปเกือบๆ 1 เดือน เค้าจะมี e-mail confirm มาอีก 1 ฉบับ เราใช้ฉบับใหม่นี้ในการยื่นให้เจ้าหน้าที่ของทางวัดนะคะ (ส่งล่วงหน้า 3 วัน)
และแล้ว ก็ถึงวันนั้นที่รอคอย
การเดินทาง : เริ่มที่ MTR Yau ma tai ST. นั่งสายสีเขียว ไปลงที่สถานี Kowloon tung แล้วเปลี่ยนไปนั่งสายสีฟ้า นั่งยาวๆ ไปลงที่ Taipo Market ใช้ Ex.A นั่งรถสาย 20C (พอรถเลี้ยวเข้าถนน Tung TSZ ให้ลงป้ายที่ 2 นะคะ) จากนั้น เดิน เดิน และเดิน ขึ้นเขาย่อมๆยาวๆชันเล็กๆ ประมาณ 700 เมตร (แต่ตอนเราเดินขึ้นนึกว่า 2 กิโล)
ปล.1 เราได้เจอความน่ารักของคุณป้าชาวฮ่องกงด้วยนะคะ เรานั่งรถเมล์สาย 20C เพื่อไปที่วัด แล้วทีนี้ พอรถเลี้ยวที่ถนน Tung TSZ เราก็เตรียมตัวจะลุก มองข้างทาง คุณป้าถามเราว่าจะไปลงที่ไหน (ส่งภาษาจีนให้เราเลยค่ะ ฟังออก หรา!!!) เราตอบด้วยความมั่นใจ ฉีซานจี้ คุณป้าพยักหน้า (รถจะจอด 1 ป้ายก่อนที่จะถึงทางเข้าวัด) คุณป้าทำมือทำไม้บอกเรา ว่าไม่ต้องลงป้ายนี้ ให้ลงป้ายหน้า แล้วก็ตะโกนบอกคนขับรถให้เราด้วย ฉีซานจี้ เสียงดังฟังชัดมาก พอรถจอด คุณป้า ก็บอกให้เราลงที่ป้ายนี้ เราขอบคุณคุณป้า แถมคุณป้า (น่าจะ) ขอให้เราเที่ยวให้สนุกด้วยหล่ะ แล้วเราก็เดินลงจากรถ
ปล.2 ถ้าอยากทดสอบขาแข้ง นั่งรถเมล์มา แล้วจะรู้ว่าคุณแข็งเเรงจริงหรือเปล่า เราโดนมาแล้ว—“ หอบเลยค่ะ แต่ถ้าอยากสะดวกและสบาย นั่ง Taxi จาก MTR มาเลย รถส่งถึงจุด Register เลย

ระหว่างรอเข้าวัด—สภาพตอนไปถึง หอบค่ะ เดินขึ้นเขา ทางก็ชัน ดีที่ไม่ค่อยมีรถ เดินข้ามมาข้ามไปหลบแดดกันสนุกเลย มาถึงก่อนเวลาก็ดีนะคะ
ก่อนจะเข้าวัด ให้ทำการยื่นเอกสารคอนเฟิร์ม ที่ทางวัดได้ส่งให้เราทาง e-mail พร้อมทั้งยื่น Passport ของผู้ที่ทำการจอง
ปล.เจ้าหน้าที่ไม่ถามถึงเบอร์โทรศัพท์ แต่เอา Passport กับเอกสารคอนเฟิร์ม ไปตรวจสอบกับ Tablet ในมือเท่านั้นค่ะ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ยื่นอันนี้มาให้
บัตรสำหรับผู้ที่จะเข้าชมวัดค่ะ ***ต้องติดที่เสื้อตลอดเวลานะคะ***
ปล. เราเข้าใจว่าเค้าจะแจก Map ที่ทางเข้าวัด เลยไม่ได้ Download ไปค่ะ
ถ้าใครจะไปที่วัด สามารถ Download ได้จาก link ด้านบน แล้วเลือก MAP นะคะ จะมีรายละเอียดให้หมดเลย--- เราพลาดไปแล้ว
เมื่อเข้ามาด้านใน ไม่ต้องมีใครเตือนใครเลยค่ะ ทุกคนคุยกันเงียบๆ สำรวม ถึงแม้จะดูตื่นเต้นกับองค์เจ้าแม่กวนอิม อาจเป็นเพราะสภาพแวดล้อมมีแต่ความเงียบสงบ ทุกคนที่เข้าไปพร้อมๆกับเรา พร้อมใจกับเงียบจริงๆ (เราเจอคนไทยหลายคนเลยล่ะค่ะ)
หลังจากผ่านจุด Register ก็จะเป็นลานกว้างๆ และจะเห็นองค์เจ้าแม่กวนอิมด้วย

ก่อนข้ามประตู จะมีป้าย Silence เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน

นายทวารเฝ้าประตูทางเข้าวัด (เค้าเรียกยังงี้ป่ะ)
เดินผ่านประตูแรก จะเจอกับ Maitreya Hall หรือหอเมตไตรยะ
มีพระศรีอริยะเมตไตรประดิษฐานอยู่ด้านในค่ะ
ปล.หลายๆภาพที่ถ่ายได้ อาจมีขอบประตูกั้น หรือถ่ายได้จากจุดไกลๆนะคะ เพราะทางวัดจะติดป้ายห้ามถ่ายรูปด้านในไว้ค่ะ
จากจุดนี้ ถ้าไปด้านซ้าย/ขวา จะเป็นหอระฆัง และหอกลองค่ะ (แต่เราไม่ได้เดินไปนะคะ

)
พอผ่านจุดนี้ จะเจอลานกว้างๆ ที่มองเห็นองค์เจ้าแม่กวนอิมอีกมุมหนึ่ง

ไปต่อค่ะ จุดต่อไป Grand Buddha Hall

มีพระพุทธเจ้า 3 พระองค์ คือ Śākyamuni Buddha, Bhaiṣajyaguru Buddha (the Medicine Buddha), and Amitābha Buddha -ขอใช้ภาษาอังกฤษจาก Web นะคะ เกรงว่าจะพิมพ์นามของพระพุทธเจ้าผิด
หันหลังกลับมาเจอวิวแบบนี้

เดินลงมา ก็เจอป้ายหินอันนี้

ใครแปลออก...บอกต่อด้วย
ไปต่อๆๆ เดินมาอีกนิด จุดนี้เราชอบที่สุด Universal Gate Hall เป็นจุดที่มีเจ้าแม่กวนอิน 6 กร ประดิษฐานอยู่ด้านใน และมีให้คัดอักษรจีนด้วยค่ะ อันนี้เป็นของน้องสาวเรา ลายมือสวยเนอะ
การคัดอักษรจีน ใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที ทางวัดจะมีอุปกรณ์ให้พร้อมเลย เหมือนเราหัดเขียน ก.ไก่ ข.ไข่ ที่มีจุดประอ่ะค่ะ แต่อันนี้จะเป็นแบบตัวอักษรสีจางๆ พอเสร็จแล้วก้เอาไปให้เจ้าหน้าที่ประทับตรา ช่วงที่เค้าประทับตรา ม้วนกระดาษ หรือแม้แต่การส่งม้วนกระดาษกลับคืนมาให้เรา เรารู้สึกว่าเค้าทำด้วยความตั้งใจ จดจ่อ และมีความละมุน (อธิบายไม่ถูก คือ ละเมียดละมัยไปหมด)
เราเขียนเสร็จก่อน เลยมานั่งรอ เลยได้ภาพนี้มา

นั่งพัก รอน้องสาว ก็ได้เห็นองค์เจ้าแม่กวนอิมอีก 1 จุด
ด้านหลังจุดที่เรายั่งพัก มีบ่อน้ำ ให้เราฝึกสมาธิ โดยการตักน้ำใส่ใน ขันไม้ แล้วเดินถือขันไม้ เพื่อเอาน้ำไปเทที่อ่างขนาดใหญ่หน้าองค์เจ้าแม่กวนอิม
(ระหว่างเดินต้องระวังอย่าให้น้ำหกนะ)

องค์เจ้าแม่กวนอินแบบเต็มๆองค์
มาดูวิวรอบๆกันค่ะ
3 รูปด้านล่าง เป็นจุดนั่งพัก ดื่มกาแฟ / จุดคืนป้าย Visitor /ป้ายรถเมล์สาย 20T จากวัดไป MTR Taipo Market ป้ายรถเมล์จะอยู่ด้านในวัดเลยนะคะ เค้าจะมีช่วงเวลาที่รถออก คือ ทุกๆ 1 ชม แต่เค้าจะกำหนดแค่ 15 คน/เที่ยวเท่านั้น ดูกันดีๆนะ ถ้าช้าต้องรออีก 1 ชม.นะตัวเอง
เราใช้เวลาที่วัดนี้ประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่กับความเงียบ สงบ เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่งที่ได้หนีจากสังคมอันยุ่งเหยิง ถ้าใครมีโอกาสได้ไปฮ่องกง และชอบความสงบ ลองไปวัดนี้ดูนะคะ แล้วมาแชร์ประสบการณ์กันค่ะ
แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าBYE BYE




[CR] วัดนี้....ที่รอคอย "วัดฉีซานจี้"
และแล้วโอกาสก็มาหาเรา 5555 โปรจองข้ามปีของ Thai Air asia จองวันนี้ บินอีกทีปีหน้า จอง 59 ได้ไป 60 ข้ามปีกันเลยนะฮ้า!!!!
กระทู้นี้จะมีแต่วัดฉีซานจี้ เท่านั้นค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เริ่มล่ะนะ....
หลังจากสะสมความรู้การในการไปวัดฉีซานจี้ มา 2-3 กระทู้.... เราก็กำหนดวัน และเวลาที่เราจะจองคิวเข้าวัด
link : https://www.tszshan.org/home/new/en/visit.php
คลิกที่ Online Booking
เลื่อนหน้าจอมาด้านล่าง ระบบจะให้เลือกจำนวนคน (เราไป 3 คน เลือก Individual)
จะมี Pop Up ขึ้นมา ให้เราอ่านทำความเข้าใจ อ่านจบแล้ว คลิกที่ช่องสีเหลี่ยมเล็กๆได้เลย
เค้าถามว่า เรา (คนจอง) จะมากับอีกกี่คนค่ะ --> เช่น ไปกัน 3 คน ก็ With 2 person นะคะ
เลือกวันที่จะไป : สีเทา คือเต็ม สีน้ำตาล คือยังจองได้นะคะ
เลือกเวลาที่จะเข้า : Book ยังจองได้อยู่ Full เต็มแล้วนะจ๊ะ
อันนี้ให้ใส่รายละเอียดต่างๆนะคะ ชื่อ-สกุล /4 หลักท้ายของ Passport /หมายเลขโทรศัพท์ (ใช้เบอร์มือถือเก่าๆของฮ่องกง)/E-mail ของผู้จอง
ปล. หลังจากหน้านี้แล้ว รู้สึกว่าจะมีถามว่ามีรถส่วนตัวมาด้วยหรือไม่นะคะ
คอนเฟริมเสร็จแล้ว รอรับ E-mail จากทางวัดได้เลยค่ะ.......
ผ่านไปเกือบๆ 1 เดือน เค้าจะมี e-mail confirm มาอีก 1 ฉบับ เราใช้ฉบับใหม่นี้ในการยื่นให้เจ้าหน้าที่ของทางวัดนะคะ (ส่งล่วงหน้า 3 วัน)
และแล้ว ก็ถึงวันนั้นที่รอคอย
การเดินทาง : เริ่มที่ MTR Yau ma tai ST. นั่งสายสีเขียว ไปลงที่สถานี Kowloon tung แล้วเปลี่ยนไปนั่งสายสีฟ้า นั่งยาวๆ ไปลงที่ Taipo Market ใช้ Ex.A นั่งรถสาย 20C (พอรถเลี้ยวเข้าถนน Tung TSZ ให้ลงป้ายที่ 2 นะคะ) จากนั้น เดิน เดิน และเดิน ขึ้นเขาย่อมๆยาวๆชันเล็กๆ ประมาณ 700 เมตร (แต่ตอนเราเดินขึ้นนึกว่า 2 กิโล)
ปล.1 เราได้เจอความน่ารักของคุณป้าชาวฮ่องกงด้วยนะคะ เรานั่งรถเมล์สาย 20C เพื่อไปที่วัด แล้วทีนี้ พอรถเลี้ยวที่ถนน Tung TSZ เราก็เตรียมตัวจะลุก มองข้างทาง คุณป้าถามเราว่าจะไปลงที่ไหน (ส่งภาษาจีนให้เราเลยค่ะ ฟังออก หรา!!!) เราตอบด้วยความมั่นใจ ฉีซานจี้ คุณป้าพยักหน้า (รถจะจอด 1 ป้ายก่อนที่จะถึงทางเข้าวัด) คุณป้าทำมือทำไม้บอกเรา ว่าไม่ต้องลงป้ายนี้ ให้ลงป้ายหน้า แล้วก็ตะโกนบอกคนขับรถให้เราด้วย ฉีซานจี้ เสียงดังฟังชัดมาก พอรถจอด คุณป้า ก็บอกให้เราลงที่ป้ายนี้ เราขอบคุณคุณป้า แถมคุณป้า (น่าจะ) ขอให้เราเที่ยวให้สนุกด้วยหล่ะ แล้วเราก็เดินลงจากรถ
ปล.2 ถ้าอยากทดสอบขาแข้ง นั่งรถเมล์มา แล้วจะรู้ว่าคุณแข็งเเรงจริงหรือเปล่า เราโดนมาแล้ว—“ หอบเลยค่ะ แต่ถ้าอยากสะดวกและสบาย นั่ง Taxi จาก MTR มาเลย รถส่งถึงจุด Register เลย
ระหว่างรอเข้าวัด—สภาพตอนไปถึง หอบค่ะ เดินขึ้นเขา ทางก็ชัน ดีที่ไม่ค่อยมีรถ เดินข้ามมาข้ามไปหลบแดดกันสนุกเลย มาถึงก่อนเวลาก็ดีนะคะ
ก่อนจะเข้าวัด ให้ทำการยื่นเอกสารคอนเฟิร์ม ที่ทางวัดได้ส่งให้เราทาง e-mail พร้อมทั้งยื่น Passport ของผู้ที่ทำการจอง
ปล.เจ้าหน้าที่ไม่ถามถึงเบอร์โทรศัพท์ แต่เอา Passport กับเอกสารคอนเฟิร์ม ไปตรวจสอบกับ Tablet ในมือเท่านั้นค่ะ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ยื่นอันนี้มาให้
บัตรสำหรับผู้ที่จะเข้าชมวัดค่ะ ***ต้องติดที่เสื้อตลอดเวลานะคะ***
ปล. เราเข้าใจว่าเค้าจะแจก Map ที่ทางเข้าวัด เลยไม่ได้ Download ไปค่ะ
ถ้าใครจะไปที่วัด สามารถ Download ได้จาก link ด้านบน แล้วเลือก MAP นะคะ จะมีรายละเอียดให้หมดเลย--- เราพลาดไปแล้ว
เมื่อเข้ามาด้านใน ไม่ต้องมีใครเตือนใครเลยค่ะ ทุกคนคุยกันเงียบๆ สำรวม ถึงแม้จะดูตื่นเต้นกับองค์เจ้าแม่กวนอิม อาจเป็นเพราะสภาพแวดล้อมมีแต่ความเงียบสงบ ทุกคนที่เข้าไปพร้อมๆกับเรา พร้อมใจกับเงียบจริงๆ (เราเจอคนไทยหลายคนเลยล่ะค่ะ)
หลังจากผ่านจุด Register ก็จะเป็นลานกว้างๆ และจะเห็นองค์เจ้าแม่กวนอิมด้วย
ก่อนข้ามประตู จะมีป้าย Silence เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน
เดินผ่านประตูแรก จะเจอกับ Maitreya Hall หรือหอเมตไตรยะ
มีพระศรีอริยะเมตไตรประดิษฐานอยู่ด้านในค่ะ
ปล.หลายๆภาพที่ถ่ายได้ อาจมีขอบประตูกั้น หรือถ่ายได้จากจุดไกลๆนะคะ เพราะทางวัดจะติดป้ายห้ามถ่ายรูปด้านในไว้ค่ะ
จากจุดนี้ ถ้าไปด้านซ้าย/ขวา จะเป็นหอระฆัง และหอกลองค่ะ (แต่เราไม่ได้เดินไปนะคะ
พอผ่านจุดนี้ จะเจอลานกว้างๆ ที่มองเห็นองค์เจ้าแม่กวนอิมอีกมุมหนึ่ง
ไปต่อค่ะ จุดต่อไป Grand Buddha Hall
หันหลังกลับมาเจอวิวแบบนี้
เดินลงมา ก็เจอป้ายหินอันนี้
ไปต่อๆๆ เดินมาอีกนิด จุดนี้เราชอบที่สุด Universal Gate Hall เป็นจุดที่มีเจ้าแม่กวนอิน 6 กร ประดิษฐานอยู่ด้านใน และมีให้คัดอักษรจีนด้วยค่ะ อันนี้เป็นของน้องสาวเรา ลายมือสวยเนอะ
การคัดอักษรจีน ใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที ทางวัดจะมีอุปกรณ์ให้พร้อมเลย เหมือนเราหัดเขียน ก.ไก่ ข.ไข่ ที่มีจุดประอ่ะค่ะ แต่อันนี้จะเป็นแบบตัวอักษรสีจางๆ พอเสร็จแล้วก้เอาไปให้เจ้าหน้าที่ประทับตรา ช่วงที่เค้าประทับตรา ม้วนกระดาษ หรือแม้แต่การส่งม้วนกระดาษกลับคืนมาให้เรา เรารู้สึกว่าเค้าทำด้วยความตั้งใจ จดจ่อ และมีความละมุน (อธิบายไม่ถูก คือ ละเมียดละมัยไปหมด)
เราเขียนเสร็จก่อน เลยมานั่งรอ เลยได้ภาพนี้มา
ด้านหลังจุดที่เรายั่งพัก มีบ่อน้ำ ให้เราฝึกสมาธิ โดยการตักน้ำใส่ใน ขันไม้ แล้วเดินถือขันไม้ เพื่อเอาน้ำไปเทที่อ่างขนาดใหญ่หน้าองค์เจ้าแม่กวนอิม
(ระหว่างเดินต้องระวังอย่าให้น้ำหกนะ)
องค์เจ้าแม่กวนอินแบบเต็มๆองค์
มาดูวิวรอบๆกันค่ะ
3 รูปด้านล่าง เป็นจุดนั่งพัก ดื่มกาแฟ / จุดคืนป้าย Visitor /ป้ายรถเมล์สาย 20T จากวัดไป MTR Taipo Market ป้ายรถเมล์จะอยู่ด้านในวัดเลยนะคะ เค้าจะมีช่วงเวลาที่รถออก คือ ทุกๆ 1 ชม แต่เค้าจะกำหนดแค่ 15 คน/เที่ยวเท่านั้น ดูกันดีๆนะ ถ้าช้าต้องรออีก 1 ชม.นะตัวเอง
เราใช้เวลาที่วัดนี้ประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่กับความเงียบ สงบ เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่งที่ได้หนีจากสังคมอันยุ่งเหยิง ถ้าใครมีโอกาสได้ไปฮ่องกง และชอบความสงบ ลองไปวัดนี้ดูนะคะ แล้วมาแชร์ประสบการณ์กันค่ะ
แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าBYE BYE