ภายในอาคารหลังเดียวกันทำไมไม่ควรมีจุดต่อลงดินมากกว่า 1 จุด

ตามหัวข้อเลยครับ  พอดีเคยมีอาจารย์สอนแล้วผมลืมไม่ได้ จดทั้งที่ถ้าตอกหลักดินใหม่ไม่ต้องเดินสายไกลอะไรทำนองนี้  แต่ทำไมห้ามตอกหลักดินมากกว่า1จุดครับ  ผู้รู้ช่วยเข้ามาอธิบายทีครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
หลายคนก็มักเอาวงจรขนานมาคิดว่าช่วยแชร์กระแสซึ่งไม่ผิดครับ
ถ้าหลักกราวด์หลักที่MDB
ยังสมบูรณ์ดี(สาย10ตร.มม.หลักตอกให้ต่ำกว่า5โอห์ม)
และบ้านไม่ติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว
แต่ถ้าชุดหลักกราวด์หลักชัดรุดนั่นคือปัญหาเพราะสายกราวด์ในบ้านคือ2.5ตารางมิลจะรับกระแสไม่สมดุลเฟสไม่ไหวถ้า
กระแสเกิน21แอมป์ขึ้นไปจะร้อนมาก และถ้ามากเกิน60แอมป์ก็จะลุกใหม้ได้
และยิ่งสายยิ่งยาวยิ่งร้อนง่ายตามกฎของโอห์มIIR
และปัจจุบันการไฟฟ้านครหลวงจ่ายไฟฟ้าให้หมู่บ้านจัดสรรค์โดยใช้หม้อแปลงขนาด300แอมป์ขึ้นไป
โอกาสกระแสไม่สมดุลเฟสมีโอกาสเกิน100แอมป์ได้ในช่วงเทศกาล
ที่หลายบ้านไม่อยู่ใช้ไฟให้สมดุลเฟส
บางเฟสอาจใช้มากจนสาย 2.5
รับไม่ไหว
และเกิดไฟไหม้บ้านแล้วมักบอกว่าไฟฟ้าลัดวงจร
แต่จริงแล้วสายกราวด์ไหม้จากกระแสไม่สมดุลเฟสไหลไปลงหลักกราวด์ที่เกินมา
สาเหตุจากหลักกราวด์ที่MDBอาจผุหรือหลวมหรือความต้านทานสูงเกินมาตรฐานจากการทำหลักกราวด์ไม่ได้มาตรฐาน
กระแสก็ไหลไปลงหลักช่วยที่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตอกเกินมาในระบบ
แทนที่จะช่วยแบ่งเบา
กับสร้างอันตรายกว่าที่คิด
และถ้าทำอย่างในภาพเครื่องRCD
จะตัดไฟตลอดจากN ถูกแชร์กระแสจนเกิดผลต่างใน RCD
แม้ไฟจะตัดแต่กระแสNในสายกราวด์ไม่หยุดไหลนะครับ
ทดลองปิดMDBในบ้านท่านแล้วลองวัดกระแสในสายNที่ต่อลงหลักกราวด์ดูช่วงเย็น ๆ นะครับ
แล้วจะเข้าใจว่า
ทำไม วสท.จึงให้ต่อหลักดินเดียวในบ้านหรืออาคารแต่ละหลัง
และถ้าจะเชื่อมขนานกับหลักกราวด์ล่อฟ้าก็ขนานที่ความลึก30ซ.ม.กับหลักกราวด์ไฟฟ้าหลักเท่านั้นครับ
ขอบคุณที่ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่