สวัสดีค่ะ

เพิ่งเคยเขียนกระทู้ครั้งแรก ถ้าผิดพลาดยังไงต้องขออภัยด้วยนะคะ U-U
ช่วงเดือนมีนาคมปี2559ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสใช้บริการกับ vietnam airlines เนื่องจากช่วงนั้นมีโปรฯ แล้วบริการแบบfull service และน้ำหนักระเป๋าคนละ 30 kg บ้านเราเลยตัดสินใจใช้ไปกับสายการบินนี้ค่ะ เริ่มแรกเลย ก่อนเราจะจองตั๋วเนี่ย เราก็ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับสายการบินนี้เยอะมากกกกกกกกก เพราะกลัวว่าจะมีปัญหาเยอะ เช่น ดีเลย์บ้าง ไม่มีอะไรทำบนเครื่องบ้าง ตอนนั้นก็ดูจากกระทู้พันทิพเนี่ยแหละ ก็ทำการจองตั๋วประมาณกลางเดือนมกราคมกับบริษัทmajestic travel ราคาน่าจะประมาณ13,xxxบาท (เราไม่ค่อยขัวร์เท่าไหร่ แต่ประมาณนี้ค่ะ) รูปเกี่ยวกับสายการบินอาจจะค่อนข้างน้อยนะคะ ต้องขออภัยด้วยTT
ทริปของเราคือวันที่12มีค.-20มีค. ค่ะ
- วันแรก -
เริ่มต้นกันที่สนามบินสุวรรณภูมิค่ะ พอเราถึงเราก็เช็คอินเพื่อนเอากระเป๋าโหลดลงใต้ท้องเครื่องค่ะ

เราก็จะได้boarding passมา2ใบ เพราะเราต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่โฮจิมินห์ ซิตี้ ประมาณ3ชม.


เครื่องที่เรานั่งตอนโฮจิมินห์ คือ AIRBUS A321-100/200 จะไม่มีทีวีค่ะ (เราลืมถ่ายมา แงง้ แต่จำได้ว่าถ่ายตอนขากลับเดี๋ยวค่อยลงละกันค่ะ5555) และก็ใช้เวลาเดินทางเพียง 1ชม.50นาที เราเลยไม่ซีเรียสอะไรมาก มีอาหารเสิร์ฟ


ตอนไปถึงสนามบินก็ประมาณ3ทุ่ม ต้องลงจากเครื่องแล้วต่อบัสมาที่ตัวสนามบิน ร้านค้าส่วนใหญ่จะเริ่มปิดบ้าง บางร้านก็ยังมีอยู่ เราก็รอเวลาขึ้นเครื่อง
เครื่องที่ไปโตเกียว คือ BOEING 787 มีทีวีให้ โปรแกรมหนังและเพลงค่อนข้างเยอะ ชอบมากๆ

อันนี้อาหารของตัวเองกับแม่ค่ะ


- วันที่สาม -
เป็นวันที่โชคร้ายสำหรับเรามากจริงๆค่ะ คือเราวางแผนว่าจะไปโรปเวย์วันนี้ใช่มั้ยคะ
ปรากฏว่า
ฝนตก!!!!! ละคือญี่ปุ่นเนี่ยถ้าฝนตกก็ตกทั้งวันเลยค่ะ


เราก็นั่งจาก Shizuoka sta. ไป Higashi-shizuoka sta. เพื่อจะขึ้นรถบัสค่ะ

แต่สุดท้ายก็นั่งรถบัสขึ้นเขาไปที่โรปเวย์ ได้กลับมาเป็นพวกขนมและของฝากจากบนนั้นแทน
เรารู้สึกเสียดายมากกกกกกกก ที่ไม่ได้เห็นฟูจิแบบชัดๆ คือหมอกลง ไม่เห็นอะไรเลย
ก็อยากแนะนำให้ทุกคนเช็คการเดินทางและสภาพภูมิอากาศก่อนนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะนกแบบเรา


เราก็กลับมาเอากระเป๋าที่โรงแรมเพื่อที่จะไป นิกโกะ ต่อค่ะ
เราออกจากโรงแรมประมาณ12.50น. ถึงนิกโกะ19.20น.

(ให้ดูว่าคนน้อยมากเว่อ555555)




เท่านั้นยังไม่พอค่ะ การเดินทางแสนทรหดก็เริ่มขึ้น ต้องกึ่งวิ่งกึ่งเดินจากสถานีของJRไปสถานีท้องถิ่น ประมาณ5นาทีกว่าๆ
พอไปถึงปุ๊ป นายสถานีบอกว่า ถ้าจะขึ้นให้ขึ้นเลยเพราะนี่รถไฟเที่ยวสุดท้ายแล้ว

ตอนนั้นนี่ใจแป๊วมากก คิดว่าแบบเมื่อไหร่จะถึงที่พักซักที่ พอถึงสถานีkosagoeก็19.56น.ค่ะ

ก็ต้องเดินจากสถานีไปโรงแรมประมาณร่วม15นาทีค่ะ
แต่ต้องเข้าใจว่าตอนนั้นค่ำแล้วประมาณ2ทุ่มกว่าอะละต้องเดินลากกระเป๋าเดินทาง
ไฟก็ดันมีน้อย รู้สึกท้อมาก เหนื่อย หนาวก็หนาว บ่นตลอดทางเมื่อไหร่จะถึง
แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินไปบ่นไป5555555555

ในที่สุดก็ถึงแล้วค่ะ โรงแรมที่เราพัก Kinugawa Niouson Plaza
https://ssl.hotels.com/hotel/details.html?pos=HCOM_TH&locale=en_TH&hotelId=544493&tab=description&rffrid=eml.hcom.TH.430.00.2016.03.04.src00.00.00.0000.0000.00.0000&intlid=Body_HotelName_H839.012.003_H2122.011.003
สำหรับตัวเรา เราชอบที่นี่นะคะ (ถึงตอนแรกจะบ่นว่าไกล55555) โอเคมาก
เจ้าของก็นิสัยน่ารัก มีแผนที่ภายในโรงแรมให้ด้วย


แล้วเขาก็แนะนำว่ามีทีเที่ยวอะไรบ้าง


ตกดึกก็กินค่ะ55555555


วันที่สามไม่ค่อยมีอะไรมากค่ะ เดินทางก็ปาไปเกือบครึ่งวัน
[CR] เที่ยวญี่ปุ่นกับสายการบิน Vietnam airlines
ช่วงเดือนมีนาคมปี2559ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสใช้บริการกับ vietnam airlines เนื่องจากช่วงนั้นมีโปรฯ แล้วบริการแบบfull service และน้ำหนักระเป๋าคนละ 30 kg บ้านเราเลยตัดสินใจใช้ไปกับสายการบินนี้ค่ะ เริ่มแรกเลย ก่อนเราจะจองตั๋วเนี่ย เราก็ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับสายการบินนี้เยอะมากกกกกกกกก เพราะกลัวว่าจะมีปัญหาเยอะ เช่น ดีเลย์บ้าง ไม่มีอะไรทำบนเครื่องบ้าง ตอนนั้นก็ดูจากกระทู้พันทิพเนี่ยแหละ ก็ทำการจองตั๋วประมาณกลางเดือนมกราคมกับบริษัทmajestic travel ราคาน่าจะประมาณ13,xxxบาท (เราไม่ค่อยขัวร์เท่าไหร่ แต่ประมาณนี้ค่ะ) รูปเกี่ยวกับสายการบินอาจจะค่อนข้างน้อยนะคะ ต้องขออภัยด้วยTT
เริ่มต้นกันที่สนามบินสุวรรณภูมิค่ะ พอเราถึงเราก็เช็คอินเพื่อนเอากระเป๋าโหลดลงใต้ท้องเครื่องค่ะ
เราก็จะได้boarding passมา2ใบ เพราะเราต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่โฮจิมินห์ ซิตี้ ประมาณ3ชม.
เครื่องที่เรานั่งตอนโฮจิมินห์ คือ AIRBUS A321-100/200 จะไม่มีทีวีค่ะ (เราลืมถ่ายมา แงง้ แต่จำได้ว่าถ่ายตอนขากลับเดี๋ยวค่อยลงละกันค่ะ5555) และก็ใช้เวลาเดินทางเพียง 1ชม.50นาที เราเลยไม่ซีเรียสอะไรมาก มีอาหารเสิร์ฟ
ตอนไปถึงสนามบินก็ประมาณ3ทุ่ม ต้องลงจากเครื่องแล้วต่อบัสมาที่ตัวสนามบิน ร้านค้าส่วนใหญ่จะเริ่มปิดบ้าง บางร้านก็ยังมีอยู่ เราก็รอเวลาขึ้นเครื่อง
เครื่องที่ไปโตเกียว คือ BOEING 787 มีทีวีให้ โปรแกรมหนังและเพลงค่อนข้างเยอะ ชอบมากๆ
อันนี้อาหารของตัวเองกับแม่ค่ะ
เราก็ถึงสนามบินนาริตะเป็นที่เรียบร้อย โดยอย่างแรกที่เราทำเมื่อถึงก็ไปทำเรื่องเกี่ยวกับ Japan rail passที่ทำการซื้อไว้ตอนงานท่องเที่ยวที่ศูนย์สิริกิตต์ เราก็จะได้มาแบบนี้ เวลาขึ้นรถไฟของJRก็แค่ชูให้นายสถานีดูเท่านั้นเอง
หลังจากทำธุระส่วนตัวเร็จเรียบร้อยเราก็นั่ง NEXไปสถานีชินากาว่าค่ะ การเดินทางที่ญี่ปุ่นวันแรกค่อนข้างใช้รถไฟเยอะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ก็คือ Narita Airport > Shinagawa Sta. > Shizuoka Sta. > Shimizu Sta.
อันนี้NEXนะคะ
แต่ก่อนอื่นค่ะ เราก็ไปขอเช่าpocket wifi ของ ninja wifi ที่สถานีshizuoka
ตอนนั้นเขาแจกให้ใช้ฟรีค่ะ ถือว่าเป็นโชคดีของเรามากๆ เลยไม่เสียเงินในส่วนนี้ ต้องมารับที่สถานีนี้เท่านั้น แต่เวลาคืนสามารถคืนได้ทุกสนามบินในญี่ปุ่น
นี่รายละเอียดค่ะ https://ninjawifi.com/
พอเราถึงสถานีshimizu วิวแรกที่เห็นจะเป็นแบบนี้ค่ะ
เราก็ไปฝากกระเป๋ากับโรงแรมที่พัก นั่นคือ hotel vista shimizu http://www.hotel-vista.jp/shimizu/index_e.html
เราก็วางแผนไป Nihondaira Ropeway แต่ด้วยความที่เราศึกษามาไม่ดีพอ ถามคนญี่ปุ่นแถวป้ายรถเมล์ ดันลงผิดป้าย ไปโผล่ตรง IAI Stadium Nihondairaเฉยเลย ละตอนนั้นก็มีแข่งกีฬาอะไรซักอย่างเสียงดังกระหึ่มมากกกกก คนมาดูเยอะมาก คือจริงๆทางที่เราไปก็สามารถไปropewayได้ แต่ ใช้เวลาประมาณ ชมกว่าๆถ้าขับรถ ตอนนั้นเราแบบหมดหนทาง เดินขึ้นตามถนนไปเรื่อยๆ เนื่องจากหารถไม่ได้ เพราะปิดถนนเนื่องจากมีการแข่งขัน เราก็เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิอะเนอะ
สุดท้ายยอมแพ้ ไปพรุ่งนี้ละกัน ก็นั่งกลับไปที่จุดเดิม เที่ยวที่อื่นแทนละกันเว้ย
ก็เหลือบไปมองร้านไทยากิร้านนึง ตัดสินใจเดินเข้าร้านซื้อกินย้อมใจซะ
เราเลยเลือกไปเดินห้าง ก็จะมีรถเมล์ของห้างมาบริการฟรี รับส่งจากสถานีshizuokaไปห้างS-Pulse Dream Plazaจ้า ก็เดินช้อปกันสนุกสนาน กลับโรงแรม
เป็นวันที่โชคร้ายสำหรับเรามากจริงๆค่ะ คือเราวางแผนว่าจะไปโรปเวย์วันนี้ใช่มั้ยคะ
ปรากฏว่า ฝนตก!!!!! ละคือญี่ปุ่นเนี่ยถ้าฝนตกก็ตกทั้งวันเลยค่ะ
เราก็นั่งจาก Shizuoka sta. ไป Higashi-shizuoka sta. เพื่อจะขึ้นรถบัสค่ะ
เรารู้สึกเสียดายมากกกกกกกก ที่ไม่ได้เห็นฟูจิแบบชัดๆ คือหมอกลง ไม่เห็นอะไรเลย
ก็อยากแนะนำให้ทุกคนเช็คการเดินทางและสภาพภูมิอากาศก่อนนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะนกแบบเรา
เราก็กลับมาเอากระเป๋าที่โรงแรมเพื่อที่จะไป นิกโกะ ต่อค่ะ
เราออกจากโรงแรมประมาณ12.50น. ถึงนิกโกะ19.20น.
เท่านั้นยังไม่พอค่ะ การเดินทางแสนทรหดก็เริ่มขึ้น ต้องกึ่งวิ่งกึ่งเดินจากสถานีของJRไปสถานีท้องถิ่น ประมาณ5นาทีกว่าๆ
พอไปถึงปุ๊ป นายสถานีบอกว่า ถ้าจะขึ้นให้ขึ้นเลยเพราะนี่รถไฟเที่ยวสุดท้ายแล้ว
ตอนนั้นนี่ใจแป๊วมากก คิดว่าแบบเมื่อไหร่จะถึงที่พักซักที่ พอถึงสถานีkosagoeก็19.56น.ค่ะ
ก็ต้องเดินจากสถานีไปโรงแรมประมาณร่วม15นาทีค่ะ
แต่ต้องเข้าใจว่าตอนนั้นค่ำแล้วประมาณ2ทุ่มกว่าอะละต้องเดินลากกระเป๋าเดินทาง
ไฟก็ดันมีน้อย รู้สึกท้อมาก เหนื่อย หนาวก็หนาว บ่นตลอดทางเมื่อไหร่จะถึง
แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินไปบ่นไป5555555555
ในที่สุดก็ถึงแล้วค่ะ โรงแรมที่เราพัก Kinugawa Niouson Plaza
https://ssl.hotels.com/hotel/details.html?pos=HCOM_TH&locale=en_TH&hotelId=544493&tab=description&rffrid=eml.hcom.TH.430.00.2016.03.04.src00.00.00.0000.0000.00.0000&intlid=Body_HotelName_H839.012.003_H2122.011.003
สำหรับตัวเรา เราชอบที่นี่นะคะ (ถึงตอนแรกจะบ่นว่าไกล55555) โอเคมาก
เจ้าของก็นิสัยน่ารัก มีแผนที่ภายในโรงแรมให้ด้วย
แล้วเขาก็แนะนำว่ามีทีเที่ยวอะไรบ้าง
ตกดึกก็กินค่ะ55555555
วันที่สามไม่ค่อยมีอะไรมากค่ะ เดินทางก็ปาไปเกือบครึ่งวัน
ตื่นเช้ามาก็พร้อมไป Tobu world Square ค่ะ
ระหว่างทางก็มีต้นซากุระให้แวะถ่าย ยืนถ่ายกันทั้งบ้าน555555
หลังจากถ่ายเสร็จก็ได้เวลามาเมืองจำลองแหละ อันนี้หน้าทางเข้าค่ะ
แวะกินเอาแรงซักแปป
แล้วก็เดินกลับมาที่โรงแรมเพื่อจะเอากระเป๋าไปที่รถไฟค่ะ เลยมีโอกาสถ่ายหน้าโรงแรมมา
แล้วทีนี้ก็กำลังจะออกจากโรงแรม ลุงที่โรงแรมก็บอกว่าเดี๋ยวเขาขับรถไปส่งที่สถานีให้ค่ะ
ก็สบายเลยย ไม่ต้องเดินลากกระเป๋า55555555
ต้องไปลง Nikko Sta. อยู่แล้ว เลยใช้โอกาสเที่ยวก่อนไปโยโกฮาม่าค่ะ
ก็ขอข้อมูลจากประชาสัมพันธ์
ทีนี้จะฝากกระเป๋าค่ะแต่ตู้เต็มก็หาตู้อยู่ซักแปป เลยตัดสินใจไปลองถามร้านค้าดู
สรุปก็ฝากกระเป๋าไว้ที่ร้านอาหารอินเเดียแถวนั้น
อันนี้หน้าร้านค่ะ