กระทู้ก่อนหน้านี้ค่ะ
https://pantip.com/topic/36130375
ตอน....ฤทธิ์เดชของจอร์จ...
คนที่ต้องรีบออกมาห้ามทัพศึกน้ำลายระหว่าง จอร์จกับท่านเซอร์เป็นการด่วน นั่นคือ ท่านนายกฯเชอร์ชิลล์ เพราะจำเป็นต้องรักษาน้ำใจกันไว้อีกนาน...
โดยการที่กล่าวต่อที่ประชุมสภาว่า
"กองทัพสหรัฐอเมริกาได้ทำการสู้รบ"เพื่อเรา" แทบทั้งหมด เพราะกำลังทัพนั้นได้ทุ่มเทมากกว่าเราถึงสามสิบเท่า และได้เสียทหารหาญไปมากกว่าเราถึงหกสิบเท่า"
และท่านได้กล่าว"แขวะ"ไปถึงท่านเซอร์ว่า..
"การที่จะเอ่ยถึงความภูมิใจของกองทัพของเราก็เป็นสิ่งดี แต่ต้องรับความจริงว่าเราเป็นแค่ส่วนช่วยเหลือเล็กๆให้กับการสู้รบที่ยิ่งใหญ่ของเพื่อนของเรา...สหรัฐอเมริกา...."
เมื่อท่านเซอร์ได้ยินเข้า..แทนที่จะสลด...กลับประชดลมๆแล้งๆว่า..
"อ้อ ดีนะ... มาด่ากันเองเพื่อเอาใจอเมริกา...คนอย่างฉันพูดอะไรก็ผิดไปหมด..."
จากหน้าสื่อนี้....ทางเยอรมันเริ่มจับเค้าได้ ว่า กลุ่มสัมพันธมิตรไม่ได้ลงรอยกันสักเท่าไหร่...ดังนั้นฝ่ายโปรประกันดาของเกิบเบิลส์ จึงเริ่มทำงานทันที
โดยการออกสื่อวิทยุช่องพิเศษ ลอกบีบีซีมาเป๊ะ รวมทั้งผู้อ่านข่าวที่มีเสียงคล้ายกับโฆษกประจำมาอ่านข่าวให้การสรรเสริญท่านเซอร์ และ จวกกองทัพสหรัฐว่าสู้รบไม่ได้เรื่อง...
ทางบีบีซีต้องไล่เช๊ค จับหาคลื่นสัญญาณกันเป็นการใหญ่ กว่าจะรู้ว่าเป็นสัญญาณเถื่อนที่ส่งมาจากเยอรมัน ก็แทบจะสายไป เพราะนักข่าวหลายคนได้เอาไปกระพือกันแล้วอย่างเรียบร้อย
งานนี้ได้สร้างความร้าวฉานเพิ่มขึ้นในกลุ่มของคนที่ไม่ชอบอังกฤษ...
เท่ากับว่า...เยอรมันได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในด้านนี้
แต่ด้านการศึกนั้นย่ำแย่ เพราะตลอดต้นปีของ 1945 หลังจากที่ต้องพ่ายแพ้ในสงครามอาร์เดนน์ เยอรมันแทบไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่เลย
ในเดือนกุมภาพันธ์ ทางตะวันออก...รัสเซียได้ก้าวล่วงเข้ามาจนอยู่ห่างไปจากเบอร์ลินเพียง 160 ไมล์ ในแนวชายแดนฝั่งนั้น การป้องกันเป็นไปแบบหลวมๆ
ทีนี้กลายเป็นว่า...สงครามได้เริ่มเปลี่ยนโฉม...เพราะเยอรมันนั้นมองเห็นอยู่ชัดแล้ว...ว่าไปไม่รอด และไม่ต้องออกแรงอะไรกันมาก
โฉมใหม่ของสงครามนี้...กำลังจะเป็นการแข่งเข้าเบอร์ลินระหว่าง สัมพันธมิตรกับรัสเซีย....เพราะถ้ามัวแต่โอ้เอ้ศาลาราย...นั่นก็หมายถึง รัสเซียจะได้เบอร์ลินทั้งหมด รวมทั้งพื้นที่ฝั่งบอลติก และ Northern Sea Ports
ดังนั้น สพม.จะต้องรีบข้ามแม่น้ำไรห์นอย่างโดยด่วนที่สุด เพื่อผลทางการเมืองระหว่างประเทศในช่วงหลังจากสงครามครั้งนี้...
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างสพม.เอง...ก็ไม่ค่อยลงรอยเท่าไหร่ เพราะไอค์เริ่มมองเห็นว่า ระยะใกล้เข้าสู่เบอร์ลิน...(สื่อ)อังกฤษพยายามทุกวิถีทางที่จะสร้างภาพให้ท่านเซอร์เป็นวีรบุรุษคนสำคัญที่นำชัยชนะ
ทั้งๆที่สหรัฐอเมริกาเป็นผู้ทุ่มทุนและทุ่มแรงแทบทั้งหมด
ทางวอชิงตันได้เริ่มจัดตารางงานให้ไอค์ทำการตัดกำลัง ตัดอาวุธ ของเยอรมันให้มากที่สุด โดยเฉพาะโรงงานผลิตต่างๆ...ต้องอย่าให้เหลือซากให้ฟื้นคืนชีพมาได้ ซึ่งหมายถึงว่า จะต้องมีการบอมบ์พื้นที่ที่ Ruhr ที่มีโรงงานผลิตอาวุธ
เมื่อเส้นทางตะวันออกที่รัสเซียกำลังย่างก้าวเข้ามา...เยอรมันได้ส่งกำลังแทบทั้งหมดไปต้าน ทำให้ทางด้านตะวันตกฝั่งแม่น้ำไรห์นกลายเป็นเส้นทางสะดวก แต่ก็ยังไม่สะดวกนัก เพราะต้องมาทะเลาะกันเองอีกด้วยเรื่องเดิมๆ
คือ ไอค์ต้องการเดินทัพเรียงเป็นแผ่นกระดานเข้าสู่เยอรมัน แต่ ทางอังกฤษต้องการให้ท่านเซอร์นำทัพเดียวบุกเข้าไปเลย เพราะว่าจะได้ถึงเบอร์ลินเร็วๆ ให้ถึงก่อนรัสเซีย หรือถึงพร้อมกันก็ยังดี
เมื่อพูดจากันไม่รู้เรื่อง...ทางอังกฤษจึงส่งรายงานถึงวอชิงตัน และได้อ้างสาเหตุว่า ไอค์คือจุดอ่อนในสงครามอาร์เดนน์ที่ผ่านมาที่ทำให้ต้องเสียกำลังไปอย่างมากมาย และการส่งกำลังบำรุงเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง เพราะต้องไปแบ่งกันหลายทัพ
ตั้งแต่เหนือจรดใต้...
ท่านรมต. มาร์แชล ได้ตอบกลับไปว่า...การบังคับบัญชาทัพเป็นของนายพลไอค์เซ่นฮาวร์ ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดคนเดียว...
ส่วนจอร์จ...เห็นด้วยกับวิธีการเดินทัพเดียวเช่นเดียวกับท่านเซอร์ แต่...คนคุมทัพ...จะต้องเป็นตัวเขาเท่านั้น...
อลหม่านหลังม่านวันดีเดย์....ภาคแปด!!
ตอน....ฤทธิ์เดชของจอร์จ...
คนที่ต้องรีบออกมาห้ามทัพศึกน้ำลายระหว่าง จอร์จกับท่านเซอร์เป็นการด่วน นั่นคือ ท่านนายกฯเชอร์ชิลล์ เพราะจำเป็นต้องรักษาน้ำใจกันไว้อีกนาน...
โดยการที่กล่าวต่อที่ประชุมสภาว่า
"กองทัพสหรัฐอเมริกาได้ทำการสู้รบ"เพื่อเรา" แทบทั้งหมด เพราะกำลังทัพนั้นได้ทุ่มเทมากกว่าเราถึงสามสิบเท่า และได้เสียทหารหาญไปมากกว่าเราถึงหกสิบเท่า"
และท่านได้กล่าว"แขวะ"ไปถึงท่านเซอร์ว่า..
"การที่จะเอ่ยถึงความภูมิใจของกองทัพของเราก็เป็นสิ่งดี แต่ต้องรับความจริงว่าเราเป็นแค่ส่วนช่วยเหลือเล็กๆให้กับการสู้รบที่ยิ่งใหญ่ของเพื่อนของเรา...สหรัฐอเมริกา...."
เมื่อท่านเซอร์ได้ยินเข้า..แทนที่จะสลด...กลับประชดลมๆแล้งๆว่า..
"อ้อ ดีนะ... มาด่ากันเองเพื่อเอาใจอเมริกา...คนอย่างฉันพูดอะไรก็ผิดไปหมด..."
จากหน้าสื่อนี้....ทางเยอรมันเริ่มจับเค้าได้ ว่า กลุ่มสัมพันธมิตรไม่ได้ลงรอยกันสักเท่าไหร่...ดังนั้นฝ่ายโปรประกันดาของเกิบเบิลส์ จึงเริ่มทำงานทันที
โดยการออกสื่อวิทยุช่องพิเศษ ลอกบีบีซีมาเป๊ะ รวมทั้งผู้อ่านข่าวที่มีเสียงคล้ายกับโฆษกประจำมาอ่านข่าวให้การสรรเสริญท่านเซอร์ และ จวกกองทัพสหรัฐว่าสู้รบไม่ได้เรื่อง...
ทางบีบีซีต้องไล่เช๊ค จับหาคลื่นสัญญาณกันเป็นการใหญ่ กว่าจะรู้ว่าเป็นสัญญาณเถื่อนที่ส่งมาจากเยอรมัน ก็แทบจะสายไป เพราะนักข่าวหลายคนได้เอาไปกระพือกันแล้วอย่างเรียบร้อย
งานนี้ได้สร้างความร้าวฉานเพิ่มขึ้นในกลุ่มของคนที่ไม่ชอบอังกฤษ...
เท่ากับว่า...เยอรมันได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในด้านนี้
แต่ด้านการศึกนั้นย่ำแย่ เพราะตลอดต้นปีของ 1945 หลังจากที่ต้องพ่ายแพ้ในสงครามอาร์เดนน์ เยอรมันแทบไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่เลย
ในเดือนกุมภาพันธ์ ทางตะวันออก...รัสเซียได้ก้าวล่วงเข้ามาจนอยู่ห่างไปจากเบอร์ลินเพียง 160 ไมล์ ในแนวชายแดนฝั่งนั้น การป้องกันเป็นไปแบบหลวมๆ
ทีนี้กลายเป็นว่า...สงครามได้เริ่มเปลี่ยนโฉม...เพราะเยอรมันนั้นมองเห็นอยู่ชัดแล้ว...ว่าไปไม่รอด และไม่ต้องออกแรงอะไรกันมาก
โฉมใหม่ของสงครามนี้...กำลังจะเป็นการแข่งเข้าเบอร์ลินระหว่าง สัมพันธมิตรกับรัสเซีย....เพราะถ้ามัวแต่โอ้เอ้ศาลาราย...นั่นก็หมายถึง รัสเซียจะได้เบอร์ลินทั้งหมด รวมทั้งพื้นที่ฝั่งบอลติก และ Northern Sea Ports
ดังนั้น สพม.จะต้องรีบข้ามแม่น้ำไรห์นอย่างโดยด่วนที่สุด เพื่อผลทางการเมืองระหว่างประเทศในช่วงหลังจากสงครามครั้งนี้...
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างสพม.เอง...ก็ไม่ค่อยลงรอยเท่าไหร่ เพราะไอค์เริ่มมองเห็นว่า ระยะใกล้เข้าสู่เบอร์ลิน...(สื่อ)อังกฤษพยายามทุกวิถีทางที่จะสร้างภาพให้ท่านเซอร์เป็นวีรบุรุษคนสำคัญที่นำชัยชนะ
ทั้งๆที่สหรัฐอเมริกาเป็นผู้ทุ่มทุนและทุ่มแรงแทบทั้งหมด
ทางวอชิงตันได้เริ่มจัดตารางงานให้ไอค์ทำการตัดกำลัง ตัดอาวุธ ของเยอรมันให้มากที่สุด โดยเฉพาะโรงงานผลิตต่างๆ...ต้องอย่าให้เหลือซากให้ฟื้นคืนชีพมาได้ ซึ่งหมายถึงว่า จะต้องมีการบอมบ์พื้นที่ที่ Ruhr ที่มีโรงงานผลิตอาวุธ
เมื่อเส้นทางตะวันออกที่รัสเซียกำลังย่างก้าวเข้ามา...เยอรมันได้ส่งกำลังแทบทั้งหมดไปต้าน ทำให้ทางด้านตะวันตกฝั่งแม่น้ำไรห์นกลายเป็นเส้นทางสะดวก แต่ก็ยังไม่สะดวกนัก เพราะต้องมาทะเลาะกันเองอีกด้วยเรื่องเดิมๆ
คือ ไอค์ต้องการเดินทัพเรียงเป็นแผ่นกระดานเข้าสู่เยอรมัน แต่ ทางอังกฤษต้องการให้ท่านเซอร์นำทัพเดียวบุกเข้าไปเลย เพราะว่าจะได้ถึงเบอร์ลินเร็วๆ ให้ถึงก่อนรัสเซีย หรือถึงพร้อมกันก็ยังดี
เมื่อพูดจากันไม่รู้เรื่อง...ทางอังกฤษจึงส่งรายงานถึงวอชิงตัน และได้อ้างสาเหตุว่า ไอค์คือจุดอ่อนในสงครามอาร์เดนน์ที่ผ่านมาที่ทำให้ต้องเสียกำลังไปอย่างมากมาย และการส่งกำลังบำรุงเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง เพราะต้องไปแบ่งกันหลายทัพ
ตั้งแต่เหนือจรดใต้...
ท่านรมต. มาร์แชล ได้ตอบกลับไปว่า...การบังคับบัญชาทัพเป็นของนายพลไอค์เซ่นฮาวร์ ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดคนเดียว...
ส่วนจอร์จ...เห็นด้วยกับวิธีการเดินทัพเดียวเช่นเดียวกับท่านเซอร์ แต่...คนคุมทัพ...จะต้องเป็นตัวเขาเท่านั้น...