เราเห็นแก่ตัวกับครอบครัวเกินไปหรือเปล่า??

แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 33
ขอบคุณทุกความเห็นมากนะคะ จะเอาไปปรับปรุงหลายๆอย่างค่ะ

ไม่คิดว่าคนจะมาตอบเยอะขนาดนี้

เราคงเก็บกดมาตั้งแต่เล็กๆที่พ่อแม่รักพี่มากกว่าเรา จนเป็นความอิจฉาค่ะ (แต่พี่ชายเราจริงๆก็ดีนะ ไม่เกลียดพี่เลย)

ส่วนเรื่องนาฬิกาที่แม่ขอ จริงๆแล้ว แม่เราอยากได้จริงๆเราก็ตั้งใจจะซื้อให้ค่ะ แต่เราไม่ชอบวิธีการของแม่

ที่ออกแนวมัดมือชกว่า เออสั่งอันนี้ ไปซื้อมาและจ่ายตังซะ ประมาณนี้

เราเลยพูดไปให้ไปขอพี่เรา แต่จริงๆลึกๆเราก็คิดค่ะว่าเดี๋ยวไป(ญี่ปุ่น)แล้วจะซื้อให้ แต่ยิ้มอนตุ๊บป่องๆไปแล้ว

แต่คงต้องลองง้อค่ะ จริงๆแล้วเราเป็นคนพูดง้อใครไม่เป็นด้วย

ยังไงขอบคุณทุกท่านมากนะคะ

ไม่คิดว่าจะมีคนตอบเยอะขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆค่ะ คงไม่ได้เข้ามาอ่านอีกแล้ว ตาลาย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
คุณเยอะ งก เห็นแก่ตัว และขี้อิจฉาด้วยครับ

คุณเห็นพี่ชายได้ แต่คุณไม่ได้ คุณก็รู้สึกไม่แฟร์ อยากได้บ้าง แต่กลับไปขอให้พ่อช่วยผ่อน ทั้งๆที่ปากบอกว่าคิดแบบฝรั่ง คือ โตแล้ว ทำงานแล้ว แยกไปอยู่คนเดียว สร้างครอบครัวต่างหาก ไม่มีความคิดที่จะส่งเสีย เลี้ยงดูพ่อแม่

พ่อแม่เลี้ยงมา ไม่ส่งเสียเงินให้ก็ไม่เท่าไหร่ ถ้าพ่อแม่ไม่ได้ลำบาก หรือเรียกร้องอะไร แต่ดันไปผลักภาระให้เค้าช่วยผ่อนรถให้ซะงั้น

เงินเดือนก็เยอะ ไม่ใช่น้อยๆ ไม่น่าจะดูมีปัญหาอะไรได้เลย

อนึ่ง ไหนๆก็มาขนาดนี้แล้ว ก็บอกว่าจะออกรถคันนี้ ใช้คนเดียว ถ้าเค้าไม่ช่วยก็ไม่ต้องฟังความเห็นเค้าครับ บอกไปว่าผ่อนไม่ไหว แต่ต้องใช้รถ จะเอาคันนี้นี่แหละ ตัดๆปัญหาให้จบๆไป เค้าก็คงจะมองว่าเห็นแก่ตัว แต่ก็เห็นแก่ตัวอยู่แล้ว จะสนใจทำไม
ความคิดเห็นที่ 22
น่าสงสารพ่อแม่คุณนะ มีลูก 2 คน คนนึงให้เดือนละ 3,000 บาท แต่ก็ต้องมาผ่อนรถให้ อีกคนไม่เคยให้ บอกมีความคิดแบบคนต่างชาติ พ่อแม่เลี้ยงมาแบบวัฒนธรรมไทย พอลูกโตแข็งแรงน่าจะตอบแทนท่านได้ ดันบอกมีความคิดตามวัฒนธรรมต่างชาติ เกี่ยงกันดูแลพ่อแม่? ที่เรียนจบทำงานได้เงินเดือนทุกวันนี้ พ่อแม่เลี้ยงมาแบบไหน?

สงสารคุณเช่นกัน ที่แม่คุณมาขอให้ซื้อนาฬิกาเรือนร่วมหมื่นให้ พี่ชายพออยากได้รถใหม่ก็จะให้น้องใช้คันเก่าของตัวเอง แถมมีภาระผ่อนต่ออีก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะคุณอยู่กับสังคมแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ทำให้คุณคิดเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบเป็นสาระสำคัญ

ถ้าเป็นเรา จะแบ่งให้พ่อแม่ใช้จ่ายทุกเดือนค่ะ มากน้อยก็จัดสรรเอา ของขวัญก็ให้ตามโอกาส รถก็จะดาวน์เองผ่อนเอง การเลี้ยงดูพ่อแม่เป็นหน้าที่ไม่ใช่ภาระ ถ้าต่างชาติถามก็บอกมันไปว่าเราควรกตัญญูต่อผู้ที่มีบุญคุณกับเรา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครูบาอาจารย์หรือใครก็ตาม ถ้ามันบอกไม่โอเคนั่นเป็นความผิดคุณที่เลือกคบคนไม่มีสามัญสำนึก แต่ทั้งหมดก็เป็นเรื่องของคุณอ่ะนะ เราแค่สลดใจกับความคิดของคนสมัยนี้
ความคิดเห็นที่ 7
เราว่า จขกท งกและเห็นแก่ตัวจริงๆค่ะ
ซื้อของเล็กๆน้อยๆให้แม่ยังเกี่ยง ถ้าคนไม่มีจริงๆว่าไปอย่าง
เรื่องรถนี่ซื้อที่อยากจะซื้อ ดาวน์เอง ผ่อนเองไปเลย
ความคิดเห็นที่ 34
บอกตรงๆ ว่าเพลียกับจขกท....
ขนาดคุณพ่อคุณแม่คุณคุณยังไม่เอา แล้วคุณจะเอาใครคะ????
คนที่ดูแลคุณ ส่งคุณเรียนจนจบมาได้งานทำนี่ ไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่คุณหรือคะ
คุณไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินเลย แต่คุณแทบไม่เกื้อกูลพ่อแม่คุณเลย....ปวดตับจริงๆ
อ้างฝรั่งลมๆแล้งๆ ไม่สมเหตุผลและข้างๆคูๆมากค่ะ
ทีกับตัวเองสมควรจะให้ใครก็ไม่ให้ แต่เรื่องของตัวเองกลับจะให้คนอื่นช่วย ใช้ตรรกะอะไรกันคะเนี่ย ....งง!!!!
.....แค่คุณงดกินบุฟเฟต์บางมื้อ คุณก็กันเงินส่วนนึงมาเลี้ยงดู"จิตใจ"ท่านได้แล้วนะคะ...
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้าคุณมีความคิดแบบต่างชาติ หลังเรียนจบคุณควรผ่อนรถเองไม่ต้องขอที่บ้านช่วยผ่อน ไม่ใช่ว่าไม่ให้เงินที่บ้านเลยเพราะเอาอย่างฝรั่ง (คุณส่งตัวเองเรียนมหาลัยเหมือนฝรั่งรึเปล่าคะ) แต่พอถึงเวลาไปให้พ่อแม่ช่วยเรื่องเงินเหมือนเอเชีย

แต่ถ้าคุณไม่อยากช่วยพี่ผ่อนรถและคุณโอเคกับรถเก่าของพี่ และไม่อยากทะเลาะกัน ให้เอารถพี่ไปตีราคาที่เต๊นรถ แล้วจ่ายเงินให้พี่เท่าราคาเต๊นรถและไม่ต้องช่วยผ่อน

พูดตรงๆเงินเดือนคุณเยอะอยู่ ถ้าคุณใช้เดือนละหมื่นห้าจริง เงินเก็บน่าจะเยอะ แบ่งให้พ่อแม่บ้างเดือนละสองพันก็ยังดี ไม่น่าเดือนร้อนกระมัง บุฟเฟ่มื้อนึงก็เกือบพันหรือพันกว่าละนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่