จับมือแฟนเที่ยว เชียงคาน พิสูจน์รัก

หัวข้อจืบมือแฟนเที่ยว เชียงคาน พิสูจน์รัก..เกริ่นไว้ก่อนนะคะ พิสูจน์รักแบบขั้นเริ่มต้นเท่านั้น เพราะเรากลับแฟนคบกันระยะไกล นานๆทีกลับไทย เลยอยากลองหาที่ไทยไกลจากกรุงเทพ ลองไปค้างดูว่าจะทะเลาะกันมั้ย ฮ่าๆ

เรามีโอกาสได้กลับไทยช่วงหยุดวันตรุษจีน เนื่องด้วยเป็นเทศกาลของคนจีน จึงนัดแฟนว่าช่วงที่เรากลับไทยสิบวัน ไปหาที่เที่ยวพักผ่อนกัน เพราะตัวเราทำงานที่เซี่ยง ไฮ้ แต่แฟนทำงานที่ไทย เจอกันปีนึงแค่เพียงสองครั้งเอง เราแลยมีแพลนหาที่ไทยไม่ไกลมาก แต่ของวิวสวยๆ ตอนแรกเราเห็นในกระทู้ฮิตไปภูทับเบิกมาก ไอ้เราก็อยากไป แต่ด้วยตัวเราขับรถยนต์ไม่เป็น ช่วยแฟนก็ไม่ได้อีก แล้วมีคนบอกว่าแถวนั้นถ้าขับรถไม่ชำนาญทางอันตรายมาก กลางคืนก็ไม่มีไฟ ทริปภูทับเบิกเลยล่มไม่เป็นท่า เปลี่ยนแพลนใหม่ จนมาได้ขอสรุปลงกันที่เชียงคาน ไม่เคยไปทั้งคู่ เอาจริงๆกระทู้รีวิว ที่เที่ยวเชียงคานเราว่ามีคนโพสเยอะมาก แต่เราก็ยังอยากจะเขียนลง ไม่มีคนอ่านเราก็เก็บไว้อ่านคนเดียว ฮ่าๆ
.................
             มีคนเคยบอกเราว่า ถ้ามีแฟนลองชวนกันไปเที่ยวไกลๆดู เดี๋ยวก็รู้เรื่อง จะรักหรือเลิก เพราะระหว่างทางจะทำให้เรารู้จักตัวตนกันมากขึ้น   มีคนเคยบอกเราว่า ถ้ามีแฟนลองชวนกันไปเที่ยวไกลๆดู เดี๋ยวก็รู้เรื่อง จะรักหรือเลิก เพราะระหว่างทางจะทำให้เรารู้จักตัวตนกันมากขึ้น เราเลยลองทริปแบบง่ายๆก่อน ดูระว่างทางนั่งรถแปดเก้าชมจะตีกันมั้ย 55 ไปรอดค่อยอัพเวลทริปแบบทรหดมากขึ้น ปีนเขา --ไปเขาคิชกุฏ--ขึ้นดอยไรงี้   มันก็จริงๆอย่างที่เค้าว่านะ ความคิดเห็นไม่ตรงกันตั้งแต่ยังไม่เริ่มทริป ใจร้อนทั้งคู่ เราเลย เอางี้ แบ่งหน้าที่กัน ให้แฟนไปจองตั๋วรถ จองที่พัก เดี๋ยวเราเน้นของกิน อันนี้เราถนัด ไปไหนกินทุกอย่างไม่ขวางหน้าอยู่แล้ว………วันออกเดินทางก็มาถึง นางไปนั่งรถที่หมอชิตเกือบชม เพราะเราหลงทาง เป็นเด็กตจวที่เข้ากทมทีไร หลงทุ๊กที มาแบบฉียดชิวยี่สิบนาทีก่อนรถออก โดนแฟนดุไปหนึ่งดอก ก็นั่งกันยาวๆไปคะ แอร์เมืองเลยวีไอพี แปดเก้าชั่วโมงได้ ถึงสถานีขนส่งที่เชียงคานตอนตีห้า ก็จะมีรถสกายแลปมารอเรา ตอนแรกเราก็นึกว่า ถ้าคนไม่เคยมาเที่ยวเค้าจะฟันราคาได้เลยไม่กล้าขึ้น แต่จริงๆแล้วก็ไม่มีอะไร เราอยู่จีนนาน คงคิดมากไปเอง แล้วก็ไปโฮมสเตย์ที่แฟนจองไว้ก่อนหน้านี้ โชคดีนะเหลือห้องเดียวพอดี นั่นคือบ้านตากะยาย อันนี้เห็นคนโพสเยอะดี ที่พักไม่แพง ไปถึงปุ๊บยังไม่มีแขกเช็คเอ้าท์ ไม่เป็นไรชั้นล่างแกมีห้องน้ำรวม อาบน้ำเลยจะรออะไร เหนียวตัวมาก ตาแกก็ถามจะตักบาตรข้าวเหนียวมั้ย แล้วแกก็ไปเตรียมให้เรากับแฟนเพิ่มชุดนึง ช่วงเราอาบน้ำ แฟนเราก็ไปช่วยตาเตรียมของตักบาตร ปูเสื่อไว้รอแขกคนอื่นๆด้วย แหม ช่างน่ารักซะจริงๆ ฮ่าๆ  แล้วตาก็ถามเราว่าเคยตักบาตรข้าวเหนียวมาก่อนมั้ย เราสองคนก็ส่ายหัว หึๆ แกก็สอนทำแบบนี้นะ…….ตาน่ารักจัง^^



             ตักบาตรเสร็จยังเช้าอยู่เลย แขกยังไม่เช็คเอ้าท์ เราก็ชวนกันไปหาของกิน ยืมจักรยานบ้านตาแกปั่นไป จุดแตกหักครั้งที่สองเริ่มขึ้น ไอ้แฟนตัวดี แม่มมปั่นไม่รอเลย เราก็แบบอยากชิวๆ ชมสองข้างทางจามสไตร์ชีวิตสโลไลฟ์ แม่มมหันมาอีกที ไม่เห็นหัวและ ปั่นนำหน้าลิ่วเลย เรานี่หน้าจอ บ่นเป็นหมีกินผึ้งเลย แล้วก็ไปหาอะไรกินแก้หงุดหงิดที่บ้านคุณยาย ซอยเก้า อันนี้ก็ตามรีวิวเก่าๆอีกอะแหละ จัดเลยมื้อแรก อย่างที่เห็น ปาท่องโก๋ นม กาแฟ ไขกะทะ ข้าวเปียกเส้น




          อิ่มท้องมั่กมาก อารมณ์เริ่มดีขึ้นมาหน่อย ก็ยังไมม่เที่ยงสักที เมื่อไหร่จะได้เช็คอิน เลยปั่นไปพลางๆ แพลนกันวันนี้ไปไหนดี เลยได้ข้อสรุปร่วมกันว่า
.....................
Day1:ตักบาตรข้าวเหนียว ตะเวนหาของกิน ปั่นจักรยาน ไหว้พระ เดินเล่นริมแม่น้ำโขง เดินหาของกินวนไป เดินเล่นยามเย็น จิบเบียร์ตอนกลางคืนริมแม่น้ำโขง นอนZz
Day2:เช่ามอเตอร์ไซด์ขึ้นไปดูทะเลหมอกภูทอก แก่งคุ้ดคู้ ไปวัดพระพุทธบาทภูควายเงิน หมู่บ้านไทดำ กลับมาเดินเล่นอีกรอบ ซื้อของฝากตอนกลับ จบทริปนั่งแอร์เมืองเลยกลับกทม
           แพลนแน่นมากอ่ะ สองวันหนึ่งคืน เพราะนางแฟนก็ต้องกลับไปทำงาน มาเที่ยวกับเราไม่ต้องกลัวอะ แพลนแน่นยิ่งกว่าไกด์ ฮ่าๆ ขนาดไปญี่ปุ่นแค่สี่วัน ทำข้อมูลไปตั้งสิบห้าหน้า ฮ่าๆ ใครสนใจกลับไปดูกระทู้เก่าๆพาไปเที่ยวโตเกียวได้นะคะ
           แล้วเราก็ปั่นจักรยานไปไหว้พระรอบแถวเชียงคาน แผนที่ก็ตามนี้เลย แต่ละที่ก็ใกล้ๆกัน ออกถนนใหญ่ ก็ต้องระวังนิดนึง


อ่อ ก่อนไปวัด ลืมบอกไป ได้ปาท่องโก๋ยัดไส้มาด้วย แต่ร้านมันเขียนว่าจิ๊กโก๋ยัดไส้นะ อยู่ใกล้ๆกับโฮมสเตย์ที่เราพัก แปลกดีอะ ไม่เคยกินมาก่อน อร่อยดี หวานๆมีไส้หมูข้างใน ใครจะสั่งไส้กล้วยก็มีนะ

             แล้วเราก็ตะลุยปั่นจักรยานไปไหว้พระ ขอพรกันต่อ ผ่านไปได้สามสี่วัด เริ่มหิวอีกและ แวะกิน ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว ชามละ 40บาท ดีงามอะ เรากลับมาไทยทีไรกินทุกอย่างที่ขวางหน้า รู้สึกราคามันถูกแล้วอิ่มมากกว่าเซี่ยงไฮ้อีกอะ ก๋วยเตี๋ยวชามนึงก้อสองร้อยกว่าบาทและ ก็อร่อยแบบแปลกๆนะข้าวปุ้นน้ำแจ่วงะ มันออกเปรี้ยวๆหน่อยๆ สงสัยเราจะไม่ชิน ไม่เคยกินมาก่อน

.............
             ไหว้พระครบทุกวัดจนประมานสิบเอ็ดโมงกว่า ก็กลับไปเช็คอิน แพลนวันนี้ชิวๆ ขึ้นไป นอนสลบยาวเลย  ถึงสามโมงเย็น เก็บแรงไว้เที่ยวตอนกลางคืนต่อ นี่เป็นห้องเดี่ยวมีห้องน้ำในตัวของบ้านตากะยาย สวย สะอาดใช้ได้เลยแหละ คุณตาก็น่ารัก แต่เห็นแก ทำโน่นนี่อยู่คนเดียวแอบเห็นใจแก รีวิวห้องนิดนึง






                   หลังจากตื่นมา ทริปกินแหลกตัวแตก ก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ดีนะที่แฟนไม่ค่อยเบรคเรื่องกิน ไม่งั้นมีเจอดอกที่สาม ฮ่าๆ คือนางก็กินเยอะเหมือนกัน เลยมีเพื่อนกิน ชวนกันกินตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย ไปจัดอาหารกลางวันก่อน ต้มยำปลาคัง ยำผักกูด เบียร์ลาวสองขวด ที่ศรีพรรณโฮมเสตย์ ริมแม่น้ำโขง ประมาณซอย13จ้า พุงออกเลย ต้มยำปลาคังแซ่บมาก เผ็ด ร้อน อิ่มเบียร์ เบียร์ดำไม่หร่อยงะ เราไม่ค่อยรสชาติเบียร์ดำซักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตาม



                 เดินต่อ นางแฟนก็มาหยุดตรงร้านไข่หลุม เอิ่ม…ได้ข่าวว่าเพิ่งกินข้าวไปไม่ถึงสิบนาที แล้วนางก็เอาไปนั่งกินกลางถนน อินดี้สึสเลยคะ แม่ค้าก็ขำกันเต็มเลย เห็นนางมีความสุขเราก็ดีใจ ฮ่าๆ



               ตามมาติดๆกับ นักเกต ชีสบอล กุ้งเสียบ ไอติม แคนตาลูป แทบอ้วกอะ ดีนะเป็นผญไม่ค่อยกลัวอ้วน กินเต็มที่ อ้วนแล้วเดี๋ยวกลับจีนไปฝังเข็มเอา มีหมอดี ฮ่าๆ










                 เดินไปถึงสุดซอย นางแฟนเริ่มบ่นเมื่อยขา แหมม จะไม่ให้เมื่อยได้ไง ก็ดูเราสองคนเล่นเดินกันแบบนี้ ก็เดินกลับไปอีกต้นซอย ไปร้านนวด ชมละ200บาท ผ่อนคลายไปอีกแบบ แต่รำคาณเสียงแฟนมากเลย พูดไม่หยุด สร้างสัมพันธ์ไมตรีไปทั่ว สงสัยนึกว่าตัวเองเป็นนักการทูตกระมัง หมอนวดก็หัวเราะคิกคัก พวกเราสองคนก็สองภาษาจีนหมดนวดไป เพราะเห็นมีคนจีนมาเที่ยวอยู่ แม้จะไม่มาก แต่เราก็คิดว่าถ้าพี่แกพูดได้ ก็น่าจะเรียกลูกค้าเข้าร้านได้ ป้าๆก็มาเรียนกันสนุกกันใหญ่


                ออกมาหิวอีกและ คนอะไรไม่รู้จักอิ่มทั้งคู่ ซัดเฉาก๋วยไปหนึ่งแก้ว  

               และก็ได้เวลาไปจิบเบียร์กันชิวๆและ เรามาจอดกันที่ร้าน ต้องมาโดน จัดไปเหล้าปั่นแก้วโตๆ คืนนี้จะได้นอนหลับสบาย ฮ่าๆกับกับแกล้มเล็กน้อย แฟนวิ่งออกไปซื้อปลาหมึกแห้งมาจากข้างนอกมาเสริมอีก เอาเลย ตามสบาย มาเที่ยวทั้งทีก็ต้องกินสิคะ จะมากลัวพุงออก กลัวอ้วนได้ไง เดี๋ยวมาไม่คุ้ม ของบางอย่างLocalที่นี่ ก็หากินแถวกทมไม่ได้ด้วย ซดหมดแก้วแล้ว เดินเซ กอดคอกัน กลับโฮมสเตย์ สลบนอน คร๊อฟฟี่Zz


......................
                Day2:05:00 ตื่นๆๆๆๆๆ เดี๋ยวไปดูทะเลหมอกไม่ทัน รีบกันให้จ้าละหวั่น เราอาบน้ำแต่งหน้า นางแฟนก็ลงไปเช่ารถมอเตอร์ไซต์ เพราะคำนวณดูแล้วคุ้มกว่าเช่าสกายแลป เติมน้ำมันเต็มถังก็แค่เจ็ดสิบบาท จุดแตกหักครั้งที่สามได้เริ่มต้นอีกครั้ง ไอ้บ้าเอ้ย ทำไมเทอไม่บอกว่ามันหนาวเนี่ย เราใส่มาบางมากเลย เราเจ้าแม่จอมโวยวาย ขอให้ได้บ่น นางแฟนใส่ตั้งสองตัวเหมือนนางจะรู้ว่าหนาว แล้วไม่เตือนกันก่อนนะ นางเลยบอกนางก็ไม่รู้ ก็เสื้อคู่วันนี้เทอสั่งให้ใส่ ใส่ทับชุดนอนมาเนี่ย เพราะตื่นมาอาบน้ำไม่ทัน //อ่ะหรอ แล้วไป นึกว่ารู้แล้วไม่บอก ฮ่าๆ ขอให้บ่นไว้ก่อน ตอนนั้นมันมืดมากตีห้าครึ่งน่าจะได้ เราก็ไปตามทางมันมีป้ายเล็กๆเขียนว่าภูทอก เข้าไปได้สักพัก เริ่มรู้สึกน่ากลัวและ ทางก็ขรุขระ มาผิดทางชัวร์ๆ ก็กำลังจะตีรถกลับระหว่างนั่นก็มีสกายแลปพานักท่องเที่ยวมาพอดี โล่งไปไม่หลงและ จนถึง ก็ซื้อเสบียงขึ้นไปด้วย ข้าวจี่และข้าวเหนียวหมูสองห่อ





               ผิดหวังอย่างแรงวันนี้ไม่มีทะเลหมอกเลย ได้แต่ถ่ายรูปข้าวจี่ ข้าวเหนียวเล่นไปก่อน รอนานมากจนพระอาทิตย์ขึ้นก็ไม่มีวี่แวะ แอบบ่นกับแฟนถ้ามาเมื่อวานก็ได้ดูและ แต่ใครมันจะไปรู้อะนะ วันนี้สภาพอากาศเค้าก็บอกว่าดี ผิดหวังตามๆกันไป เรามีเวลาน้อย จะไม่ปล่อยให้ความผิดหวังอยู่กับเรานาน กินต่อสิคะ ลงๆไปขึ้นรถไม่ดูและ ไปหาไรดีกว่า จัดไปร้านข้างล้าง ไข่กะทะเพิ่มชีสเยิ้มๆ ข้าวต้มหมูหนึ่ง ข้าวต้มปลาหนึ่ง


แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่