คนมีครู ๒๒ ก.พ.๖๐

ฉากชีวิต
          คนมีครู
                         เพทาย
               
                      เมื่อหลายปีมาแล้ว ผมไปแต่งงาน สมพัน ลูกน้องคนโปรดของผมที่บ้านของ     เจ้าสาว ซึ่งสวยระดับนางงามสงกรานต์ ที่หนองแค อยุธยา ผมเอารถสองแถวเล็กสมัยก่อนซึ่งมีที่นั่ง ด้านหลังสองแถวหันหน้าเข้าหากัน จุคนได้เกือบ ๒๐ คน  ของลูกน้องอีกคนหนึ่ง บรรทุกเพื่อนพ้องของเจ้าบ่าวจากที่ทำงานไปกันแน่นเอี้ยด

                    เราไปถึงบ้านงานในตอนบ่ายทันกำหนดพิธีรดน้ำสังข์ ต่อด้วยงานเลี้ยงตอนเย็นเลยไปถึงค่ำ ตามแบบไทย ๆ ซึ่งพวกเราก็ล่อกันเข้าไปจนดึก  เพราะเจ้าบ่าวไม่ยอมให้กลับ บอกว่า เจ้าภาพฝ่ายเจ้าสาวได้จัดที่ไว้ให้ค้างคืน บนเรือนใหญ่แล้ว  พวกเราล้วนแต่ดี ๆ กันเข้าไปแล้วทั้งนั้น รวมทั้งคนขับด้วย ก็เลยไม่มีใครขัดศรัทธา

                    แต่ผมเองนึกสะกิดใจอยู่นิดหน่อยว่า แขกรุ่นหนุ่มในงานหลายคนซึ่งเป็นชาวบ้านท้องถิ่นนั้น ออกจะมีท่าทีนักเลงอยู่ไม่น้อย และดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับพวกเราสักเท่าไร สาเหตุสำคัญนั้น  ผมเดาเอาเองว่าคงเป็นเพราะเจ้าสมพัน ซึ่งเป็นคนกรุงเทพดันไปคว้าเอาไม้งามประดับหมู่บ้านของเขาไปครองนั่นเอง

                    ผมกำชับพวกเราทั้งหลายว่า  ตัวผมเป็นเจ้าภาพฝ่ายชาย และเราทั้งหมดก็เป็นแขกผู้มีเกียรติของงานนี้ ใครจะอย่างไรก็ช่าง  อย่าพยายามให้มีเรื่องเป็นอันขาด ต้องรักษาศักดิ์ศรีของเราไว้ให้ดี

                    ดังนั้นเหตุการณ์จึงผ่านไปโดยเรียบร้อย  จนกระทั่งงานอย่างเป็นทางการได้เลิกราไปเมื่อประมาณสองยาม และต่างฝ่ายต่างก็เมากันได้ระดับแล้ว ผมกับพวกเพื่อนคออ่อนก็เข้ามุ้งนอน ในห้องที่เจ้าภาพเขาจัดไว้ให้ พวกลูกน้องหนุ่ม ๆ คอแข็งก็คงโจ้กันต่อไปที่ห้องชั้นล่างไม่กี่คน

                    ผมม่อยหลับไปได้สักพัก ก็มีคนมาสะกิดข้าง ๆ มุ้ง ลืมตาขึ้นมาก็พบนาย   สะอาด ลูกน้องอีกคนหนึ่งของผม ยื่นหน้าตุงเข้ามาในมุ้ง

                    " หัวหน้าครับ ผมขออนุญาตไปตีกันหน่อยครับ "

                    " เฮ้ย "  

                   ผมร้องเหมือนโขน ผุดลุกขึ้นนั่งตาสว่างทันที

                    " ว่าไงนะ "

                    " ไอ้พวกบ้านนี้มันท่าให้ออกไปตีกันข้างนอกบ้านครับ "

                    เขาพูดเสียงเหี้ยมหาญ

                    " อ้าวมันเรื่องอะไรกันล่ะ ก็สั่งแล้วว่าให้อยู่แต่ในกลุ่มของพวกเรา อย่ามีเรื่องกับใคร "
                                                  
                    " ผมทำตามคำสั่งหัวหน้าแล้วครับ กินอยู่วงของเรา  มันมาสะกิดให้ผมออกไปข้างนอกครับ "

                    " แล้วไง "

                    " ผมก็ออกไปกับมันที่หน้าบ้าน มันถามผมว่าลูกศิษย์อาจารย์ไหน ? "

                    " อ้าว ไหงงั้นล่ะ "

                    " มันเห็นรอยสักที่คอผมครับ "

                    ผมลืมบอกไปว่าเจ้าสะอาดนี่ตัวมันเล็กนิดเดียว  แต่สักเต็มพรืดไปหมด  ทั้งหน้าอกและแผ่นหลัง แต่ฉลาดที่ไม่แลบออกมานอกเสื้อเลย  แม้แต่จะใส่เสื้อคอกลมตัวเดียว จึงไม่มีใครรู้ มีโผล่อยู่นิดเดียวคือ อุณาโลม ที่ใต้ลูกกระเดือก ผมเองเพิ่งจะเห็นเมื่อมันบอก

                    " ผมบอกชื่ออาจารย์ให้  มันก็บอกว่าขอลองหน่อยได้มั้ย ว่าเหนียวจริงไม่จริง ผมบอกเอาเลย "

                    " เฮ้ย เอามาแล้วเรอะ "

                    " ยังครับ เพื่อนบอกว่า ถ้าจะเอากะมันจริง ๆ ต้องไปขออนุญาตหัวหน้าก่อน ให้ผมไปนะครับ ผมไปคนเดียวไม่ให้ใครเดือดร้อน "

                    ถึงอย่างไรผมก็ไม่อนุญาต เพราะเราเป็นแขกของเจ้าบ่าว จะยกพวกไปตีกับญาติของเจ้าสาวในวันแต่งงาน แล้วผัวเมียมันจะมองหน้ากันได้อย่างไร  แต่ผมก็ไม่อยากให้ลูกน้องเสียใจ หรือถูกสบประมาทว่าขี้ขลาด

                    " เอางี้แล้วกัน แกนอนเสียก่อน เช้าค่อยออกไปล่อกะมัน ออกไปเดี๋ยวนี้ เราไม่รู้ลู่ทางเกิดมันรุมเอา ก็เสียเปรียบ "

                    " แหมหัวหน้า มันก็ดูถูกผมแย่ซีครับ ผมรับปากกะมันแล้วนี่ "

                    " เอาน่า "  ผมปลอบ

                   ขณะนั้นหลายคนที่นอนข้าง ๆ ผมเต็มมุ้ง  ต่างลุกขึ้นมานั่งฟังหน้าสลอน     

     " เชื่อหัวหน้าเถอะถ้าเราเสียเปรียบจะไปตีมันทำไม พรุ่งนี้เอากันแจ้ง ๆ ตัว ๆ เลย "                                                                                                           

สะอาดยกมือไหว้

                   " ขอผมสักครั้งไม่ได้หรือครับ "

                    " ไม่ได้....นี่เป็นคำสั่ง ไป...ไปนอนเดี๋ยวนี้ "  ผมเล่นไม้แข็ง

                    ตกลงคืนนั้น ลูกน้องนักเลงของผม ก็เลยต้องยอมนอนซุกอยู่ข้างมุ้งของผมไม่ช้าพวกเราก็หลับกันเงียบ                                                                     

                 วันรุ่งขึ้นเราตื่นสายโร่  หลังจากที่ถอนกันคนละเล็กละน้อย  ตามด้วยข้าวต้มหมู
ร้อน ๆ คนละถ้วยสองถ้วยแล้ว ก็ร่ำลาเจ้าของบ้านขึ้นรถย้อนกลับทางเดิมที่มา ทุกคนต่างนั่งเงียบ                                                                                                                   ระวังกันรอบตัว  จนกระทั่งโผล่ออกถนนพหลโยธิน จึงค่อยมีเสียงคุย  

                     เพื่อน ๆ ต่างก็แซวสะอาดกันคนละคำสองคำ เจ้าตัวก็ไม่ว่าอะไร นอกจากขอเหล้า ที่ยังเหลืออยู่อีกครึ่งแบนมากระดกเสียกรุ๊บหนึ่ง แล้วปรารภว่า

                    " แย่เลยครับหัวหน้า เมื่อคืนนอนไม่หลับทั้งคืน "

                    "ทำไมวะ "

                    ผมอดรนทนไม่ได้

                    " ไม่ได้ตีกะเขาแล้วนอนไม่หลับเรอะ "

                    " เปล่าครับหัวหน้า ยุงมันกัดผมทั้งคืน "

                   ว่าแล้วก็ถกเสื้อยืดขึ้น ให้ดูรอยยุงกัดเป็นจุดแดงทั้งตัว โดยเฉพาะที่สีข้าง แถว ๆ   รอยสักรูปเสือเผ่นมีจุดแดงแผ่เป็นปื้นใหญ่ พวกเพื่อนหัวเราะครืนทั้งคันรถ

                    " เฮ้ย สักออกเต็มตัว ยุงยังกัดเข้า แล้วจะไปตีกะเขาได้ยังไงวะ "

                    " โธ่...หัวหน้า "

                    เสียงไม่เหมือนตอนเข้าไปปลุกผมเมื่อคืนนี้เลย

                    " อาจารย์ผม ไม่ได้สักมาให้ตีกะยุงนี่ครับ "

##########

จาก  นิตยสารโล่เงิน
สิงหาคม  ๒๕๔๐
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่