พักหลังภาพหลุดเรื่องนี้หลุดเร็วดีจริงๆ แฮะ จากเดิมที่มาราวๆ คืนวันอังคาร เดี๋ยวนี้คืนวันจันทร์ก็ออกแล้ว
ขืนเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ สงสัยตารางงานผมได้รวนแหงๆ
อนึ่ง เอาภาพนี้มาแปะแทนเพราะตอนนี้ไม่มีภาพเปิดครับ
- ต่อจากตอนที่แล้วที่พระเอกเข้าไปเจอคนพี่เป็นลมอยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำ
- พระเอกตกใจรีบวิ่งเข้าไปดู สายตาเลยปะเข้ากับหน้าอกสะบึมของคนพี่ที่ไม่มีอะไรปิดบังเข้าเต็มๆ จนชะงักไปชั่วขณะ แต่ก็ตั้งสติได้ รีบเอาผ้าเช็ดตัวมาปิดไว้ แล้วรีบอุ้มคนพี่ออกจากห้องน้ำไปนอนที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
- จัดให้คนพี่นอนลงเสร็จ พระเอกก็พยายามเรียกคนพี่ให้รู้สึกตัว แต่สายตาดันขยันแต่จะมองไปทางผ้าเช็ดตัวที่เลื่อนออกอยู่เรื่อย จนต้องเอาทางพระเข้าข่มอีกรอบ แล้วรีบผละไปเรียกแม่คนพี่ให้มาดูอาการคนพี่แทน
- แม่คนพี่ปฐมพยาบาลอยู่พักหนึ่ง คนพี่ก็ฟื้นขึ้นมา พอรู้ว่าตัวเองเป็นลมในห้องน้ำในสภาพกึ่งเปลือยทั้งตัวแล้วพระเอกไปเห็นเข้าก็อายจนหน้าแดงถึงหูไปเลย
- ผลจากอีเวนท์ในห้องน้ำครั้งนี้ พระเอกเลยเกิดอาการเมานมไปทั้งคืนจนต้องตอกหน้าตัวเองหลายๆ รอบให้เมาหมัดแทนไปเลย
- ตัดมาตอนเช้าวันรุ่งขึ้น พ่อแม่กับคนพี่ออกไปข้างนอกไปซื้ออาหารมาเลี้ยงฉลองปีใหม่กันที่บ้านเนื่องในโอกาสที่คนพี่กลับมาบ้าน ทิ้งให้พระเอกอยู่บ้านตามลำพัง
- อยู่คนเดียวดังนั้น พระเอกก็ออกอาการกระดี๊กระด๊า เปิดสไกป์วิดีโอคอลคุยกับคนน้องที่อิตาลีทันที
- นั่งคุยกะหนุงกะหนิงกันไปพักใหญ่ๆ พระเอกก็คิดได้ว่าต้องบอกคนน้องเรื่องคนพี่กลับมาบ้านช่วงปีใหม่ แต่เมื่อเห็นคนน้องยิ้มแย้มอย่างดีใจที่ได้คุยกันแม้จะห่างกันเกินครึ่งโลกเข้าก็เกิดอาการลิ้นแข็งบอกไม่ออกไปเสียเฉยๆ เพราะกลัวว่าขืนบอกไป คนน้องที่ยิ้มแย้มอยู่ตอนนี้ต้องเก็บไปคิดมากจนพาลกังวลคุยเล่นหัวกันไม่ออกแน่ๆ
- ผลสุดท้ายพระเอกเลยต้องมานั่งกุมเฮ้ดออกอาการงุ่นง่านพลางแช่งด่าตัวเองพลางที่ขี้ขลาดไม่กล้าบอกคนน้องไป
- เวลาล่วงเลยไปถึงตอนเย็น พ่อแม่กับคนพี่ก็หอบเหล้ายาปลาปิ้งสำหรับเลี้ยงฉลองในบ้านกลับมาพอดี ก็เลยมานั่งจัดโต๊ะเตรียมอาหารกัน
- ระหว่างจัดโต๊ะกันอยู่นั้น พ่อแม่ก็ออกไปหาของที่อีกห้องหนึ่ง ทิ้งพระเอกกับคนพี่ให้อยู่ด้วยกันตามลำพัง
- พระเอกถึงกับออกอาการเกร็งไปทั้งตัวด้วยความประหม่าและอึดอัด เพราะเพิ่งเจอเรื่องในห้องน้ำเมื่อวานมา แต่ก็พยายามหาเรื่องมาชวนคนพี่คุย คนพี่ก็ตอบแบบแข็งๆ เกร็งๆ เพราะมีอะไรในใจอยู่เหมือนกัน
- คุยไปคุยมา พระเอกก็ตั้งใจว่าจะบอกเรื่องตัวเองกับคนน้องให้คนพี่ฟังก่อน แล้วค่อยมาบอกความจริงกับคนน้องทีหลังเพื่อแสดงความจริงใจ (ติงต๊องเปล่าฟะไอ้เบื๊อก)
- แต่พอตั้งท่าจะบอกออกไป พ่อแม่ก็ดันกลับเข้ามาซะก่อน โอกาสบอกความจริงเลยหลุดลอยไปอีกรอบด้วยประการฉะนี้
- ตัดฉากมาที่ตอนเย็นกับตอนดึก ครอบครัวพระเอกก็จัดงานเลี้ยงปีใหม่เล็กๆ กันในครอบครัว ต่างคนต่างเฮฮากันเต็มที่
- เฮฮากันจนดึกเริ่มเหนื่อยกันแล้ว พ่อกับแม่ก็ขอตัวขึ้นไปนอนในห้อง ทิ้งพระเอกที่เหนื่อยจนหลับเป็นตายคาโต๊ะอุ่นขาไว้กับคนพี่สองคนในห้องนั่งเล่น
- และผลก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพข้างล่างนี้แล
ฉากตอนนี้มันอารมณ์
"น้ำตาลใกล้มด" จริงๆ แฮะ ถึงทำไปทำมาชักดูไม่ออกว่าใครน้ำตาลใครมดกันแน่ก็เถอะ
แต่เห็นที่สองฝั่งคิดในหัวแล้วพอเห็นจุดยืนของต่างฝ่ายเลยแฮะ พระเอกนี่คือเห็นชัดว่าตัดขาดคนพี่ได้แน่นอนแล้ว ถึงจะมีเผลอใจตามประสาน้ำตาลใกล้มดบ้างแต่ก็ข่มตัวเองได้ คิดแต่เรื่องกลัวคนน้องจะหึงจะคิดมากเรื่องคนพี่ตลอด ไม่ได้คิดเรื่องอยากรีเทิร์นกับคนพี่เลย ในขณะที่คนพี่นั้นออกอาการชัดมาตั้งแต่แรกว่ายังตัดไม่ขาด ลับหลังยังมีแอบมองด้วยสายตาหยาดเยิ้มเหมือนจะกินไปทั้งตัว แถมพอเผลอปุ๊บก็ปล่อยตัวตามอารมณ์จนทำเรื่องล้ำเส้นไปอีกจนได้
คงได้แต่ดูละครับว่าความลังเลผิดที่ของพระเอกกับความอาลัยอาวรณ์ที่ยังตัดไม่ขาดของคนพี่จะพาเรื่องให้เดินไปทางไหน
[Spoil] Domestic na Kanojo #130 - น้ำตาลใกล้มด
ขืนเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ สงสัยตารางงานผมได้รวนแหงๆ
อนึ่ง เอาภาพนี้มาแปะแทนเพราะตอนนี้ไม่มีภาพเปิดครับ
- ต่อจากตอนที่แล้วที่พระเอกเข้าไปเจอคนพี่เป็นลมอยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำ
- พระเอกตกใจรีบวิ่งเข้าไปดู สายตาเลยปะเข้ากับหน้าอกสะบึมของคนพี่ที่ไม่มีอะไรปิดบังเข้าเต็มๆ จนชะงักไปชั่วขณะ แต่ก็ตั้งสติได้ รีบเอาผ้าเช็ดตัวมาปิดไว้ แล้วรีบอุ้มคนพี่ออกจากห้องน้ำไปนอนที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
- จัดให้คนพี่นอนลงเสร็จ พระเอกก็พยายามเรียกคนพี่ให้รู้สึกตัว แต่สายตาดันขยันแต่จะมองไปทางผ้าเช็ดตัวที่เลื่อนออกอยู่เรื่อย จนต้องเอาทางพระเข้าข่มอีกรอบ แล้วรีบผละไปเรียกแม่คนพี่ให้มาดูอาการคนพี่แทน
- แม่คนพี่ปฐมพยาบาลอยู่พักหนึ่ง คนพี่ก็ฟื้นขึ้นมา พอรู้ว่าตัวเองเป็นลมในห้องน้ำในสภาพกึ่งเปลือยทั้งตัวแล้วพระเอกไปเห็นเข้าก็อายจนหน้าแดงถึงหูไปเลย
- ผลจากอีเวนท์ในห้องน้ำครั้งนี้ พระเอกเลยเกิดอาการเมานมไปทั้งคืนจนต้องตอกหน้าตัวเองหลายๆ รอบให้เมาหมัดแทนไปเลย
- ตัดมาตอนเช้าวันรุ่งขึ้น พ่อแม่กับคนพี่ออกไปข้างนอกไปซื้ออาหารมาเลี้ยงฉลองปีใหม่กันที่บ้านเนื่องในโอกาสที่คนพี่กลับมาบ้าน ทิ้งให้พระเอกอยู่บ้านตามลำพัง
- อยู่คนเดียวดังนั้น พระเอกก็ออกอาการกระดี๊กระด๊า เปิดสไกป์วิดีโอคอลคุยกับคนน้องที่อิตาลีทันที
- นั่งคุยกะหนุงกะหนิงกันไปพักใหญ่ๆ พระเอกก็คิดได้ว่าต้องบอกคนน้องเรื่องคนพี่กลับมาบ้านช่วงปีใหม่ แต่เมื่อเห็นคนน้องยิ้มแย้มอย่างดีใจที่ได้คุยกันแม้จะห่างกันเกินครึ่งโลกเข้าก็เกิดอาการลิ้นแข็งบอกไม่ออกไปเสียเฉยๆ เพราะกลัวว่าขืนบอกไป คนน้องที่ยิ้มแย้มอยู่ตอนนี้ต้องเก็บไปคิดมากจนพาลกังวลคุยเล่นหัวกันไม่ออกแน่ๆ
- ผลสุดท้ายพระเอกเลยต้องมานั่งกุมเฮ้ดออกอาการงุ่นง่านพลางแช่งด่าตัวเองพลางที่ขี้ขลาดไม่กล้าบอกคนน้องไป
- เวลาล่วงเลยไปถึงตอนเย็น พ่อแม่กับคนพี่ก็หอบเหล้ายาปลาปิ้งสำหรับเลี้ยงฉลองในบ้านกลับมาพอดี ก็เลยมานั่งจัดโต๊ะเตรียมอาหารกัน
- ระหว่างจัดโต๊ะกันอยู่นั้น พ่อแม่ก็ออกไปหาของที่อีกห้องหนึ่ง ทิ้งพระเอกกับคนพี่ให้อยู่ด้วยกันตามลำพัง
- พระเอกถึงกับออกอาการเกร็งไปทั้งตัวด้วยความประหม่าและอึดอัด เพราะเพิ่งเจอเรื่องในห้องน้ำเมื่อวานมา แต่ก็พยายามหาเรื่องมาชวนคนพี่คุย คนพี่ก็ตอบแบบแข็งๆ เกร็งๆ เพราะมีอะไรในใจอยู่เหมือนกัน
- คุยไปคุยมา พระเอกก็ตั้งใจว่าจะบอกเรื่องตัวเองกับคนน้องให้คนพี่ฟังก่อน แล้วค่อยมาบอกความจริงกับคนน้องทีหลังเพื่อแสดงความจริงใจ (ติงต๊องเปล่าฟะไอ้เบื๊อก)
- แต่พอตั้งท่าจะบอกออกไป พ่อแม่ก็ดันกลับเข้ามาซะก่อน โอกาสบอกความจริงเลยหลุดลอยไปอีกรอบด้วยประการฉะนี้
- ตัดฉากมาที่ตอนเย็นกับตอนดึก ครอบครัวพระเอกก็จัดงานเลี้ยงปีใหม่เล็กๆ กันในครอบครัว ต่างคนต่างเฮฮากันเต็มที่
- เฮฮากันจนดึกเริ่มเหนื่อยกันแล้ว พ่อกับแม่ก็ขอตัวขึ้นไปนอนในห้อง ทิ้งพระเอกที่เหนื่อยจนหลับเป็นตายคาโต๊ะอุ่นขาไว้กับคนพี่สองคนในห้องนั่งเล่น
- และผลก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพข้างล่างนี้แล
ฉากตอนนี้มันอารมณ์ "น้ำตาลใกล้มด" จริงๆ แฮะ ถึงทำไปทำมาชักดูไม่ออกว่าใครน้ำตาลใครมดกันแน่ก็เถอะ
แต่เห็นที่สองฝั่งคิดในหัวแล้วพอเห็นจุดยืนของต่างฝ่ายเลยแฮะ พระเอกนี่คือเห็นชัดว่าตัดขาดคนพี่ได้แน่นอนแล้ว ถึงจะมีเผลอใจตามประสาน้ำตาลใกล้มดบ้างแต่ก็ข่มตัวเองได้ คิดแต่เรื่องกลัวคนน้องจะหึงจะคิดมากเรื่องคนพี่ตลอด ไม่ได้คิดเรื่องอยากรีเทิร์นกับคนพี่เลย ในขณะที่คนพี่นั้นออกอาการชัดมาตั้งแต่แรกว่ายังตัดไม่ขาด ลับหลังยังมีแอบมองด้วยสายตาหยาดเยิ้มเหมือนจะกินไปทั้งตัว แถมพอเผลอปุ๊บก็ปล่อยตัวตามอารมณ์จนทำเรื่องล้ำเส้นไปอีกจนได้
คงได้แต่ดูละครับว่าความลังเลผิดที่ของพระเอกกับความอาลัยอาวรณ์ที่ยังตัดไม่ขาดของคนพี่จะพาเรื่องให้เดินไปทางไหน