เกริ่นนำ
         จุดเริ่มต้นของหมวกใบนี้มาจากตัวผมต้องการหมวกใบใหม่มาประจำการแทนเใบเก่า และได้ใช้มาประมาณ 2 เดือนแล้ว ซึ่งก่อนจะมาเลือกหมวกใบนี้มีโจทย์อยู่ในใจดังนี้
1.    อยากได้ทรงอื่นที่ไม่เป็น Racing บ้างครับ
2.    ใช้ในเมืองและออกทริป พูดง่ายๆ overall
3.    วิสัยทัศน์ดีมุมมองไม่หลอกตา
4.    มีแว่นกันแดด
5.    อยากได้หมวกซึ่งหน้ายาวหน่อยเนื่องจากใส่แว่นเวลาหายใจบางครั้งฝ้าขึ้นทั้งแว่นทั้งชิล
6.    ราคาไม่แรงมาก
สรุปดังนี้เลยมองอยู่สองประเภทคือแบบเปิดคางกับ adventure ซึ่งหลังจากพิจรณาผมมีตัวเลือกอยู่ดังนี้
1.    LS2 MX436


2.    Caberg Duke



        เริ่มแรกสนใจ LS2 มากที่สุด แต่วันที่ไปลองและกะว่าจะซื้อเลย ของหมด!!! (ไปช่วงสัปดาห์สิ้นปี) แล้วน่าจะรอนานเลยตัดใจ สองวันถัดมาเลยไปดู Caberg DUKE ร้านหมีตาดำ
เริ่มแรกลอง DUKE ก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าดีหนักดีหนา ตอนใส่พรึบ!!! เห้ยได้สบาย (ก่อนหน้านี้ไปตามลองอยู่หลายยี่ห้อผมใส่ L ไปลอง HJC บีบหัวมากๆ) เปิดคางพรึบ แน่นหนาดีครับชอบ แว่นกันแดดหรึบ โอเค และในเวลานั้นเองดึงหมวกลงมาปิดคาง เวรกรรมปิดไม่ได้ติดครับติดคางตัวเองจริงๆคิดว่าตัวเองคางไม่ได้ยาวอะไรแต่คิดว่าหมวกหน้ามันสั้น(ไม่รู้ผมคิดถูกไหม) เลยเอา XL มาลองผลคือปิดได้แต่หลวมเลยจำใจข้าม ช่วงจังหวะนั้นเอง(เกริ่นมาโคตรนานเข้าเรื่องซะที 5555+)  เหลือบไปเห็นเจ้า X-trace ความรู้สึกเหมือนรักแรกพบ เลยบอกพนักงานขอลอง เมื่อได้ลองครั้งแรก เออสบายแฮะ ขยับซ้าบขวา ก้มเงย เดินรอบร้านซักสองสามนาที สะบัดหัวไปมา รู้สึกว่าไม่บีบหัวไม่ปวดหัว เลยตัดสินใจซื้อ

แกะกล่อง

ตัวหมวกสามารถถอดนวมได้ 3 ชิ้น


รอบๆหมวกและนวมด้านใน


มีช่องลม ข้างหมวก 4 รู ปาก 1 รู ข้างบน 2 รู  แต่ละรูใหญ่มาก และมีช่องลมออกด้านหลัง ซึ่งใส่ครั้งแรกผมรู้สึกถึงลมผ่านหัวแบบชัดเจน



สายรัดแบบคลิปล็อก(เรียกถูกไหมหว่า) แต่ค่อนข้างแข็งแรงครับ ไม่ก๊องแก๊ง


ด้านในหมวกมีช่องให้ลมผ่านชัดเจนมาก


ลองแบบถอด PEEK ครับ



อ่ะเข้า Review การใช้งานจริงซักที

ผมของแบ่งเป็นหัวข้อดังนี้นะครับ
1.    น้ำหนัก เป็นแบบ Adventure แต่ความรู้สึกการใส่ไม่หนักอย่างที่คิดเนื่องจากไซส์ที่ผมใช้คือ L นน.อยู่ที่ 1500G ซึ่งสำหรับหมวกแนวนี้ถือว่าไม่หนัก (แต่เบาสู้ LS2 ไม่ได้)และคล่องตัวมากๆ หันซ้ายหันขวาไม่รู้สุกคิดขัดเลยครับ

2.    มุมมอง ในการใช้งานถือว่ากว้างมากเนื่องอาจเพราะเป็นหมวกแนวๆ Adventure เวลาใช้งานบางครั้งยังเผลอจะปิดชิลหมวก ทั้งๆที่ปิดแล้ว มันไม่หลอกตาครับ แต่!!! ถ้าใช้แว่นกันแดดเมื่อไหร่ มุมมันจะหลอกตานิดหน่อยครับ

3.    การระบายอากาศ โคตรรรรรรรดี หมวกช่องให้ลมเข้าเยอะมากครับ

4.    การใช้งานในเมือง / ออกทริป สำหรับการใช้งานในเมืองผมชอบมากๆ ขับไปทำงานตอนเช้า Peek และ แว่นทำให้ผมใช้งานง่าย แถมหันซ้ายขวาคล่องมากๆ  ส่วนการใช้งานออกทริป ผมขอแบ่งดังนี้ กรณีไม่ชิลหรือชิลไม่ตัดลมให้พ้นหัว แน่นอนครับ 120 นี่ต้องเริ่มเกร็งคอครับเพราะด้วยหมวกที่มี peek แต่เดี๋ยวก่อน ตัวนี้มีนถอด Peek ได้ครับเมื่อผมลองใช้งานแบบถอด peek ถือว่าลู่ลมได้ดีกว่าที่คิด 120 นี่ชิลๆ ได้ลองที่ 140 ก็ไม่สะบัดหรืออกอาการเกร็งมากมายครับ กรณีชิลสามารถตัดลมข้ามหัวอันนี้สบายๆเลยครับทำไมผมถึงว่าสบาย เพราะเนื่องจากหมวกใบนี้ระบายอากาศได้ดีครับ แม้จะใช้ชิลสูงแต่ก็ยังสบายไม่ร้อนครับ เทียบกับ X12 อีกใบที่ลองใส่อันนั้นถ้ารถติดนี่เหงื่อซึม

สรุปข้อดีข้อเสีย

ข้อดี
1.    ใช้งานได้ดีทั้งในเมืองและออกทริป (กรณีชิลตัดลมได้ดี)
2.    วิสัยทัศน์กว้างและมุมมองไม่หลอกตา
3.    หายใจคล่องไม่อึดอัด ฟองน้ำนุ่มสบาย
4.    อากาศถ่ายเทได้ดีสำหรับหมวกแบบเต็มใบ
5.    งานประกอบดี

ข้อเสีย
1.    แว่นกันแดดหลอกตา
2.    เสียงดัง อันนี้แล้วแต่คนนะครับสำหรับผมไม่ซีเรียส เพราะเนื่องจากช่องลมมันใหญ่
3.    ไม่มีหลบขาแว่น!! อันนี้ผมลืมคิดว่าตัวเองใส่แว่นครับ(ฮา) ทำให้ใส่ลำบากหน่อย

ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกครับสำหรับท่านที่อยากได้หมวกทรงนี้ในราคาไม่เกิน 8000 และได้หมวกที่มีมาตรฐานและงานประกอบดีครับ
สนนค่าตัว 7000 บาท แบบสีล้วน แบบลายกราฟฟิค 8000 ครับ

เนื่องจากไม่เคยตั้งกระทู้มาก่อน ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ