[CR] รีวิว ตามล่าหาฝันที่ประเทศออสเตรเลีย

สวัสดีคร้าบบบ พี่น้องชาวพันทิพ นี่เป็นกระทู้แรกของผมเลยตื่นเต้นมากกกก ผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ (ขออนุญาตใช้รูปตัวเองนะครับ เพราะว่าส่วนมากมีแต่รูปที่ถ่ายตัวเอง ใครไม่ชอบอย่าว่ากันเลยน้า) ก่อนอื่นเลยขอแนะนำตัวก่อนว่าตอนนี้ผมเรียนอยู่ที่เมลเบิร์นได้เกือบจะห้าเดือนแล้วนะครับ ก่อนหน้านี้ผมมาเรียนภาษาที่ซิดนีย์สามเดือน แล้วกลับไปดร็อปเรียนที่มหาลัยแล้วกลับมาออสเตรเลียอีกครั้งครับ ถ้าใครอยากรู้ว่าเหตุผลที่ผมต้องดร็อปเรียนเพื่อมาออสเตรเลียทำไม คุณจะหาคำตอบได้จากกระทู้นี้ครับ
                                   โอเคเรามาเริ่มกันเลยนะครับ เชื่อว่ามีจำนวนนักศึกษาไม่น้อยที่อยากจะตามล่าหาความฝันในต่างแดน ผมเป็นหนึ่งในนั้น ก่อนอื่นขอบอกว่าเราเป็นนักศึกษาปีที่ 3 คณะมนุษย์ศาสตร์ภาษาฝรั่งเศส มหาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ ฟังอย่างงี้บางคนคงคิดว่าภาษาอังกฤษผมคงดีละสิ ขอบอกเลยว่า โนววววว นั้นคือจุดเริ่มต้นของความคิดที่อยากไปฝึกภาษาที่เมืองนอก ในตอนแรกผมวางแผนโครงการว่าจะไป Work and Travel 2016 ที่อเมริกา โครงการชื่อดังของเราชาวนักศึกษาแต่ปรากฎว่าฝันนั้นก็สลายไปในพริบตา เมื่อเช้าวันนึงเอเจนได้โทรมาบอกว่า สปอร์ตเซอร์ที่อเมริกายกเลิกงาน !! ทำไงละทีนี้ !! กระเป๋าก็ซื้อแล้ว เพื่อนก็บอกหมดแล้ว คนรู้กันทั้งหมู่บ้านแล้ววววววววว เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้แล้วคราวนี้
หลังจากที่รู้ข่าวร้ายก็เร่งหาเอเจนในอินเตอร์เน็ตจากน้ากู๋  เสิร์ชไปเสิร์ชมาเจออยู่เอเจนนึง ACE World Education(ใครสนใจเอเจนติดต่อได้หลังไมค์นะครับ) เลยรีบติดต่อสอบถามข้อมูลอย่างเร็วพลัน ได้ข้อมูลว่าเป็นเอเจนส่งนักเรียนมาเรียนที่ออสเตรเลีย ออสเตรเลียหรอ ชื่อดูหน้าสนใจ เคยได้ยินพูดถึงชีวิตและเรื่องราวของนักเรียนที่นี้มาแล้วบ้าง คุยรายละเอียดกันไปมา เอ่อ ! ถูกกว่าไปเวิร์คที่อเมริกาอีก ตอนนั้นบอกตัวเอง เอาวะ เป็นไงเป็นกัน  หลังจากที่สอบถามข้อมูลกับทางเอเจนเรียบร้อยแล้วนั้นก็(พี่ที่เอเจนให้คำปรึกษาดีมากกกกก) รีบยกหุโทรศัพท์โทรหาแม่อย่างเร็วพลัน  แม่ตกลงไปเลยลูก พอได้ยินคำนี้จากแม่ปุ้บ รอช้าอยู่ใย ออสเตรเลียแดนจิงโจ้รอเราอยู่วววววววว Let go !!
หลังจากที่ติดต่อคุยเรื่องโรงเรียนและเอกสารกับเอเจนเสร็จเรียบร้อย ทำเรื่องจ่ายเงิน ยื่นเอกสารแค่ 1 อาทิตย์หลังจากนั้นรอวีซ่า ช่วงนั้นคือเดือนเมษายน 2016 ต้องรอวีซ่านานหน่อยเพราะมีวันหยุดสงกรานต์ (ปกติแล้วแล้ววีซ่านักเรียนออสเตรเลียต้องใช้เวลา 28 วันทำการในการขอวีซ่า แต่เราใจร้อนมาก อย่างบิน 555555) รอ รอ รอ ดูซีรี่ย์จบไปหนึ่งเรื่องก็แล้ว สองเรื่องก็แล้ว และแล้ววันนึงก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น      
        
          “ฮัลโหวครับ”
        
           “ฮัลโหลค่ะ นี่พี่หญิงเองนะคะ จาก ACE world Education จะแจ้งน้องว่าวีซ่าน้องออกแล้วค่ะ”
        
            “จริงหรอครับบบบบ ขอบคุณมากนะครับ”

หลังจากที่รับสายนั้นแล้ว ก็ตระโกนบอกพ่อบอกแม่ ลูกพร้อมจะไปผจญภัยในต่างแดนแล้วนะ รีบเปิดอากู๋อีกรอบหาตั๋วเรื่องบินในอีกสองวัน บอกตัวเองฉันจะรอช้าไม่ได้ ฉันต้องรีบไป ไปเร็วเท่าไหร่ ฉันจะได้อยู่นานเท่านั้น หลังจากนั้นก็ได้ตั๋วเครื่องบินไปกลับจากสายการบินสีแดง ไป เส้นทาง  เชียงใหม่-มาเลเซีย-ซิดนีย์  ขากลับ ซิดนีย์-สิงคโปร์-กทม.-เชียงใหม่
ในราคา 2x,xxx บาท หลังจากนั้นเตรียมกระเป๋า 1 วัน อีกหนึ่งวันเตรียมตัวบิน


วันแรก ณ สนามบินเชียงใหม่
                      
                         วันแรกตื่นเต้นมาก เกิดมาไม่เคยบิน ในประเทศก็ไม่เคยบิน พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหายมาส่งกันตรึม แม่ร้องไห้  เป็นห่วงชวนกันร้องไห้ไปอีกทั้งแม่ทั้งลูก เลยบอกแม่ว่าลุกไปแปปเดียว สามเดือนเอง กลับมาจะมาโชว์สกิลภาษาอังกฤษให้ดูให้สมกับที่พ่อแม่ส่งไป หลังจากนั้นพอร่ำรากันเสร็จเรียบร้อย โอเคถึงเวลา Boarding บอกมือลาทุกคน เจอกันอีกสามดือนน้า
บ้าย บาย ไทยแลนด์
รูปที่ถ่ายจากสนามบินเชียงใหม่ พูดได้เลยว่าตื่นเต้นมากกกก ก ไก่ ล้านตัว เพราะเป็นการนั่งเครื่องบินครั้งแรก)

หลังจากบินจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ถึงท่าอากาศยานกัวลาลัมป์เปอร์ ทีนี่เอาแล้วสิต้องเปลี่ยนเครื่องถึง 8 ชั่วโมง ทำอะไรดีละทีนี้ นั่งๆ นอนๆ เดินไป แล้วก็เดินมา เดินมาแล้วก็เดินไป อยากจะถามว่า ฮัลโหลหนู เมื่อไหร่จะถึงเวลาซักที อยากจะเหยียบผืนแผ่นดินซิดนีย์จะแย่อยู่แล้ว หลังจากรอแล้วรออีก เวลาก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก ก็ถึงเวลาต่อเครื่องสู่ซิดนีย์ซักที พอขึ้นเครื่องหัวถึงเบาะปุ่ม หลับเป็นตายเลย ตื่นมาอีกที อ้าว เครื่องใกล้จะแลนดิ้งแล้ว ลุกขึ้นมา เปิดหน้าต่างดู รู้สึกแบบ เห้ย นี่เรากำลังจะถึงต่างประเทศจริงๆแล้วหรอ ความฝันที่อยากจะมาต่างประเทศ ตอนนี้มันเป็นจริงแล้ว แผ่นดินซิดนีย์ใกล้เข้ามาทุกที่แล้ว พอถึงที่สนามบินซิดนีย์ พี่เอเจนได้มารอรับอยู่แล้ว (จ่ายเงินรวมไปแล้วใน accomodation) หน้าที่ของเราเลยคือเดินหา ว่าในหว่าป้ายชื่อเรา เดินไปเดินมา เห็นผู้หญิงคนนึงเดินโบกมือไปโบกมือมา ในป้ายชื่อมีชื่อเราอยู่ผมก็เดินไปหาเค้าทักทายกันตามปกติพี่เค้าบอกมารอเราได้ 1 ชม. ละ หลังจากที่พบพี่เค้าแล้วผมก็เตรียมตัวที่จะเดินทางไปที่พัก ลืมบอกไปว่าถึงสนามบินที่ซิดนีย์เวลาคราวประมาณ 8-9 โมงเช้า  อากาศค่อนข้างเย็นอากาศที่นี่ค่อนข้างแปรปรวน วันนั้นฝนตกตอนรับตั้งแต่วันแรกเลยจ้า หลังนั้น พี่เอเจนก็พาเราไปซื้อบัตรรถไฟที่เรียกว่า Opal Card รูปร่างประมาณนี้เพื่อจะนั่งรถไฟเข้าไปในที่พักในเมือง  ชีวิตในซิดนีย์กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว !


(หน้าตารูปร่างของ Opal card ใช้สำหรับเดินทางได้ทุกประเภทในซิดนีย์)

วันนี้ขอรีวิวเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ วันพรุ่งนี้จะมาเล่าต่อให้ฟังนะครับตอนนี้ที่เมลเบิร์นเวลาเกือนจะตีหนึ่งแล้ว พรุ่งนี้จะมาเล่าในหัวข้อ โรงเรียนในซิดนีย์  การหางานทำของเด็กอินเตอร์ และจุดหักเหของชีวิต   ก่อนไปมีรูปมาฝากให้ดูกันนิดหน่อยนะครับ


(ขอบคุณรูปจากอากู๋)


(Central Station ขอบคุณรูปจากอากู๋)


(Sydney Museum)

ชื่อสินค้า:   บันทึกการเดินทาง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่