Ride & Review "ขับไป..บ่นไป" ตอนที่ 1.2 - Triumph Street Cup
มาต่อกันอีกคันรัวๆไปเลยล่ะกันครับ จะได้ไม่ขาดตอน
สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่ 1.1 - Triumph Bonneville T100 “ชายกลางสุดหล่อ..สุขุมนุ่มลึก”
กดไปอ่านก่อนได้ที่ลิ้งค์เลยครับ เพราะมันไปทริปเดียวกันครับ จะได้ไม่ต้องแนะนำเรื่องทริปกันใหม่นะครับ ^^
https://pantip.com/topic/36112378
Triumph Street Cup “หล่อเล็ก..จิ๊กโก๋ขาลุย”
ด้วยความที่ Street Cup เป็นรุ่นที่อาจจะพูดได้ว่า เป็นการแชร์อะไหล่เกือบทุกส่วน มาจากรุ่น T100 และ Street Twin ที่ออกไปก่อนหน้านี้ มาทำการแต่งหน้าทาปากซะใหม่ ตามสไตล์ของ Cafe Racer จิ๊กโก๋คูลๆ.. เพราะฉะนั้นข้อมูลพื้นฐานส่วนใหญ่ก็จะไม่ต่างจากรุ่น T100 ซักเท่าไหร่ครับ มโนง่ายๆก็เหมือนกับซื้อ T100 แต่ง Cafe มาจากโรงงานนั่นเองล่ะครับผม

ถ้าตามข้อมูลที่ได้ถามมาเกี่ยวกับกระแสรถ Vintage หรือสไตล์ Custom ที่กำลังร้อนแรงในแวดวงสองล้อบ้านเราขณะนี้ ได้ข้อมูลมาว่า กระแสนี้ยังร้อนอยู่ได้อีกนานล่ะครับ เพราะกระแสชีวิตแบบย้อนยุคนิดๆ ดูชิคๆ ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น ร้านบาร์เบอร์ ตลาดเปิดท้าย ก็ยังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อะไรเทือกนี้ล่ะครับ (แอบเห็นว่ารถแนวนี้สามารถฉุดค่ายรถเล็กๆบางค่ายที่กำลังจะจมดิ่งลงไปในทะเล ผุดขึ้นมาหายใจเหนือผิวน้ำได้อีกเฮือกใหญ่เลยนะครับ) แถมด้วยแนวนี้มันยังสนุกกับการตกแต่งตามใจคุณเองได้เต็มเหนี่ยวอีกด้วย และด้วยอานิสงค์ของกระแสคูลๆนี้ รหัสรุ่น Street Cup จึงถูกรังสรรค์ออกมาจากแรงบังดาลใจบางส่วนของรุ่นพี่มันอย่าง Triumph Thruxton สุดหล่อก็เป็นได้ โดยหวังว่าจะเก็บตกนักขับหน้าใหม่ที่ยังไม่หาญกล้าคร่อมลุยกับรุ่นใหญ่อย่าง Thruxton ก็ยังพอมีรุ่นหน้าตาเก๋าๆแนวๆนี้ให้พอได้เฟี้ยวก่อนเป็นขั้นเริ่มต้นก่อนก็ยังได้.. อ่าว!!! แล้วตกลงคือนี่มันรุ่น รวมดาว ใช่มั้ยวะเนี่ย!!!!

ขยับเข้ามาว่ากันเรื่องหน้าตาเก๋าๆของมันกันก่อนเลยนะครับ เด่นๆเลยก็คงไม่พ้นเรื่อง ท่าทางการขับที่ถูกปรับจาก สบายๆ ของรุ่นพี่ T100 มาเป็นหมอบซิ่งๆ ตามแนว Cafe Racer เค้าล่ะครับ.. ด้วยแฮนด์บาร์ทรง Ace ที่ไม่ใช่ Clip-On หรือจับโช๊คแต่อย่างใด เพราะเน้นความสะดวกสบายคล่องตัวมาก่อนนะฮะ และด้วยที่มันต้องหมอบ ท่าทางการขับก็ต้องเปลี่ยนไป เพราะฉะนั้นถังน้ำมันขนาด 12 ลิตรจึงถูกขึ้นทรงใหม่ เฉือนให้เว้ารับกับเข่าทั้งสองข้าง ที่จะทำหน้าที่หนีบรถให้พริ้วไปกับตัวคุณได้ง่ายขึ้นนั่นเองฮะ

และก็เพราะตัวคนขับต้องขยับถอยออกมาจากถังน้ำมันมากขึ้น เบาะหนานุ่มสบายตรูดที่เย็บตะเข็บด้วยมือ จึงมาทำหน้าที่เป็นสปาตูดให้คนขับ ก่อนจะถูกกั้นปิดตูดคนขับด้วยครอบเบาะทรง Bullet Seat หรือปลายกระสุนนั่นแหล่ะครับ ซึ่งแม่บ้านขาซิ่งไม่ต้องกระชากหัวสามีมาจิกด่าว่าเห็นแก่ตัว!! เมิงวางแผนซื้อคันนี้ เพราะไม่อยากให้กรูซ้อนไปด้วยใช่มั้ย!!!!.. ผมแนะนำให้พกประแจ 6 เหลี่ยมติดตัวไว้เลยครับ ไขแค่สองตัว ถอดครอบเบาะที่เป็นตัวรังควานชีวิตคู่ของคุณเก็บไว้บ้านได้เลยฮะ เพียงเท่านี้คุณแม่บ้านก็ได้ตามสิงพ่อบ้านไบเกอร์ขาซิ่งไปได้ทุกที่แล้วล่ะครับ ^^

มุมด้านหน้าใช้ไฟกลมตามฉบับแนว Vintage เสริมหล่อด้วย Windshield ขนาดย่อมๆ พอให้ดูซิ่งขึ้นมาอีกนิด กระจกมองหลังเป็นแบบติดปลายแฮนด์ มุมมองเห็นชัดถนัดดีครับ ซึ่งข้อติเล็กๆของกระจกประเภทนี้ก็คือ ต่อให้ล้มแปะ มันก็จะกระแทกพื้นพังก่อนเป็นอันดับแรกครับ และถ้าใครบอกว่าขับเร็วขึ้นหน่อยซัก 140-150 เริ่มสั่นจนมือสะท้าน ผมว่าไอนี่แหล่ะครับมันทำให้สะท้านมือ แทนที่จะเป็นแรงสั่นจากเครื่องยนต์ 2 สูบแบบปกติครับ

แฮนด์ด้านซ้ายก็ไม่ต่างจาก T100 ครับ ปุ่ม i มันมีให้กดดูรายละเอียดทุกอย่างเหมือนเดิม ไล่ตั้งแต่ ตำแหน่งเกียร์, วัดระยะทาง 2 ทริป, ระยะที่วิ่งได้จนน้ำมันหมด, ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง, อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย และเปิดปิด Traction Control ครับ เพิ่มเติมคือ มุมมองกระจกที่เปลี่ยนไปล่ะครับ

ด้านขวาก็เหมือนกัน เป็นระบบคันเร่งไฟฟ้าเหมือน T100 เป๊ะๆ ก็จะไม่เหมือนได้ไงล่ะ!! เครื่องตัวเดียวกัน !!!! แต่ไอที่พิเศษขึ้นมาหน่อยก็เป็นกระปุกน้ำมันเบรคแบบลอยๆ สีชา แอบทำให้ดูเป็นรถซิ่งมาอีกหน่อยครับ

เรือนไมล์ .. ผมขอไม่เหลาเรื่องมีอะไรบ้างแล้วกันนะครับ เพราะมันเหมือน T100 เป๊ะ!!! (อีกแล้ว) แต่...นี่คือมุมมองที่คุณจะเห็น ถ้าคุณหมอบแบบ 100% ครับ ซึ่งถ้าจะเอาแค่หลบลมที่ตีเข้าหาตัวคุณ ก็ไม่จำเป็นต้องนอนแนบกับถังขนาดที่ลูกอ๊อดคุณยังไม่มีที่จะหายใจขนาดนี้หรอกครับ แค่ก้มลงจากท่าปกติอีกซักหน่อย พอให้ศอกมาชิดกับเข่าคุณนิดๆ แค่นั้นบังลมอันน้อยนี้ ก็จะแสดงอิทธิฤทธิ์พรางตัวคุณจากลมปะทะได้มากโขแล้วครับผม นี่ไง!! มันไม่ได้มีไว้เพื่อโชว์หล่ออย่างเดียวนะครับ ^^

ไฟท้าย Led สว่างๆ ตั้งมั่นอยู่บนบังโคลนหลังกันน้ำดีดใส่หัวคุณยามวิ่งผ่านน้ำ.. แต่เอาเข้าจริงๆ คนชอบแต่งรถ ผมว่าต้องมีหลายคนยกก้อนนี้ออกทั้งชิ้นแน่นอน แลกกับการโชว์ตูดเพรียวๆแหลมๆกระชากใจสาวๆหน่อย ติดหลอด Led เป็นเส้นๆ ที่ใต้ปลายกระสุนน่าจะเฟี้ยวกว่า.. เรื่องน้ำกระเด็นไม่ต้องห่วง เพราะถ้ากล้าถอดแต่งขนาดนี้ มันต้องกล้าทำใจรับน้ำจากพื้นมาซักหน่อยแล้วล่ะครับ

มาว่ากันเรื่องสำคัญอีกเรื่องสำหรับคันนี้เลยครับ ด้วยข้อมูลที่ได้รับมาเบื้องต้น ตัวเครื่องใช้ตัวนี้เดียวกับ T100 ทั้งหมด แต่มันวิ่งไม่เหมือนกัน !!! ซึ่งเป็นแบบ SOHC 2 สูบเรียง 8 วาล์ว ขนาด 900cc. ระบายความร้อนด้วยน้ำเหมือนกัน!! แถมรหัส HT (High Torque) ที่มีแรงม้า 55 ตัว สับด้วยเกียร์ 5 สปีดแบบเดียวกันอีก!!! แล้วมันต่างกันตรงไหนวะเฮ้ย!!!!! คุณต้องลองขับว่ะคุณถึงจะรู้ความต่างในนิสัยของมันครับ..แหม่ ฝาแฝดมันยังนิสัยไม่เหมือนกันทั้งหมดเลยมั้ยล่ะครัช!!!!

ขอใช้รูปตอนออกจากแวะพักกินข้าวล่ะกันครับ เพราะเป็นรูปเดียวที่ขับสีเหลืองเจ้าปัญหาคันนี้ !!!
ค้างไว้เมื่อกี้เรื่องนิสัยที่มันต่างออกไปจาก T100 ก่อนล่ะกันครับ ทั้งๆที่ทุกอย่างของเครื่องยนต์มันเหมือนกันหมด.. คือนิสัยของ Street Cup มันจะดิบขึ้นจากความนุ่มที่ T100 มีครับ หรือเรียกว่าจี๊ดขึ้นอ่ะครับ อัตราเร่งมาไวกว่า T100 อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเท่าที่ได้ลองดูทั้งตอนขึ้นภูทับเบิกและไหลยาวๆตอนขากลับ สรุปได้ว่าน่าจะเป็นเพราะ Map ECU คนละแบบกับ T100 ครับ หรืออธิบายคร่าวๆก็คือ การสร้างอัตราการฉีดน้ำมัน แรงไฟ ซึ่งอาจจะรวมถึงองศาการจุดระเบิดให้มีความจัดจ้านขึ้นในรอบต่ำๆถึงกลางๆ ส่วนในรอบปลายก็ยังพอๆกับ T100 ครับ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ได้มาจาก Map ใหม่นี้ ทำให้นิสัยของมันดูดิบขึ้นนั่นเองครับ สนุกกับรอบต่ำๆกลางๆมากขึ้น ยิ่งเวลาเข้าโค้ง กรอคันเร่งยิ่งสนุกครับ ส่วน Top Speed ก็พอกันเลยครับ 175-180 แล้วแต่องค์ประกอบรอบข้างครับ หมอบลงตามแนวรถมันหน่อย ความเร็วปลายมันก็มากขึ้น เพราะไม่มีแรงต้านจากตัวเรานั่นแหล่ะครับ แต่ก็ไม่ต้องไปใส่ใจกับความเร็วปลายมากหรอกครับ รู้ไว้ใช่ว่าดีกว่าครับ อยากเร็วจัดๆ ไปขับสปอร์ตตัวพันนู่นครับ!!!!

Triumph Street Cup มี 2 โทนสีครับ คือสีเหลือง Racing Yellow / Silver Ice และคันด้านบนนี้สีดำ Jet Black / Silver Ice ราคา 450,000 บาทครับ.. น้ำหนักรวมโดนทอนออกไปเหลือแค่ 200 กิโล ระบบครัชเข้าง่ายนิ่มมือ มีระบบคล้ายๆ Slipper Clutch เล็กๆ ทำให้เข้าเกียร์ง่าย ไม่เสียอาการตอนลดเกียร์มากนัก ระบบเบรค ABS จาก Nissin ทั้งหน้าหลัง โช๊คอัพหน้าหลังจาก KYB โดยที่ด้านหลังสามารถปรับแข็งอ่อนได้ครับ ใต้เบาะมีช่องชาร์จไฟ USB และระบบการโจรกรรมด้วยนะครับ (มีทั้งรุ่น T100 ด้วยนะครับ ลืมบอกไป ขออภัยครับ ^^) ส่วนล้อต่างจาก T100 ตรงที่ใช้ล้อ Aluminum Alloy แทนล้อซี่ลวดครับ โดยขนาดก็ใช้แบบ T100 นั่นก็คือ 100/90 R18 และ 150/70 R17 รัดกับยางตรงรุ่นอย่าง Pirelli Phantom SportsComp ครับ

รูปมุมนี้เห็นท่าขับอย่างชัดเจน เปรียบเทียบกับคนสูงกำลังดี 180cm. อย่างผมได้เลยฮะ.. เข่างอขนาดนี้ ไม่ต้องสืบก็เห็นแน่ๆ ว่าสูงไม่เกิน 170cm. ขาลงพื้นเต็มฝ่าตีนแน่นอนครัช.. เวลาขับตัวต้องหมอบลงเล็กน้อย หัวเข่าแนบไปตามถังที่เว้ามารับพอดิบพอดี ถ้าถามว่าเมื่อยมั้ย ผมขับรุ่นนี้อย่างน้อยๆน่าจะมีเกือบๆ 300 โล ก็ไม่มีอาการเมื่อยหลังนะครับ แขนก็ไม่ ไหล่ก็ไม่ มือก็ไม่ชา จะมีก็แต่ร่องตูดเจ้าปัญหาผมล่ะมั้งครับ ที่ยังมีปวดตุ่บๆอยู่นิดๆ ^^ ซุ่มเสียงจากปลายท่อคู่แบบสั้นๆที่เห็นนี้ ออกแนวทุ้มดุๆหน่อย ยิ่งเร่งรอบสูงๆ เสียงลมแผดๆก็เร้าใจอยู่นะครับ

(ขออนุญาตยืมรูปจากเพื่อนๆอีกรูปนะฮะ)
มาว่ากันถึงเรื่องที่เคืองๆจากคันเหลืองซักหน่อยครับ คือตอนขาไปจากพิษณุโลกไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่นะครับ เพราะถนนลาดยางหยาบๆ เลยไม่รู้สึกอะไร แต่พอเริ่มขึ้นภูทับเบิกนี่สิฮะ ไอเราก็จะลองทดสอบระบบช่วงล่างในโค้งให้มันส์เลย เพราะเท่าที่ขับมามันคุมง่ายจังว่ะ..ขาขึ้นเจอถนนลาดยางแบบแววๆบนภูทับเบิก อาการท้ายออกหน้าเบาวิ้งๆเริ่มมาเยือน คิดในใจว่า เฮ้ย!!! มันมี TC นี่หว่า เปิดคันเร่งออกก็ไม่แรงนะ!!! อย่ามามีอาการแบบนี้ใส่กรูซิเว้ย!!!!! พอเริ่มสูงโค้งยิ่งแวววับ มันมีอาการทุกโค้ง!!! จนบอกตัวเองว่าพอแล้ว กรูไม่ฝืนดีกว่า เดี๋ยวจะงานเข้าซะเปล่าๆ เก็บความเคืองไว้ในใจว่าน่าจะเป็นที่ยางว่ะ!!! แล้วผมก็สลับขับ T100 ต่อตอนขาลง ในโค้งลักษณะเดียวกัน T100 มันดันไม่มีอาการไง!!! ผมก็เลยเหมือนเคืองแล้วสรุปไปเลยว่า Street Cup มันควบคุมยากไม่เหมาะกับมือใหม่อย่างแรง!!!!

เหมือนฟ้าสั่งให้มาเคลียร์กันอีกทีดิ เมิงอย่ามาสรุปเอาเองแบบนี้ซิวะ!!!
เช้าอีกวันซึ่งเป็นขากลับ ตามกำหนดเค้าจะสลับรถกันไปมาเพื่อถ่ายรูปลงงานตัวเอง แล้วใครจะขับคันไหนก็แล้วแต่เลย.. ผมดันไปเอา T100 สีฟ้าของเจ้าของงานไปถ่ายรูป แล้วขากลับเค้าก็ต้องขับคันนี้กลับไง เอาแล้วววกรู.. ทีมงานใจดีเหมือนดั่งนางฟ้ามาโปรด เอา Street Cup คันดำมาให้ซ้ำแก้อาการเคืองซะให้หนำใจก่อนกลับ ไหนๆก็ไหนแล้ว เรามีหน้าที่ต้องทดสอบให้รู้ถึงข้อมูลจริงก่อนที่จะเอามาแพล่มให้ฟังกัน เพราะฉะนั้นอย่ามัวช้าอยู่เลย ผมใส่ยับ!!! ตั้งแต่กลุ่มหน้าเริ่มเดินคันเร่งกัน (เพราะทุกคนก็อยากทดสอบเหมือนๆกันล่ะครับ 5555)
เชื่อมั้ยครับ.. มันเหมือนคนละคันเลยครับ โยนโค้งทั้งแคบทั้งกว้าง ทั้งเร็วทั้งช้า มันไปได้หมดเลยครับ ตามใจเราทุกอย่าง จะมีก็เวลาโยนยาวๆ 150-160 เริ่มมีอาการโยนนิดๆหน่อยๆครับ คือถ้าเปลี่ยนช่วงล่างเทพๆ ยางรุ่นท๊อปๆ เพิ่มเข้าอีกนิดนะครับ ผมว่าโครตมันส์อ่ะคันนี้!!!! แล้วอาการเคืองๆกันกับคันเหลือง ผมก็ได้คำตอบว่า คันนั้นมันเพิ่งเอาเองมาเพื่อเทสเลยครับ หน้ายางไม่ได้เปิดอะไรเลย ต่างกับคันดำนี้ ซึ่งผ่านการทดสอบมาซักพักแล้วล่ะครับ.. ผมก็พลาดเองล่ะครับที่ไม่เช็คให้ดีก่อน พาลเสียฟิลไปเลย ^^
[SR] Ride & Review "ขับไป..บ่นไป" ตอนที่ 1.2 - Triumph Street Cup
มาต่อกันอีกคันรัวๆไปเลยล่ะกันครับ จะได้ไม่ขาดตอน
สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่ 1.1 - Triumph Bonneville T100 “ชายกลางสุดหล่อ..สุขุมนุ่มลึก”
กดไปอ่านก่อนได้ที่ลิ้งค์เลยครับ เพราะมันไปทริปเดียวกันครับ จะได้ไม่ต้องแนะนำเรื่องทริปกันใหม่นะครับ ^^
https://pantip.com/topic/36112378
ด้วยความที่ Street Cup เป็นรุ่นที่อาจจะพูดได้ว่า เป็นการแชร์อะไหล่เกือบทุกส่วน มาจากรุ่น T100 และ Street Twin ที่ออกไปก่อนหน้านี้ มาทำการแต่งหน้าทาปากซะใหม่ ตามสไตล์ของ Cafe Racer จิ๊กโก๋คูลๆ.. เพราะฉะนั้นข้อมูลพื้นฐานส่วนใหญ่ก็จะไม่ต่างจากรุ่น T100 ซักเท่าไหร่ครับ มโนง่ายๆก็เหมือนกับซื้อ T100 แต่ง Cafe มาจากโรงงานนั่นเองล่ะครับผม
ค้างไว้เมื่อกี้เรื่องนิสัยที่มันต่างออกไปจาก T100 ก่อนล่ะกันครับ ทั้งๆที่ทุกอย่างของเครื่องยนต์มันเหมือนกันหมด.. คือนิสัยของ Street Cup มันจะดิบขึ้นจากความนุ่มที่ T100 มีครับ หรือเรียกว่าจี๊ดขึ้นอ่ะครับ อัตราเร่งมาไวกว่า T100 อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเท่าที่ได้ลองดูทั้งตอนขึ้นภูทับเบิกและไหลยาวๆตอนขากลับ สรุปได้ว่าน่าจะเป็นเพราะ Map ECU คนละแบบกับ T100 ครับ หรืออธิบายคร่าวๆก็คือ การสร้างอัตราการฉีดน้ำมัน แรงไฟ ซึ่งอาจจะรวมถึงองศาการจุดระเบิดให้มีความจัดจ้านขึ้นในรอบต่ำๆถึงกลางๆ ส่วนในรอบปลายก็ยังพอๆกับ T100 ครับ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ได้มาจาก Map ใหม่นี้ ทำให้นิสัยของมันดูดิบขึ้นนั่นเองครับ สนุกกับรอบต่ำๆกลางๆมากขึ้น ยิ่งเวลาเข้าโค้ง กรอคันเร่งยิ่งสนุกครับ ส่วน Top Speed ก็พอกันเลยครับ 175-180 แล้วแต่องค์ประกอบรอบข้างครับ หมอบลงตามแนวรถมันหน่อย ความเร็วปลายมันก็มากขึ้น เพราะไม่มีแรงต้านจากตัวเรานั่นแหล่ะครับ แต่ก็ไม่ต้องไปใส่ใจกับความเร็วปลายมากหรอกครับ รู้ไว้ใช่ว่าดีกว่าครับ อยากเร็วจัดๆ ไปขับสปอร์ตตัวพันนู่นครับ!!!!
มาว่ากันถึงเรื่องที่เคืองๆจากคันเหลืองซักหน่อยครับ คือตอนขาไปจากพิษณุโลกไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่นะครับ เพราะถนนลาดยางหยาบๆ เลยไม่รู้สึกอะไร แต่พอเริ่มขึ้นภูทับเบิกนี่สิฮะ ไอเราก็จะลองทดสอบระบบช่วงล่างในโค้งให้มันส์เลย เพราะเท่าที่ขับมามันคุมง่ายจังว่ะ..ขาขึ้นเจอถนนลาดยางแบบแววๆบนภูทับเบิก อาการท้ายออกหน้าเบาวิ้งๆเริ่มมาเยือน คิดในใจว่า เฮ้ย!!! มันมี TC นี่หว่า เปิดคันเร่งออกก็ไม่แรงนะ!!! อย่ามามีอาการแบบนี้ใส่กรูซิเว้ย!!!!! พอเริ่มสูงโค้งยิ่งแวววับ มันมีอาการทุกโค้ง!!! จนบอกตัวเองว่าพอแล้ว กรูไม่ฝืนดีกว่า เดี๋ยวจะงานเข้าซะเปล่าๆ เก็บความเคืองไว้ในใจว่าน่าจะเป็นที่ยางว่ะ!!! แล้วผมก็สลับขับ T100 ต่อตอนขาลง ในโค้งลักษณะเดียวกัน T100 มันดันไม่มีอาการไง!!! ผมก็เลยเหมือนเคืองแล้วสรุปไปเลยว่า Street Cup มันควบคุมยากไม่เหมาะกับมือใหม่อย่างแรง!!!!
เช้าอีกวันซึ่งเป็นขากลับ ตามกำหนดเค้าจะสลับรถกันไปมาเพื่อถ่ายรูปลงงานตัวเอง แล้วใครจะขับคันไหนก็แล้วแต่เลย.. ผมดันไปเอา T100 สีฟ้าของเจ้าของงานไปถ่ายรูป แล้วขากลับเค้าก็ต้องขับคันนี้กลับไง เอาแล้วววกรู.. ทีมงานใจดีเหมือนดั่งนางฟ้ามาโปรด เอา Street Cup คันดำมาให้ซ้ำแก้อาการเคืองซะให้หนำใจก่อนกลับ ไหนๆก็ไหนแล้ว เรามีหน้าที่ต้องทดสอบให้รู้ถึงข้อมูลจริงก่อนที่จะเอามาแพล่มให้ฟังกัน เพราะฉะนั้นอย่ามัวช้าอยู่เลย ผมใส่ยับ!!! ตั้งแต่กลุ่มหน้าเริ่มเดินคันเร่งกัน (เพราะทุกคนก็อยากทดสอบเหมือนๆกันล่ะครับ 5555)
เชื่อมั้ยครับ.. มันเหมือนคนละคันเลยครับ โยนโค้งทั้งแคบทั้งกว้าง ทั้งเร็วทั้งช้า มันไปได้หมดเลยครับ ตามใจเราทุกอย่าง จะมีก็เวลาโยนยาวๆ 150-160 เริ่มมีอาการโยนนิดๆหน่อยๆครับ คือถ้าเปลี่ยนช่วงล่างเทพๆ ยางรุ่นท๊อปๆ เพิ่มเข้าอีกนิดนะครับ ผมว่าโครตมันส์อ่ะคันนี้!!!! แล้วอาการเคืองๆกันกับคันเหลือง ผมก็ได้คำตอบว่า คันนั้นมันเพิ่งเอาเองมาเพื่อเทสเลยครับ หน้ายางไม่ได้เปิดอะไรเลย ต่างกับคันดำนี้ ซึ่งผ่านการทดสอบมาซักพักแล้วล่ะครับ.. ผมก็พลาดเองล่ะครับที่ไม่เช็คให้ดีก่อน พาลเสียฟิลไปเลย ^^