[Spoil] Domestic na Kanojo #129 - เมื่อได้พบหน้าอีกครั้ง

ตอนใหม่ออกวันวาเลนไทน์พอดีเลยแฮะ

เอาจริงอาหารดิบออกไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่มีเรื่องยุ่งโน่นนี่นิดหน่อยเลยไม่ได้เขียน เลยมาเขียนในวันตัวเล่มออกพอดีนี่แหละครับ



ภาพเปิดตอนนี้








- เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่คนพี่กลับมาบ้านช่วงหยุดปีใหม่

- พระเอกกับพ่อถึงกับตาเหลือก ส่วนแม่คนพี่ดีใจจนลืมตัววิ่งเข้าไปกอดคนพี่ทั้งน้ำตา

- คนพี่ทักทายพ่อพระเอกกับแม่ตัวเองพักหนึ่ง ก็หันมาทักทายพระเอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พระเอกกลับได้แต่ทักตอบแบบตะกุกตะกัก ท่าทางกระอักกระอ่วนใจอย่างเห็นได้ชัด

- คุยกันพักหนึ่งก็ชวนคนพี่ขึ้นบ้านเอาของไปเก็บไว้ที่ห้องคนน้องที่ใช้เป็นห้องชั่วคราว (หลังคนพี่ออกจากบ้านไป ที่บ้านก็ไม่ได้เก็บห้องคนพี่ไว้ เลยให้พักห้องคนน้องที่ไปอิตาลีแทน) หลังคนพี่ขึ้นไปแล้ว แม่คนพี่ก็เข้ามาถามพระเอกทำนองเป็นห่วงว่าเจอหน้าคนพี่แบบนี้คงไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ย พระเอกเจอถามเข้าแบบนั้นก็ได้แต่อ้ำอึ้งตอบรับไป ทั้งที่ในใจไม่ได้เป็นอะไรแม้แต่นิด

- หลังแม่คนพี่แยกตัวไป พระเอกก็ยืนนิ่งทบทวนอารมณ์ของตัวเองในตอนนี้อยู่พักหนึ่งก็สรุปว่าตัวเองนั้นไม่ได้เหลือเยื่อใยอะไรกับคนพี่แล้ว เป็นแค่เรื่องในอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว แต่เพราะมีเรื่องอะไรหลายๆ อย่างในช่วงก่อนจะกลายเป็นอดีต ก็เลยไม่รู้จะเข้าหน้าอีกฝ่ายยังไงเท่านั้น (เรียกง่ายๆ อารมณ์คนแยกทางกับแฟนแบบไม่ค่อยจะดี แล้วจับพลัดจับผลูต้องมาเจอแฟนเก่าคนนั้นในสถานการณ์ที่หนีไปไหนไม่ได้ มันก็ต้องกระอักกระอ่วนใจนั่นแล)

- คิดเสร็จพระเอกก็เดินขึ้นบันไดจะกลับเข้าห้องตัวเอง ก็เผอิญสวนกับคนพี่ที่ออกมาจากห้องคนน้องพอดี

- เจอหน้ากะทันหันแบบนั้นพระเอกไม่รู้จะวางสีหน้ายังไงก็หลบตา ท่าทางอึดอัดใจที่จะพูดด้วยแบบไม่ปิดบัง

- เห็นพระเอกทำท่าใส่แบบนั้น คนพี่ก็แอบสะอึกไปนิดนึง แต่แว่บเดียวก็ปรับอารมณ์ตัวเองได้ แล้วพยายามยิ้มแย้งพูดคุยกับพระเอกเหมือนปกติ พยายามทำตัวเป็น "พี่สาว" พระเอกเหมือนสมัยอาศัยร่วมบ้านกันครั้งแรกให้ได้ ทำเอาพระเอกถึงกับยืนเหวอกับท่าทางปกติจนเกินเหตุของคนพี่ไปเลย



- เย็นวันนั้น คนพี่พยายามแสดงฝีมือทำอาหารให้ที่บ้านกิน พระเอกกับพ่อแม่ได้ยินเข้าก็ตาลีตาลานเข้าไปห้ามไว้เพราะรู้ว่าคนพี่ทำอาหารได้นรกแตกขนาดไหน แต่คนพี่ไม่ยอมฟัง อ้างว่าชั้นไปอยู่เกาะคนเดียวมาตั้งปีแล้วนะ อาหารแค่นี้ทำได้อยู่แล้วน่า

- ผลน่ะเหรอ...ก็ออกมาเละเทะสิครับ จะไปเหลืออะไรล่ะ

- กินข้าว (ที่แทบไม่เป็นกับข้าว) เสร็จ คนพี่ก็เอาเครื่องรางอวยพรให้เอ็นท์ฯ ติดยื่นส่งให้พระเอกเป็นของขวัญที่ได้เจอกันอีกครั้ง



- คืนนั้น พระเอกนั่งอ่านหนังสือสอบไปพลางมองเครื่องรางพลางคิดเรื่องคนน้องไปพลาง ว่าควรจะบอกเรื่องคนพี่กลับมาบ้านกับคนน้องดีมั้ย ใจหนึ่งก็ไม่กล้าบอก เพราะกลัวว่าถ้าบอกไป คนน้องที่ขี้หึงขี้ระแวงอยู่แล้วจะกังวลเรื่องพระเอกกับคนพี่จนไม่มีสมาธิดูงานที่อิตาลีเปล่าๆ แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าช้าเร็วคนน้องก็ต้องรู้เรื่องคนพี่กลับมาบ้านอยู่ดี (เช่น แม่โทรหรือเมลไปบอก) และถ้าเป็นแบบนั้น ตัวเองก็จะโดนคนน้องโวยใส่ทีหลังว่าทำไมไม่บอกกัน

- คิดได้แบบนั้น พระเอกก็ได้แต่นั่งกุมเฮ้ดออกอาการงุ่นง่านเพราะไม่รู้ว่าต้องเลือกทางไหนถึงจะเข้ารูท True End ได้


- ตัดไปทางคนพี่ที่นั่งแช่น้ำร้อนอย่างสบายอารมณ์อยู่ในห้องอาบน้ำในบ้านที่ไม่ได้กลับมาเสียนาน

- คนพี่พยายามทำตัวร่าเริง ไม่ใส่ใจกับสีหน้ากระอักกระอ่วนที่พระเอกมีให้ตอนเจอกันที่หน้าบ้านในวันนี้ เพราะรู้ตัวดีว่าคนที่ผลักไสพระเอกไม่รู้กี่ครั้ง ทำร้ายจิตใจพระเอกด้วยข้ออ้างว่า "ฉันทำเพื่อเขา" ก็คือตัวเอง ดังนั้นเขาจะทำท่าใส่ตัวเองแบบนั้นมันก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว

- แม้ลึกๆ ในใจจะคาดหวังให้เขาตอบรับตัวเองด้วยรอยยิ้มแค่ไหนก็ตาม

- คนพี่พยายามสะบัดอารมณ์ที่ตีขึ้นมาในใจทิ้งไป พลางบอกกับตัวเองว่าตอนนี้แค่ได้เห็นหน้าเขา ได้ยินเสียงเขา ได้พูดคุยกับเขาอย่างทุกวันนี้ก็พอแล้ว อย่างน้อยก็ดีกว่าปีใหม่ที่ต้องอยู่คนเดียวบนเกาะมากกว่าเยอะ


- ตัดมาที่ช่วงกลางดึกตอนตี 1 พระเอกอ่านหนังสือสอบเสร็จกำลังหิวก็ลงมาหาอะไรกินกลางดึก

- กำลังค้นๆ อะไรในครัวอยู่ก็ได้ยินเสียงเหมือนของหล่นลงพื้นดังมาจากห้องน้ำ พระเอกเลยตกใจวิ่งไปส่งเสียงเรียกที่หน้าห้องน้ำก็ไม่มีเสียงตอบ เลยตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป

- ข้างในนั้น พระเอกเห็นคนพี่ในสภาพกึ่งเปลือยทั้งตัวกำลังนอนเป็นลมหน้าแดงแจ๋งอยู่ตรงห้องเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำนั้น







ก็ประมาณนี้แฮะสำหรับตอนนี้

คิดว่างานนี้น่าจะเป็นปราการด่านสุดท้ายระหว่างพระเอกกับคนน้องแล้วแฮะ ว่าจะมั่นคงกับอีกฝ่ายได้แค่ไหนในสภาพที่คนพี่ที่เป็นรักแรกกลับมาอีกครั้ง

รอดูต่อแฮะว่าอ.แกจะเดินเรื่องยังไงต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่