ขออนุญาตเกริ่นก่อนนะคะว่าขับรถมาประมาณ 4 ปี รถเราเป็น Mitsubishi Mirage ปี 2013
รถเข้าศูนย์เช็คระยะที่ศูนย์ทุก 10,000 กิโลเมตร ไม่เคยขาด ตอนนี้ไมล์อยู่ที่ 90,000 กว่าๆ
* ธันวาคม ปี 2559 เรานำรถเข้าศูนย์เช็คระยะ 90,000 โล
หลังจากนำรถออกมาจากศูนย์ รถเป็นปกติทุกอย่างค่ะ
* กลางเดือนมกราคม รถเราโดนบิ๊กไบค์เบียดมาชนทางด้านคนขับ
ความเสียหายคือต้องเปลี่ยนประตูหน้า , ประตูหลัง บังโคนหน้า - หลัง บุบคูด
* เรานำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์ที่เรานำรถเข้าเช็คระยะประจำค่ะ เพราะต้องยอมรับเลยว่าเราไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถ
อาศัยประสบการณ์ และด้วยความที่เอารถเข้าเช็คระยะที่นี่ประจำเลยค้อนข้างไว้ใจค่ะ
ระยะเวลาการซ่อม 1 อาทิตย์กับอีก 1 วัน เนื่องจากตอนแรกประเมินไว้ 1 อาทิตย์
แต่พอ 1 อาทิตย์แล้ว ทางศูนย์เงียบ เราเลยโทรไป พนักงานขอเลื่อนออกไปอีก 1 วัน
ให้เหตุผลว่างานยังไม่เรียบร้อย ช่างยังไม่ได้ขัดสี ถ้าเกิดจะเอารถวันนี้เลย เราต้องหาเวลาเอารถเข้าไปขัดสีอีก 1 รอบ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
เราไม่อยากเสียเวลา เลยยอมลางานครึ่งวันเพื่อไปรับรถค่ะ ตอนแรกนัดไว้ 10 โมง โทรไปพนักงานขอเลื่อนเป็นไม่เกินเที่ยง
แต่สรุปเราไปรับรถได้ตอนบ่ายโมง
* วันที่ 7 พอเรานำรถออกมาจากศูนย์ ขับมาได้สักพัก ปรากฏว่า แอร์ไม่เย็นค่ะ
เราคิดว่ามันเป็นเพราะพึ่งเปิดแอร์รึเปล่า เลยขับต่อ รออีกหน่อยเดี๋ยวคงเย็น
แต่ไม่ใช่เลยค่ะ เราขับรถจากบางใหญ่ ไป จตุจักร แอร์ไม่มีความเย็นเลย ออกแต่ลมร้อนๆ ร้อนอบจนรักแร้เปียก
เราเลยโทรกลับไปหาที่ศูนย์แจ้งว่าแอร์ไม่เย็น ศูนย์ให้นำรถกลับเข้าไปเช็ค โอเค สรุป ลางานทั้งวัน
* ศูนย์แจ้งว่าน้ำยาแอร์มี 130 ปกติมันจะ 280 ทางศูนย์เลยเติมน้ำยาแอร์ให้ ให้เราลองใช้ไปก่อน
ถ้าแอร์ไม่เย็นอีก ให้เข้ามาเช็คใหม่ คาดว่าตู้แอร์อาจจะรั่ว.. หลังจากนำรถมาใช้ แอร์เย็น แต่ไม่ปกติ และมีกลิ่นเหม็น
หลังจากนั้นเราจึงไปซื้อนำหอมปรับอากาศมาใส่รถค่ะ *นี่เป็นครั้งแรกที่นำน้ำหอมปรับอากาศมาใส่บนรถนะคะ แต่ก่อนไม่เคยใส่เลย*
* วันที่ 13 แอร์ไม่เย็นอีกแล้วค่ะ เรานำรถเข้าศูนย์บ่ายนั้นเลย
ศูนย์แจ้งว่าตู้แอร์รั่ว ต้องเปลี่ยน 8,400 บาท ใส่เกียร์ R ถอยเลยค่ะ
ยอมรับว่าเห็นราคาแล้วตกใจมาก ตอนนั้นคำถามในหัวเราเยอะมากค่ะ
เราถามพนักงานว่าเป็นเพราะอะไรคะ พอดีว่ารถพึ่งเช็คระยะไปและก่อนหน้าที่จะนำรถเข้าซ่อม แอร์รถเราไม่ได้เป็นอะไร ปกติทุกอย่าง
พนักงานให้เหตุผลมาสองเหตุผลว่า อาจจะเป็นเพราะโดนชนมา หรือ เป็นที่นำหอมในรถ
เราสอบถามต่อว่าสามารถเคลมศูนย์ได้ไหม
พนักงานไปเช็คดูรถเรา 3 ปี 8 เดือน ศูนย์ประกัน 3 ปี แสดงว่าเราหลุดประกันมา 8 เดือนแล้วค่ะ
โอเคสติ !
หลังจากนั้นเรายังไม่ตัดสินใจ กำลังทบทวนกับแฟน เพราะรถที่โดนชนมามันโดนข้างๆ ไม่น่าจะเกี่ยว
พนักงานพูดขึ้นมาว่า เอายังไงคะ ลูกค้าจะเปลี่ยนไหม เพราะต้องไปดูรถคันอื่น ...
เอ่อะ หัก 1 ดาวสำหรับความไว้วางใจที่ให้ไป สำหรับศูนย์นี้ค่ะ คุณไม่น่าพูดประโยคนี้ออกมา
เราเอารถออกจากศูนย์แบบ งงๆ แอร์ไม่เย็น รักแร้เปียกต่อไป
วันต่อมา เราจึงโทรปรึกษากับประกันค่ะ
ประกันบอกว่ากรณีแรก รั่วจากที่โดนชนไม่ใช่ 100% เพราะโดนชนด้านข้างค่ะ ดูจากความเป็นไปได้แล้ว เราไม่ติดใจอะไรค่ะ
กรณีต่อมา ก่อนหน้าที่จะนำรถเข้าซ่อมรถเป็นปกติ แต่หลังจากจอดซ่อมออกมารถมีปัญหา ประกันย้ำว่าให้เรานำรถกลับเข้าศูนย์เดิมอีกครั้ง
ให้เค้ารื้อออกมาดูรอยที่รั่วว่ารั่วจากอะไร แล้วประกันจะประเมินอีกรอบหนึ่งค่ะ
หากเกิดจากสภาพการใช้งาน กรณีนี้ไม่ได้อยู่ในประกัน
แต่ถ้าเกิดจากตอนนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์ อันนี้สามารถเคลมต่อเนื่องได้
เราโทรกลับไปที่ศูนย์อีกรอบหนึ่ง เนื่องจากจะเอารถไปเข้าตามที่ประกันแนะนำ พนักงานรับแล้วพอเราพูดว่าเราเป็นใคร สายตัดเลยค่ะ
โอเค หายใจเข้า ยิ้ม โทรใหม่ ทีนี้เป็นพนักงานอีกคนค่ะ เราเล่าให้เค้าฟัง พนักงานโอนสายไปที่พนักงานคนเดิม
พนักงานขอโทษเรา บอกว่าเมื่อวานแจ้งราคาผิด ไปดูราคามาใหม่อยู่ที่ 3,300 บาท (จาก 8,400)
เราจึงแจ้งพนักงานไปตามที่คุยกับประกันค่ะ นัดหมายเอารถเข้าศูนย์ (อีกครั้ง) เรียบร้อย ลางานวนไปค่ะ
* ตอนนี้เรายังมีข้อสงสัยอยากได้คำแนะนำปรึกษาจากผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญค่ะ
- ตู้แอร์รั่วเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างคะ / ราคาซ่อมตู้แอร์อยู่ที่เท่าไหร่
- ก่อนหน้าที่รถจะจอดซ่อม รถเป็นปกติไม่เคยมีปัญหาเรื่องแอร์ รถพึ่งเช็คระยะออกมาไม่ถึงเดือน มีสิทธิ์ที่ตู้แอร์จะรั่วไหม
- จากกรณีของเรามีคำแนะนำอื่นๆบ้างไหมคะ
แชร์เรื่องราวรถจอดซ่อมศูนย์ 1 อาทิตย์ กลับออกมารถแอร์รั่ว / ขอคำแนะนำผู้รู้ค่ะ
รถเข้าศูนย์เช็คระยะที่ศูนย์ทุก 10,000 กิโลเมตร ไม่เคยขาด ตอนนี้ไมล์อยู่ที่ 90,000 กว่าๆ
* ธันวาคม ปี 2559 เรานำรถเข้าศูนย์เช็คระยะ 90,000 โล
หลังจากนำรถออกมาจากศูนย์ รถเป็นปกติทุกอย่างค่ะ
* กลางเดือนมกราคม รถเราโดนบิ๊กไบค์เบียดมาชนทางด้านคนขับ
ความเสียหายคือต้องเปลี่ยนประตูหน้า , ประตูหลัง บังโคนหน้า - หลัง บุบคูด
* เรานำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์ที่เรานำรถเข้าเช็คระยะประจำค่ะ เพราะต้องยอมรับเลยว่าเราไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถ
อาศัยประสบการณ์ และด้วยความที่เอารถเข้าเช็คระยะที่นี่ประจำเลยค้อนข้างไว้ใจค่ะ
ระยะเวลาการซ่อม 1 อาทิตย์กับอีก 1 วัน เนื่องจากตอนแรกประเมินไว้ 1 อาทิตย์
แต่พอ 1 อาทิตย์แล้ว ทางศูนย์เงียบ เราเลยโทรไป พนักงานขอเลื่อนออกไปอีก 1 วัน
ให้เหตุผลว่างานยังไม่เรียบร้อย ช่างยังไม่ได้ขัดสี ถ้าเกิดจะเอารถวันนี้เลย เราต้องหาเวลาเอารถเข้าไปขัดสีอีก 1 รอบ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
เราไม่อยากเสียเวลา เลยยอมลางานครึ่งวันเพื่อไปรับรถค่ะ ตอนแรกนัดไว้ 10 โมง โทรไปพนักงานขอเลื่อนเป็นไม่เกินเที่ยง
แต่สรุปเราไปรับรถได้ตอนบ่ายโมง
* วันที่ 7 พอเรานำรถออกมาจากศูนย์ ขับมาได้สักพัก ปรากฏว่า แอร์ไม่เย็นค่ะ
เราคิดว่ามันเป็นเพราะพึ่งเปิดแอร์รึเปล่า เลยขับต่อ รออีกหน่อยเดี๋ยวคงเย็น
แต่ไม่ใช่เลยค่ะ เราขับรถจากบางใหญ่ ไป จตุจักร แอร์ไม่มีความเย็นเลย ออกแต่ลมร้อนๆ ร้อนอบจนรักแร้เปียก
เราเลยโทรกลับไปหาที่ศูนย์แจ้งว่าแอร์ไม่เย็น ศูนย์ให้นำรถกลับเข้าไปเช็ค โอเค สรุป ลางานทั้งวัน
* ศูนย์แจ้งว่าน้ำยาแอร์มี 130 ปกติมันจะ 280 ทางศูนย์เลยเติมน้ำยาแอร์ให้ ให้เราลองใช้ไปก่อน
ถ้าแอร์ไม่เย็นอีก ให้เข้ามาเช็คใหม่ คาดว่าตู้แอร์อาจจะรั่ว.. หลังจากนำรถมาใช้ แอร์เย็น แต่ไม่ปกติ และมีกลิ่นเหม็น
หลังจากนั้นเราจึงไปซื้อนำหอมปรับอากาศมาใส่รถค่ะ *นี่เป็นครั้งแรกที่นำน้ำหอมปรับอากาศมาใส่บนรถนะคะ แต่ก่อนไม่เคยใส่เลย*
* วันที่ 13 แอร์ไม่เย็นอีกแล้วค่ะ เรานำรถเข้าศูนย์บ่ายนั้นเลย
ศูนย์แจ้งว่าตู้แอร์รั่ว ต้องเปลี่ยน 8,400 บาท ใส่เกียร์ R ถอยเลยค่ะ
ยอมรับว่าเห็นราคาแล้วตกใจมาก ตอนนั้นคำถามในหัวเราเยอะมากค่ะ
เราถามพนักงานว่าเป็นเพราะอะไรคะ พอดีว่ารถพึ่งเช็คระยะไปและก่อนหน้าที่จะนำรถเข้าซ่อม แอร์รถเราไม่ได้เป็นอะไร ปกติทุกอย่าง
พนักงานให้เหตุผลมาสองเหตุผลว่า อาจจะเป็นเพราะโดนชนมา หรือ เป็นที่นำหอมในรถ
เราสอบถามต่อว่าสามารถเคลมศูนย์ได้ไหม
พนักงานไปเช็คดูรถเรา 3 ปี 8 เดือน ศูนย์ประกัน 3 ปี แสดงว่าเราหลุดประกันมา 8 เดือนแล้วค่ะ
โอเคสติ !
หลังจากนั้นเรายังไม่ตัดสินใจ กำลังทบทวนกับแฟน เพราะรถที่โดนชนมามันโดนข้างๆ ไม่น่าจะเกี่ยว
พนักงานพูดขึ้นมาว่า เอายังไงคะ ลูกค้าจะเปลี่ยนไหม เพราะต้องไปดูรถคันอื่น ...
เอ่อะ หัก 1 ดาวสำหรับความไว้วางใจที่ให้ไป สำหรับศูนย์นี้ค่ะ คุณไม่น่าพูดประโยคนี้ออกมา
เราเอารถออกจากศูนย์แบบ งงๆ แอร์ไม่เย็น รักแร้เปียกต่อไป
วันต่อมา เราจึงโทรปรึกษากับประกันค่ะ
ประกันบอกว่ากรณีแรก รั่วจากที่โดนชนไม่ใช่ 100% เพราะโดนชนด้านข้างค่ะ ดูจากความเป็นไปได้แล้ว เราไม่ติดใจอะไรค่ะ
กรณีต่อมา ก่อนหน้าที่จะนำรถเข้าซ่อมรถเป็นปกติ แต่หลังจากจอดซ่อมออกมารถมีปัญหา ประกันย้ำว่าให้เรานำรถกลับเข้าศูนย์เดิมอีกครั้ง
ให้เค้ารื้อออกมาดูรอยที่รั่วว่ารั่วจากอะไร แล้วประกันจะประเมินอีกรอบหนึ่งค่ะ
หากเกิดจากสภาพการใช้งาน กรณีนี้ไม่ได้อยู่ในประกัน
แต่ถ้าเกิดจากตอนนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์ อันนี้สามารถเคลมต่อเนื่องได้
เราโทรกลับไปที่ศูนย์อีกรอบหนึ่ง เนื่องจากจะเอารถไปเข้าตามที่ประกันแนะนำ พนักงานรับแล้วพอเราพูดว่าเราเป็นใคร สายตัดเลยค่ะ
โอเค หายใจเข้า ยิ้ม โทรใหม่ ทีนี้เป็นพนักงานอีกคนค่ะ เราเล่าให้เค้าฟัง พนักงานโอนสายไปที่พนักงานคนเดิม
พนักงานขอโทษเรา บอกว่าเมื่อวานแจ้งราคาผิด ไปดูราคามาใหม่อยู่ที่ 3,300 บาท (จาก 8,400)
เราจึงแจ้งพนักงานไปตามที่คุยกับประกันค่ะ นัดหมายเอารถเข้าศูนย์ (อีกครั้ง) เรียบร้อย ลางานวนไปค่ะ
* ตอนนี้เรายังมีข้อสงสัยอยากได้คำแนะนำปรึกษาจากผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญค่ะ
- ตู้แอร์รั่วเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างคะ / ราคาซ่อมตู้แอร์อยู่ที่เท่าไหร่
- ก่อนหน้าที่รถจะจอดซ่อม รถเป็นปกติไม่เคยมีปัญหาเรื่องแอร์ รถพึ่งเช็คระยะออกมาไม่ถึงเดือน มีสิทธิ์ที่ตู้แอร์จะรั่วไหม
- จากกรณีของเรามีคำแนะนำอื่นๆบ้างไหมคะ