สวัสดีค่ะ มาพบกันอีกแล้วนะคะ เมนูวันนี้เกิดจากความอยากลองทำอีกแล้วค่ะ
มี reference มาจากเทปรายการครัวคุณต๋อยตอนที่ร้าน ครัวบ้าน อ.มาโนชญ์ มาสอนทำไข่พะโล้โบราณ บวกกับเรามีไข่เป็ดต้มที่แก้บนไว้ 10 ฟองพอดีจะทำน้ำปลาพริกราดเหมือนทุกทีก็จะจำเจเกินไป เลยนำมาทำไข่พะโล้ดีกว่า

มาเริ่มกันเลยนะคะ สูตรจากคลิปนี้นะคะ อาจจะมีผิดเพี้ยนไปบ้าง ปรับตามอุปกรณ์ที่มีนะคะ ปกติใช้แต่กระทะไฟฟ้าทำกับข้าว แต่วันนี้ใช้เตาถ่านทำแทนนะคะ เพราะใช้เวลานาน พอสมควร คุณแม่กลัวเปลืองไฟ ^^
วัตถุดิบและเครื่องปรุง
หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม
เต้าหู้ถั่วเหลืองสำหรับทอด 3 แผ่น
ไข่เป็ด 10 ฟอง (ใครสะดวกใช้ไข่ไก่ก็ตามสบายเลยนะคะ แต่ส่วนตัวชอบไข่เป็ดเพราะเนื้อไข่แดงมันเยอะดี ^^ )
กระเทียม
พริกไทย
รากผักชี
น้ำปลา
น้ำตาลมะพร้าว
น้ำตาลทราย
เกลือ
ซีอิ๊วดำเค็ม
น้ำมันพืช
วิธีทำ
1. ที่จริงต้องต้มไข่ก่อน แต่เราต้มไว้แล้วเลยตัดวิธีการต้มไข่ออกไป เลยมาเริ่มที่การทอดเต้าหู้ถั่วเหลืองก่อนนะคะ

ทอดประมาณ 5 นาที จนเหลืองประมาณนี้ตักขึ้น พักไว้ ตัวเต้าหู้ของเราก็จะมีสีเหลืองเพิ่มขึ้นอีกนิดค่ะ

2. ไข่ที่เราต้มไว้แล้ว ที่บ้านจะบั่งไข่ขาวก่อนเพราะว่าเวลารับประทานเจ้าไข่จะได้ไม่ดิ้นไปดิ้นมา และน้ำพะโล้จะได้เข้าไปอยู่ในตัวไข่ด้วยค่ะ

3. นำรากผักชี กระเทียม พริกไทย ที่โขลกไว้แล้ว นำมาผัดในน้ำมันให้หอม พอหอมก็ตักออกนะคะ

4. หลังจากนำสามเกลอออกพักไว้แล้ว ก็ใส่น้ำมันเพิ่มนิดหน่อย แล้วตามด้วย น้ำตาลมะพร้าวค่ะ

เคี่ยวไปสักพักจนน้ำตาลมะพร้าวเปลี่ยนสี

5. พอน้ำตาลมะพร้าวเปลี่ยนสีแล้ว ที่จริงต้องใส่ซีอิ๊วดำ และ น้ำปลาก่อน แต่ด้วยความเคยชิน เลยใส่หมูกับไข่ก่อน แล้วค่อยใส่ซีอิ๊วดำกับน้ำปลา ^^

6. ผัดพอให้หมูกับไข่ตึงๆ ก็ใส่น้ำเปล่าลงไป

7. แล้วก็ใส่เต้าหู้ที่ทอดแล้วลงไป

เคี่ยวไปสักพัก ก็คอยช้อนฟองออก แล้วนำสามเกลอที่เราผัดตอนแรกใส่ตามลงไป และปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือ นิดหน่อยนะคะ (ที่เรานำมาใส่ทีหลังเพราะว่าถ้าเราใส่ไปตอนแรกแล้วเวลาเราช้อน ฟองออกละตักสามเกลอของเราออกมาด้วย) ขออภัยไม่มีภาพประกอบในวิธีนี้นะคะ
8. ทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที ก็จะได้กลิ่นหอมๆของไข่พะโล้

9. เรียบร้อยแล้วค่ะ ไข่พะโล้สูตรโบราณของเรา หวานๆเค็มๆ หอมสามเกลอ มากๆ

ปล. อาจจะไม่ตามสูตรแบบเป๊ะๆนะคะ ยังไงก็ขออภัยหากทำข้ามขั้นตอนไปบ้าง แต่รับรองสูตรนี้ง่ายแถมยังอร่อยอีกด้วยค่ะ และเหมาะกับผู้ที่ชอบพะโล้แบบไม่ใส่ผงพะโล้ โป๊ยกัก และอบเชยนะคะ จขกท. น้อมรับทุกคำติชมนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^
อยากกินไข่พะโล้ โป๊ะ !!
มี reference มาจากเทปรายการครัวคุณต๋อยตอนที่ร้าน ครัวบ้าน อ.มาโนชญ์ มาสอนทำไข่พะโล้โบราณ บวกกับเรามีไข่เป็ดต้มที่แก้บนไว้ 10 ฟองพอดีจะทำน้ำปลาพริกราดเหมือนทุกทีก็จะจำเจเกินไป เลยนำมาทำไข่พะโล้ดีกว่า
มาเริ่มกันเลยนะคะ สูตรจากคลิปนี้นะคะ อาจจะมีผิดเพี้ยนไปบ้าง ปรับตามอุปกรณ์ที่มีนะคะ ปกติใช้แต่กระทะไฟฟ้าทำกับข้าว แต่วันนี้ใช้เตาถ่านทำแทนนะคะ เพราะใช้เวลานาน พอสมควร คุณแม่กลัวเปลืองไฟ ^^
วัตถุดิบและเครื่องปรุง
หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม
เต้าหู้ถั่วเหลืองสำหรับทอด 3 แผ่น
ไข่เป็ด 10 ฟอง (ใครสะดวกใช้ไข่ไก่ก็ตามสบายเลยนะคะ แต่ส่วนตัวชอบไข่เป็ดเพราะเนื้อไข่แดงมันเยอะดี ^^ )
กระเทียม
พริกไทย
รากผักชี
น้ำปลา
น้ำตาลมะพร้าว
น้ำตาลทราย
เกลือ
ซีอิ๊วดำเค็ม
น้ำมันพืช
วิธีทำ
1. ที่จริงต้องต้มไข่ก่อน แต่เราต้มไว้แล้วเลยตัดวิธีการต้มไข่ออกไป เลยมาเริ่มที่การทอดเต้าหู้ถั่วเหลืองก่อนนะคะ
ทอดประมาณ 5 นาที จนเหลืองประมาณนี้ตักขึ้น พักไว้ ตัวเต้าหู้ของเราก็จะมีสีเหลืองเพิ่มขึ้นอีกนิดค่ะ
2. ไข่ที่เราต้มไว้แล้ว ที่บ้านจะบั่งไข่ขาวก่อนเพราะว่าเวลารับประทานเจ้าไข่จะได้ไม่ดิ้นไปดิ้นมา และน้ำพะโล้จะได้เข้าไปอยู่ในตัวไข่ด้วยค่ะ
3. นำรากผักชี กระเทียม พริกไทย ที่โขลกไว้แล้ว นำมาผัดในน้ำมันให้หอม พอหอมก็ตักออกนะคะ
4. หลังจากนำสามเกลอออกพักไว้แล้ว ก็ใส่น้ำมันเพิ่มนิดหน่อย แล้วตามด้วย น้ำตาลมะพร้าวค่ะ
เคี่ยวไปสักพักจนน้ำตาลมะพร้าวเปลี่ยนสี
5. พอน้ำตาลมะพร้าวเปลี่ยนสีแล้ว ที่จริงต้องใส่ซีอิ๊วดำ และ น้ำปลาก่อน แต่ด้วยความเคยชิน เลยใส่หมูกับไข่ก่อน แล้วค่อยใส่ซีอิ๊วดำกับน้ำปลา ^^
6. ผัดพอให้หมูกับไข่ตึงๆ ก็ใส่น้ำเปล่าลงไป
7. แล้วก็ใส่เต้าหู้ที่ทอดแล้วลงไป
เคี่ยวไปสักพัก ก็คอยช้อนฟองออก แล้วนำสามเกลอที่เราผัดตอนแรกใส่ตามลงไป และปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือ นิดหน่อยนะคะ (ที่เรานำมาใส่ทีหลังเพราะว่าถ้าเราใส่ไปตอนแรกแล้วเวลาเราช้อน ฟองออกละตักสามเกลอของเราออกมาด้วย) ขออภัยไม่มีภาพประกอบในวิธีนี้นะคะ
8. ทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที ก็จะได้กลิ่นหอมๆของไข่พะโล้
9. เรียบร้อยแล้วค่ะ ไข่พะโล้สูตรโบราณของเรา หวานๆเค็มๆ หอมสามเกลอ มากๆ
ปล. อาจจะไม่ตามสูตรแบบเป๊ะๆนะคะ ยังไงก็ขออภัยหากทำข้ามขั้นตอนไปบ้าง แต่รับรองสูตรนี้ง่ายแถมยังอร่อยอีกด้วยค่ะ และเหมาะกับผู้ที่ชอบพะโล้แบบไม่ใส่ผงพะโล้ โป๊ยกัก และอบเชยนะคะ จขกท. น้อมรับทุกคำติชมนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^