▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ปีนัง
ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
One Day Trip
[CR] วั น นึ ง ที่ ปี นั ง เมืองแห่ง Art Wall
ต้องเกริ่นก่อนว่า ทริปนี้เป็นทริปต่อเนื่องของผม ซึ่งไม่ได้อยู่ในแผน ในตอนแรก แผนของผมจริงๆคือเที่ยว สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ด้วยความบังเอิญ ได้มาเจอสองสาว ที่มาเที่ยวเบตง แล้วจะไปต่อปีนังพอดี เธอจึงชวนผม ผมเลยตกกะไดพลอยโจน มาด้วยเลย ( สามารถติดตามกระทู้ เที่ยว 3 จังหวัด ของผมได้ที่ https://pantip.com/topic/36040945 งานขายของก็มา ฮ่าๆ ) ถ้าพร้อมแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราออกเดินทาง ไปเสพงานศิลปะกันเลยดีกว่า ปล. จะทู้นี้จะเน้นภาพถ่ายเยอะหน่อยนะครับ ซึ่งผมก็ถ่ายแบบ คนไม่มีความรู้เรื่องภาพเลย ฮ่าๆ ทริปนี้ทุกภาพมาจาก โทรศัพท์ถือหมือ แฮร่!!! มือถือ ผ่าม ผ้ามมมมมม
เริ่มต้นเราออกเดินทางกันจากเบตง ซึ่งการเดินทางทั้งหมด ส้มกับมิ้น สองสาวที่ผมเจอที่เบตง เธอมีข้อมูลพร้อมอยู่แล้ว ผมก็มีหน้าที่ ตามเธอไปอย่างเดียวเลย เธอไปไหน ผมไปด้วย ช่วย 20 บาท เริ่มแรกเราต้องนั่งแท๊กซี่ จากเบตงไปยังด่าน มาเลเซีย ซึ่งค่ารถโดยสาร อยู่ที่ 300 บาทไทยครับ
เมื่อรถแท๊กซี่มาส่งเราที่ด่าน ทำเรื่องผ่านแดน จากนั้นเขาก็จะมาส่งเราขึ้นแท๊กซี่อีกคันหนึ่ง ของทางมาเลเซีย เพื่อเดินทางต่อไปยัง ท่ารถ Baling รถแท๊กซี่ก็จะคลาสสิค หน่อยๆ ระบบปรับอากาศเป็นระบบธรรมชาติ อุณหภูมิขึ้นกับอุณหภูมิภายนอก นั่งไปชิคๆ
ลักษณะภูมิประเทศ เราจะคุ้นๆตาครับ ไม่ถือว่าแปลกตาอะไรมาก ลักษณะจะคล้ายๆภาคใต้บ้านเรา นั่งไปไม่นานเราก็มาถึงแล้ว Baling เมื่อเรามาถึงพี่แท๊กซี่ ก็ชี้ให้ดูรถที่จะพาเราไปปีนัง อ้ออ เมื่อมาถึงที่นี่ อย่าลืมปรับนาฬิกาให้เร็วขึ้น 1 ชม. นะครับ เดี๋ยวจะทำให้ตกรถกันได้ เนื่องจากประเทศมาเลเซีย จะอยู่บนเส้นแบ่งเวลา ที่เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชม. เมื่อมาถึงก็นั่งรอเวลา และเดินสำรวจรอบๆกันเสียหน่อยยย
จุดจำหน่ายตั๋วครับ แต่ของเรา รอจ่ายหน้างาน ตอนขึ้นได้เลยยย
สถานที่นั่งรอรถ ดูไปๆ คล้ายๆกับ บขส. บ้านเราเหมือนกันนะ
นั่งรอไม่นาน ประมาณ 1 ชม.ถ้วน อื้ออหืออ แล้วรถบัสในตำนานของเราก็มาถึง ลุ๊ยยยย!!!
เมื่อขึ้นมาถึงเราก็ต้องจ่ายค่าผ่านทางกันก่อนครับ ซึ่งคนเก็บก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่คนขับของเรานั่นเอง สำหรับค่าเสียหายอยู่ที่ 8 เหรียญต่อคนนะฮะ แล้วเราก็จะได้ใบเสร็จ ที่จืดจางยิ่งกว่าความรักของเรา เดี๋ยวๆ ดราม่าเพื่อ !!! ฮ่าๆๆๆ
แต่ถึงจะจืดจางอย่างไร เราก็ต้องเก็บไว้ตรวจด้วยนะ ห้ามทิ้งนาจาาา
เมื่อพร้อมแล้วก็ได้เวลา ออกเดินทาง ก็เดินทางแบบชิลๆเหมือนเดิม หลับไป 18 ตื่น ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. เราก็มาถึงท่าเรือ เฟอร์รี่ ครับ เพื่อต่อเรือ ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายของการเดินทางไปเยือนปีนัง
เมื่อมาถึงเราต้องแลกเหรียญก่อนนะครับ อารมณ์เหมือนเวลเราขึ้น BTS บ้านเราหนะครับ อัตตราค่าโดยสารอยู่ที่ 1.2 เหรียญครับผม หยอดเหรียญ แล้วผ่านประตูไปได้เลยยย
บรรยากาศก็จะมีทั้งคน ทั้งรถ แยกโซนกันได้โอเคเลยทีเดียว
ปีนังเป็นเมืองชิคๆ ชิลๆ เลยมีนัก backpack ไม่ว่าจะมาคนเดียว
หรือจะมาเป็นดูโอ้ก็มี ชิลแค่ไหน สังเกตุเท้าพี่คนซ้ายดู 5555555555555555555
แล้วในที่สุด เราก็มาถึง สวัสดีปีนัง อย่างเป็นทางการรร
จากนั้นเราก็เริ่มเดินตามหา hostel ที่ส้มและมิ้นได้จองไว้ ซึ่งมีชื่อว่า the frame แต่ก่อนจะถึงนั้น เราก็ได้เดินชมเมืองของที่นี่กันก่อน
ชึ่งย่านแรกที่เราผ่านนั่นก็คือ Little India ซึ่งย่านนี้ เรียกว่าได้ว่าเหมือนยกประเทศอินเดียมาวางไว้ที่นี่เลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ (พูดให้โอเว่อร์ไว้ก่อน) ย่านนี้ก็จะมีทุกอย่างที่เป็นอินเดีย ร้านขายอาหาร เครื่องบูชา หนัง ซีดี บลาๆ ๆ ๆ
และแล้วเราก็มาถึงที่พักของเรา The Frame เข้าไปเชคอิน เก็บกระเป๋ากันก่อนดีว่า
ส้มกับมิ้นได้ทำการจองห้องมาล่วงหน้าแล้ว เป็นห้องเดี่ยวเตียงคู่ ส่วนผมก็จัดหน้างานเลยครับ เป็นห้อง mix สี่เตียง ราคาคืนละ 38 เหรียญ ซึ่งเพื่อนร่วมห้อง เป็นผญ.ล้วน พระเจ้าช่วย !!!
ต่อไปเป็นบรรยากาศ ต่างๆในโฮสเทลนะครับ
เมื่อสำรวจและเก็บสัมภาระ ไว้ในที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาออกสำรวจ ย่านจอร์จทาวน์ เราเดินกันแบบไม่ใช้แผนที่ ให้ดวงพาไป ต่อไปนี้จะเป็นช่วงของการเสพงานศิลปะจากกำแพงกันนะครับ เชิญรับชมได้ ณ. บัด นี้ อี้ อี้ อี้ๆๆๆ
เดี๋ยวมาต่อนะครับ