เราตั้งครรภ์ได้ 1 เดือน แต่ผู้ชายไม่เต็มใจที่จะรับผิดชอบ

ตอนนี้ จขกท อายุ 24 ปี ย่างเข้า 25 ปี เราทำงานฟรีแลนท์ และก็กำลังจะไปทำงานประจำ หาสมัครและไปสัมภาษณ์มาหลายทีละคะ ส่วน ผช อายุ 25 ย่างเข้า 26 ปี ทำงานรัฐวิสาหกิจ งานเค้ามั่นใจ
ซึ่งเรา 2 คนไม่ได้คบกันนานหรอกคะ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ศึกษากันดีกว่าคะ
แล้ววันนึ่งความสัมพันธ์ของเราก็ลึกชึ่งมากขึ้น คือก็ป้องกันนะคะ แต่บังเอิญว่า ผช เป็นโรคแพ้ถุง ใส่แล้วก็ไม่มีอารมณ์ก็เลยต้องเอาถุงออก แล้วด้วยอารมณ์ ณ จุดนั้น มันก็หยุดไม่อยู่อ่ะคะ เราก็ขึ้นมันดันเสร็จพร้อมกัน เอาออกไม่ทันคะ หลังจากเสร็จภาระกิจ ผช ก็รีบ ออกไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากิน 1 เม็ดกินตอน 10 โมงเช้า เม็ดที่ 2 กินตอน 3 ทุ่มนิดๆ (กินก่อน 12 ชั่วโมง)  จากนั้นยังไม่จบเค้าก็มาเครียดว่าเรามีโรคไม่มั้ยนุ้นนี่นั้น กลัวจะติดโรคกับเรา อ่ะเราก็บริสุทธ์ใจ เราก็ไปตรวจ HIV ปรากฏผลออกมาเป็น ลบ ผช ก็บอกว่าโล่งไปล่ะ 1 เรื่อง เหลืออีก 1 เรื่องรอจนถึงสินเดือนไรงี้ เพราะเค้าเครียดกลัวจะท้องไรงี้ เราเองก็คิดว่าไม่ท้องหรอกเพราะเรากินยาคุมฉุกเฉินไปแล้วเราก็ใช้ชีวิตปกติดีนะ โทรหากัน ไปเจอกัน ดูหนัง ไปกินข้าว ไปรับที่เราทำงานบ้าง ไรงี้คะ
พอเวลาผ่านไปสัก 1 อาทิตย์ ก็มีการเปลี่ยนแปลงคะ เค้าเริ่มห่างๆ ปกติจะโทรหาแต่เป็นเราที่โทรหาเค้า ถามคำตอบคำ ไม่ค่อยอยากจะคุยด้วย เราก็ถามว่ามีอะไรรึป่าว เป็นไรไหม ทำไมเริ่มเปลี่ยนไปแบบนี้ละ ไม่ปกติเลยนะ เกิดไรขึ้นบอกเราหน่อยได้ไหม เราทำไรผิดบอกเราซิ เตือนเราซิ ชอบอะไรไม่ชอบอะไรบอกซิ  ผช ก็หงุดหงิดมากเค้าบอกว่า คือ "พี่อยากจะบอกมานานละคำนี้ วันนี้พูดเลยละกัน เราเลิกคุยกันเหอะ พี่ไม่โอเคร ไม่โอเครตั้งแต่วันที่เรามีอะไรกันแล้ว พี่รู้สึกว่ามันไม่ใช่อ่ะ  หนูไปเหอะ พี่ไม่อยากคุยด้วยละ"    
เราอึ้งมากกกกก คือเราผิดอะไร?? เราก็เสียใจที่เค้าพูดแบบนี้ออกมา ทั้งๆที่ก่อนนั้นอะไรก็ปกติ
เราก็เข้าใจว่าเค้าไม่โอเครกับเราแล้ว เราก็เงียบได้ 3 วันเราก็ โทรไปหาเค้า 2 สาย เค้าไม่รับสายแล้วไม่ได้โทรกลับมาหาเราอีก เราเองก็ทบทวนดูว่าเค้าพูดกับเราขนาดนั้นเรายังจะ ง้อ เค้าเพื่ออะไร เราก็ตัดสินใจ ลบเบอร์ ลบไลน์ เค้าทิ้งไป  ผช ก็ไม่ได้ติดต่อมาเลย ต่างก็เงียบกันไป 1 อาทิตย์

เราก็เริ่มสังเกตตัวเองว่าประจำเดือนไม่มา ปกติจะมาวันที่ 26 เลยมา 4 วันละ วันที่ 30 เราก็ไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจดู ปรากฏว่ามันขึ้น 2 ขีด
เราก็รีบโทรไปบอก ผช เลย เอ่อลืมไปว่า ลบเบอร์ลบไลน์ไปแล้ว นึกขึ้นได้ว่ามีเฟสบุ๊กเราก็โทรไปทางเฟส บอกเค้าว่าเราท้อง เค้าก็รีบออกจากบ้านมาหาที่อาพาตแมน พร้อมกับซื้อที่ตรวจมาอีก 1 อัน บังคับให้เราตรวจตอนนั้นเลย เราก็ตรวจตอนนั้นเลย ปรากฏว่าขึ้น 2 ขีด ทีนี้ก็คุยกันแบบเครียดๆ
ไม่รู้จะเอายังไงต่อไปดี เค้าก็บอกพี่ไม่มั่นใจ พาไปตรวจเลือดในวันนั้นเลย ผลเลือดก็ออกมาว่า ตั้งครรภ์
จากนั้นเรา 2 คนก็ต้องให้เวลาซึ่งกันและกัน พยายามโทรหากันคุยกันมากขึ้น ปรึกษาทุกเรื่อง ทั้งสุขภาพกายและจิตใจ เรื่องอาหารการกินที่ดูแลทั้งลูกและก็ตัวเอา ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างเราอ่ะรักเค้า แต่สำหรับเค้าอะไม่ได้อะไรกับเราเลย เรารู้สึกได้ เราสัมผัสได้ ตอนนั้นก็รู้สึกว่าคงเป็นพี่น้องกันแหละ
เวลาผ่านไปสัก 1 อาทิตย์ เราก็รู้สึกปวดท้องน้อย ปวดจ็ดๆๆ ปวดๆหายๆ รู้สึกแปลกๆ เราก็อยากไปฝากครรภ์ แต่ ผช ขอเวลา 1 เดือนจะบอกพ่อแม่ เพราะยังทำใจไม่ได้ ไม่เต็มใจที่จะยอมรับสิ่งที่พลาด และไม่มั่นใจด้วยว่าเป็นลูกเค้าจริงรึป่าว อยากให้ตัวเองและครอบครัวสบายใจก็จะผลตรวจ DNA  เราเองก็บอกว่าเรามั่นใจว่าลูกในท้องคือลูกของเค้า เพราะเราไม่ได้คบกับใครเลยนอกจากเค้า เราก็มีแค่เค้าคนเดียว ถึงวันที่เค้าเลิกเราไป เราก็อยู่คนเดียว อยู่กับเพื่อน เรารู้ตัวเองดีว่าใครคือพ่อของลูกเรา แต่เราให้ความมั่นใจกับเค้าได้แค่นี้ แต่เค้าไม่เชื่อ เค้าจะตรวจ DNA เราก็ยอมนะ แต่ว่าระหว่าง 9 เดือนที่เราอุ้มท้องอ่ะ เค้าจะดูแลเรามั้ยหรือเค้าจะปล่อยเรา ถ้าปล่อยเราอยู่ลำพัง เราจะไปคุยกันที่ศาลหลังจากลูกคลอด เราจะเรียกร้องค่าดูแลของลูกทั้งหมด ผช ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาลูกไปจากเราด้วย เราจะเลี้ยงเองแต่ให้เค้าซัพพอสค่าใช้จ่ายให้ เพราะนั่นคือหน้าที่ที่เค้าต้องรับผิดชอบ
ซึ่งในทางกลับกัน เราก็ยอมรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีไปบอกพ่อกับแม่เราแล้ว ว่าเรา ท้อง แต่ว่า ผช เค้าไม่ได้รักเราเลย เราไปบอกแม่แบบนี้เลย แม่เราก็เสียใจและผิดหวังในตัวเรา ทำให้แม่ขายหน้าอีก แม่ไม่มีกำลังใจจะทำงานต่อไปเลย แม่บอกว่าถ้าท้องแล้วไม่ต้องกลับมาอยู่ที่บ้านนะ แม่อายชาวบ้านรับไม่ไหวกับคำนินทาของชาวบ้าน ซึ่งเราก็ไม่มีที่พึ่งอ่ะเนอะ ผช ก็ไม่เอา แม่ตัวเองก็ไม่เอา แล้วจากนี้ซิ เราเครียดมากเลย ไม่รู้จะเอายังไงต่อดี
เครียดมากก็มีผล ต่อลูกในท้อง เห้อ ถอนหายใจวันละ 100 รอบ เริ่มท้อ เริ่มเหนื่อย ไม่มีกำลังใจจะทำอะไรต่อเลยคะ  ตอนนี้มันมืดไปหมด หัวชนฝ่าไปไม่รอด

ตอนนี้ก็ได้แต่รอฝั่งสรุปจาก ผช ว่าการตัดสินใจของพ่อแม่เค้าจะให้ทำยังไง ถ้าพ่อแม่ฝั่งชายไม่เอา และ พ่อแม่เราก็ไม่เอาอีก
เราจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับการเลี้ยงลูกโดยลำพัง  ทั้งๆที่เงินเก็บเราก็ไม่มีเลย งานที่ทำก็ไม่ได้มั่นคงด้วย เครียดมากเลย
มันจะส่งผลต่อลูกมากแค่ไหนคะ คุณแม่ที่มีประสบการณ์เช่นเดียวกับเรา หรือเป็น super mom ขอคำแนะนำเพื่อนำไปปรับใช้กับตัวเราและก็ลูกในท้องด้วยคะ หรือมีข้อมูลดีๆก็ส่งมาได้นะคะ

ขอขอบคุณพื้นที่และขอขอบคุณแนะนำต่างๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
อ่านสี่บรรทัดสุดท้ายแล้ว...
เห็นด้วยกับ "ความคิดเห็นที่ 5" ครับ

โลกแห่งความจริง  
"เราเอง"  ที่ต้องอยู่กับมัน เผชิญกับมัน
ไม่ใช่คนอื่น..

ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเอง
คนอื่น ต่างมีมุมมองของตน
แต่ ที่ตอบๆกันเกือบทั้งหมด   ..ไม่เคยอยู่ในสถานการณ์แบบคุณหรอก..

มองยาว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

บาป  กับ  จุดเริ่มต้นของการสร้างตราบาป
ผมว่าต้องเลือก...

ขออภัย...ที่มีความเห็นอย่างนี้ในวันพระใหญ่
ความคิดเห็นที่ 9
ผู้ชายแพ้ถุงยางใส่แล้วไม่มีอารมณ์ ก็ช่างมันสิ ไม่ต้องให้เอา แต่ดันยอมให้เอาสด สมควรรับกรรม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่