เรื่องเกิดเมื่อคืนวันที่ 8 กุมภา สุนัขพันธุ์ชิสุของเราก็อายุมากแล้วล่ะค่ะ ประมาณ 10 กว่าขวบ เดิมเขาเคยผ่าตัดไส้เลื่อน แล้วก็มีนิ่วในท่อไตอยู่เดิม ก็รักษาดูแลมาตลอด
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เขาไม่สบาย ร้องครวญคราง ปกติเราไม่อยู่บ้านนะคะ คุณยายเป็นคนดูแล ก็พาเขาไปที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยใกล้บ้าน บอกตามตรงว่าเราไว้ใจที่นี่มาก แม้ว่าแม่เคยโทร.ไปโวยกับที่นั่นมาแล้วครั้งหนึ่งเรื่องผ่าตัดไส้เลื่อนให้น้องหมา และเคยมีปัญหาเรื่องสุนัขที่บ้านหลายครั้งจนบ้านเราไม่ยอมส่งสัตว์ไปที่นี่อีก แต่ครั้งนี้คุณยายก็ไม่ทันได้นึกถึงเรื่องเก่า บวกกับกลัวว่าเขาจะอาการไม่ดี ก็คิดว่าที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยน่าจะพร้อมกว่า เลยพาเขาไป
ไปถึงที่โรงพยาบาลราว 6 โมงเย็น คนรอไม่กี่คน แต่ไม่มีเงาหมอ รอจนสามทุ่ม คุณยายทนไม่ไหวไปถาม ถึงได้เจอหมอ
ไม่มีคำอธิบาย มีแต่บอกว่า 'ที่นี่รักษาไม่ได้ ให้ไปที่...' คุณหมอเอ่ยชื่อโรงพยาบาลสัตว์เอกชนที่อยู่ไม่ไกลกัน
ค่ารักษาที่นี่ 2000 บาท บอกว่าเป็นค่าเครื่องมือ
คุณยายเราพาเป่าเปาไปที่โรงพยาบาลที่หมอบอก พบว่าหมอที่นั่นมาจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่เพิ่งจากมาแทบทั้งหมด
ที่นั่นไม่ได้อธิบายอะไร แต่รับเป่าเปาไว้นอนโรงพยาบาล ให้จ่ายค่ามัดจำ 7500 บาท คุณยายบอกไม่ได้เตรียมเงินไป เลยจ่ายไป 2500
กลับมาบ้าน เช้าวันต่อมา ทางรพ.โทร.มาแจ้งว่าเป่าเปาไปแล้ว ไตวายเฉียบพลัน
เรารู้ว่าเขาอายุมากแล้ว ผ่านอะไรมาเยอะมาก มันคงเป็นเวลาของเขา ตอนแรกเราไม่ได้เสียใจ แค่คิดว่าเขาคงไปสบายแล้ว ให้เขาหลับให้สบาย
แต่เมื่อรู้เรื่องที่คุณยายพาเขาไปแล้วพบกับการดูแลของสัตวแพทย์เช่นนี้ เรารู้สึกแย่มากจริง ๆ ในฐานะคนที่มีอาชีพใกล้เคียงกัน จบจากมหาวิทยาลัยที่รักมาก เราทั้งโกรธ ทั้งผิดหวังจริง ๆ
อะไรคือการส่งเคสไปที่โรงพยาบาลเอกชนเหรอคะ หรือโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยไร้ศักยภาพขนาดนั้น
อะไรคือเหตุผลที่สุนัขของเราต้องรอถึง 3 ชั่วโมงโดยไม่มีเคสที่อยู่ในการรักษา
ในฐานะคนที่ทำงานด้านสุขภาพ อาชีพของเราเราเคยถูกตั้งคำถามเรื่องการทำงานหลายครั้งด้วยความไม่เข้าใจ เราจึงพยายามทำความเข้าใจในวันที่เราต้องเป็นฝ่ายตั้งคำถาม แต่เราก็หาคำตอบไม่เจอจริง ๆ ยิ่งได้ฟังคนใกล้บ้านหลายคนที่ต่างมีปัญหากับที่แห่งนี้ เรายิ่งเสียใจ
ทั้งหมดที่พิมพ์มา เราต้องการแค่คำอธิบายและการปรับปรุง อย่าให้สัตว์เลี้ยงที่รักของใครต้องเป็นอย่างเป่าเปาเลย
หรือถ้าอาจารย์สัตวแพทย์ที่นั่นไม่คิดรักษาสัตว์ในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ก็แปะป้ายปิดโรงพยาบาลไปเถอะค่ะ อย่าเป็นภาระให้สัตว์อื่น หรือคนเลี้ยงสัตว์ที่ฝากชีวิตสัตว์เลี้ยงไว้ในมือพวกคุณเลย
เหตุใดรพ.สัตว์ในมหาวิทยาลัยถึงส่งเคสไปรักษาต่อที่เอกชนคะ???
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เขาไม่สบาย ร้องครวญคราง ปกติเราไม่อยู่บ้านนะคะ คุณยายเป็นคนดูแล ก็พาเขาไปที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยใกล้บ้าน บอกตามตรงว่าเราไว้ใจที่นี่มาก แม้ว่าแม่เคยโทร.ไปโวยกับที่นั่นมาแล้วครั้งหนึ่งเรื่องผ่าตัดไส้เลื่อนให้น้องหมา และเคยมีปัญหาเรื่องสุนัขที่บ้านหลายครั้งจนบ้านเราไม่ยอมส่งสัตว์ไปที่นี่อีก แต่ครั้งนี้คุณยายก็ไม่ทันได้นึกถึงเรื่องเก่า บวกกับกลัวว่าเขาจะอาการไม่ดี ก็คิดว่าที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยน่าจะพร้อมกว่า เลยพาเขาไป
ไปถึงที่โรงพยาบาลราว 6 โมงเย็น คนรอไม่กี่คน แต่ไม่มีเงาหมอ รอจนสามทุ่ม คุณยายทนไม่ไหวไปถาม ถึงได้เจอหมอ
ไม่มีคำอธิบาย มีแต่บอกว่า 'ที่นี่รักษาไม่ได้ ให้ไปที่...' คุณหมอเอ่ยชื่อโรงพยาบาลสัตว์เอกชนที่อยู่ไม่ไกลกัน
ค่ารักษาที่นี่ 2000 บาท บอกว่าเป็นค่าเครื่องมือ
คุณยายเราพาเป่าเปาไปที่โรงพยาบาลที่หมอบอก พบว่าหมอที่นั่นมาจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่เพิ่งจากมาแทบทั้งหมด
ที่นั่นไม่ได้อธิบายอะไร แต่รับเป่าเปาไว้นอนโรงพยาบาล ให้จ่ายค่ามัดจำ 7500 บาท คุณยายบอกไม่ได้เตรียมเงินไป เลยจ่ายไป 2500
กลับมาบ้าน เช้าวันต่อมา ทางรพ.โทร.มาแจ้งว่าเป่าเปาไปแล้ว ไตวายเฉียบพลัน
เรารู้ว่าเขาอายุมากแล้ว ผ่านอะไรมาเยอะมาก มันคงเป็นเวลาของเขา ตอนแรกเราไม่ได้เสียใจ แค่คิดว่าเขาคงไปสบายแล้ว ให้เขาหลับให้สบาย
แต่เมื่อรู้เรื่องที่คุณยายพาเขาไปแล้วพบกับการดูแลของสัตวแพทย์เช่นนี้ เรารู้สึกแย่มากจริง ๆ ในฐานะคนที่มีอาชีพใกล้เคียงกัน จบจากมหาวิทยาลัยที่รักมาก เราทั้งโกรธ ทั้งผิดหวังจริง ๆ
อะไรคือการส่งเคสไปที่โรงพยาบาลเอกชนเหรอคะ หรือโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยไร้ศักยภาพขนาดนั้น
อะไรคือเหตุผลที่สุนัขของเราต้องรอถึง 3 ชั่วโมงโดยไม่มีเคสที่อยู่ในการรักษา
ในฐานะคนที่ทำงานด้านสุขภาพ อาชีพของเราเราเคยถูกตั้งคำถามเรื่องการทำงานหลายครั้งด้วยความไม่เข้าใจ เราจึงพยายามทำความเข้าใจในวันที่เราต้องเป็นฝ่ายตั้งคำถาม แต่เราก็หาคำตอบไม่เจอจริง ๆ ยิ่งได้ฟังคนใกล้บ้านหลายคนที่ต่างมีปัญหากับที่แห่งนี้ เรายิ่งเสียใจ
ทั้งหมดที่พิมพ์มา เราต้องการแค่คำอธิบายและการปรับปรุง อย่าให้สัตว์เลี้ยงที่รักของใครต้องเป็นอย่างเป่าเปาเลย
หรือถ้าอาจารย์สัตวแพทย์ที่นั่นไม่คิดรักษาสัตว์ในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ก็แปะป้ายปิดโรงพยาบาลไปเถอะค่ะ อย่าเป็นภาระให้สัตว์อื่น หรือคนเลี้ยงสัตว์ที่ฝากชีวิตสัตว์เลี้ยงไว้ในมือพวกคุณเลย