สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 9 กุมภาพันธ์ 2560 )------- หลักฐานใหม่โผล่”หมอวิชัย”แอบเอาหุ้น ICAP มูลค่ากว่า 2,000 ลบ.จำนองค้ำหนี้ตั๋วบีอี 100 ลบ. ด้าน “โกลบอลวัน”จ่อฟ้องล้มละลาย-บังคับจำนองภายในเดือนมี.ค.นี้ 14 กุมภาฯ ผถห.รายย่อยรวมพลังทวงคืน IFEC จากหมอวิชัย สั่งสอนให้รู้ใครคือเจ้าของบริษัทตัวจริง
เห็นความพยายามของนายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น ( IFEC) ที่พยายามดิ้นเฮือกสุดท้าย! แบบ “หลังชนฝา” พร้อมกับเปิดไพ่ ด้วยการถึงเอา 2 กองทุน “เพลินจิต แคปปิตอล-แมคควอรี่” เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร แก้ปัญหาหนี้สิน ควบคู่ไปกับการสร้าง “ปรองดอง” แถมยังอวดคุณสมบัติ 7 กรรมการใหม่ที่เตรียมเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นที่หอประชุมกองทัพเรือ โดยคาดหวังว่านักลงทุนรายย่อยจะเห็นใจ
สาระสำคัญในการตั้งโต๊ะแถลงข่าวของ “หมอวิชัย” ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ เตรียมขายหุ้นธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม-ชีวมวล เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ และยืนยันว่าพร้อมเดินหน้าธุรกิจพลังงานทดแทน พร้อมกับยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเตรียมเข้าไปเจรจากับเจ้าหนี้สถาบันการเงินเป็นรายๆ ไป เพื่อแก้ปัญหาหนี้ตั๋วบีอี และหุ้นกู้
ในส่วนของโรงแรมดาราเทวี “หมอวิชัย” ก็ “มโน” เช่นเคย โดยบอกว่ามีพันธมิตรสนใจเข้ามาซื้อ โดยให้ราคาไม่ต่ำกว่า 4,000-5000 ล้านบาท ซึ่งจะได้กระแสเงินสดนำไปเคลียร์หนี้ได้ทันที ไม่มีปัญหา เพราะปัจจุบัน IFEC มีหนี้ต้องชำระภายในปีนี้ประมาณ 6,500 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินระยะสั้น (บี/อี) 3,500 ล้านบาทและหุ้นกู้ 3,500 ล้านบาท..นั่นคือคำพูดของ “หมอวิชัย” ในวันนั้น!!!!
แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ IFEC ในขณะนี้ กลับเลวร้ายมากขึ้นทุกวัน เพราะ“หมอวิชัย” ยังดื้อดึงที่จะอยู่ในอำนาจต่อไปและส่อแววว่าจะสร้างความเสียหายให้ขยายวงกว้างออกไปอีก เพราะเจ้าหนี้สถาบันการเงิน ต่างไม่ไว้วางใจในตัว “หมอวิชัย” เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีการติดต่อเจรจากับเจ้าหนี้ แถมยังปล่อยให้มีการผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบีอี ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
...นั่นหมายความว่าเขาได้หมดเครดิตทางการเงินไปแล้ว ..เมื่อเป็นเช่นนี้ จะมีเจ้าหนี้หน้าไหนกล้าปล่อยสินเชื่อให้เดินหน้าโครงการพลังงานหมุนเวียน อย่างที่ “หมอวิชัย” วาดฝันให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยคล้อยตาม อย่าว่าแต่จะให้วงเงินกู้ใหม่เลย ของเก่าที่ค้างอยู่ ทั้งหนี้ตั๋วบีอี และหุ้นกู้ ที่ยังไม่ครบกำหนด ตอนนี้เจ้าหนี้ต่อแถวรอเพียบบบบ เพื่อเรียกเงินคืนให้เร็วที่สุด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามคาด !!!! หนี้ตั๋วบีอี ของ บลจ.แลนด์แอนด์เฮาส์ จำนวน 100 ล้านบาท ครบกำหนด และ IFEC ก็ผิดนัดชำระหนี้ไปเรียบร้อย และในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ มีตั๋วบีอีที่จะครบกำหนดอีก 3 ราย รวมกันประมาณ 257 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 2560 (5 มกราคม-29 พฤษภาคม 2560) IFEC มีหนี้ตั๋วบีอี ที่ต้องชำระคืนให้กับเจ้าหนี้รวมกันกว่า 2,776 ล้านบาท นี่คือโจทย์...ที่ “หมอวิชัย” ต้องรีบสะสางและเจรจากับเจ้าหนี้
ส่วนแผนการขายโรงแรมดาราเทวี....ตอบได้หรือไม่ว่าดีลใหญ่มูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท มีการทำดีลดีลิเจนท์แล้วหรือยัง? จ้างใครเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน?และที่หมอเคยบอกว่ามีการเซ็น MOU ส่วนตัว แบบนี้ทำได้ด้วยหรือ? ตามขั้นตอนแล้วในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ต้องกระทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยความโปร่งใสมีธรรมาภิบาล ดังนั้นต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด ...สรุปแล้ว เรื่องนี้ก็คงจะ“มโน” อีกตามเคย เพราะไม่เคยเห็นโฉมหน้าค่าตาของผู้ซื้อ มีแต่หมอวิชัยออกมาพูดอยู่ฝ่ายเดียว
ลากไส้หมอวิชัยแอบเอาหุ้น ICAP มูลค่ากว่า 2,000 ลบ.จำนองค้ำหนี้ตั๋วบีอี 100 ลบ.
...มีการเปิดเผยข้อมูลจากวงในว่าเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา IFEC มีหนี้ตั๋วแลกเงิน ที่ครบกำหนดชำระจำนวน 100 ล้านบาท และบริษัท ไม่ชำระหนี้ได้ในวันดังกล่าว จึงเกิดการผิดนัดชำระหนี้อีกครั้งมีกระแสข่าวระบุว่านายทวิช เตชะนาวากุล ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ IFEC ได้รับการติดต่อจากผู้ทรงตั๋วว่าหนี้ตั๋วบีอี ที่ค้างชำระดังกล่าวมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นการจดทะเบียนจำนำหุ้นของ บริษัท อินเตอร์ฟาร์อีสท์ แคป แมเนจเม้นท์ จำกัด (ICAP) ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นของ โรงแรมดาราเทวี ในสัดส่วนร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท ซึ่งหากประเมินคร่าวๆ จากมูลค่าของ รร.ดาราเทวี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท
การที่ “หมอวิชัย” นำหุ้น ICAP ที่มีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ไปจำนองเพื่อค้ำประกันหนี้ตั๋วบีอีมูลค่าเพียง 100 ล้านบาท ถือเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่งต่อบริษัท และอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อบริษัทได้ เพราะเมื่อบริษัทมีการผิดนัดชำระหนี้ก้อนดังกล่าว ผู้ทรงตั๋วอาจมีการฟ้องร้อง เพื่อขอบังคับหลักประกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น เพราะมันคือผลประโยชน์มหาศาลของบริษัท
ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวมีรายงานว่าได้ดำเนินการในวันที่ 19 ธันวาคม 2559 โดยมีคณะกรรมการชุดเล็กเข้าประชุมและอนุมัติ ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีขนาดรายการที่ใหญ่มาก ควรจะมีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ จึงเป็น เรื่องที่ “ผิดปกติ” และขัดหลัก “ธรรมาภิบาล” ในฐานะของบุคคลที่กำลังทำหน้าทีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนอย่างยิ่ง
ต่อกรณีที่เกิดขึ้น...ถือเป็นความโชคดีของ IFEC ที่เจ้าหนี้บลจ.ผู้ทรงตั๋วรายดังกล่าวติดต่อไปยัง “ทวิช” ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ IFEC เพราะถ้าหากเจ้าหนี้มีการติดต่อไปยังนักลงทุนรายอื่น หรือบุคคลที่อยู่นอกตลาด ให้รับซื้อหนี้ดังกล่าวไป ผู้โชคดีรายนั้นจะใช้เงินเพียง 100 ล้านบาท แต่สามารถเข้าครอบครองหุ้น ICAP ซึ่งเป็นเจ้าของ รร.ดาราเทวี 51% คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินคร่าวๆ กว่า 2,000 ล้านบาท แบบชุบมือเปิดไปแล้ว
...ถีงวันนี้ นักลงทุนสบายใจได้เลยว่า โรงแรมดาราเทวี ยังคงอยู่กับ IFEC เพราะได้ “ทวิช” เข้ามาช่วยเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น
เจ้าหนี้ “โกลบอลวัน” จ่อฟ้องล้มละลาย
เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดในวันเดียวกันนี้ บริษัท บริหารสินทรัพย์โกลบอลวัน จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ส่งหนังสือทวงถามให้กับนายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น ( IFEC) ให้ชำระหนี้ที่นายแพทย์วิชัย ค้ำประกันหนี้ของบริษัทโรงแรมดาราเทวี จำกัด จำนวน 340 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 จนบัดนี้ครบกำหนด 30 วันแล้ว แต่ยังไม่ชำระหนี้แก่โกลบอลวัน บริษัทฯจึงมีหนังสือทวงถามเพื่อให้ชำระหนี้เป็นครั้งที่สอง
หากนายแพทย์วิชัยยังเพิกเฉย บริษัทโกบอลวัน จะใช้สิทธิทางศาล โดยการฟ้องศาลให้นายแพทย์วิชัยเป็นบุคคลล้มละลาย เพราะหนี้ค้ำประกันเป็นหนี้ที่มีจำนวนแน่นอน เพราะหากยังไม่สามารถชำระหนี้ได้ ก็อาจเข้าข่ายข้อสันนิษฐานตามกฎหมายว่าเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
ส่วนหนี้ของบริษัทโรงแรมดาราเทวีที่เหลืออยู่ 650 ล้านบาทนั้น บริษัทโรงแรมดาราเทวี ได้ผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่สิ้นปี 2559 แม้นว่าบริษัทโรงแรมดาราเทวีจะชำระหนี้แก่ บริษัทโกลบอลวัน ในวันที่ 5 มกราคม 2560 เป็นจำนวนเงิน 30ล้านบาท แต่หลังจากนั้นก็ไม่ยอมติดต่อ เพื่อเจรจาว่าจะชำระหนี้ในส่วนที่เหลือทั้งหมดอย่างไร
บริษัทโกลบอลวัน ระบุว่าในฐานะที่เป็นเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการและเป็นเจ้าหนี้มีประกัน สามารถจะดำเนินการใช้สิทธิบังคับหลักประกันโดยการยึดทรัพย์สินของโรงแรมดาราเทวีออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ของโกลบอลวันต่อไป โดยได้ส่งหนังสือทวงถามหนี้ตามกฎหมายและแจ้งความจำนงค์ที่จะบังคับจำนองเรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทโกลบอลวัน เตรียมฟ้องร้องบังคับจำนองโรงแรมดาราเทวี และเตรียมฟ้องล้มละลายหมอวิชัยเดือนมีนาคม 2560 นี้
ต่อกรณีที่ก่อนหน้านี้นายแพทย์วิชัยและ IFEC ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทโรงแรมดาราเทวี ได้เผยแพร่ข่าวแก่สื่อมวลชนว่า หนี้ระหว่างบริษัทโกลบอลวันกับบริษัทโรงแรมดาราเทวีน่าสงสัย และมีการแจ้งความต่อตำรวจเศรษฐกิจให้ตรวจสอบแล้ว หรือกรณีที่ระบุว่า บริษัทโกลบอลวันทมีความสัมพันธ์กับอดีตผู้บริหาร IFEC ซึ่งเป็นความพยายามที่จะทำให้สื่อมวลชนและประชาชนเข้าใจผิด ทั้งที่ บริษัทโกลบอลวัน เป็นเจ้าหนี้บริษัทโรงแรมดาราเทวีตามแผนฟื้นฟูกิจการในศาลล้มละลายกลาง และเป็นเจ้าหนี้มาก่อนที่ IFEC จะซื้อโรงแรมดาราเทวี
มองดูขวากหนามที่อยู่ข้างหน้า “หมอวิชัย” แล้ว ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเขาดื้อรั้น...ดึงดัน ที่จะนั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน IFEC ไปเพื่ออะไร? ทำไมต้องจับ “รายย่อย” เป็นตัวประกัน? ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะเปิดโอกาสให้ทีมบริหารชุดใหม่ ที่มีชื่อเสียง มีคอนเน็คชั่น และมีฝีมือเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ ให้เข้ามาฟื้นฟู IFEC ให้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงอีกครั้ง
14 กุมภาฯ จะเป็นวันที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยต้องรวมตัวกันเพื่อแสดงพลังอีกครั้งทวงคืน IFEC มาจากหมอวิชัย คนที่ถือหุ้นต่ำกว่ำ 3% จะมายึดอำนาจและกระทำการปู้ยี่ปู่ยำบริษัทแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ขืนปล่อยไว้รังแต่จะสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นในวงกว้างและอาจจะสายเกินเยียวยาได้..วันนี้ถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงแล้วโดยผู้ถือหุ้นรายย่อยจะต้องเป็นคนทำหน้าที่สั่งสอนให้เขาได้รู้ว่า "ใครคือเจ้าของบริษัทตัวจริง"!!!
http://www.hooninside.com/news-detail.php?id=702671
IFEC หลักฐานใหม่โผล่ "หมอวิชัย" แอบเอาหุ้น ICAP มูลค่ากว่า 2,000 ลบ.จำนองค้ำหนี้ตั๋วบีอีที่มีมูลค่าเพียงแค่ 100 ลบ.
เห็นความพยายามของนายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น ( IFEC) ที่พยายามดิ้นเฮือกสุดท้าย! แบบ “หลังชนฝา” พร้อมกับเปิดไพ่ ด้วยการถึงเอา 2 กองทุน “เพลินจิต แคปปิตอล-แมคควอรี่” เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร แก้ปัญหาหนี้สิน ควบคู่ไปกับการสร้าง “ปรองดอง” แถมยังอวดคุณสมบัติ 7 กรรมการใหม่ที่เตรียมเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นที่หอประชุมกองทัพเรือ โดยคาดหวังว่านักลงทุนรายย่อยจะเห็นใจ
สาระสำคัญในการตั้งโต๊ะแถลงข่าวของ “หมอวิชัย” ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ เตรียมขายหุ้นธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม-ชีวมวล เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ และยืนยันว่าพร้อมเดินหน้าธุรกิจพลังงานทดแทน พร้อมกับยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเตรียมเข้าไปเจรจากับเจ้าหนี้สถาบันการเงินเป็นรายๆ ไป เพื่อแก้ปัญหาหนี้ตั๋วบีอี และหุ้นกู้
ในส่วนของโรงแรมดาราเทวี “หมอวิชัย” ก็ “มโน” เช่นเคย โดยบอกว่ามีพันธมิตรสนใจเข้ามาซื้อ โดยให้ราคาไม่ต่ำกว่า 4,000-5000 ล้านบาท ซึ่งจะได้กระแสเงินสดนำไปเคลียร์หนี้ได้ทันที ไม่มีปัญหา เพราะปัจจุบัน IFEC มีหนี้ต้องชำระภายในปีนี้ประมาณ 6,500 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินระยะสั้น (บี/อี) 3,500 ล้านบาทและหุ้นกู้ 3,500 ล้านบาท..นั่นคือคำพูดของ “หมอวิชัย” ในวันนั้น!!!!
แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ IFEC ในขณะนี้ กลับเลวร้ายมากขึ้นทุกวัน เพราะ“หมอวิชัย” ยังดื้อดึงที่จะอยู่ในอำนาจต่อไปและส่อแววว่าจะสร้างความเสียหายให้ขยายวงกว้างออกไปอีก เพราะเจ้าหนี้สถาบันการเงิน ต่างไม่ไว้วางใจในตัว “หมอวิชัย” เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีการติดต่อเจรจากับเจ้าหนี้ แถมยังปล่อยให้มีการผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบีอี ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
...นั่นหมายความว่าเขาได้หมดเครดิตทางการเงินไปแล้ว ..เมื่อเป็นเช่นนี้ จะมีเจ้าหนี้หน้าไหนกล้าปล่อยสินเชื่อให้เดินหน้าโครงการพลังงานหมุนเวียน อย่างที่ “หมอวิชัย” วาดฝันให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยคล้อยตาม อย่าว่าแต่จะให้วงเงินกู้ใหม่เลย ของเก่าที่ค้างอยู่ ทั้งหนี้ตั๋วบีอี และหุ้นกู้ ที่ยังไม่ครบกำหนด ตอนนี้เจ้าหนี้ต่อแถวรอเพียบบบบ เพื่อเรียกเงินคืนให้เร็วที่สุด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามคาด !!!! หนี้ตั๋วบีอี ของ บลจ.แลนด์แอนด์เฮาส์ จำนวน 100 ล้านบาท ครบกำหนด และ IFEC ก็ผิดนัดชำระหนี้ไปเรียบร้อย และในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ มีตั๋วบีอีที่จะครบกำหนดอีก 3 ราย รวมกันประมาณ 257 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 2560 (5 มกราคม-29 พฤษภาคม 2560) IFEC มีหนี้ตั๋วบีอี ที่ต้องชำระคืนให้กับเจ้าหนี้รวมกันกว่า 2,776 ล้านบาท นี่คือโจทย์...ที่ “หมอวิชัย” ต้องรีบสะสางและเจรจากับเจ้าหนี้
ส่วนแผนการขายโรงแรมดาราเทวี....ตอบได้หรือไม่ว่าดีลใหญ่มูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท มีการทำดีลดีลิเจนท์แล้วหรือยัง? จ้างใครเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน?และที่หมอเคยบอกว่ามีการเซ็น MOU ส่วนตัว แบบนี้ทำได้ด้วยหรือ? ตามขั้นตอนแล้วในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ต้องกระทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยความโปร่งใสมีธรรมาภิบาล ดังนั้นต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด ...สรุปแล้ว เรื่องนี้ก็คงจะ“มโน” อีกตามเคย เพราะไม่เคยเห็นโฉมหน้าค่าตาของผู้ซื้อ มีแต่หมอวิชัยออกมาพูดอยู่ฝ่ายเดียว
ลากไส้หมอวิชัยแอบเอาหุ้น ICAP มูลค่ากว่า 2,000 ลบ.จำนองค้ำหนี้ตั๋วบีอี 100 ลบ.
...มีการเปิดเผยข้อมูลจากวงในว่าเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา IFEC มีหนี้ตั๋วแลกเงิน ที่ครบกำหนดชำระจำนวน 100 ล้านบาท และบริษัท ไม่ชำระหนี้ได้ในวันดังกล่าว จึงเกิดการผิดนัดชำระหนี้อีกครั้งมีกระแสข่าวระบุว่านายทวิช เตชะนาวากุล ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ IFEC ได้รับการติดต่อจากผู้ทรงตั๋วว่าหนี้ตั๋วบีอี ที่ค้างชำระดังกล่าวมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นการจดทะเบียนจำนำหุ้นของ บริษัท อินเตอร์ฟาร์อีสท์ แคป แมเนจเม้นท์ จำกัด (ICAP) ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นของ โรงแรมดาราเทวี ในสัดส่วนร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท ซึ่งหากประเมินคร่าวๆ จากมูลค่าของ รร.ดาราเทวี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท
การที่ “หมอวิชัย” นำหุ้น ICAP ที่มีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ไปจำนองเพื่อค้ำประกันหนี้ตั๋วบีอีมูลค่าเพียง 100 ล้านบาท ถือเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่งต่อบริษัท และอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อบริษัทได้ เพราะเมื่อบริษัทมีการผิดนัดชำระหนี้ก้อนดังกล่าว ผู้ทรงตั๋วอาจมีการฟ้องร้อง เพื่อขอบังคับหลักประกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น เพราะมันคือผลประโยชน์มหาศาลของบริษัท
ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวมีรายงานว่าได้ดำเนินการในวันที่ 19 ธันวาคม 2559 โดยมีคณะกรรมการชุดเล็กเข้าประชุมและอนุมัติ ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีขนาดรายการที่ใหญ่มาก ควรจะมีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ จึงเป็น เรื่องที่ “ผิดปกติ” และขัดหลัก “ธรรมาภิบาล” ในฐานะของบุคคลที่กำลังทำหน้าทีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนอย่างยิ่ง
ต่อกรณีที่เกิดขึ้น...ถือเป็นความโชคดีของ IFEC ที่เจ้าหนี้บลจ.ผู้ทรงตั๋วรายดังกล่าวติดต่อไปยัง “ทวิช” ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ IFEC เพราะถ้าหากเจ้าหนี้มีการติดต่อไปยังนักลงทุนรายอื่น หรือบุคคลที่อยู่นอกตลาด ให้รับซื้อหนี้ดังกล่าวไป ผู้โชคดีรายนั้นจะใช้เงินเพียง 100 ล้านบาท แต่สามารถเข้าครอบครองหุ้น ICAP ซึ่งเป็นเจ้าของ รร.ดาราเทวี 51% คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินคร่าวๆ กว่า 2,000 ล้านบาท แบบชุบมือเปิดไปแล้ว
...ถีงวันนี้ นักลงทุนสบายใจได้เลยว่า โรงแรมดาราเทวี ยังคงอยู่กับ IFEC เพราะได้ “ทวิช” เข้ามาช่วยเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น
เจ้าหนี้ “โกลบอลวัน” จ่อฟ้องล้มละลาย
เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดในวันเดียวกันนี้ บริษัท บริหารสินทรัพย์โกลบอลวัน จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ส่งหนังสือทวงถามให้กับนายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น ( IFEC) ให้ชำระหนี้ที่นายแพทย์วิชัย ค้ำประกันหนี้ของบริษัทโรงแรมดาราเทวี จำกัด จำนวน 340 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 จนบัดนี้ครบกำหนด 30 วันแล้ว แต่ยังไม่ชำระหนี้แก่โกลบอลวัน บริษัทฯจึงมีหนังสือทวงถามเพื่อให้ชำระหนี้เป็นครั้งที่สอง
หากนายแพทย์วิชัยยังเพิกเฉย บริษัทโกบอลวัน จะใช้สิทธิทางศาล โดยการฟ้องศาลให้นายแพทย์วิชัยเป็นบุคคลล้มละลาย เพราะหนี้ค้ำประกันเป็นหนี้ที่มีจำนวนแน่นอน เพราะหากยังไม่สามารถชำระหนี้ได้ ก็อาจเข้าข่ายข้อสันนิษฐานตามกฎหมายว่าเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
ส่วนหนี้ของบริษัทโรงแรมดาราเทวีที่เหลืออยู่ 650 ล้านบาทนั้น บริษัทโรงแรมดาราเทวี ได้ผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่สิ้นปี 2559 แม้นว่าบริษัทโรงแรมดาราเทวีจะชำระหนี้แก่ บริษัทโกลบอลวัน ในวันที่ 5 มกราคม 2560 เป็นจำนวนเงิน 30ล้านบาท แต่หลังจากนั้นก็ไม่ยอมติดต่อ เพื่อเจรจาว่าจะชำระหนี้ในส่วนที่เหลือทั้งหมดอย่างไร
บริษัทโกลบอลวัน ระบุว่าในฐานะที่เป็นเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการและเป็นเจ้าหนี้มีประกัน สามารถจะดำเนินการใช้สิทธิบังคับหลักประกันโดยการยึดทรัพย์สินของโรงแรมดาราเทวีออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ของโกลบอลวันต่อไป โดยได้ส่งหนังสือทวงถามหนี้ตามกฎหมายและแจ้งความจำนงค์ที่จะบังคับจำนองเรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทโกลบอลวัน เตรียมฟ้องร้องบังคับจำนองโรงแรมดาราเทวี และเตรียมฟ้องล้มละลายหมอวิชัยเดือนมีนาคม 2560 นี้
ต่อกรณีที่ก่อนหน้านี้นายแพทย์วิชัยและ IFEC ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทโรงแรมดาราเทวี ได้เผยแพร่ข่าวแก่สื่อมวลชนว่า หนี้ระหว่างบริษัทโกลบอลวันกับบริษัทโรงแรมดาราเทวีน่าสงสัย และมีการแจ้งความต่อตำรวจเศรษฐกิจให้ตรวจสอบแล้ว หรือกรณีที่ระบุว่า บริษัทโกลบอลวันทมีความสัมพันธ์กับอดีตผู้บริหาร IFEC ซึ่งเป็นความพยายามที่จะทำให้สื่อมวลชนและประชาชนเข้าใจผิด ทั้งที่ บริษัทโกลบอลวัน เป็นเจ้าหนี้บริษัทโรงแรมดาราเทวีตามแผนฟื้นฟูกิจการในศาลล้มละลายกลาง และเป็นเจ้าหนี้มาก่อนที่ IFEC จะซื้อโรงแรมดาราเทวี
มองดูขวากหนามที่อยู่ข้างหน้า “หมอวิชัย” แล้ว ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเขาดื้อรั้น...ดึงดัน ที่จะนั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน IFEC ไปเพื่ออะไร? ทำไมต้องจับ “รายย่อย” เป็นตัวประกัน? ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะเปิดโอกาสให้ทีมบริหารชุดใหม่ ที่มีชื่อเสียง มีคอนเน็คชั่น และมีฝีมือเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ ให้เข้ามาฟื้นฟู IFEC ให้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงอีกครั้ง
14 กุมภาฯ จะเป็นวันที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยต้องรวมตัวกันเพื่อแสดงพลังอีกครั้งทวงคืน IFEC มาจากหมอวิชัย คนที่ถือหุ้นต่ำกว่ำ 3% จะมายึดอำนาจและกระทำการปู้ยี่ปู่ยำบริษัทแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ขืนปล่อยไว้รังแต่จะสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นในวงกว้างและอาจจะสายเกินเยียวยาได้..วันนี้ถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงแล้วโดยผู้ถือหุ้นรายย่อยจะต้องเป็นคนทำหน้าที่สั่งสอนให้เขาได้รู้ว่า "ใครคือเจ้าของบริษัทตัวจริง"!!!
http://www.hooninside.com/news-detail.php?id=702671