ว่าด้วยประเด็น "ยกเลิกรถโดยสาร BRT" คำถาม ที่ต้องการคำตอบ ?!?

เรียน รองผู้ว่าการ กทม. และ ผู้บริหาร BRT

       ดิฉันเป็นผู้ที่ใช้บริการรถขนส่งมวลชน BRT อยู่เป็นประจำ และได้รับทราบถึงข่าวการยกเลิกการให้บริการ BRT ในวันที่ 30 เมษายน 2560
เนื่องจากเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง รบกวนคุณช่วยตอบคำถามต่อไปนี้ด้วยค่ะ

1. ผู้บริหารมีความคิดเห็นอย่างไรกับการยกเลิกระบบขนส่งมวลชน ซึ่งส่งผลให้เกิดการใช้รถส่วนตัวเพิ่มมากขึ้นคะ?

2. ก่อนทำการยกเลิก ผู้บริหารเคยได้ใช้บริการของ BRT หรือไม่?
    (ใช้บริการในที่นี้ คือมาใช้บริการเอง ไม่ใช่การมานั่งโดยมีการจัดฉาก หรือมีการรับรองจากเจ้าหน้าที่)

3. ตามที่แจ้งว่า BRT ทำให้รถติด จึงจำเป็นต้องยกเลิก ... คุณทราบหรือไม่ว่า
     - สาเหตุที่ทำให้รถติด >> เพราะคนใช้รถส่วนตัวเยอะ
     - ทำไมคนใช้รถส่วนตัวเยอะ >> เพราะขนส่งสาธารณะไม่รองรับ
     - ทำไมคนไม่เลือกนั่งรถสาธารณะ >> เพราะมาใช้ขนส่งสาธารณะแล้วรถติด
     - ทำไมรถสาธารณะถึงติด >> ***เพราะจราจรโบกให้รถส่วนตัวเข้ามาวิ่งในเลน #BRT ค่ะ
     !!! ผู้บริหารทราบถึงปัญหาข้อนี้ไหมคะ !!!

4. และตามที่แจ้งว่า BRT ทำให้รถติด
   ....ก่อนทำโครงการนี้ **ไม่ได้มีการประเมินความเสี่ยงเหรอคะ** ว่าจะเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น
   แล้วถ้ารถจะติดขนาดนี้ !!! สร้างทำไม !!! เปลืองงบไหม !!!

5. จากที่ประกาศยกเลิกจะให้บริการในวันที่ 30 เมษายน 2560 นั้น ได้มีการคิดหรือไม่ว่า
    จะให้ผู้บริการที่มีอยู่ 20,000 คน ต่อวัน ไปใช้บริการใดแทน (ที่มีความสะดวก และรวดเร็วเทียบเท่า BRT)
    **จะปิดซ่อมถนน เขายังมีประกาศเลยค่ะ ว่าให้ใช้เส้นทางไหนทดแทน

6. ที่บ่นๆ ว่า รายได้ไม่คุ้ม ขาดทุน ... เคยลองปรับราคาขึ้นตามความจริงไหมคะ
เดิมที 5 บาทตลอดสาย (ส่วนตัวคิดว่าค่าบริการถูกเกินไป)
ปัจจุบัน 5 - 10 บาท ตามสถานี (ส่วนตัวก็ยังคิดว่าค่าบริการถูกไป)
ทำไมไม่ลองปรับค่าบริการตามสถานี ใช้หลักการเดียวกันกับ BTS ไปเลย
ยิ่งสถานีเยอะ ค่าบริการก็เพิ่มขึ้นตาม แล้วลองดูว่า จะขาดทุนอีกหรือไม่?? เคยคิดมั้ย??

สุดท้ายนี้ ต้องขอบอกว่า เราใช้บริการ BRT มาตั้งแต่เปิดให้บริการ ชีวิตมีความสะดวกขึ้นมาก ถึงขนาดย้ายที่อยู่มาอยู่ในเส้นที่ BRT วิ่งผ่าน เพื่อให้การเดินทางสะดวกขึ้น แต่ผู้บริหารซึ่ง (คาดว่า) ไม่เคยใช้บริการขนส่ง BRT เลย กลับมายกเลิก เพียงเพราะว่า "ขาดทุน" โดยไม่คำถึงว่าประชาชนจะเดือดร้อนหรือไม่

คำถามสุดท้าย ... คุณคิดว่าคุณบริหารจัดการระบบขนส่งมวลชนดีพอหรือยัง ????

หมายเหตุ : ท่านใดมีช่องทางใด ที่จะสามารถส่งข้อความนี้ถึงผู้ที่เกี่ยวข้องได้ รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะคะ

#แก้ไข : เพิ่มเติมหมายเหตุค่ะ#
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ไม่แปลกใจหากจะมีวันนี้
.
ผมรู้สึกเฉยๆ นะ ไม่แปลกใจ และคิดมานานแล้วว่าวันหนึ่งมันต้องจบแบบนี้แหละ
.
ตอน BRT สร้างใหม่ๆ มีแนวคิดว่าจะ “ยกให้ไปเลย 1 เลน” รถชนิดอื่นห้ามเข้าไปวิ่ง มีการตีเส้นอย่างดี บางจุดทำขอบกั้นแบบยกสูง อารมณ์ประมาณรางรถแข่งทามิย่า ( Mini 4WD ใครเกิดไม่ทันลองไปหาในอากุ๋ดู ) แต่พอเอาเข้าจริง เปิดใช้จริงเจอ “ม็อบ 4 ล้อ” คนใช้รถส่วนตัวประท้วง เสียงโวยวายเกิดขึ้นไปทั่ว สุดท้ายก็ต้องยอม “ผ่อนปรน” ให้รถอื่นๆ เข้าไปวิ่งได้ เมื่อนั้น BRT จึงไม่มี “ข้อแตกต่าง” กับรถเมล์ทั่วไป บางจังหวะรถก็ติด สุดท้ายคนก็กลับไปใช้รถส่วนตัวเหมือนเดิม (และเพิ่มเติมคือมอเตอร์ไซค์)
.
นั่นทำให้ BRT ต้องรูดม่านแบบที่เป็นข่าว ซึ่งก็ไม่ต่างจากยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง ที่เคยมีแนวคิด “Bus Lane” ให้รถเมล์วิ่งชิดซ้าย รถอื่นๆ ห้ามเข้าไปยุ่ง คนใช้รถส่วนตัวก็ไม่พอใจเช่นกัน บอกทำรถติด แล้วนานๆ ไป ทางการก็ต้องผ่อนปรน แล้วถนนใน กทม. ก็เป็นอย่างที่เราเห็นวันนี้
.
บ้านเราให้ความสำคัญกับ “รถ 4 ล้อส่วนตัว” เป็นอันดับ 1 แต่ไหนแต่ไร เราไม่มีข้อจำกัดในการซื้อและใช้รถเหมือนประเทศที่เจริญแล้ว ใบขับขี่ก็สอบไม่ยาก ที่จอดไม่ต้องมีก็ไม่เป็นไร ( ภาษีสรรพสามิตไม่ช่วยอะไร เจอโปรฯ ดาวน์ถูกผ่อนนานไปก็จบ ) ค่ายรถยนต์ทั้งหัวดำหัวทองแถลงหน้าชื่นตาบาน กำไรทุกปีมากบ้างน้อยบ้าง แต่ไม่มีคำว่าขาดทุน ซึ่งก็พูดยากอีก เมืองไทยฝากเศรษฐกิจไว้กับอุตสาหกรรมรถยนต์มากที่สุด แรงงานไทยอยู่ในนิคมพวกนี้ไม่น้อย งานหนักจริงแต่โบนัสออกทีนี่หายเหนื่อยเลย ถ้าจำกัดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ธุรกิจรถยนต์กระทบ อาจต้องลดจำนวนพนักงาน แน่นอนคนตกงานมากๆ คือวิกฤติของชาติ
.
แต่เมื่อเราเลือกเส้นทางนี้ “ราคาที่ต้องจ่าย” มันก็มีครับ ก็คือรถติดนี่แหละ รัฐบาลก็ไม่กล้าขัดใจประชาชนหรอก ต่อให้เป็นรัฐบาลเผด็จการ ทำอะไรขัดใจจริตชาวบ้านมากๆ รับรองกลุ่มขั้วการเมืองตรงข้าม + ต่างชาติที่เสียประโยชน์ พร้อมจะยุยงให้ประท้วงเพื่อโค่นรัฐบาลอยู่แล้ว ส่วนรัฐบาลประชาธิปไตยก็ไม่ต้องพูดถึง ไม่กล้าทำอะไรที่เสียคะแนนเสียงแน่นอน
.
BRT จึงกลายเป็น “เศษซากแห่งความล้มเหลว” อีกอย่างของทางการไทย ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้อย่าง “ป้ายแท็กซี่อัจฉริยะ” ที่สร้างมาให้เสียงบประมาณเล่นๆ แต่ใช้การไม่ได้จริง รวมถึงในอนาคต “เลนจักรยาน” อาจเป็นความล้มเหลวหนต่อไป เพราะสภาพจริงใน กทม. ไม่มีความเหมาะสมในการใช้จักรยานเลย ทำมาสุดท้ายก็กลายเป็นที่จอดรถ 4 ล้อ + ให้มอเตอร์ไซค์วิ่ง
.
( จริงๆ เลนซ้ายนี่ชาวมอเตอร์ไซค์เขาขอมาก่อนนะ แต่ไม่เคยได้รับการตอบสนอง เพราะเลนซ้ายถูกยกให้เป็นที่จอดรถ 4 ล้อ สุดท้ายชาว 2 ล้อกับชาว 4 ล้อ ก็มาดราม่าทะเลาะกันเองในเว็บบอร์ดอย่าง pantip.com นี่ก็คืออีกภาพสะท้อนของการให้ความสำคัญต่อยานพาหนะแต่ละแบบไม่เท่าเทียมกัน )
.
ไปดูประเทศที่เจริญแล้ว เขามีรถติดนรกแทบจะตลอดวันแบบเราไหม? จากในข่าวหรือสารคดีเท่าที่เคยดู ผมไม่เคยเห็นนะ และสถิติ 10 เมืองรถติดที่สุดในโลก ส่วนใหญ่ก็เป็นประเทศกำลังพัฒนาทั้งนั้น รวมถึง Bangkok เมืองหลวงของเราก็ด้วย และประชากรบนถนน ส่วนใหญ่ก็ 4 ล้อนี่แหละ
.
ทำใจ..ไม่ต้องบ่นนะ..บ่นไปก็เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ!!!

เพิ่มเติม
.
.
ช่วงที่ BRT เปิดใหม่ๆ คนบ่นว่ารถติดจริงๆ นะ
.
14 ก.ย. 2553 ข่าวจาก kapook.com “โวย BRT ทำรถติด ส่อยกเลิกหมอชิต - แจ้งวัฒนะ”  ( ที่มา : https://hilight.kapook.com/view/52032/3?view=full )
.
โปรดสังเกตข้อความนี้
.
“..ส่วนเส้นทางหมอชิต- แจ้งวัฒนะ (ศูนย์ราชการ) ที่เคยศึกษาไว้ว่าจะมีการสร้างรถเมล์บีอาร์ทีนั้น คาดว่าจะไม่มีการทำแล้ว เนื่องจากมีการซ้อนทับรถไฟฟ้าสายสีชมพู หรือ เมโทรบัส (มีนบุรี-แจ้งวัฒนะ) ที่ ครม.ได้อนุมัติไว้แล้ว ส่วนอีก 3 เส้นทาง ได้แก่ สายสาทร-สุขสวัสดิ์ สายดอนเมือง-มีนบุรี-สุวรรณภูมิ และสายมีนบุรี-ศรีนครินทร์-สำโรง ที่เคยมีการศึกษาไว้ว่าจะทำบีอาร์ทีก็คาดว่าจะไม่มีแล้ว เนื่องจากจะให้รถเมโทรบัสวิ่งเส้นทางดังกล่าวทั้งหมด ทั้งนี้หากจะมีการดำเนินการบีอาร์ทีเส้นทางต่อไปจะต้องพิจารณาเส้นทางถนนตัดใหม่ที่ไม่ต้องแย่งช่องทางรถยนต์ส่วนตัว และไม่ทับซ้อนกับเมโทรบัส..”
.
ซึ่งหลังจากนั้นก็อย่างที่ทราบ เราไม่ได้ยินการขยายเส้นทาง BRT เพิ่มอีกเลย
.
.
-------------------------------
.
และข่าวนี้
.
14 ม.ค. 2554 จาก นสพ.ASTV ผู้จัดการ “ผู้ใช้รถเฮ!! กทม.ยอมให้ใช้เลน BRT ช่วงเร่งด่วนแล้ว” ( ที่มา : http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000005447 )
.
โปรดสังเกตข้อความนี้
.
“นอกจากนี้ กทม.จะผ่อนผันชั่วคราวให้รถส่วนบุคคลเข้าไปเดินรถในช่องทาง BRT ขาเข้าในช่วงเช้าและขาออกในช่วงเย็น บริเวณสถานีที่ 10 (เจริญราษฎร์) และสถานีที่ 11 (ถ.พระราม 3) โดยจะจัดทำป้ายจราจรประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่ทราบ และเปิดให้รถส่วนบุคคลใช้ช่องทาง BRT ในเดือน ก.พ.2554 เป็นต้นไป อีกทั้งจะหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ขสมก.และกองบังคับการตำรวจจราจร ในการปรับเส้นทางเดินรถโดยสารประจำทางเข้าสู่ระบบสายหลักและสายรองเชื่อมต่อการเดินทางให้เป็นระบบ อาทิ สาย 15, 205 และ 68 ฝั่งขาเข้าเมืองให้วนรับส่งผู้โดยสารที่สถานี BRT บริเวณสถานีราชพฤกษ์ (B12) เป็นต้น ตลอดจนสนับสนุนให้มีแท็กซี่และมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในระบบส่งต่อผู้โดยสารเข้าสู่ระบบขนส่งมวลชนสายหลัก พร้อมทั้งพัฒนาระบบตั๋วร่วมตั๋วเดือน เพิ่มความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนยิ่งขึ้น”
.
ก็เป็น กทม. เองนี่แหละครับที่ “ยอมแพ้” อลุ้มอล่วยให้รถอื่นๆ เข้าไปวิ่งได้ แน่นอนว่า “เมื่อมีหมุดแรกถูกปัก ก้าวต่อไปก็ตามมา” แล้วก็กลายเป็นภาพที่เราชินตา จากวิ่งได้ใน ชม. เร่งด่วน ก็เป็นวิ่งกันตลอด 24 ชม.
.
.
-------------------------
.
สรุปว่า กทม. เป็นทั้งผู้ให้กำเนิด BRT และก็เป็นผู้ที่ฆ่า BRT เองกับมือ เช่นกัน ( ด้วยการบีบคั้นกดดันของชาวรถส่วนตัว )
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่