จัดห้องนอนใหม่ เพื่อน้องหมาและกระต่ายน้อย น้องมูจิและมิกุ 🐶🐰🏡


สวัสดีครับ ก่อนหน้านี้หลายๆคนคงเคยได้เห็นกระทู้ตกแต่งห้องให้น้อง Muji ของพวกเรากันไปแล้ว เมื่อสงกรานต์ปีที่ผ่านมา หลังจากได้รับน้องมูจิเข้ามาอยู่ในครอบครัว สองเดือนหลังจากนั้นเราก็ตัดสินใจกันว่าจะใช้เงินจำนวน 30,000 บาทในการตกแต่งห้องใหม่ เพื่อเป็นห้องให้น้องมูจิได้วิ่งเล่น หลังจากวันนั้นไม่กี่เดือน พวกเราก็มีกระต่ายชื่อน้อง Miku เข้ามาเพิ่มจำนวนประชากรในห้องให้อบอุ่นมากยิ่งขึ้น พวกเราเริ่มตกแต่งโดยอยากให้ภาพรวมของห้องนั้นดูเรียบง่ายสะอาดตา

ถ้าย้อนกลับไปดูภาพวันที่เราลงรีวิวในครั้งแรก จนถึงภาพล่าสุดก่อนที่จะมีการปรับปรุงห้องใหม่อีกครั้ง จากห้องที่ค่อนข้างโล่งในวันแรกที่ทำเสร็จ ก็เริ่มมีการซื้อของใช้เพิ่มเติมทำให้จำนวนสิ่งของเครื่องใช้ในห้องเพิ่มเยอะขึ้นตามกาลเวลา จากที่อยากให้ห้องดูโล่งเรียบง่ายกลายเป็นห้องของคนชอบสะสมไปซะงั้น

นี่เป็นภาพห้องก่อนรีโนเวทครั้งแรกครับ
นี่เป็นภาพห้องหลังรีโนเวทครั้งแรกครับ

กิจกรรมสองสิ่งในชีวิตที่ผมชอบมากเป็นพิเศษคือ การฟังเพลง และการอ่านหนังสือ เลยทำให้ทั้งจำนวนแผ่นเสียง และจำนวนหนังสือเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเรามีสิ่งที่รัก เราก็มักอยากให้สิ่งเหล่านั้นเข้ามาอยู่ใกล้ตัวเราให้มากที่สุด ห้องนอนก็ถือเป็นห้องที่พวกเราใช้เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ผมเลยอยากจะยัดของสองสิ่งที่รักให้มาอยู่ในที่เดียวกัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ จำนวนซีดีและเทปหนึ่งพันกว่าอัลบั้ม

รวมถึงหนังสืออีกหลายร้อยเล่มก็ถูกเก็บกระจัดกระจายอยู่ในที่ต่างๆตามความเหมาะสม ส่วนในห้องนอนนี้ก็ได้แต่คัดที่เรารักมากๆให้มาอยู่ใกล้เพื่อความอุ่นใจ นอกจากของที่เยอะขึ้นแล้ว พอใช้ห้องนี้มาสักระยะก็เริ่มรู้สึกเบื่อกับมุมเดิมๆที่ใช้อยู่ทุกวัน หลายๆคนคงเคยเป็นเหมือนผม พอเราอยู่ในที่เดิมซ้ำๆบางทีเราก็รู้สึกว่าชีวิตมันขาดแรงบันดาลใจ เราใช้พื้นที่เดิม ทำสิ่งเดิมๆวนไปทุกวัน จนกลายเป็นความเคยชินที่เราไม่รู้ตัว


การตกแต่งห้องใหม่เลยเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้เรากลับมาตื่นเต้นกับสิ่งของรอบกายเราได้อีกครั้งและเป็นแรงบันดาลใจในการพักผ่อนอีกด้วย โชคดีที่เฟอร์นิเจอร์ที่เราใช้ส่วนใหญ่จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้ สะดวกเหมาะกับการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ยกเว้นก็แต่ตู้ใส่เสื้อผ้าและตู้เครื่องแป้งที่บิ้วอินมาตั้งแต่เดิม กับพื้นห้องเก่าๆที่ลำบากมากในการเปลี่ยนหรือทำใหม่

ครั้งก่อนที่เรารีโนเวทห้องไป ด้วยความที่เรามีงบและเวลาที่ค่อนข้างจำกัดในการทำห้องเพื่อให้ห้องออกมาเสร็จสมบูรณ์รวดเร็วที่สุดและประหยัดงบที่สุด ในส่วนของพื้นห้องเราเลยทาสีขาวทับลงไปบนไม้ปาร์เก้เดิม ซึ่งก็มีหลายคนสอบถามเข้ามาว่าสีที่ผมใช้ทานั้นมันสามารถทาลงบนไม้ได้ด้วยหรอ และเรื่องความทนทานเป็นยังไงบ้าง เอาเข้าจริงตัวผมก็ไม่ได้มีความรู้หรือความชำนาญในเรื่องนี้มากนัก

ตอนที่ทำก็ถามพนักงานที่ร้านว่าต้องการสีอะไรก็ได้ที่สามารถทาทับลงบนไม้ปาร์เก้เก่าได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาขัดไม้ก่อน และด้วยความที่มันเก่ามากแล้วเราเลยไม่ได้สนใจเรื่องความเนี๊ยบมากนัก เพราะจากสภาพบ้านที่อยู่มาวันนี้ก็ปาเข้าไป 23 ปี ปาร์เก้ที่ใช้อยู่ก็เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา สังเกตุได้จากร่องระหว่างไม้ปาร์เก้ที่มีการผุกร่อน ไม้แยกตัวห่างจากกัน


แต่ผมก็มองว่ามันก็สวยดีได้อารมณ์ดิบๆไปอีกแบบ ทีแรกก็คิดว่าอยากได้ลามิเนทมาปูพื้น แต่ก็ค่อนข้างยุ่งยากเนื่องจากไม้เดิมที่มีอยู่มันปูดบ้าง แยกตัวจากกันบ้าง เวลาปูลามิเนทลงไปอาจทำให้ไม่เรียบและก่อให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต คั้นจะรื้อปาร์เก้ออกหมดแล้วฉาบปูนลงไปใหม่ก็ใช้เวลาค่อนข้างเยอะ พวกเราต้องการประหยัดเวลาให้มากที่สุดในการทำเรา เราเลยจบด้วยการทาสีขาวง่ายๆลงไปแทน จากที่ใช้มา 8  เดือน สีไม่หลุดไม่ร่อนถ้าไม่มีอะไรไปขูดนะครับ แต่สีขาวทำให้พื้นดูสกปรกง่ายมาก และเวลาที่น้อง Muji หรือ Miku วิ่งเล่นก็มักจะเบรคตัวแล้วลื่นไถล หลายคนที่เลี้ยงสุนัขก็มีการเตือนมาเหมือนกันครับว่าพื้นที่ลื่นอาจทำให้ขาของสุนัขเสียได้ ก่อนหน้านี้เราก็เคยคิดเรื่องการปูพรมพื้นห้อง แต่พรมขนาดใหญ่เท่าห้องก็ดูเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับพวกเราอยู่เหมือนกันในการทำความสะอาด

จนกระทั้งผมมาเจอพรมนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นยี่ห้อ TOLI ซึ่งมีให้เลือกมากมายหลากหลายแบบ สามารถประกอบใช้เองได้สะดวก สามารถแกะและนำไปทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ดูดซับกลิ่น และเป็นพรม DIY ที่เหมาะสำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์และมีเด็กเล็ก


หลังจากเราได้พรมมาก็ถึงขั้นตอนของการติดตั้ง ผมเลือกพรมแบบ Fluffy พรมแต่ละแผ่นมีขนาด 40x40 เซนติเมตร สามารถนำมาเรียงและติดตั้งได้ตามที่ต้องการ พวกเราเลือกสีครีม กับสีเทา ด้วยห้องเดิมเรานั้นเน้นตกแต่งด้วยโทนสีขาวและใช้ไม้สีอ่อนในการตกแต่ง พรมสีครีมน่าจะช่วยทำให้ห้องดูสว่างและอบอุ่นมากยิ่งขึ้น ส่วนสีเทานั้นเราจะนำมาคัดลายตารางเพื่อทำให้พื้นผิวดูน่าสนใจมากขึ้น พรมชนิด Fluffy จะมีสัมผัสที่นุ่มฟู และกันน้ำได้ดี ผมว่าข้อดีที่สุดของพรม TOLI คือการที่เราสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ เพียงแค่เรารู้ขนาดของบริเวณที่ราต้องการปูเราก็สามารถทำการคำนวนจำนวนที่ต้องการซื้อได้เลย ด้วยวิธีนี้เองที่ทำให้เราสามารถครีเอทตกแต่งลายได้ตามความชอบ และเปรียบเทียบ Budget ที่เราต้องการได้ง่าย การติดตั้งทำได้สะดวก และที่สำคัญการที่แต่ละชิ้นเป็นชิ้นเล็กจึงทำให้การทำความสะอาดนั้นสะดวกมากกว่าพรมชนิดแผ่นใหญ่ การนำมาจัดวางในบางส่วนเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับห้องก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี

เราเริ่มเคลื่อนย้ายของจากมุมห้องหนึ่งออกไปก่อนเพื่อทำความสะอาดบริเวณนั้น พวกเราใช้ผ้าเปียกเช็ดทำความสะอาดที่บริเวณผิวไม้พร้อมกับบอกลาไม้ปาร์เก้เก่า ขอบคุณสำหรับการทำงานที่ยาวนานกว่า 23 ปี ถึงเวลาที่พวกมันจะได้พักผ่อนกันสักที เราจะให้พวกมันได้นอนหลับสบายๆด้านล่างไม่ต้องถูกเหยียบย่ำให้ระคายเคืองอีกต่อไป 555+ หลังจากเราเช็ดตามด้วยผ้าแห้งแล้วเราก็แกะพลาสติกที่ห่อด้านหลังพรมออก บริเวณนี้เองที่เป็นเส้นยางบางๆเป็นแนวยาว ทำหน้าที่เกาะติดกับพื้นผิว ผมว่ามันเจ๋งมากๆตรงที่มีความหนึบแต่ไม่มีความเหนียวเนอะหนะและไม่ทิ้งคราบไว้ เพราะฉะนั้นเราสามารถวางและโยกย้ายพรมได้มากตามความต้องการ ติดไม่ตรง ติดเบี้ยว อยากย้ายตำแหน่งก็สามารถทำได้ง่ายดายมากๆ


ในส่วนการต่อนั้นก็เพียงวางให้อยู่ในระนาบเดียวกัน แต่ด้วยความที่ห้องผมมีองศาบ้านที่บูดเบี้ยวนิดหน่อยทำให้เมื่อต่อกันตามองศาแล้ว บางตำแหน่งจะเฉียงเองโดยอัตโนมัติ เลยทำให้เหลือช่องว่างตามขอบห้อง วิธีการตัดพรมเพื่อประกอบส่วนนี้ก็ทำได้ไม่ยากครับ ตอนแรกพอได้ชื่อว่าเป็นพรม พวกเราก็คิดว่าน่าจะตัดยากเพราะพรมค่อนข้างหนา แต่พอเอาเข้าจริง เราแค่หงายด้านหลังของพรม จุดตำแหน่งที่ต้องการตัดออก แล้วใช้คัตเตอร์และไม้บรรทัดฟุตเหล็กและแผ่นรองตัด เพียงแค่นี้ก็ตัดออกได้โดยไม่ต้องออกแรงอะไรมากมาย ง่ายกว่าที่คิดไว้มาก ส่วนเรื่องลายที่เราจะสลับสีกันนั้นก็เลือกบริเวณที่เราต้องการและวางสลับกันได้เลย


ผมปรับเลย์เอาท์ของห้องใหม่ โดยโต๊ะทำงานเดิมนั้นเนื่องจากพวกเราติดไว้กับกำแพงเราเลยไม่ได้เคลื่อนที่แต่เราย้ายชั้นวางของไปวางตรงบริเวณนั้นแทน ส่วนชั้นวางหนังสือการ์ตูนจากที่พวกเราเคยวางชิดกำแพง ตอนนี้พวกเราเคลื่อนย้ายมาวางขวางกั้นตรงกลางห้องเพื่อแบ่ง Section ห้องให้ดูมีมิติ และเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งสำหรับชั้นวางหนังสือที่วางตรงกลางห้องจากที่แต่ก่อนผมวางหนังสือได้เพียงด้านเดียว พอย้ายมาวางแนวขวางทำให้ทั้งสองฝั่งของชั้นหนังสือสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น บรรจุหนังสือเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ที่เพิ่มเติมมาบริเวณนี้ก็คือ โซฟาขนาดเล็กสีเทาที่ผมย้ายมาจากอีกห้องหนึ่งเพื่อมาวางกั้นห้องให้เป็นมุมสำหรับนั่งทำงาน คิดงาน หรืออ่านหนังสือ พักผ่อนฟังเพลงจากซีดี ได้สะดวกเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่