สวัสดีครับ ขอแนะนำตัวคร่าวๆก่อนนะครับ ปัจจุปันผมอายุ 30 ปี กินเหล้าบ้างตามเทศกาลและโอกาส บุหรี่เคยดูดสมัยเรียน แต่ทำงานมาได้ 4-5ปี ก็เลิกแล้วครับ เมื่อก่อนก็ออกกำลังกายบ้างครับ เตะฟุตบอลหลังๆก็ไม่ค่อยได้เตะ จนมา 6-7เดือนหลังมานี้หันมาวิ่งออกกำลังกายครับ จบ!(คร่าวๆจริมๆ) มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ คือผมมีอาการผิดปกติของลักษณะทางกายภาพของอุจจาระมานานแล้วครับ จากการสังเกตผมรู้สึกว่าอุนจิผมมันมีลักษณะแปลกตาไปจากเมื่อก่อนมาก คือมันจะมีลักษณะลีบๆแบนๆ มันไม่กลมๆมนๆทรงกระบอกเหมือนเมื่อก่อน และเวลาทำกิจกรรมบนชักโครกมันเหมือนว่าจะไม่สุดปลายทางครับ และจะใช้เวลากับกิจกรรมนี้ในช่วงเช้าๆนานมากๆครับ จะเรียกว่าท้องผูกหรือเปล่าก็ไม่ทราบครับ ทำให้มันจะรู้สึกอึดอัดตลอดทั้งวัน ถ้าบ่อยๆเข้า ผมก็จะพึ่งตัวช่วยครับ นั่นก็คือ ชาระบายซองสีเขียว ที่มีดาราสาวแสนสวยเป็นพรีเซ็นเตอร์นั่นแหละครับ จะทานตอนก่อนนอนครับ พอเช้ามานี่ โล่งเลยครับ เป็นเช่นนี้อยู่บ่อยครั้งครับ จนมาลองหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตครับ พบว่าอาการของผมดังกล่าวเป็น 1 ในอาการหลักของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ครับ คร่าวนี้เหมือนในละครเลยครับ ภาพในอดีตมันย้อนกลับมาเลย คือเด็กๆผมจะนิยมกินอาหารไหม้ๆกรอบๆเกรียมๆมากครับ คือเห็นไก่ย่างที่ไหม้ๆนี่ผมบอกแม่ค้าเลยไม่ต้องตัด(พ่อค้าแม่ค้าหมูย่าง ไก่ย่างส่วนใหญ่ ถ้าตรวจพบสินค้ามีรอยไหม้เค้าจะใช้กรรไกรตัดชิ้นส่วนที่ไหม้ออก)ผมเอาไม้นี้ อร่อย ถูกใจ ฟุดๆ จำความได้กินแบบนี้มาตั้งแต่ตอนเด็กๆ ยันโตเลย แล้วมันก็มีเหตุการณ์อีกอย่างคือผมจะชอบผายลมมาก แล้วไอ้กลิ่นผายลมของผมนี่สิ มันเหม็นอย่าบอกใครเชียวหล่ะ เหม็นขนาดเพื่อนสมัยเรียนเรียกผมว่าไอ้ไส้เน่า เหม็นจนอาจารย์สอนอยู่หน้าห้องต้องสั่งพักเบรกก็มี และที่โหดร้ายสุดๆ เหม็นขนาดที่แม่ผมร้องไห้อ่ะ เหตุการณ์มันเป็นอย่างงี้ครับ คือวันนั้นแม่ผมมีอาการไม่สบายอยู่ด้วย ตอนนั้นผมกับแม่และก็แฟนผมนั่งดูข่าวช่วงค่ำกันอยู่ ดูไปสักพักผมก็แอบผายลมเบาๆครับ แป๊บเดียวแม่ผมนี่หันมาทางผม(ทั้งที่นั่งกันอยู่ตั้งสามคน)แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและมีน้ำตาคลอว่า”นี่แม่ไม่สบายอยู่นะลูก ไม่สงสารแม่เลยใช่ไหม” ถถถถถ ขมิบแทบไม่ทันเลยที่เดียว ว่าจะปล่อยซิงเกิ้ลที่สองตามไปติดๆ กลับมาปัจจุปันกันต่อครับ หลังจากนั้นผมก็ไปปรึกษาน้องสาวผมครับ พอดีน้องสาวผมเป็นอาจารย์พยาบาลอยู่วิทยาลัยพยาบาลแห่งหนึ่งครับ น้องสาวผมก็แนะนำว่าให้ไปหาหมอท่านหนึ่งที่คลินิคแห่งนี้ ซึ่งท่านประจำอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งหมอท่านนี้เค้าจะนัดให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลที่ท่านประจำครับ ซึ่งผมก็หาข้อมูลมาบ้างแล้วครับว่าการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่นี่ มันมีหลายวิธีทั้งการตรวจอุจจาระเพื่อดูว่ามีมูกเลือดปนมาหรือเปล่า หรือการสวนแป้งดูเงาจากภาพเอ็กซเรย์ แต่วิธีที่ดีและแม่นยำที่สุดนั่นก็คือ การส่องกล้องครับ โดยหมอเค้าจะเอากล้องขนาดเล็กสอดเข้าไปทางทวารหนักครับ และจะทำการตรวจหาสิ่งผิดปกติในลำไส้ใหญ่ครับ ซึ่งน้องสาวผมก็บอกว่าถ้าตรวจที่นี้ หมอเค้าจะใช้วิธีหลังครับ คือการส่องกล้องครับ เชื่อไหมครับผมทำใจมาเป็นปีเลยครับ กับไอ้การตรวจวิธีนี้ อันที่จริงผมตั้งใจจะตรวจตั้งแต่ปีที่แล้วด้วย แต่พอมาเจอแบบนี้ ก็รอดูก่อนว่าผมอาจจะเป็นแค่ลำไส้แปรปรวนก็ได้ หายเครียดก็กลับมาถ่ายปกติแล้ว แต่สรุปมันไม่หายครับเป็นแบบนี้มาตลอดจนวันนี้ครับ และวันตัดสินใจผมก็มาถึง ลูกชายผมครับ เค้ากำลังน่ารักเลยทีเดียว ตอนนี้เค้าอายุหนึ่งขวบแล้วครับ ผมอยากดูเค้าเติบโตและอยู่กับเค้าไปนานๆครับและผมก็ไม่อยากที่จะต้องจิตตกอีกต่อไปครับ ตรวจให้รู้แล้วรู้รอดไป ถ้าเจอก่อนก็จะได้รักษาทันครับ ผมเลยนัดกับแฟนเพื่อไปหาหมอที่น้องสาวผมแนะนำครับ เมื่อพบหมอผมก็แจ้งความปรารถนาของผมให้หมอทราบครับ
ผม:หมอครับผมอยากตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ครับ คือผมสังเกตว่าผมมีอาการท้องผูกและอุจจาระมันมีลักษณะลีบๆแบนๆมานานแล้วครับ
หมอ:คุณมีอาการแค่อุจจาระลีบแบนกับท้องผูกนี่นะ(หน้าตาแบบ แค่นี้หรา) คุณมีมูกเลือดปนมากับอุจจาระหรือเปล่า
ผม:ไม่มีครับหมอ ผมมีอาการแค่นี้ครับ แต่ผมรู้สึกเป็นกังวลมาก มันค่อนข้างมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันผมมาก(ตีหน้าเศร้า กลัวหมอไม่ตรวจให้)
หมอ:แต่อายุคุณก็ยังไม่เยอะเลยนะ รู้ป่ะ คนที่ควรจะต้องตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ เค้าตรวจตอนอายุ 50 ปี ส่วนที่ครอบครัวมีประวัติโรคนี้ควรจะตรวจตอนอายุ 40 ปี
ผม:หมอครับ คนที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่อายุแบบผมมีหรือเปล่าครับ
หมอ:มี อายุน้อยกว่าคุณก็มีแต่ส่วนน้อย
ผม:อาการเค้าเป็นยังไงถึงมาตรวจครับ
หมอ:ก็แบบปวดท้องเลย
ผม:นั่นไงครับ ผมไม่อยากมาตรวจตอนเป็นแบบนั้นครับ กลัวจะรักษาลำบาก
หมอ:คุณเครียดไปหรือเปล่า อ่ะ!ไม่เป็นไร คุณอยากตรวจผมก็ตรวจให้ เด่วขึ้นไปนอนบนเตียงไป
ผมคิดในใจ”เฮ้ย!วันนี้เลยหรอ ที่หาข้อมูลมามันจะต้องมีการกินยาระบายล้างลำไส้ก่อนนะ และวันนี้ผมก็รู้สึกยังไม่พร้อมด้วย”
หมอ:นอนหงายตัวตรงๆครับ ชูแขนไปด้านบน
ผมคิดในใจ “สงสัยแค่กดท้องดูมั้ง ”
แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆครับ หมอกดที่ท้องผม กดตั้งแต่ท้องส่วนบนจนมาถึงท้องส่วนกลาง
หมอ:ไม่ต้องอายนะครับ
ผมคิดในใจ “โด่!หมอ แค่นี้ผมไม่อายหรอก แค่ถกเสื้อขึ้นโชว์หัวนมดำๆกะทรูแพ็คนิดหน่อย”
ผมคิดเสร็จปุ๊บ หมอเอามือปลดตะขอกางเกงผมรูดซิบลงและถกลงเลยครับ แบบว่าถกกางเกงชั้นนอกพร้อมกางเกงในเลยครับ แม่จ้าว!!น้องชายผมมันนอนคอพับคออ่อนโชว์หมอเลยครับ ผมนี่ทำไรไม่ถูกเลยครับ ถึงหมอเป็นผู้ชายอายุประมาณ 40-50 แต่เป็นคนแปลกหน้าผมก็อายนะครับ และหมอก็กดที่ท้องส่วนล่างครับ สักพักหมอบอกให้ผมนอนตะแครงหันหลังให้หมอครับ ห้วงเวลานั้นผมทำอะไรไม่ถูก นอนคว่ำหน้าเลยครับ
หมอ:ตะแครงหันหน้าเข้ากำแพงครับ
ผมก็รวบรวมสติปรับท่าใหม่ให้ถูกตามที่หมอสั่ง แล้วหมอก็เอามือแหกตูดผมครับ ใช่ครับแหกตูดครับ โอ้!แม่จ้าว ทั้งโดนแก้ผ้าและโดนแหกตูด นี่มันวันวินาศสันตโรอะไรของผมฟ่ะเนี่ย
หมอ:เสร็จแล้วครับ
ผมคิดในใจ "เยสสสส เสร็จซักที"
ผมรีบใส่กางเกงจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย(ปานเพิ่งโดนกระทำชำเรามา 5555) แล้วมานั่งที่เดิมครับ
หมอ:คุณสะดวกมาตรวจวันไหนครับ (แล้วก็ยื่นปฏิทินตั้งโต๊ะให้ผม)
ผม:วันจันทร์ที่ 6 กุมภาครับ
หลังจากนั้นหมอก็เขียนใบนัดให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลตามวันที่ผมเลือกให้ แล้วให้ไปรับยาเพื่อเตรียมล้างลำไส้ก่อนเข้าตรวจที่เคาน์เตอร์ ซึ่งเป็นอันเสร็จขั้นตอน
ซึ่งเป็นวันพรุ่งนี้แล้วครับ ที่ผมจะเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งผมคิดว่าการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ก็เหมือนการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกของผู้หญิงนั่นแหละครับ ที่จะต้องมีการตรวจเป็นประจำตามช่วงอายุที่หมอได้บอกไว้ เพราะมะเร็งลำไส้ใหญ่มีวิธีตรวจหาได้ แต่ถ้ามีอาการหลักๆของมะเร็งลำไส้ใหญ่(หาข้อมูลได้ที่กูเกิ้ลเลยครับ)ก็ไปตรวจกันก่อนได้ ถ้าตรวจเจอก็จะได้รักษาได้ทันและจะได้อยู่กับคนที่คุณรักไปนานๆครับ เชื่อไหมครับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่นี่ คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับสามของโรคมะเร็งทั้งหมดเลยนะครับ สาเหตุหลักๆของโรคนี้ที่อ่านมาเกิดจากพฤติกรรมการกินของคนเรานั่นแหละครับ เอาเป็นว่าหลังจากได้รับการตรวจคัดกรองในวันพรุ่งนี้แล้ว(6 ก.พ.2560)ผมจะมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ




เมื่อผมปรารถนาจะเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ในวัย 30 กะรัต
ผม:หมอครับผมอยากตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ครับ คือผมสังเกตว่าผมมีอาการท้องผูกและอุจจาระมันมีลักษณะลีบๆแบนๆมานานแล้วครับ
หมอ:คุณมีอาการแค่อุจจาระลีบแบนกับท้องผูกนี่นะ(หน้าตาแบบ แค่นี้หรา) คุณมีมูกเลือดปนมากับอุจจาระหรือเปล่า
ผม:ไม่มีครับหมอ ผมมีอาการแค่นี้ครับ แต่ผมรู้สึกเป็นกังวลมาก มันค่อนข้างมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันผมมาก(ตีหน้าเศร้า กลัวหมอไม่ตรวจให้)
หมอ:แต่อายุคุณก็ยังไม่เยอะเลยนะ รู้ป่ะ คนที่ควรจะต้องตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ เค้าตรวจตอนอายุ 50 ปี ส่วนที่ครอบครัวมีประวัติโรคนี้ควรจะตรวจตอนอายุ 40 ปี
ผม:หมอครับ คนที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่อายุแบบผมมีหรือเปล่าครับ
หมอ:มี อายุน้อยกว่าคุณก็มีแต่ส่วนน้อย
ผม:อาการเค้าเป็นยังไงถึงมาตรวจครับ
หมอ:ก็แบบปวดท้องเลย
ผม:นั่นไงครับ ผมไม่อยากมาตรวจตอนเป็นแบบนั้นครับ กลัวจะรักษาลำบาก
หมอ:คุณเครียดไปหรือเปล่า อ่ะ!ไม่เป็นไร คุณอยากตรวจผมก็ตรวจให้ เด่วขึ้นไปนอนบนเตียงไป
ผมคิดในใจ”เฮ้ย!วันนี้เลยหรอ ที่หาข้อมูลมามันจะต้องมีการกินยาระบายล้างลำไส้ก่อนนะ และวันนี้ผมก็รู้สึกยังไม่พร้อมด้วย”
หมอ:นอนหงายตัวตรงๆครับ ชูแขนไปด้านบน
ผมคิดในใจ “สงสัยแค่กดท้องดูมั้ง ”
แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆครับ หมอกดที่ท้องผม กดตั้งแต่ท้องส่วนบนจนมาถึงท้องส่วนกลาง
หมอ:ไม่ต้องอายนะครับ
ผมคิดในใจ “โด่!หมอ แค่นี้ผมไม่อายหรอก แค่ถกเสื้อขึ้นโชว์หัวนมดำๆกะทรูแพ็คนิดหน่อย”
ผมคิดเสร็จปุ๊บ หมอเอามือปลดตะขอกางเกงผมรูดซิบลงและถกลงเลยครับ แบบว่าถกกางเกงชั้นนอกพร้อมกางเกงในเลยครับ แม่จ้าว!!น้องชายผมมันนอนคอพับคออ่อนโชว์หมอเลยครับ ผมนี่ทำไรไม่ถูกเลยครับ ถึงหมอเป็นผู้ชายอายุประมาณ 40-50 แต่เป็นคนแปลกหน้าผมก็อายนะครับ และหมอก็กดที่ท้องส่วนล่างครับ สักพักหมอบอกให้ผมนอนตะแครงหันหลังให้หมอครับ ห้วงเวลานั้นผมทำอะไรไม่ถูก นอนคว่ำหน้าเลยครับ
หมอ:ตะแครงหันหน้าเข้ากำแพงครับ
ผมก็รวบรวมสติปรับท่าใหม่ให้ถูกตามที่หมอสั่ง แล้วหมอก็เอามือแหกตูดผมครับ ใช่ครับแหกตูดครับ โอ้!แม่จ้าว ทั้งโดนแก้ผ้าและโดนแหกตูด นี่มันวันวินาศสันตโรอะไรของผมฟ่ะเนี่ย
หมอ:เสร็จแล้วครับ
ผมคิดในใจ "เยสสสส เสร็จซักที"
ผมรีบใส่กางเกงจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย(ปานเพิ่งโดนกระทำชำเรามา 5555) แล้วมานั่งที่เดิมครับ
หมอ:คุณสะดวกมาตรวจวันไหนครับ (แล้วก็ยื่นปฏิทินตั้งโต๊ะให้ผม)
ผม:วันจันทร์ที่ 6 กุมภาครับ
หลังจากนั้นหมอก็เขียนใบนัดให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลตามวันที่ผมเลือกให้ แล้วให้ไปรับยาเพื่อเตรียมล้างลำไส้ก่อนเข้าตรวจที่เคาน์เตอร์ ซึ่งเป็นอันเสร็จขั้นตอน
ซึ่งเป็นวันพรุ่งนี้แล้วครับ ที่ผมจะเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งผมคิดว่าการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ก็เหมือนการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกของผู้หญิงนั่นแหละครับ ที่จะต้องมีการตรวจเป็นประจำตามช่วงอายุที่หมอได้บอกไว้ เพราะมะเร็งลำไส้ใหญ่มีวิธีตรวจหาได้ แต่ถ้ามีอาการหลักๆของมะเร็งลำไส้ใหญ่(หาข้อมูลได้ที่กูเกิ้ลเลยครับ)ก็ไปตรวจกันก่อนได้ ถ้าตรวจเจอก็จะได้รักษาได้ทันและจะได้อยู่กับคนที่คุณรักไปนานๆครับ เชื่อไหมครับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่นี่ คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับสามของโรคมะเร็งทั้งหมดเลยนะครับ สาเหตุหลักๆของโรคนี้ที่อ่านมาเกิดจากพฤติกรรมการกินของคนเรานั่นแหละครับ เอาเป็นว่าหลังจากได้รับการตรวจคัดกรองในวันพรุ่งนี้แล้ว(6 ก.พ.2560)ผมจะมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ