บ้านสุดท้าย.....
ผมล้วงกระเป๋าเสื้อแจ๊คเก็ตหากุญแจอพาร์ทเม้นท์ที่มาเช่าไว้ เสื้อมีหลายกระเป๋าผมหาอยู่นาน จำได้ว่าใส่ไว้ข้างขวาของตัวเสื้อ แต่ก็ไม่เจอ หาทั้งกระเป๋าเสื้อและกางเกงก็ไม่มี
เหงื่อเริ่มแตกชุ่มหัวและหน้าไปหมด ผมปาดเหงื่อออกจากผมสีขาวโพลน หยิบผ้าเช็ดหน้าในถุงขนมปังขึ้นมา และก็เจอกุญแจห้องอยู่ในถุงนั้น ไม่รู้เอาไปใส่ไว้เมื่อไหร่
หลังจากเอากระเป๋าเดินทาง 1 ใบ วางไว้ที่มุมห้อง ผมเปิดหน้าต่างเห็นโรงพยาบาลอยู่ติดกับอพาร์ทเม้นท์พอดี และนี่ก็เป็นเหตุผลให้ผมมาเช่าที่นี่อยู่
ผมเป็นชายชราวัย 80 ไม่มีลูกมีหลาน ไม่มีครอบครัว ไม่ใช่ซิ....ผมเพิ่งสูญเสียครอบครัวที่ผมมีเพียงคนเดียวไปเมื่อ 3 เดือนที่แล้วนี่เอง "จอน" เจ็บออดๆแอดๆมาหลายปีแล้ว มีผมคอยดูแลปรนนิบัติ พาไปหาหมอ กุมมือกันเสมอไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน
ผมกับจอนบ้านอยู่ติดกันตอนเด็กๆ เราโตมาด้วยกันเล่นด้วยกัน จนวันนึงตอนเราอายุ 14 จอนเอานวมของพ่อมา แล้วชวนเล่นชกมวยกัน ผมพลั้งมือชกปากจอนแตกเลือดออก ตอนนั้นผมตกใจมากเอาปลายแขนเสื้อที่ใส่อยู่เช็ดเลือดที่ปากจอน หน้าเราอยู่ใกล้กันจนได้กลิ่นลมหายใจ ผมหยุดเช็ด....มองหน้าจอน....จอนจ้องมาที่ตาผมแล้วค่อยๆจูบมาที่ปากผม
ตอนนั้น...ผมกับจอนสับสนไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกอะไรที่ดึงให้เราทำแบบนั้น....แต่เราก็ทำมันบ่อยๆ จอนมาค้างที่บ้านผมบ่อยๆ เรานอนกอดกัน จูบกัน และมีSex!กัน เราผูกพันและรักกันมาก ผมและจอนไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย ครับผมเป็นเกย์.....
คืนนึงขณะที่เรากำลังมีอะไรกันแม่ผมก็เปิดประตูเข้ามา ผมเห็นแม่ยืนช็อคอยู่หน้าประตู ผมรีบเข้าไปหาแม่ แม่ร้องไห้แล้วเดินหนี จนรุ่งเช้าแม่เรียกผมกับจอนคุย บอกให้เลิกยุ่งกันมันผิดเพศ แม่รับไม่ได้ จอนร้องไห้กลับบ้านไป หลังจากนั้นจอนก็ไม่ได้มาค้างอีกเลย
ที่บ้านจอน พ่อกับแม่จอนรู้เรื่องของเราจากแม่ของผม ผมไปหาจอนไม่ได้เค้าไม่ให้เข้าบ้าน มันทรมานใจมากเราติดต่อกันไม่ได้เลย แล้วครอบครัวจอนก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ผมปีนขึ้นไปหาจอนในคืนนั้น สัญญาว่าเราจะกลับมาอยู่ด้วยกัน
หลายปีผ่านไป....ผมยังรอ...แต่ไม่มีการติดต่ออะไรจากจอนเลย มันเป็นการรอคอยที่เจ็บปวด และ....เจ็บปวดที่สุดเมื่อผมได้รับการ์ดแต่งงานของจอน จอนแต่งงานกับผู้หญิงที่ที่บ้านหาให้ ผมออกจากบ้านไปและไม่กลับอีกเลย หลังจากนั้น 4 ปีแม่ผมไม่สบายมากผมกลับไปดูแล...จนท่านเสีย
ผมขายบ้านหลังนั้นแล้วใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ แม่เป็นคนเดียวที่ผมรู้จักบนโลกใบนี้ ตอนนี้ก็ไม่มีใครแล้ว ชีวิตผมมันก็ว้าแหว่ และก็จบลงที่ร้านเหล้าเมากลับห้อง
คืนนึง...ที่ผมซุกตัวบนโซฟาอับๆที่บาร์แห่งหนึ่ง ผมเห็นผู้ชายคนนึงเดินเข้ามา ผู้ชายผิวขาวผมหยักศก จมูกโด่งได้รูปเดินมาที่บาร์
ไม่ผิดแน่ๆ...ไม่ใช่ใครที่ไหนผมจำจอนได้ดี
ถึงแม้จอนจะตัวโตขึ้น เป็นหนุ่มใหญ่ที่ดูหล่อเนี้ยบกว่าเมื่อก่อนแค่ไหน ผมยังจำจอนได้ดีทุกซอกทุกมุม
จอนหันมาแล้วชะงักเมื่อเจอผม เราโผเข้ากอดกัน ความทรงจำเก่าๆไหลพรั่งพรู จอนเล่าถึงเรื่องครอบครัวว่าโดนบังคับให้แต่งงาน ภรรยาจอนอยู่กับจอนได้ 2 ปีก็หอบลูกชายที่เกิดกับจอนหายไปกับผู้ชายอื่น พ่อกับแม่จอนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อปลายปีที่แล้ว คือการสิ้นสุดความปกติที่พ่อกับแม่จอนต้องการ...จอนกลับมาหาผมไปทุกๆที่ๆคิดว่าจะเจอตามหาผมอยู่นาน....จนได้เจอกัน
ผมกับจอนกลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เรารักกัน และจะรักจนวันตาย เราช่วยกันทำงานสร้างตัวซื้อบ้าน ซื้อรถ ใช้ชีวิตมีความสุขด้วยกันมาตลอด ผมว่าพรหมลิขิตไม่เคยแบ่งแยกเพศ วันนึงถ้าเราเจอคนที่เรารัก ต่อให้เป็นใครหัวใจเราก็รัก และความรักมันมีพลังขนาดไหนผมว่าหัวใจรักแท้เท่านั้น...ที่สัมผัสถึง
ผมอยากแต่งงานนะ...แต่ที่นี่ประเทศไทยยังไม่มีกฏหมายให้คู่รักแบบเราแต่งงานจดทะเบียนกัน
มีอยู่ครั้งนึงจอนประสบอุบัติเหตุโดนรถชนจนกระดูกซี่โครงทิ่มปอด หมอถามหาพ่อแม่พี่น้องจอน เพื่อให้เซ็นยินยอมผ่าตัด
ผมบอกผมเป็นแฟนจอน แต่หมอบอกว่าเซ็นไม่ได้ ผมร้องไห้เหมือนคนบ้า จนหมอเห็นว่าอาการจอนเริ่มแย่ลงเลยเอาจอนเข้าห้องผ่าตัดไป
แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี เราใช้ชีวิตคู่กันอย่างมีความสุขเรื่อยมาจนแก่ชรา เจ็บป่วยไม่สบายเราก็กุมมือกันไปหาหมอผลัดกันดูแล
จน 3 เดือนที่แล้วจอนก็จากไปในอ้อมกอดผม
มีทนายมาคุยเรื่องมรดกที่เรามี ที่เราสร้างด้วยกันมา ที่ดินบนภูเขาที่เราชอบไปตกปลากันวันหยุดสมัยยังแข็งแรง
บ้านกับรถที่เราเก็บหอมรอมริบซื้อด้วยกัน เงินเก็บในบัญชีอีกนิดหน่อย และกิจการเล็กๆส่งออกที่เราทำกันสองคน
ทุกอย่างเป็นชื่อของจอน ยกเว้นที่ดินบนภูเขาที่เป็นชื่อผม
ลูกชายจอนที่ไม่เคยรู้จัก เคยเห็นหรือมาดูแลจอนเลยเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับมรดกโดยชอบธรรมตามกฏหมาย เค้ามากับทนาย เก็บของทุกอย่างที่มีค่า และบอกจะขายกิจการและบ้านที่นี่ บ้านที่ผมกับจอนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาจนตายจากกัน
ผมกลายเป็นคนแก่ที่สิ้นเนื้อประดาตัว ไร้บ้าน ทุกข์...โศรก....แทบสิ้นใจตายตามจอน แต่...ก็พยายามตั้งสติ เพราะผมสัญญากับจอนว่าจะเข้มแข็งในวันที่เค้าไม่อยู่
ผมขายที่ดินบนภูเขาเอาเงินมาใส่บัญชีไว้ แล้วมาเช่าอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลประจำ ที่ผมต้องมาหาหมอทุกเดือน จนรู้จักหมอและพยาบาลเป็นอย่างดี พอจะฝากผีฝากไข้ได้บ้าง และผมคิดว่าเงินที่เหลืออยู่คงพอใช้ได้อีก 20 ปีซึ่งผมคงอยู่ไม่ถึง
และนี่คือสิ่งเดียวที่ผมเตรียมการให้ตัวเอง จะทำยังไง...ถ้าผมไม่มีที่ดินผืนนั้น ผมคงนอนตามป้ายรถเมล์หรือเร่รอนริมทางไปแล้ว ผมแค่ลืมคิด....
ถ้าเรื่องของผมพอมีประโยชน์ ผมอยากให้คู่รักเพศเดียวกันคิดถึงเรื่องนี้ให้ดีๆ จนกว่าเราจะมีกฏหมายคุ้มครองและรักษาสิทธิ์สำหรับเพศเดียวกัน
บ้านสุดท้าย....ของผมคืออพาร์ทเม้นท์เก่าๆใกล้โรงพยาบาล และของคุณล่ะ....ที่ไหนกัน.
Cr. Picture by OumBoon
บ้านสุดท้าย
ผมล้วงกระเป๋าเสื้อแจ๊คเก็ตหากุญแจอพาร์ทเม้นท์ที่มาเช่าไว้ เสื้อมีหลายกระเป๋าผมหาอยู่นาน จำได้ว่าใส่ไว้ข้างขวาของตัวเสื้อ แต่ก็ไม่เจอ หาทั้งกระเป๋าเสื้อและกางเกงก็ไม่มี
เหงื่อเริ่มแตกชุ่มหัวและหน้าไปหมด ผมปาดเหงื่อออกจากผมสีขาวโพลน หยิบผ้าเช็ดหน้าในถุงขนมปังขึ้นมา และก็เจอกุญแจห้องอยู่ในถุงนั้น ไม่รู้เอาไปใส่ไว้เมื่อไหร่
หลังจากเอากระเป๋าเดินทาง 1 ใบ วางไว้ที่มุมห้อง ผมเปิดหน้าต่างเห็นโรงพยาบาลอยู่ติดกับอพาร์ทเม้นท์พอดี และนี่ก็เป็นเหตุผลให้ผมมาเช่าที่นี่อยู่
ผมเป็นชายชราวัย 80 ไม่มีลูกมีหลาน ไม่มีครอบครัว ไม่ใช่ซิ....ผมเพิ่งสูญเสียครอบครัวที่ผมมีเพียงคนเดียวไปเมื่อ 3 เดือนที่แล้วนี่เอง "จอน" เจ็บออดๆแอดๆมาหลายปีแล้ว มีผมคอยดูแลปรนนิบัติ พาไปหาหมอ กุมมือกันเสมอไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน
ผมกับจอนบ้านอยู่ติดกันตอนเด็กๆ เราโตมาด้วยกันเล่นด้วยกัน จนวันนึงตอนเราอายุ 14 จอนเอานวมของพ่อมา แล้วชวนเล่นชกมวยกัน ผมพลั้งมือชกปากจอนแตกเลือดออก ตอนนั้นผมตกใจมากเอาปลายแขนเสื้อที่ใส่อยู่เช็ดเลือดที่ปากจอน หน้าเราอยู่ใกล้กันจนได้กลิ่นลมหายใจ ผมหยุดเช็ด....มองหน้าจอน....จอนจ้องมาที่ตาผมแล้วค่อยๆจูบมาที่ปากผม
ตอนนั้น...ผมกับจอนสับสนไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกอะไรที่ดึงให้เราทำแบบนั้น....แต่เราก็ทำมันบ่อยๆ จอนมาค้างที่บ้านผมบ่อยๆ เรานอนกอดกัน จูบกัน และมีSex!กัน เราผูกพันและรักกันมาก ผมและจอนไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย ครับผมเป็นเกย์.....
คืนนึงขณะที่เรากำลังมีอะไรกันแม่ผมก็เปิดประตูเข้ามา ผมเห็นแม่ยืนช็อคอยู่หน้าประตู ผมรีบเข้าไปหาแม่ แม่ร้องไห้แล้วเดินหนี จนรุ่งเช้าแม่เรียกผมกับจอนคุย บอกให้เลิกยุ่งกันมันผิดเพศ แม่รับไม่ได้ จอนร้องไห้กลับบ้านไป หลังจากนั้นจอนก็ไม่ได้มาค้างอีกเลย
ที่บ้านจอน พ่อกับแม่จอนรู้เรื่องของเราจากแม่ของผม ผมไปหาจอนไม่ได้เค้าไม่ให้เข้าบ้าน มันทรมานใจมากเราติดต่อกันไม่ได้เลย แล้วครอบครัวจอนก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ผมปีนขึ้นไปหาจอนในคืนนั้น สัญญาว่าเราจะกลับมาอยู่ด้วยกัน
หลายปีผ่านไป....ผมยังรอ...แต่ไม่มีการติดต่ออะไรจากจอนเลย มันเป็นการรอคอยที่เจ็บปวด และ....เจ็บปวดที่สุดเมื่อผมได้รับการ์ดแต่งงานของจอน จอนแต่งงานกับผู้หญิงที่ที่บ้านหาให้ ผมออกจากบ้านไปและไม่กลับอีกเลย หลังจากนั้น 4 ปีแม่ผมไม่สบายมากผมกลับไปดูแล...จนท่านเสีย
ผมขายบ้านหลังนั้นแล้วใช้ชีวิตเสเพลไปวันๆ แม่เป็นคนเดียวที่ผมรู้จักบนโลกใบนี้ ตอนนี้ก็ไม่มีใครแล้ว ชีวิตผมมันก็ว้าแหว่ และก็จบลงที่ร้านเหล้าเมากลับห้อง
คืนนึง...ที่ผมซุกตัวบนโซฟาอับๆที่บาร์แห่งหนึ่ง ผมเห็นผู้ชายคนนึงเดินเข้ามา ผู้ชายผิวขาวผมหยักศก จมูกโด่งได้รูปเดินมาที่บาร์
ไม่ผิดแน่ๆ...ไม่ใช่ใครที่ไหนผมจำจอนได้ดี
ถึงแม้จอนจะตัวโตขึ้น เป็นหนุ่มใหญ่ที่ดูหล่อเนี้ยบกว่าเมื่อก่อนแค่ไหน ผมยังจำจอนได้ดีทุกซอกทุกมุม
จอนหันมาแล้วชะงักเมื่อเจอผม เราโผเข้ากอดกัน ความทรงจำเก่าๆไหลพรั่งพรู จอนเล่าถึงเรื่องครอบครัวว่าโดนบังคับให้แต่งงาน ภรรยาจอนอยู่กับจอนได้ 2 ปีก็หอบลูกชายที่เกิดกับจอนหายไปกับผู้ชายอื่น พ่อกับแม่จอนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อปลายปีที่แล้ว คือการสิ้นสุดความปกติที่พ่อกับแม่จอนต้องการ...จอนกลับมาหาผมไปทุกๆที่ๆคิดว่าจะเจอตามหาผมอยู่นาน....จนได้เจอกัน
ผมกับจอนกลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เรารักกัน และจะรักจนวันตาย เราช่วยกันทำงานสร้างตัวซื้อบ้าน ซื้อรถ ใช้ชีวิตมีความสุขด้วยกันมาตลอด ผมว่าพรหมลิขิตไม่เคยแบ่งแยกเพศ วันนึงถ้าเราเจอคนที่เรารัก ต่อให้เป็นใครหัวใจเราก็รัก และความรักมันมีพลังขนาดไหนผมว่าหัวใจรักแท้เท่านั้น...ที่สัมผัสถึง
ผมอยากแต่งงานนะ...แต่ที่นี่ประเทศไทยยังไม่มีกฏหมายให้คู่รักแบบเราแต่งงานจดทะเบียนกัน
มีอยู่ครั้งนึงจอนประสบอุบัติเหตุโดนรถชนจนกระดูกซี่โครงทิ่มปอด หมอถามหาพ่อแม่พี่น้องจอน เพื่อให้เซ็นยินยอมผ่าตัด
ผมบอกผมเป็นแฟนจอน แต่หมอบอกว่าเซ็นไม่ได้ ผมร้องไห้เหมือนคนบ้า จนหมอเห็นว่าอาการจอนเริ่มแย่ลงเลยเอาจอนเข้าห้องผ่าตัดไป
แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี เราใช้ชีวิตคู่กันอย่างมีความสุขเรื่อยมาจนแก่ชรา เจ็บป่วยไม่สบายเราก็กุมมือกันไปหาหมอผลัดกันดูแล
จน 3 เดือนที่แล้วจอนก็จากไปในอ้อมกอดผม
มีทนายมาคุยเรื่องมรดกที่เรามี ที่เราสร้างด้วยกันมา ที่ดินบนภูเขาที่เราชอบไปตกปลากันวันหยุดสมัยยังแข็งแรง
บ้านกับรถที่เราเก็บหอมรอมริบซื้อด้วยกัน เงินเก็บในบัญชีอีกนิดหน่อย และกิจการเล็กๆส่งออกที่เราทำกันสองคน
ทุกอย่างเป็นชื่อของจอน ยกเว้นที่ดินบนภูเขาที่เป็นชื่อผม
ลูกชายจอนที่ไม่เคยรู้จัก เคยเห็นหรือมาดูแลจอนเลยเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับมรดกโดยชอบธรรมตามกฏหมาย เค้ามากับทนาย เก็บของทุกอย่างที่มีค่า และบอกจะขายกิจการและบ้านที่นี่ บ้านที่ผมกับจอนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาจนตายจากกัน
ผมกลายเป็นคนแก่ที่สิ้นเนื้อประดาตัว ไร้บ้าน ทุกข์...โศรก....แทบสิ้นใจตายตามจอน แต่...ก็พยายามตั้งสติ เพราะผมสัญญากับจอนว่าจะเข้มแข็งในวันที่เค้าไม่อยู่
ผมขายที่ดินบนภูเขาเอาเงินมาใส่บัญชีไว้ แล้วมาเช่าอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลประจำ ที่ผมต้องมาหาหมอทุกเดือน จนรู้จักหมอและพยาบาลเป็นอย่างดี พอจะฝากผีฝากไข้ได้บ้าง และผมคิดว่าเงินที่เหลืออยู่คงพอใช้ได้อีก 20 ปีซึ่งผมคงอยู่ไม่ถึง
และนี่คือสิ่งเดียวที่ผมเตรียมการให้ตัวเอง จะทำยังไง...ถ้าผมไม่มีที่ดินผืนนั้น ผมคงนอนตามป้ายรถเมล์หรือเร่รอนริมทางไปแล้ว ผมแค่ลืมคิด....
ถ้าเรื่องของผมพอมีประโยชน์ ผมอยากให้คู่รักเพศเดียวกันคิดถึงเรื่องนี้ให้ดีๆ จนกว่าเราจะมีกฏหมายคุ้มครองและรักษาสิทธิ์สำหรับเพศเดียวกัน
บ้านสุดท้าย....ของผมคืออพาร์ทเม้นท์เก่าๆใกล้โรงพยาบาล และของคุณล่ะ....ที่ไหนกัน.
Cr. Picture by OumBoon