7 แนวคิดพิชิตความหวาดกลัวในใจคุณ

7 แนวคิดพิชิตความหวาดกลัวในใจคุณ

“จงจดจำเอาไว้ว่า ความไม่กล้าตัดสินใจเป็นตัวบ่มเพาะความกลัว ความไม่กล้าตัดสินใจจะตกผลึกเป็นความลังเลสงสัย สองสิ่งนี้จะรวมตัวกันกลายเป็นความกลัว ขั้นตอนในการรวมตัวกันจะเกิดอย่างช้าๆ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมศัตรูพวกนี้จึงอันตรายมาก พวกมันจึงก่อตัวและเจริญเติบโตโดยที่เราไม่สังเกตเห็น”

ข้อความบางส่วนจากหนังสือคิดแล้วรวยครับ คำกล่าวของท่าน นโปเลียน ฮิลล์ ที่กล่าวเอาไว้ในหนังสือคงเป็นตัวบอกว่าที่มาของความกลัวนั้นมีรากเหง้ามาจากอะไรกันแน่ครับ
เมื่อจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างหนึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือ ความลังเลสงสัยในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปจนขาดความมั่นใจในตัวเองไปในที่สุดครับ
ผมมีแนวคิดหากใครสักคนตัดสินใจแล้วว่า จะลงมือทำอะไรสักอย่างหนึ่งในชีวิต คุณควรที่จะทำยังไง ผมมีแนวคิดมานำเสนอครับ

1.จงนิยามความกลัว การนิยามเป็นวิธีการที่ดีสุดอีกหนึ่งวิธีครับ มาจากหนังสือของ Tim Ferris ที่กล่าวไว้ใน The 4 hour workweek การนิยามความกลัวคือการนึกถึงสิ่งที่เลวร้ายที่เป็นผลของการได้ลงมือที่จะทำมันลงไป คุณรับผลที่เกิดได้ไหม สิ่งที่กลัวตอนนี้ครับหน้าตามันน่าจะประมาณไหน สภาพเป็นเช่นไรและสุดท้ายครับ คุณทำใจรับมันได้หรือเปล่า มันจะช่วยให้คุณไม่ประมาณและเตรียมใจรับผลที่เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นครับ

2. [ถามตัวเองว่า “ทำไม5ครั้ง”  มาจากหนังสือของ Eris Ries ใน The Lean Starup ครับถึงจะเป็นหนังสือแนวธุรกิจแต่สามารถที่จะปรับมาใช้ในการดำเนินชีวิตได้ครับ หากย้อนถามตัวเองว่า “ทำไม” ไปเรื่อยๆคุณจะพบสาเหตุของต้นตอปัญหาของความกลัวนั้น และจะดีกว่าครับหากจดมันใส่กระดาษ คุณจะหาวิธีแก้ไปตามสาเหตุนั้นไปเรื่อยจนครบ5ครั้ง

3. [
การออกไปให้อะไรแก่สังคมเป็นวิธีการส่วนตัวผมเองครับที่อยากนำมาเสนอ การที่คุณได้ลงมือทำอะไรให้กับคนอื่นบ้าง บางครั้งมันอาจไม่ได้ผลที่ตอบกลับมาแต่มันจะเปิดแง่คิดใหม่ๆให้กับตัวคุณเอง ผมเองพึ่งมาเจอวิธีนี้ก็ตอนที่ไปบริจาคเลือดให้สภากาชาดจังหวัดได้แง่คิดที่ว่า “คนตัวเล็กๆสามารถให้คุณค่าแก่สังคมได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จมากมายก็ได้ การให้เล็กๆบางครั้งอาจให้ผลที่ประเมินค่าไม่ได้ทางความรู้สึก” นอกจากนี้มันยังมาคุณไปพบเพื่อนใหม่ เรื่องราวใหม่ สภาแวดล้อมใหม่ๆ ตลอดจนแง่คิดแรงบันดาลใจใหม่ๆด้วยครับ

4.การเขียนสิ่งที่กลัวออกมาใส่กระดาษ แล้วคุณจะรู้ได้ไงล่ะครับว่าที่กลัว มันคืออะไร เขียนมันออกมาเยอะที่สุด การเขียนจะทำให้คุณได้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่กังวลใจอยู่ตอนนี้ การบ่นรำพันไปเรื่อย คุณจะไม่รู้เลยครับว่าสิ่งที่กังวลใจตอนนี้มีอะไรบ้าง การเขียนในกระดาษหรือพิมพ์มันออกมาจะเป็นเหมือนกระจกสะท้อนความคิดครับ
5.มองหาสาเหตุต้นตอของความหวาดกลัวที่แท้จริง ต่อเนื่องจากข้อด้านบนครับ เมื่อเจอปัญหาแต่ล่ะข้อ มานั่งดูนั่งมอง ลองหาสาเหตุของแต่ล่ะข้อที่หวาดกลัวอยู่ตอนนี้ดูสาเหตุมันน่าจะมาจากอะไร ส่วนมากแล้วจะมาจากสิ่งที่ต้องการและไม่ต้องการในชีวิต ตัดสิ่งที่ทำหชีวิตมีความทุกข์ออกไปครับ มองหาอะไรที่เขียนแล้วตอนนี้น่าจะมีความสุขบ้าง

6.เขียนมันเป็นเป้าหมายครับ ใช่ครับสิ่งที่หวาดกลัวส่วนมากแล้วจะมาจากเป้าหมายในชีวิตที่ต้องการให้เราลงมือทำมัน แต่คนส่วนมากหวาดกลัวและไม่อยากทำมันครับ นานวันเข้าชีวิตของคนนั้นจะเฉาและตายไป ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัวเพราะนำเอาความฝัน ความต้องการของคนอื่นมาเป็นแรงผลักดันในชีวิตเขา จนลืมเรื่องของตัวเอง

7.ลงมือทำ เป็นขั้นตอนสุดท้าย แต่คุณต้องปรับเปลี่ยน ตรวจสอบเป้าหมายสม่ำเสมอครับ ปรับแก้จนมันใช่สำหรับคุณ เป้าหมายที่ดีต้องสร้างความสุขในชีวิต ยืดหยุ่นปรับได้ตามใจ บางทีเราอาจลอกคนอื่นมาไม่รู้ตัวครับ มารู้ทีหลังไม่ใช่ก็ตัดทิ้งได้ไม่น่าจะมีปัญหา อย่าลืมครับคิดวางแผน และการลงมือทำอย่างเป็นระบบด้วยครับ

หากจะลงมือทำอะไรไปสักอย่างจงคิดและทำให้รอบคอบ ไม่ว่าการลงมือทำสิ่งใดให้ผลทั้งดีและเสีย ไม่ว่าคุณจะทำหรือไม่ทำ จะมีใครได้รับผลประโยชน์อะไร เพราะคนที่ได้มันก็คือตัวคุณครับ
ขอบคุณ
หนังสือ The 4hour workweek
หนังสือ The Lean starup
หนังสือ Think and Grow Rich
หนังสือ The Go-Giver
หนังสือ ฉันเปลี่ยนเพราะเขียนเป้า
มาโอกาสนี้ด้วยครับ


ที่มา::
https://facebook.com/xisaraaphaph/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่